Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 685 เงาคนเถื่อน
เมื่อเริ่มเดินทางอีกครั้ง ห่อสัมภาระของหลินสวินก็หนักขึ้นมาทรัพย์หลังศึกในนั้น มีทั้งฟันของคนจากสายคนเถื่อนทองคำ ดวงตาของสายคนเถื่อนวารี ผิวหนังบริเวณหน้าอกของสายคนเถื่อนอัคคี ไหล่ของสายคนเถื่อนพสุธา…ชิ้นส่วนเหล่านี้มีความพิเศษอย่างมาก เป็นตำแหน่งที่มีลายสัญลักษณ์ของพวกเขาสำหรับผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อน ลายสัญลักษณ์เป็นตำแหน่งของแก่นพลัง ก็เหมือนกับแหล่งกำเนิดมรรควิถีของผู้ฝึกปราณมีเพียงชิ้นส่วนเหล่านี้เท่านั้น ซึ่งจะสามารถกำหนดความใหญ่เล็กของคุณูปการทางทหารได้……เวลาหนึ่งเค่อหลังจากนั้นหลินสวินถูกกลุ่มผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนซุ่มโจมตีนี่เป็นกองทหารเล็กๆ ล้วนเป็นพ่อมดเถื่อนระดับจอมพลัง ไม่สามารถคุกคามหลินสวินได้สักนิดหากบอกว่าเป็นการซุ่มโจมตี ไม่สู้เรียกว่าหลินสวินจงใจพุ่งเข้าไปเองจะดีกว่าการฆ่าฟันจบลงในชั่วพริบตา เลือดและซากศพบนพื้นดินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และในห่อสัมภาระของหลินสวินก็มีคุณูปการทางทหารที่อาบเลือดเพิ่มขึ้นชิ้นแล้วชิ้นเล่าหลายชั่วยามหลังจากนั้น หลินสวินเจอกับศัตรูอีกสิบกว่ากลุ่ม ทั้งจากการเป็นฝ่ายจู่โจมก่อนและถูกโจมตีไม่ถึงกับเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด เพราะยังไม่เคยปรากฏคู่ต่อสู้ที่สามารถคุกคามหลินสวินได้ จึงถูกเขากวาดล้างอย่างง่ายดายทั้งหมด ไม่มีเหลือรอดทรัพย์หลังศึกในห่อสัมภาระมากขึ้นเรื่อยๆ กองเป็นภูเขาเล็กๆ แต่สภาพจิตใจของหลินสวินกลับหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆเขาตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีแล้วเขาอยู่ระหว่างทางไปค่ายจักรวรรดิ แต่สิ่งที่พบเจอระหว่างทางแทบจะเป็นร่องรอยของศัตรูทั้งหมด แม้จะเห็นเงาร่างของผู้ฝึกปราณจักรวรรดิ แต่ล้วนเป็นศพหลังจากถูกฆ่าทั้งสิ้นนี่หมายความว่าในสมรภูมิกระหายเลือด สถานการณ์ของค่ายจักรวรรดิไม่สู้ดีนัก!‘จิ้งจอกเฒ่าคนนั้นกล่าวว่า สมรภูมิกระหายเลือดแห่งนี้เป็นแนวป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในการคุ้มกันจักรวรรดิ หากแนวป้องกันนี้ยังถูกคุกคาม…’หลินสวินส่ายหน้า ไม่อยากคิดอะไรมากไปกว่านี้เขายังไม่รู้สถานการณ์ ไม่สามารถคาดเดาเองได้ แต่สิ่งที่เห็นและได้ยินระหว่างทางทำให้เขาตระหนักได้ว่า ในสงครามอันโหดเหี้ยมนองเลือดนี้ สถานการณ์ของผู้ฝึกปราณจักรวรรดิคงไม่ดีนักหลินสวินตระหนักในตัวเอง รู้ดีว่าด้วยพลังของตัวเอง ตอนนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้ในคราเดียวสิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้คือ ถ้าไม่ฆ่าศัตรูให้ได้มากที่สุด ก็ต้องพยายามทำภารกิจของตนให้สำเร็จ หลังจากนั้น…รอดชีวิตกลับไป!