Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 373
เมื่อทั่วร่างหลินสวินกำลังจะถูกแสงที่ราวทะเลเลือดแถบนั้นปกคลุม ก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนออกมาจากปากหลินสวิน“ปล่อย!”ครืน พลังหมัดน่าสะพรึงกลัวหาใดเปรียบปรากฏออกมา ราวไฟชำระกดทับ ชั่วพริบตาเท่านั้นก็ระเบิดแสงสีเลือดแถบนั้นทิ้งชัดเจนว่านี่ก็คือกระบวนท่าทลายอเวจี!ในเวลาเดียวกันนั้น เงาร่างของหลินสวินก็พุ่งไปในอากาศเสียงหวีดหวิว เข้าสู้กับฮวาอู๋โยวอย่างโหดเหี้ยมทั้งลานประลองฮือฮา เจ้าเด็กนี่เก่งกาจนัก! ถึงกับหลบพ้นกระบวนท่าสังหารของฮวาอู๋โยวได้ นี่มันเกินความคาดหมายของพวกเขาแล้ว“ยังไม่ตายหรือ…”ฮวาอู๋โยวขมวดคิ้ว ราวประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของหลินสวินทันใดนั้นทั่วร่างของนางก็มีเปลวไฟลุกโชนโหมขึ้น ท่าทางยิ่งดูน่าสะพรึงกลัว กระโจนร่างขึ้นเข้าสู้ระยะประชิดกับหลินสวินโครม!ฮวาอู๋โยวฟาดลงไปด้วยมือเดียว ฉีกทลายห้วงอากาศดุจฟาดฟันด้วยคมดาบโลหิต กดททับไปที่หัวของหลินสวินในชั่วพริบตาสีหน้าหลินสวินไม่เปลี่ยนไป เงาร่างของเขาปรากฏเพียงภาพวูบไหวกลางอากาศ กระบวนท่าทลายมังกรหวีดร้องออกมา ราวมังกรกล้าแต่โบราณกัดทึ้งท้องฟ้ากว้างตูม! ตูม! ตูม!เพียงชั่วพริบตาทั้งสองปะทะกันสิบกว่าครั้ง เห็นเป็นลำแสงวิเศษระเบิดกระจายราวดอกไม้ไฟระบำบ้าคลั่ง สาดซัดไปบนลานประลองกว้างใหญ่ห้วงอากาศสั่นสะเทือน คลื่นคลั่งซัดสาด เสียงและพลังสะท้านใจผู้คนฝูงชนนับหมื่นจิตใจสั่นไหว ตื่นตะลึงไม่หยุดหย่อน เดิมนึกว่าหลินสวินจะถูกกำราบอย่างง่ายดายในชั่วพริบตา ใครจะคิดว่าเขากลับสามารถรับมือกับฮวาอู๋โยวได้ถึงตอนนี้!เพียงจุดนี้ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าหลินสวินไม่ธรรมดาขนาดไหนสวบ!โดยไม่คาดคิด เท้าของฮวาอู๋โยวเดินไปตามตำแหน่งก้าวย่างดารา ราวลอยระบำบนท้องฟ้า เงาร่างอาบไล้ไปด้วยแสงวิญญาณสีชาด เปล่งประกายดังดวงอาทิตย์สีเลือด เข้าโจมตีอย่างแข็งกร้าวรุ้งวิเศษสีโลหิตทะลักล้นออกมาจากร่างของนาง พุ่งออกมาดุจวัวกระทิง บดอัดห้วงอากาศ เกิดเป็นพลังทำลายล้างน่าสะพรึงกลัวนี่คือวิชาลับสุดยอดวิชาหนึ่งของตระกูลฮวาผู้ทรงอิทธิพล ‘รุ้งโลหิตพิฆาตฟ้า’!โจมตีครั้งเดียว ก็กวาดทลายขุนเขา สลายห้วงอากาศ!“ฮวาอู๋โยวผู้นี้มีพรสวรรค์น่าตกใจนัก ถึงกับใช้วิชาลับของตระกูลทรงอิทธิพลตระกูลฮวาติดต่อกันสองวิชาได้!”