Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 311
เจ็ดวันมานี้ตู้ซิงชวนทำได้เพียงจัดกำลังตามตลอดแนวแม่น้ำเพื่อรอเวลาหลินสวินฝึกปราณอยู่ใต้แม่น้ำมาตลอดเจ็ดวัน เขาบาดเจ็บหนักเพราะถูกลูกปืนใหญ่จากเรือรบวีรชนม่วงตามยิง แม้ไม่ได้โดนเข้าจังๆ แต่แรงพลังน่ากลัวที่สะเทือนไปโดยรอบนั้นก็ไม่ได้เบานักเด็กหนุ่มนั่งขัดสมาธินิ่งอยู่ในถ้ำ รอบกายมีแสงสีฟ้าเขียวดั่งสีหยกรายล้อม หลังจากที่บรรลุปราณขั้นผสานดิน พลังวิญญาณทั้งกายของเขาก็เป็นพลังที่มาจากพลังการรวมผสานของดิน พลังวิญญาณที่เมื่อก่อนเป็นเพียงแสงลวงตา กลับเด่นชัดขึ้นมาคล้ายหินหยกบริสุทธิ์เนื้องามฟู่ฝูงปลาหลากสีแหวกว่ายไปมา เมื่อผ่านหน้าถ้ำก็เข้ามาใกล้หลินสวินอย่างชิดเชื้อ พวกมันรับรู้ได้ว่าในกายหลินสวินมีพลังบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ เป็นพลังธรรมชาติที่ให้ชีวิตแก่สรรพสิ่งในน้ำไม่ใช่พลังจากกายของหลินสวิน แต่เป็นพลังของมุกนักบุญอมตะในนิมิตของเขาหลายวันก่อนหลินสวินสัมผัสได้ว่ามุกนักบุญอมตะในนิมิตของเขามีกระแสพลังบางอย่างคล้ายกำลังจะตื่นขึ้นมา พลังที่เคลื่อนไหวออกมานี้ดึงดูดเอาพลังพิสุทธิ์จากมวลน้ำเข้าสู่ร่างกาย ผ่านเข้าไปถึงมุกนักบุญอมตะในนิมิตของเขาในที่สุดหลินสวินรู้ว่าเขาเข้าใจผิดมาตลอด มุกนักบุญวิญญาณจะตื่นขึ้นเมื่อมีการเติมพลัง หาใช่การฟื้นฟูสภาพร่างกายของตัวเอง และพลังที่มันต้องการอยู่ในแหล่งน้ำนั่นเองเมื่อตระหนักถึงข้อนี้ เขาจึงพบว่าระหว่างที่ตัวเองฝึกฝน มุกนักบุญอมตะในนิมิตก็กำลังฝึกฝนด้วยวิธีพิเศษเช่นกัน พลังที่มันดูดซับเป็นพลังลึกลับจากกระแสน้ำ แม้ในท้ายที่สุดมุกนักบุญอมตะจะดึงดูดพลังเหล่านั้นเข้าไป แต่มันก็ผสานและชำระล้างผิวกาย เลือดเนื้อ เอ็นกระดู อวัยวะภายใน ระบบไหลเวียน และทวารทั้งหลายขณะที่ไหลผ่านร่างกายของหลินสวินด้วย ทำให้บาดแผลของเขาได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วบาดแผลที่เดิมทีต้องใช้เวลานานในการรักษา เพียงเจ็ดวันกลับหายดีดังเดิม และพลังกายก็ชัดเจนว่าแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลมาจากพลังกระแสน้ำลึกลับนั่นเหตุที่หลินสวินไม่ได้ด่วนจากไปไหน เพราะต้องการทดลองว่าจะใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูพลังของมุกนักบุญอมตะได้หรือไม่ แต่มาวันนี้ กระแสลึกลับของมุกนักบุญวิอมตะกลับหลับไหลหายไปอีกครั้งหลินสวินแปลกใจ ครู่ใหญ่จึงคิดได้ว่า คงเพราะพลังกระแสน้ำในแม่น้ำแห่งนี้ธรรมดาเกินไป ไม่เพียงพอต่อความต้องการของมุกนักบุญอมตะกระมังช่างเถิด วันหลังค่อยหาโอกาสศึกษาความลึกลับของมุกนักบุญอมตะนี้ก็ไม่สายหลินสวินคิดเช่นนั้นแล้วจึงลืมตาขึ้นมาจากการทำสมาธิ นัยน์ตาสีดำใสคู่นั้นมีแววน่ากลัววาดผ่านวาบหนึ่ง ฝูงปลาที่แหวกว่ายอยู่รอบกายเขาตื่นฮือกระจัดกระจายหนี“ผ่านไปหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าพวกศัตรูจะไปหรือยัง”หลินสวินออกจากถ้ำ ลัดเลาะไปตามกระแสน้ำกว่าสิบลี้จึง…บริเวณเทือกเขาสูงชันมีเสียงสัตว์ป่าคำรามร้องออกมาเป็นระยะ แม่น้ำแห่งนี้ไหลเชี่ยวลงมาตามธารน้ำแข็ง เสียงกระทบมุมเขาซู่ซ่าดังแว่วออกไปไกลแลดูอันตรายที่ริมแม่น้ำ ผู้ฝึกปราณสิบกว่าคนเฝ้าอยู่ด้วยท่าทีเกียจคร้านไม่มีชีวิตชีวา“บ้าเอ๊ย ไม่มียาเสริมกำลังเช่นนี้ อย่าว่าแต่ฝึกฝนเลย เกรงว่าแม้แต่พลังปราณก็จะถดถอยไปด้วย”“รอมาเจ็ดวันแล้ว แม้แต่ขนสักเส้นของเป้าหมายก็ยังไม่เจอ ถ้าศัตรูไม่ออกมาพวกเราต้องเฝ้าอยู่ตรงนี้ไปตลอดชีวิตเลยหรือ”“เหอะๆ เลิกพูดเรื่องพวกนี้สักที น่าเบื่อ ข้าจะเล่าอะไรให้ฟัง มีบันทึกว่าแม่น้ำแห่งนี้ชื่อว่าเกล็ดน้ำค้างเงิน ประมาณเจ็ดร้อยปีก่อน ใต้แม่น้ำเกล็ดน้ำค้างเงินนี้เคยเกิดคลื่นน้ำวนที่มีพลังทำลายล้าง ลือกันว่าหากใครได้เข้าไปส่วนลึกของน้ำวนได้ ก็จะพบกับสมบัติล้ำค่าที่อยู่ภายใน”“จริงหรือ”“หากมีเรื่องแบบนี้ ป่านนี้คงดึงดูดผู้ฝึกตนมามากมาย เหตุใดพวกข้าถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเล่า”“นั่นสิ ไร้สาระจริงๆ ”“พวกเจ้าไม่รู้อะไร พลังของคลื่นน้ำวนนั้นน่ากลัวยิ่งนัก แม้แต่ผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณเข้าใกล้ก็ยังถูกมันพัดวนจนแหลกละเอียด แล้วอย่างนี้ใครจะกล้าเข้ามาสำรวจเล่า”“เหอะๆ อย่าโม้น่า เรื่องเล่าก็คือเรื่องเล่า ในจักรวรรดิมีเรื่องเล่าไร้สาระเช่นนี้ตั้งมากมาย ไม่เห็นใครโชคดีเช่นนั้นเลย”เหล่าผู้ฝึกปราณนั่งสนทนากันด้วยความผ่อนคลาย ไม่มีใครสังเกตว่ามีหน้าไม้ลอยออกมาจากกลางแม่น้ำฉึก!เสียงของหน้าไม้ถูกเสียงกระแสน้ำเชี่ยวกรากกลบจนมิด หากไม่ได้ตั้งใจฟังโดยละเอียดก็ยากจะแยกออก“ข้าน่ะหรือโม้ รับประกันด้วยชีวิตเลยว่าเรื่องเล่านี้เป็นความจริง” ผู้ฝึกปราณคนหนึ่งยืดอกสาบาน ฉับพลันคอเขาก็กระจุยแตก เลือดทะลักล้มตึงลงไปคนที่เหลือแตกฮือร้องตกใจพรวด!ร่างของหลินสวินพุ่งขึ้นมาจากน้ำ เงาร่างสีดำถือดาบเวทเรืองแสงเปิดศึกสังหาร ผ่านไปเพียงหนึ่งเค่อ บนพื้นก็มีศพนอนอาบเลือดแน่นิ่งอยู่สิบกว่าคน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย หลินสวินกลับไม่ได้หยุดพัก รีบเคลื่อนตัวไปอีกด้านหนึ่งของยอดเขาฉึก!