……ท้องฟ้ามืดลงเรื่อยๆ มืดครึ้มน่าหดหู่ลมกระโชกแรงพัดไปทั่วพื้นดินรกร้าง พัดฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว ส่งเสียงครวญครางราวกับเสียงร้องไห้กลิ่นคาวเลือดและเน่าเสียของศพคละคลุ้งเต็มอากาศไม่เสื่อมคลายหลินสวินที่กำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้าชะงักฝีเท้ากะทันหัน ร่างกายแวบไปปรากฏอยู่ในร่องน้ำตื้นแห่งหนึ่งในระยะที่ไกลออกไปไม่มากนักมีเงาที่แทบมองไม่เห็น ไม่มีลมหายใจ พิงกับหินที่อยู่ข้างๆ ราวกับเป็นเงาสะท้อนของหินที่เห็นได้ปกติแต่หลินสวินกลับหรี่ตาลงอย่างกะทันหัน ในยามนั้นร่างกายประหนึ่งคันธนูที่ถูกง้างจนสุด ขับเคลื่อนพลังทั่วทั้งร่างอย่างเต็มกำลังฟิ้ว!เขาหยิบธนูวิญญาณไร้แก่นสารออกมาอย่างไม่ลังเล ดึงสายธนูสีแดงราวกับเลือด ลูกศรที่ราวกับสายฟ้าพุ่งฉีกอากาศ ยิงไปยังเงาซึ่งอยู่ห่างออกไปนั้นเงียบๆปัง!หินนั่นแตกกระจายทันที พื้นดินถูกยิงเป็นหลุมลึกจนไม่เห็นก้น เพียงแต่เงานั่นกลับกะพริบไหวแปลกประหลาด และหายไปอย่างไร้ร่องรอยนัยน์ตาเย็นเยียบของหลินสวินราวกับสายฟ้า ดึงธนูวิญญาณไร้แก่นสารจนสุด แล้วยิงลูกศรดุจห่าฝนไปในตำแหน่งที่แตกต่างกันอย่างต่อเนื่องชั่วขณะหนึ่งพื้นที่แห่งนี้พลันมีเสียงระเบิดเสียดหูดังขึ้น พื้นดินถูกเจาะเป็นรอยแตก ก้อนหินถูกทะลวงจนแหลกละเอียดเป็นฝุ่นผง อากาศถูกฉีกขาดเป็นร่องแหวกหากผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ อยู่ที่นี่คงจะงุนงง คิดว่าหลินสวินยิงอย่างไม่มีจุดหมาย เพราะตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เห็นร่องรอยของศัตรูเลยแต่ในสายตาของหลินสวิน กลับมีเงามืดหนึ่งเคลื่อนไหวรวดเร็วอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ว่องไวราวกับภูตผี แม้แต่ธนูวิญญาณไร้แก่นสารยังไม่สามารถเล็งมันได้นี่ทำให้สีหน้าของหลินสวินจริงจังขึ้นมาอยู่บ้างธนูวิญญาณมีคุณสมบัติวิเศษสองอย่างคือ ‘หยั่งรู้ทัศนวิสัย’ และ ‘สงบนิ่งสิ้นเชิง’ ที่มาลึกลับยากคาดเดา ที่ผ่านมาเมื่อใช้มันแทบไม่เคยพลาดเป้าพูดได้อย่างไม่เกินจริงเลยว่า ต่อให้บุตรเทพไร้เทียมทานระดับหนิวทุนเทียนอยู่ที่นี่ ก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีนี้ได้ง่ายๆแต่ตอนนี้เงานั่นกลับทำได้!แม้อีกฝ่ายจะทุลักทุเลอยู่บ้าง แต่สามารถหนีการยิงสังหารได้ขนาดนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้หลินสวินไหวหวั่นแล้วเขาตระหนักได้ว่า ครั้งนี้เจอตัวเด็ดเข้าแล้ว!ฟิ้วๆๆ!หลินสวินสีหน้านิ่งสงบกว่าเดิม ดวงตาสีดำเย็นชา ตัวธนูที่ทำจากกระดูกขาวยังคงงออย่างต่อเนื่อง ถูกสายธนูสีแดงสดง้างจนสุด ยิงลูกศรวิญญาณที่ราวกับภาพมายาออกไปอย่างต่อเนื่องฉึบ!