คนใหญ่คนโตสูงวัยผู้หนึ่งอดตื่นตะลึงไม่ได้ทว่าหลินสวินกลับสงบนิ่งไม่หวั่นกลัว เริ่มย่างก้าวดุจผลักเคลื่อนภูผา ระหว่างนิ้วมือสาดคลื่นพลังวิญญาณน่าสะพรึงกลัวออกมา เคลื่อนไหวทีหลังแต่ไปถึงก่อนกระบวนท่าทลายสวรรค์!นี่เป็นหนึ่งในสามกระบวนท่าใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุดของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ ซับซ้อนน่ากลัวยิ่ง เช่นเดียวกับกระบวนท่าทลายอเวจีและทลายจักรวาลเมื่อหลินสวินปล่อยหมัดออกไป ห้วงอากาศเบื้องหน้าราวถูกกลืนกิน เกิดเป็นเค้าลางพังทลาย บดขยี้ครั่นครืนเปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!ในสายตาของฝูงชน ห้วงอากาศตรงนั้นราวคันฉ่องเปราะบางที่รับน้ำหนักไม่ไหว ปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นับไม่ถ้วนจนน่าตกใจ ราวกับจะกลืนสิ้นทุกสิ่งภาพแปลกตานี้ยังให้จิตใจผู้คนมากมายเกิดความหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่หยุดหย่อน ที่หลินสวินผู้นี้ฝึก ตกลงเป็นวิชาน่ากลัวระดับไหนกันแน่ ทำไมถึงแข็งแกร่งได้ปานนี้“นี่ไม่ใช่วิชาลับที่สืบทอดมาในตระกูลหลินแน่ๆ!”คนใหญ่คนโตผู้มากประสบการณ์ตัดสินออกมา สีหน้าตกใจระคนสงสัย เห็นชัดว่าถูกพลังยุทธ์ของหลินสวินทำให้ตื่นตะลึงเสียงปะทะสะท้านฟ้าดินสะเทือนออกไปทั้งสี่ทิศยังดีที่อยู่ในลานประลอง หากเป็นภายนอก ในรัศมีหลายสิบลี้น่ากลัวจะกลายสภาพเป็นทุ่งสังหารอ้างว้างเป็นแน่!นี่คือการประลองระหว่างผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณ ย่อมต่างจากระดับจิตผสานวิญญาณโดยสิ้นเชิง ผู้ฝึกปราณควบคุมพลังมหาศาลในใต้หล้า พลังทำลายล้างที่เกิดขึ้นทั่วห้วงอากาศก็ย่อมน่ากลัวเกินจินตนาการเมื่อผ่านการโจมตีนี้ไป ฮวาอู๋โยวไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทว่ายามเห็นว่ารุ้งโลหิตพิฆาตฟ้าที่ตนปล่อยออกมาถูกหลินสวินสลายไป ทำให้ดวงตาราวดาราของนางอดแข็งทื่อขึ้นไม่ได้ จิตสังหารรอบกายยิ่งลุกโชนส่วนอีกฝ่าย ในใจหลินสวินเองก็ตระหนกอยู่ลึกๆ ที่แท้ฮวาอู๋โยวผู้นี้ก็เก่งกาจสมคำร่ำลือ ความสามารถในการต่อสู้ของนางมีมากเกินกว่าที่เขาคาดไว้เช่นกันสามารถกล่าวได้ว่า หลังจากเลื่อนขึ้นเป็นระดับมหาสมุทรวิญญาณแล้ว ฮวาอู๋โยวคือคู่ต่อสู้ชั้นยอดคนแรกที่หลินสวินได้พบ!“หลินสวินผู้นี้…ทำให้ผู้คนเปลี่ยนความคิดไปเลยทีเดียว!”“แน่นอนว่าในฐานะผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นต้น กลับห้ำหั่นกับฮวาอู๋โยวได้ถึงตอนนี้ ใช่ว่าผู้มีพรสวรรค์ทั่วๆ ไปจะทำได้”“ไม่คิดเลย ไม่คิดเลยนะ มิน่าหลินสวินผู้นี้ถึงกล้าโอหังวางโตเช่นนี้ ที่แท้ก็เป็นผู้มีความสามารถที่หาตัวจับยาก มีของดีในตัว!”