Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 412 อิทธิพลของอาจารย์เสี่ยวหลิน
และในวันนั้นเอง ข่าวที่หลินสวินจะซ่อม ‘กระบี่เบิกฟ้า’ ก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว“นี่มัน…โหดร้ายเกินไปหรือเปล่า?”“โหดร้ายอะไรกัน อาจารย์เสี่ยวหลินโดนกลั่นแกล้งชัดๆ!”“วิธีของรองหัวหน้าสาขาฉู่ช่างเหี้ยมจริงๆ เห็นได้ชัดว่าต้องการจะแก้แค้นให้ฉู่ไห่ตง”“ชู่ว เบาๆ หน่อย!”ในสาขาสลักวิญญาณ ไม่ว่าในห้องเรียน หอพักอาจารย์หรือมุมอื่นๆ ล้วนกำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อยู่ทุกแห่งหนทุกคนต่างโกรธแทนหลินสวิน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ฉู่ซานเหอทำทุกอย่างอย่างเปิดเผย วางแผนร้ายโจ่งแจ้งขนาดนี้ แม้รู้ว่าเขาจงใจกลั่นแกล้งหลินสวิน แต่ก็ไม่มีใครกล้าบอกว่าฉู่ซานเหอทำผิดจวบจนกระทั่งภายหลัง ข่าวถูกแพร่กระจายออกจากสาขาสลักวิญญาณ ไม่นานแม้แต่สาขามังกรเร้น สาขายุทธ์วิถี สาขายอดยุทธศาสตร์ สาขารกลยุทธ์เทพพวกนี้ ก็เริ่มแพร่กระจายข่าวการซ่อมกระบี่เบิกฟ้าในครั้งนี้ที่ได้รับความสนใจมากเช่นนี้ เหตุผลแรกเพราะหลินสวินเป็นผู้มีชื่อเสียงในนครต้องห้ามอยู่แล้ว และตอนนี้ก็เป็นที่รู้จักของศิษย์และอาจารย์มากมายในสำนักศึกษามฤคมรกตเหตุผลที่สอง เพราะ ‘กระบี่เบิกฟ้า’ นี้มีที่มาน่าตกตะลึง ทั้งยังเป็นสมบัติล้ำค่าของจักรพรรดินีองค์ปัจจุบัน ถือว่ามีแรงดึงดูดมากอยู่แล้วส่วนเหตุผลที่สาม เกี่ยวข้องกับบุญคุณความแค้นระหว่างหลินสวินและตระกูลฉู่ ตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่าฉู่ไห่ตงเคยถูกหลินสวินสยบ กลายเป็นเรื่องตลกฉากใหญ่จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลฉู่ในสถานการณ์แบบนี้ จู่ๆ ฉู่ซานเหอรองหัวหน้าสาขาสลักวิญญาณก็เอาแผนซ่อม ‘กระบี่เบิกฟ้า’ มาสร้างความลำบากใจและเล่นงานหลินสวิน ไม่อยากให้เป็นที่สนใจยังยาก“กระบี่เบิกฟ้าเชียวนะ นั่นเป็นชุดศึกสลักวิญญาณที่เต็มไปด้วยตำนาน หลินสวินเขา…ถูกกลั่นแกล้งจนน่าอนาถเลย”“พูดจริงๆ นะ คราวนี้หลินสวินคงเอาตัวไม่รอด เพราะเท่าที่ข้ารู้มา แม้แต่ปรมาจารย์สลักวิญญาณระดับอาวุโสในภาคีใหญ่นักสลักวิญญาณ สำนักศึกษาเซียนช่างฝีมือแห่งจักรวรรดิและสาขาสลักวิญญาณของเรา ยังจนปัญญากับการซ่อมกระบี่เบิกฟ้านี้ ต่อให้หลินสวินจะเก่งแค่ไหน ก็เพิ่งได้เป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณ เขาจะมีความสามารถขนาดนั้นได้อย่างไร”“ใช่ ถ้าหลินสวินซ่อมไม่สำเร็จ ก็จะเป็นการทำลายกระบี่เบิกฟ้า ถึงตอนนั้นเขาไม่เพียงเสื่อมเสียชื่อเสียง กลัวว่าจะเจอโทษหนักจากราชวงศ์ด้วย!”“แปลกจริง ทุกคนต่างดูออกว่าเป็นหลุมพราง เหตุใดหลินสวินยังจะกระโดดลงไป หรือเขาไม่กลัวตายจริงๆ”“รอดูต่อไป อีกเจ็ดวันก็รู้ผลแล้ว”……เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองนี้กลายเป็นประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในสำนักศึกษามฤคมรกตในวันนี้ไปแล้ว คนส่วนใหญ่ล้วนไม่เห็นด้วยกับหลินสวินพูดถึงแผนการของฉู่ซานเหอ ทุกคนต่างถอนหายใจ ขิงแก่ย่อมเผ็ด ยามไม่ลงมือก็ช่างเถอะ แต่พอลงมือขึ้นมาก็ไม่เหลือโอกาสให้หลินสวินกลับตัวเลย วิธีนี้น่ากลัวมากจริงๆ……พรวด!