ในที่สุดอีกฝ่ายก็ถูกบีบให้จนตรอก ถูกลูกศรวิญญาณดอกหนึ่งเฉียดๆ เลือดกระเซ็นออกมาเวลาเดียวกันนั้นเงาร่างหนึ่งก็ปรากฏตามมา เป็นชายที่ทั้งตัวอยู่ภายใต้เงาสีเทา มีดวงตาสีน้ำตาล ใบหน้ากลับสะอาดสะอ้านขาวผ่องอย่างมากบนไหล่เขามีรอยเลือดรอยหนึ่ง ซึ่งก็คือตำแหน่งที่ถูกลูกศรเฉียดเมื่อครู่นี้“เหอะๆ ไม่เลวนี่ ดูจากพลังชีวิตรอบตัวเจ้า เป็นแค่เด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีเท่านั้น ก็ก้าวสู่ระดับหยั่งสัจจะแล้ว นี่อาจจะไม่ถือว่าร้ายกาจอะไร ทว่าการที่สามารถบีบเงาร่างของข้าออกมาได้ด้วยธนูเพียงคันเดียว ถือว่าไม่ธรรมดา”ชายคนนั้นหัวเราะเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลงเล็กน้อยราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ “ในจักรวรรดิมีมนุษย์อย่างเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ เหตุใดจึงไม่เคยได้ยินมาก่อน”“ไม่เคยได้ยินก็ไม่เป็นไร เจ้าแค่รู้เอาไว้ ว่าวันนี้ข้าจะส่งเจ้าไปลงนรกก็พอแล้ว”หลินสวินเก็บธนูวิญญาณไร้แก่นสารพลางพูดเสียงเรียบเขารู้ว่าเป็นการยากที่จะฆ่าอีกฝ่ายด้วยลูกธนูเพียงอย่างเดียว อีกทั้งการใช้ธนูวิญญาณไร้แก่นสารก็สิ้นเปลืองพลังวิญญาณอย่างมาก เป็นการเสียเปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย“คุยโวโอ้อวดอย่างไร้ยางอาย การโจมตีเมื่อครู่นี้ทำให้เจ้าสูญเสียพลังกายไม่น้อย ในเวลาเช่นนี้เจ้ายังมีอะไรมาสู้ได้?”ชายคนนั้นเอามือไพล่หลัง เสียงพูดเอื่อยเฉื่อย เขาเหมือนเงาที่ยากจะจับร่องรอยที่แท้จริงได้ฉัวะ!ในขณะที่พูด กระบี่บินสีเทาที่แทบจะมองไม่เห็นปรากฏขึ้น ฟันใส่คอหอยของหลินสวินอย่างรุนแรงฟุ่บ!เงาร่างของหลินสวินหายแวบไป กระบี่บินจึงฟันใส่พื้น ปรากฏเป็นรอยแตกขนาดใหญ่ที่ลึกจนยากจะคาดเดาได้ พาให้หวาดหวั่นเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายแอบลงมือตั้งแต่ตอนที่พูดแล้ว ช่างอำมหิตและเจ้าเล่ห์อย่างที่สุด“น่าสนใจ เด็กหนุ่มตัวเล็กๆ อย่างเจ้า กลับมีไหวพริบในการต่อสู้เช่นนี้ สามารถรับรู้ได้ถึงอันตรายล่วงหน้า เหนือความคาดหมายของข้าจริงๆ”ชายเงาสีเทาหายไปซ่อนตัวอยู่ในความมืด บริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเขา แต่กลับเลือนราง เห็นได้ชัดว่ากำลังสร้างความสับสนให้หลินสวิน“เหนือความคาดหมายหรือ นั่นเป็นเพราะเจ้าโลกแคบก็เท่านั้น”หลินสวินไม่แสดงสีหน้า ถือดาบหักไว้ในมือ พลังจิตวิญญาณมหาศาลของเขาในยามนี้แผ่กระจายออกมาราวกับลมพายุในห้วงนิมิต ดวงจันทร์สว่างไสวแขวนตัวอยู่กลางฟ้าคราม ดวงดาวนับหมื่นโอบล้อมอยู่รอบๆ การรับรู้ของหลินสวินเปลี่ยนเป็นชัดแจ้งอย่างที่สุด ทำให้เขาสามารถรับรู้ได้แม้กระทั่งร่องรอยอันเล็กน้อยบนโลกฉัวะ!ทันใดนั้นกระบี่บินเล่มนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แทบจะแนบมากับเงาของหลินสวิน หมายจะตัดหัวเขาจากด้านหลังนี่คือกระบี่บินที่ทำจากกระดูกสีเทา สีสันเรียบง่าย เลือนรางแทบจะโปร่งใส แต่กลับเฉียบคมและน่าสะพรึงกลัว ราวกับสามารถทำลายล้างได้ทุกสิ่ง ว่องไวจนเหลือเชื่อเคร้ง!หลินสวินนิ่งไม่ขยับ แต่ดาบหักราวกับมีตา ฟันใส่กระบี่บินอย่างแม่นยำเป็นที่สุด เกิดเสียงปะทะก้องขึ้นทันทีเพียงแค่แรงจากการปะทะเท่านั้น ก็บดขยี้อากาศบริเวณนั้นจนทรุดทลาย พื้นดินถูกระเบิดอย่างรุนแรง ฝุ่นควันคละคลุ้ง——
คอมเม้นต์