ปลายเท้าของเขาแตะบนโขดหินเบาๆ ดีดร่างขึ้นไปไกลสูงถึงสิบจั้ง ดาบเวทเรืองแสงในมือหายไป แทนที่ด้วยธนูวิญญาณไร้แก่นสารที่ทำจากโครงกระดูกสีขาวขนาดใหญ่ปลายนิ้วของเด็กหนุ่มเกี่ยวสายธนูสีแดงปานเลือด สายตาเล็งไปที่ตำแหน่งหนึ่งบนยอดเขา“แกว๊ก”เสียงหนึ่งร้องขึ้นก่อน ตามมาด้วยเงาร่างสีดำของนกบินขึ้นบนฟ้าสูง ลูกธนูวิญญาณดอกหนึ่งปักเข้าที่ลำคอของมันจนร่วงหล่นบนพื้น เหยี่ยวสอดแนมนั่นเองนี่คือเป้าหมายหลักของเขาในครั้งนี้ การสังหารผู้ฝึกปราณสิบกว่านายเมื่อครู่เป็นเพียงของแถมเท่านั้นหลินสวินหักคอเหยี่ยวสอดแนมทันทีที่มันส่งเสียงร้อง ใช้มีดกรีดหน้าอกควักไข่มุกที่ถูกย้อมเลือดสีแดงออกมาวิ้งเมื่อเช็ดเศษเลือดบนไข่มุกออก ภาพแสงวาบหนึ่งพลันสะท้อนออกมา ภาพแสงนั้นกว้างขวางจากมุมมองบนฟ้า สามารถเห็นพื้นที่ข้างล่างทั้งภูเขาและแม่น้ำอย่างชัดเจนไม่นานหลินสวินถึงเห็นภาพริมแม่น้ำ มีกลุ่มผู้ฝึกตนเฝ้าอยู่หนาแน่นหลายจุด แทบไม่มีโอกาสให้เขาหลบหนี ในที่ห่างไกลนั้นยังมีเรือรบวีรชนม่วงบินวนจับตาดูสถานการณ์จากบนฟ้าเด็กหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าบนผืนฟ้าไม่ได้มีเพียงเรือรบวีรชนม่วง แต่ยังมีเหยี่ยวสอดแนมอีกหลายตัว พวกมันถูกจัดให้เฝ้าอยู่ตามที่ต่างๆ หากเขาปรากฏตัวก็คงถูกจับได้ในทันที สุดท้ายก่อนภาพจะตัดไป ในที่ไกลออกไปนั้นมีเหยี่ยวสอดแนมตัวหนึ่งกำลังบินวนอยู่ จากนั้นแสงภาพก็หายวับไป“มีเหยี่ยวตัวหนึ่งจับสังเกตข้าได้ในตอนที่ยิงนกตัวนี้”หลินสวินคร่ำครวญกับตัวเองก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหว เขาค้นศพผู้ฝึกปราณทั้งหมดแล้วกระโดดหายไปในแม่น้ำอีกครั้งฮูมหนึ่งเค่อผ่านไป เรือรบวีรชนม่วงก็บินมาถึงบริเวณนี้ ปืนใหญ่สลักวิญญาณมีแสงของรอยสลักวิญญาณส่องประกายเตรียมพร้อมโจมตี กลุ่มผู้ฝึกปราณออกค้นหาบริเวณโดยรอบนั้น แต่ไม่ว่าจะค้นอย่างไร ก็ไม่พบร่องรอยของเป้าหมาย สุดท้ายพวกเขาจึงหันไปมองทางแม่น้ำ ลงความเห็นเช่นเดียวกันว่าเป้าหมายดำลงไปในน้ำอีกแล้ว“บัดซบ!”“รังแกกันเกินไปแล้ว!”“แต่ว่า เขาหลบอยู่ใต้น้ำเช่นนี้ แล้วเราจะทำอะไรเขาได้” เสียงก่นด่าดังขึ้นด้วยทำอะไรไม่ได้ สีหน้าคล้ำเขียว โมโหแทบเสียสติผ่านไปอีกหนึ่งเค่อ ตู้ซิงชวนได้ยินข่าวและตามมา เมื่อทราบเหตุการณ์ทุกอย่างแล้ว เขาโกรธเลือดแทบกระอัก หน้าตาถมึงทึงทีเดียว“หัวหน้าขอรับ ตรงนี้มีศพของเหยี่ยวสอดแนมอยู่ ไข่มุกบันทึกภาพถูกควักออกไปแล้ว หากข้าเดาไม่ผิด เป้าหมายน่าจะรู้แผนการณ์ทั้งหมดของเราแล้ว” เสี่ยวมู่เดินถือร่างเหยี่ยวสอดแนมเข้ามาได้ยินดังนั้นสมองของตู้ซิงชวนหยุดทำงาน อารมณ์แปรปรวนอย่างหนักจัดการยากเกินไปแล้ว!ครั้งนี้เป้าหมายมีแม่น้ำเป็นเกราะกำบัง เดิมทีเขาไม่มีทางแพ้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขายังรู้ถึงแผนการณ์ทุกอย่างของฝั่งพวกเขาอีก เช่นนี้เขาย่อมสามารถหาโอกาสลอบโจมตีพวกเขาได้ตลอดเวลาหากไม่เปลี่ยนแผน กำลังที่เขาจัดไว้ต้องโดนเป้าหมายถล่มยับแน่นอน
คอมเม้นต์