ในที่นั้นเสียงฮือฮาดังไปทั่ว ไม่มีใครไม่ประหลาดใจกับความสามารถที่หลินสวินแสดงออกมาอย่างไรเสียก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่คาดหวังในตัวหลินสวินเท่าใดนัก และไม่คาดคิดเลยว่าเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นต้นอย่างเขาจะสู้มาถึงขั้นนี้ได้ฮวาอู๋โยวเวลานี้ไม่ออมมืออีกแล้ว นางได้รับรู้แล้วว่าหลินสวินไม่ใช่คนธรรมดา คิดจะสังหารเขา น่ากลัวต้องใช้ฝีมือร้ายกาจที่แท้จริงฟุ่บ!เงาร่างนางทะยานขึ้น พลังรอบตัวก็เพิ่มขึ้นชั้นแล้วชั้นเล่า ราวกับจะเข้าประสานกับท้องฟ้า แสงเพลิงหมุนวนรอบกาย ประหนึ่งปักษาเพลิงอาบไฟโผบิน พลานุภาพหาใดเทียมเพียงชั่วอึดใจการโจมตีของหลินสวินก็ถูกข่ม พลังที่สำแดงออกมาถูกฮวาอู๋โยวปิดทับสิ้น สถานการณ์แปรเปลี่ยนเป็นอันตราย“ศิษย์พี่ฮวาโมโหเข้าแล้ว นี่สิถึงเป็นพลังที่แท้จริงของนาง ข้าเคยเห็นนางบันดาลโทสะที่เรือนยุทธ์วิถี ท่าทางเหมือนตอนนี้ไม่มีผิด น่าหวั่นกลัวยิ่ง”มีศิษย์สำนักศึกษามฤคมรกตร้องขึ้นอย่างตระหนก สีหน้าแสดงออกว่าเลื่อมใส“นางยักษ์ผู้นี้น่ากลัวไปแล้ว พลานุภาพราวไร้ที่สิ้นสุดไม่อาจประมาณได้!”ผู้ชมมากมายในลานประลองอดหน้าเปลี่ยนสีไม่ได้ จิตใจสั่นไหว ฮวาอู๋โยวสมเป็นฮวาอู๋โยว พลังภายในที่เก็บไว้แกร่งกล้า น่าเกรงกลัวนักแต่ที่ผิดคาดไปก็คือ แม้ถูกฮวาอู๋โยวข่มทับ แต่หลินสวินไม่เพียงไม่มีทีท่าต้านรับไม่ได้ กลับมีเค้าลางจะโจมตีกลับซ่อนเร้นอยู่นี่ทำให้ฮวาอู๋โยวหรี่ตาลง ขนาดนางยังคิดไม่ถึงว่า หลินสวินที่เป็นเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นต้นผู้นี้จะจัดการยากเช่นนี้“ทลาย!”นางตะโกนเสียงชัด แสงไฟสีชาดกลุ่มหนึ่งส่งเสียงฟิ้วแล้วเปลี่ยนเป็นใบมีดคม พุ่งปลายมีดไปยังหลินสวิน การโจมตีนี้คือ ‘วิชามีดอรุณสีชาด’ เฉียบไวหาใดเปรียบยิ่ง เร้นลับยากป้องกัน!ฝูงชนจิตใจบีบคั้น ในสมองเกิดความคิดเดียวกันว่า น่ากลัวหลินสวินจะสิ้นท่าเสียแล้วใครจะคิดว่ายังไม่ทันที่ความคิดนี้จะหายไป บนร่างหลินสวินพลันระเบิดประกายดุจแสงเทพน่ากลัว พุ่งชนฟากฟ้าราวพายุหมุนร่างเขาดุจเหวลึกที่ปะทุหินหนืด พลังพายุกรรโชกปั่นป่วนสภาพอากาศ เมื่อกระแทกหมัดออกมา ฟ้าดินก็เปลี่ยนสีเพราะหมัดนี้!นั่นเป็นพลังหมัดยากบรรยาย เต็มไปด้วงกลิ่นอายแห่งการทำลายล้างและความสิ้นหวัง ราวกับจะผลาญพลังชีวิตทั้งมวลให้สิ้น น่าสะพรึงกลัวยิ่งนักหลายคนอดอกสั่นขวัญแขวนมิได้ พ่นลมหายใจเยียบเย็นออกมา อานุภาพที่หมัดนี้ปล่อยออกมามีพลังมหาศาลที่สั่นสะท้านจิตวิญญาณซ่อนเร้นอยู่!