ตอนที่สืออวี่รู้เรื่องนี้ เหล้าที่เพิ่งเข้าปากไปพลันถูกพ่นออกมา สำลักจนเขาหน้าแดง ทุลักทุเลอย่างมาก“เจ้าหมอนี่คิดอะไรอยู่กันแน่” ครู่หนึ่ง สืออวี่จึงพึมพำ……“หนอยแน่ เหตุใดข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าเจ้าหลินสวินนั่นยโสโอหังเยี่ยงนี้ แต่นิสัยของเขาก็ทำให้ข้าชอบมากขึ้นทุกวัน”หนิงเหมิงทอดถอนใจ……“กระบี่เบิกฟ้า… เขาเพิ่งเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณก็กล้าไปซ่อมชุดศึกสลักวิญญาณแล้วหรือ นี่มัน…” ตระกูลฉือ ฉือฉางเหมยอดปวดหัวไม่ได้ หลินสวินมักจะทำเรื่องเหนือความคาดหมายตลอด เขาไม่เคยกลัวอะไรเลยหรือไง……“พวกเจ้าคิดเห็นอย่างไร”บนภูเขาชำระจิต หลินเสวี่ยเฟิงดูกังวล“รอฟังข่าวก็พอ”เสี่ยวเคอสีหน้าเรียบเฉย ไม่ใส่ใจ“อืม ทำงานต่อไปเถอะ”ปฏิกิริยาของพญาแร้งยิ่งนิ่งกว่า ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรเลย และสั่งให้หลินเสวี่ยเฟิงสะสางงานของภูเขาชำระจิตต่อหลินเสวี่ยเฟิงอดยิ้มขื่นไม่ได้ พวกเขาไม่เป็นห่วงความเป็นความตายของหลินสวินเลยหรือหลินจงยิ้มปลอบใจหลินเสวี่ยเฟิง “ไม่ต้องห่วง ทุกคนรู้ว่านายน้อยไม่ทำอะไรโง่ๆ แน่”……ในนครต้องห้าม ภายในจอภาพวิญญาณกำลังรายงานข่าวที่หลินสวินจะซ่อมกระบี่เบิกฟ้าและรอบๆ จอภาพวิญญาณ ผู้ฝึกปราณจำนวนนับไม่ถ้วนต่างอึ้งงัน ท่าทางเหมือนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองหลินสวินเพิ่งเข้าไปอยู่ในสำนักศึกษามฤคมรกตแค่เดือนเดียวเท่านั้นก็เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว สร้างเรื่องเก่งเกินไปแล้วแต่ครั้งนี้ เกรงว่าเขาคงจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี!……ตระกูลหลินแห่งธารประจิมได้ยินข่าวนี้ หลินเทียนหลง หลินเนี่ยนซานและหลินผิงตู้ก็อดตะลึงไม่ได้ เดิมทีพวกเขาคิดว่า หลังจากหลินสวินเข้าไปอยู่ในสำนักศึกษามฤคมรกต ต้องถูกตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงอย่างตระกูลจั่วและฉินเล่นงานแน่ใครจะคิดว่าตระกูลจั่วและฉินยังไม่ทันลงมือด้วยซ้ำ ตระกูลฉู่กลับกระโดดออกมาก่อน!“ฮ่า แบบนี้เรียกว่าหนีกรรมที่ตัวเองก่อไม่พ้น! ดูสิ ตั้งแต่ไอ้ระยำนั่นเข้ามาอยู่ในนครต้องห้ามก็ล่วงเกินคนไปมากน้อยเท่าไรแล้ว ทั้งตระกูลฉือ ตระกูลซ่ง ตระกูลฮวา ตระกูลฉู่… ตระกูลไหนบ้างที่ไม่ใช่ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นยอดที่อำนาจล้นฟ้า?”หลินเทียนหลงพลันยิ้มเยาะ“แบบนี้เรียกว่า เมื่อถึงเวลากรรมนั้นย่อมสนอง คราวนี้หลินสวินอวดดีได้อีกไม่นานแน่ กระบี่เบิกฟ้านั่นใช่สิ่งที่เขาจะซ่อมได้หรือ”หลินเนี่ยนซานและหลินผิงตู้เองก็เสริมขึ้น สีหน้าเผยความสะใจช่วงที่ผ่านมาทั้งสามตระกูลรองถูกกดดันอย่างหนัก จนสุดท้ายจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากตระกูลจั่วและฉิน จะเห็นได้ว่าพวกเขาถูกหลินสวินกดดันจนจนตรอกแค่ไหนตอนนี้ในที่สุดก็มีข่าวดี ทำให้พวกหลินเทียนหลงอดกระชุ่มกระชวยไม่ได้ รู้สึกเหมือนโล่งอกยกใหญ่……สรุปแล้วนับตั้งแต่หลินสวินเข้าสู่นครต้องห้าม เขาซัดลูกหลานตระกูลซ่งและฮวาจนร่วง หลังจากนั้นก็ชนะการประลองกับฮวาอู๋โยว ได้รับการรับรองเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณและทำให้เกิด ‘เสียงร้องเก้ามังกร’…ข่าวเกี่ยวกับเขาจะมีความเคลื่อนไหวอย่างยิ่งใหญ่ออกมาอยู่เรื่อยๆ ทั้งยังเหนือความคาดหมายของทุกคนทุกครั้งไป ความฮือฮาระดับนี้ทำให้เขากลายเป็นคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในนครต้องห้ามตอนนี้พอรู้ข่าวว่าหลินสวินจะซ่อมกระบี่เบิกฟ้า ทำเอาผู้คนมากมายอดตะลึงไม่ได้ บนโลกนี้มีเรื่องอะไรที่หลินสวินไม่กล้าทำหรือไม่?……ในขณะที่โลกภายนอกกำลังวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่ภายในชั้นห้าบนหอหลอมวิญญาณราวกับได้ตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่ได้รับผลกระทบเลยสักนิด“ส่งหมึกวิญญาณเจ็ดทองคำหลากสีให้ข้า”“อาจารย์เสี่ยวหลินหมึกวิญญาณนี้มีความสำคัญอย่างไรกับการซ่อมครั้งนี้?”“ใช้ร่วมกับกระบวนรอยสลักวิญญาณเจ็ดทองคำ กระตุ้นพร้อมกับกระบวนรอยสลักวิญญาณอีกเจ็ดสิบสองกระบวน มีเพียงวิธีนี้จึงจะรับรองได้ว่าตอนที่ซ่อมรอยแตกที่สามจะประสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระวังอีกด้านด้วย อย่าให้โดนดอกตูมของดอกเนตรมาร”“อาจารย์เสี่ยวหลิน ดอกเนตรมารนี้ต้องหลอมกลั่นหรือไม่”“ไม่ต้อง แม้ประโยชน์ของดอกเนตรมารจะธรรมดา แต่ประเด็นสำคัญคือดอกตูมของมันเต็มไปด้วยพลังหยินอันมืดดำ สามารถดูดซับเข้าไปในตัวกระบี่และทำให้แข็งตัวได้ในระยะสั้นๆ เช่นนี้ก็สามารถแก้ปัญหารอยแตกที่เจ็ดไม่ให้ลามต่อไปอีก”“เช่นนี้นี่เอง จริงสิ อาจารย์เสี่ยวหลิน ตอนนี้ท่านใช้วิธีลงด้ามสลักแบบใดอยู่หรือ เหมือนกำลังสลักลายลับบางอย่างใช่หรือไม่”“หืม พวกท่านไม่รู้หรือ วิธีสลักนี้มีนามว่า ‘เมฆนภาเชื่อมประสาน’ เหมาะสำหรับการสลักกระบวนรอยสลักวิญญาณที่มีคุณสมบัติเป็นน้ำ เมฆ หมอกเทือกนี้ ‘กระบวนรอยสลักวิญญาณหยาดมรกต’ ที่ข้าสลักอยู่ตอนนี้ ก็เพื่อแก้ปัญหารอยแตกที่สิบเก้า”เสียงพูดคุยของหลินสวินและปรมาจารย์สลักวิญญาณอีกสี่ท่านดังก้องอยู่ภายในโถงเพียงแต่สถานการณ์ในตอนนี้ ดูแปลกอยู่บ้างด้วยเห็นหลินสวินนั่งตัวตรงอยู่ตรงนั้น โดยมีกระบี่เบิกฟ้าวางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าเขา รวมทั้งหมึกวิญญาณมากกว่าสิบชนิดที่อยู่ในถ้วยและจานรองที่หลอมขึ้นพิเศษมือขวาของหลินสวินกุมด้ามสลักสีทองเรียวเล็ก เอนตัวลงเหนือกระบี่กำลังวาดเค้าโครงลายส่วนข้างๆ หลินสวิน ปรมาจารย์สลักวิญญาณระดับอาวุโสทั้งสี่ล้วนนั่งตัวตรง