นี่ ก็คือกระบวนท่าทลายจักรวาล!กระบวนท่าสุดท้ายในเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ และเป็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย!เสียงปังดังปะทุขึ้น บนลานประลองตกอยู่ในสภาวะอลหม่าน แสงเทพหมุนวนม้วนตัว เกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนขนาดใหญ่ ทำให้รอบลานประลองทั้งสี่ทิศเกิดสัญลักษณ์รอยสลักวิญญาณขึ้นเห็นได้ชัดว่า การปะทะครั้งนี้ทำให้ค่ายกลป้องกันรอบลานประลองทั้งสี่ทิศถูกกระตุ้นไปด้วย โคจรหมุนวนขึ้นมา มิเช่นนั้นคลื่นพลังที่ล้นออกมาระดับนั้นย่อมพุ่งทะลุข่ายป้องกันของลานประลองแล้วซัดสาดไปทั่ว!เงาร่างฮวาอู๋โยวโยกไหวกลางอากาศ สุดท้ายถูกกระเทือนจนซวนเซถอยกลับไปหลายก้าว บนใบหน้าพริ้มพรายปรากฏสีแดงขึ้นครั้นหันมองฝ่ายตรงข้าม หลินสวินเองก็ไม่ต่างกัน เงาร่างซวนเซ มุมปากมีเลือดซึม สีหน้าซีดขาวเล็กน้อยเฮือก!ทั้งสนามสูดลมหายใจเย็นเยียบไม่หยุดหย่อน สีหน้าตื่นตระหนก การปะทะครั้งนี้น่าสะพรึงไปแล้ว!ที่ทำให้พวกเขาผิดคาดที่สุดคือ หลินสวินเขา…กลับสกัดการโจมตีนี้ได้!อีกทั้งเมื่อดูท่าทางของฮวาอู๋โยว ก็เห็นชัดว่าถูกการโจมตีนี้ซัดให้กระเทือนถอยออกไป ราวกับไม่ทันได้ตั้งรับ เกินจินตนาการได้ยิ่งใครจะคิดว่าหลินสวินที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้รับการยอมรับ จะมีความสามารถในการต่อสู้เหนือธรรมดาเช่นนี้ที่ทำให้ผู้คนต้องตกใจเมื่อได้ยินก็คือ เขาเพิ่งมีปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นต้นเท่านั้นเอง ก็สามารถเผชิญหน้ากับฮวาอู๋โยวที่มีปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นกลางได้ถึงตอนนี้ เกินความคาดหมายของคนส่วนใหญ่ไปโดยสิ้นเชิงแข็งแกร่ง!ไม่ต้องสงสัย หลินสวินผู้นี้เป็นผู้มีพรสวรรค์ล้ำเลิศโดยแท้ ด้วยอายุเพียงสิบกว่าปีก็สามารถทำได้ขนาดนี้ มองไปทั่วนครต้องห้าม น่ากลัวจะหาได้เพียงไม่กี่คน!“เวรเอ๊ย ไม่เจอกันสองปี เจ้าหมอนี่ยิ่งวิปริตไปแล้ว!”หนิงเหมิงอดกลั้นไม่อยู่โพล่งสบถออกมา ก่อนหน้านี้ยังกังวลแทนหลินสวินอยู่เลย ใครจะไปคิดว่าหลินสวินกลับแสดงอานุภาพน่าตื่นตะลึงเช่นนี้ออกมาได้สืออวี่ กงหมิงและเย่เสี่ยวชีก็แสดงท่าทีเห็นด้วยอยู่ลึกๆ หลินสวินเจ้าหมอนี่มีความกล้าเหนือมนุษย์ไม่ต่างจากตอนนั้น สมกับที่…สร้างเรื่องบ้าๆ ราวปาฏิหาริย์ในค่ายกระหายเลือดอยู่บ่อยครั้ง!“เด็กคนนี้…ทำไมเก่งกาจได้ขนาดนี้นะ”หลินเทียนหลง หลินเนี่ยนซานและหลินผิงตู้ที่อยู่ในห้องรับรองหนึ่งแสดงสีหน้าหวั่นไหว ก่อนหน้านี้พวกเขายังสับสน เพราะกลัวว่าฮวาอู๋โยวจะฆ่าหลินสวินในเวลาอันสั้นแต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นหลินสวินและฮวาอู๋โยวต่อสู้กันอย่างสูสี พวกเขาก็ไม่สบายใจเสียแล้วถึงขั้นที่ในใจเกิดจิตสังหารรุนแรงขึ้น เพราะพวกเขารับรู้ได้ว่า หลินสวินที่อ่อนวัยเช่นนี้ยังน่าตื่นตะลึงได้ถึงขนาดนี้ ถ้าเขาเติบใหญ่ขึ้นมาแล้วจะขนาดไหนแต่ในที่สุดพวกเขาก็อดกลั้นไว้ได้ การต่อสู้ยังไม่จบลง ตอนนี้ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรยังนับว่าเร็วไปนัก“น่าชังนัก! น่าชังนัก! เจ้าหลินสวินนี่ต้องตาย ปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไปไม่ได้เด็ดขาด!”ฮวาอู๋เหินตะโกนเสียงดังอย่างโกรธเกรี้ยว เสียงสะท้อนก้องห้องรับรองไม่หยุดหย่อน การแสดงออกของหลินสวินทำให้เขารู้สึกได้ถึงเภทภัยรุนแรงถ้าบอกว่าก่อนหน้านี้ที่ต้องการสังหารหลินสวินก็เพื่อรักษาหน้า เช่นนั้นตอนนี้ ไม่เพียงเพราะรักษาหน้าเท่านั้น แต่ต้องการกำจัดอันตรายใหญ่หลวงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ให้สิ้นซาก!คิดดูเถิด หลินสวินที่เพิ่งมีอายุได้สิบกว่าปีก็เป็นปีศาจเช่นนี้แล้ว ถ้าฆ่าเขาไม่ได้ ภายหลังย่อมกลายเป็นหนามยอกอกชิ้นใหญ่แน่นอน!ยามนี้ จากความแข็งแกร่งที่หลินสวินแสดงออกมา ทำให้คนใหญ่คนโตมากมายรวมถึงผู้โดดเด่นรุ่นเยาว์ที่ชมการต่อสู้นี้อยู่ต่างเกิดความคิดมากมายแตกต่างกันฮวาอู๋โยวก็เช่นกันจิตสังหารในใจยิ่งลุกโชนและแน่วแน่ยิ่งขึ้นเมื่อแรกเริ่มประลองนางไม่เคยเห็นหลินสวินในสายตาสักนิด แต่ตอนนี้นางเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่า เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามเป็นปีศาจน้อยที่น่าเกรงกลัวเพียงใดชิ้ง!กระบี่วิญญาณที่แผดเผาแดงชาดปานโลหิตทะยานขึ้นกลางอากาศ แล้วหล่นลงสู่มือขาวสะอาดราวหยกของฮวาอู๋โยว สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหดหาใดเทียบในเวลาเดียวกันนั้น จิตกระบี่ท่วมท้นยากบรรยายก็หมุนควงครืนครันออกมาจากร่างสูงโปร่งของนาง สั่นสะเทือนห้วงอากาศแค่เพียงพลังอำนาจก็พาให้อากาศทั้งสี่ทิศเกิดเสียงครวญ!กระบี่เลื่องชื่อ ‘เมฆาสีชาด’กระบี่ชื่อดังเก่าแก่ที่สืบทอดมาจากบรรพชนตระกูลฮวา!เสียงอึกทึกในที่นั้นพลันเงียบเชียบ ทุกคนมองตาค้าง รับรู้ได้ว่าฮวาอู๋โยวบันดาลโทสะถึงที่สุดแล้ว ต่อจากนี้นางย่อมแสดงฝีมือก้นกรุที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา!
คอมเม้นต์