จ้องการกระทำของหลินสวินอย่างจดจ่อ ทุกครั้งที่มีข้อสงสัยก็จะเอ่ยปากถามตอนที่ได้ยินคำตอบจากหลินสวิน พวกเขาจะเผยสีหน้าใคร่ครวญ ดีใจ แปลกใจ เข้าใจโดยพลันเป็นต้นความรู้สึกนี้ประหนึ่งศิษย์ที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนกลุ่มหนึ่งกำลังฟังอาจารย์คลี่คลายข้อสงสัยอย่างไรอย่างนั้น ดูแปลกอย่างบอกไม่ถูกที่บอกว่าแปลก เพราะทั้งสี่ล้วนเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณระดับอาวุโส! นั่งอยู่บนชั้นห้าของหอหลอมวิญญาณนี้ไม่รู้กี่ปีแล้ว เรียกได้ว่ามากด้วยคุณธรรมและบารมี ฐานะสูงส่งแต่ตอนนี้พออยู่ต่อหน้าหลินสวิน พวกเขากลับเหมือนศิษย์กลุ่มหนึ่ง ความแตกต่างนี้ช่างมากเหลือเกิน ถ้าอาจารย์และศิษย์คนอื่นๆ ในสาขาสลักวิญญาณมาเห็นเข้า คงตะลึงจนอ้าปากค้างใครจะกล้าจินตนาการ ว่าเด็กอายุสิบกว่าปีและเพิ่งได้รับการรับรองการเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณจะทำได้ขนาดนี้ความจริงหลินสวินก็ไม่ได้จงใจทำแบบนี้ตอนที่เขาเตรียมจะซ่อมกระบี่เบิกฟ้า ก็ถูกปรมาจารย์สลักวิญญาณอาวุโสเหล่านี้ต่อต้านและแสดงความเคลือบแคลงใจ ถึงขั้นสงสารและเห็นใจด้วยซ้ำแต่หลังจากหลินสวินลงมือจริงๆ สถานการณ์ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปดั่งคำที่ว่า ผู้เชี่ยวชาญถึงจะรู้ว่าเป็นจริงหรือไม่ ผู้ชราเหล่านี้ล้วนเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณมากความรู้สมชื่อ ดูออกทันทีว่าความสามารถด้านการสลักวิญญาณที่หลินสวินแสดงออกมานั้น เรียกได้ว่าลึกลับเกินคาดเดา เหลือเชื่อมากจริงๆ!ทำให้พวกเขาต่างตะลึง ถึงขั้นที่มีวิธีและกลเม็ดบางอย่างที่แม้แต่พวกเขาเองยังดูไม่ค่อยเข้าใจและตอนที่ได้รับคำตอบจากหลินสวินจนเข้าใจแล้ว พวกเขาก็ยิ่งตะลึง ในใจเลื่อมใสอย่างไม่รู้ตัวจวบจนถึงตอนนี้ จึงได้กลายเป็นภาพอย่างที่เห็นอยู่ตรงหน้าถ้าฉู่ซานเหอมาเห็นภาพนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไร……เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานเวลาเจ็ดวันก็ผ่านพ้นไปวันนี้ฉู่ซานเหอตื่นแต่เช้า ตั้งใจแต่งตัวให้เรียบร้อย หวีผมเรียบสนิท ก่อนจะออกจากที่พักอย่างสบายอารมณ์ไม่ต้องให้เขาได้เรียกด้วยซ้ำ ตอนที่เขาไปถึงหอหลอมวิญญาณก็มีคนมากมายไปรวมตัวกันอยู่แล้วส่วนใหญ่เป็นอาจารย์และศิษย์จากสาขาสลักวิญญาณ และยังมีอาจารย์และศิษย์จากสาขาอื่นๆ ในสำนักศึกษามฤคมรกตมาดูด้วย บรรยากาศคึกคักอย่างมากเพราะทุกคนล้วนรู้ว่า วันนี้เป็นวันที่หลินสวินรับปากว่าจะซ่อมกระบี่เบิกฟ้าให้เสร็จ!ตอนที่เห็นฉู่ซานเหอไปถึง ผู้คนพลันฮือฮาขึ้นมา ด้วยรู้ว่าตัวเอกของเรื่องมาแล้วเรื่องนี้ฉู่ซานเหอไม่ได้สนใจนัก เขาเรียกผู้คุ้มกันคนหนึ่งมานำทาง แล้วเชิดหน้าก้าวเท้าขึ้นไปที่ชั้นห้าของหอหลอมวิญญาณในเจ็ดวันนี้หลินสวินทำอะไรบ้างหนอ แล้วซ่อมกระบี่เบิกฟ้าสำเร็จหรือไม่ทุกคนต่างรอคอย——
คอมเม้นต์