Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 408 ไม่ได้ที่หนึ่งเป็นความอับอาย
เมื่อเห็นว่าระดับค. ห้องเก้ายังไม่มีใครทดสอบเสร็จเลย บรรยากาศในสนามสอบก็แปรเปลี่ยนเป็นคลุมเครือ ใบหน้าของอาจารย์และศิษย์ทุกคนระบายไปด้วยสีหน้าประหลาดท่าทางทั้งแปลกใจ ทั้งเย้ยหยัน ทั้งเห็นใจ และยังมีบ้างที่มีท่าทางเหมือนรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ยังดีที่นี่เป็นสนามสอบ ไม่ถูกรบกวนได้ง่าย มิเช่นนั้นน่ากลัวคงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังระงมไปนานแล้วไม่นานเวลาก็ผ่านไปสองชั่วยามกว่าระดับ ค. ห้องหนึ่งถึงห้องแปดมีศิษย์มากมายทำแบบทดสอบเสร็จอย่างไม่ขาดสาย ถึงขนาดที่ในสามห้องแรกเหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังทำการทดสอบไม่เสร็จกลับมาดูที่ระดับ ค. ห้องเก้า…ยังไม่มีคนทำแบบทดสอบเสร็จสักคนเดียวเหมือนเดิม!บรรยากาศยิ่งคลุมเครือขึ้นไปอีก ขนาดผู้คุมสอบหลักทั้งสามที่นั่งอยู่ตรงกลาง เวลานี้สีหน้ายังแปลกไปอย่างอดไม่ได้แม้จะคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่าในช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ระดับค. ห้องเก้าร่ำเรียนนั้น ไม่อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงใหญ่โตมากนัก แต่ภาพชวนอึดอัดใจอย่างตอนนี้ยังคงทำให้ฝูงชนคาดไม่ถึงอยู่บ้างในใจของหลายคนอดลอบถอนหายใจเพราะสงสารหลินสวินไม่ได้อย่างไรเสีย ผลการทดสอบของระดับค. ห้องเก้าหากน่าเกลียดจนเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อหลินสวิน ที่ต้องรู้ก็คือ ก่อนหน้านี้มีอาจารย์ไม่น้อยเห็นว่าวิธีการสอนของหลินสวินนั้นแหวกแนวแหกคอก หลุดจากตำราไม่เป็นไปตามแบบแผน คิดว่าหลินสวินเรียกร้องความสนใจจากฝูงชนเมื่ออาจารย์เหล่านี้ได้ที พวกเขาย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสดูหมิ่นและโจมตีหลินสวินหลุดมือไปแน่!เรียกได้ว่าเมื่อมีชื่อเสียงก็จะถูกวิจารณ์ได้ง่าย เหมือนไม้ใหญ่ล่อลม[1]มีคนสรรเสริญ ก็มีคนอิจฉาริษยาและไม่พอใจ นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้สามชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็วศิษย์ทั้งหมดของระดับ ค. ห้องหนึ่งล้วนทำการทดสอบเสร็จแล้ว!ระดับ ค. ห้องสองถึงแปดก็มีศิษย์ทำทดสอบเสร็จกันเกินครึ่ง มีเพียงส่วนหนึ่งที่ยังบากบั่นต่อไปส่วนระดับค. ห้องเก้านั้น…สภาพก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงดังเดิม!บรรยากาศในที่นั้นไม่ใช่คลุมเครือเสียแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นแปลกพิกล อาจารย์และศิษย์ส่วนใหญ่ล้วนทำใจเชื่อได้ยาก พากันประหลาดใจนี่มันเลวร้ายไปแล้วกระมังหรือว่าผ่านการเรียนหนึ่งเดือนนี้ ศิษย์ระดับค. ห้องเก้านี้ไม่เพียงไม่พัฒนา กลับถดถอยลงไปไม่น้อย?สภาพเช่นนี้ย่อมเกิดขึ้นได้ อย่างไรเสียอาจารย์ระดับค. ห้องเก้าคนก่อนก็เป็นฟางจงเจียน ถูกเปลี่ยนเป็นหลินสวินกะทันหัน วิธีการสอนก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ย่อมทำให้ศิษย์เหล่านี้ปรับตัวได้ยากอาจารย์หลายคนล้วนคิดเช่นนี้ ชั่วขณะหนึ่งที่สายตาซึ่งมองไปยังหลินสวินฉายแววเห็นใจและสงสารอย่างอดไม่ได้เฮ้อ อาจารย์เสี่ยวหลินผู้นี้ยังคง… เยาว์ไปนัก!ส่วนศิษย์เหล่านั้นต่างฉงนสนเท่ห์ พวกเขาก็เคยได้ฟังหลินสวินสอนหนังสือ รู้สึกว่าได้ประโยชน์ไม่น้อย ทั้งได้เรียนรู้ศาสตร์สลักรอยวิญญาณลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วยแต่พวกเขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า ความสามารถของศิษย์ระดับค. ห้องเก้าจะย่ำแย่ปานนี้!เป็นแบบนี้ได้อย่างไรหรือว่าเจ้าพวกนั้นเป็นพวกไม่ได้เรื่องจริงๆหรือควรพูดว่า วิธีสอนของอาจารย์เสี่ยวหลินมีปัญหา?‘อาจารย์เสี่ยวหลินอย่าท้อใจไป เพิ่งผ่านไปหนึ่งเดือนเท่านั้น ผลแพ้ชนะครั้งเดียวไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร เจ้าอย่าได้ใส่ใจเลย’ในโสตประสาทของหลินสวิน พลันมีเสียงสื่อจิตของอาจารย์หวงที่อยู่ข้างๆ ดังขึ้นเขาเหลียวมองไป ก็เห็นว่าอาจารย์หวงมองตนด้วยใบหน้าจริงใจ เต็มไปด้วยท่าทีปลอบใจตนเมื่อดูสีหน้าของอาจารย์ท่านอื่นอีก ก็ไม่ต่างจากสีหน้าของอาจารย์หวงนักแน่นอน หลินสวินพบว่าในบรรดาสีหน้าที่มองมายังตนนั้น ก็มีสีหน้าที่ไม่ใส่ใจและยิ้มหยัน หรือถึงกับมีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่นหลินสวินยิ้มให้ แล้วชักสายตากลับมา มองไปยังสนามสอบอีกครั้ง ก่อนสื่อจิตให้อาจารย์หวงว่า ‘ยังไม่หมดเวลาทดสอบ รอดูไปก่อนก็พอ’อาจารย์หวงอึ้งไป ในใจอดขบขันไม่ได้ เจ้าเด็กคนนี้ดื้อดึงเสียจริง มาถึงตอนนี้แล้ว ระดับค. ห้องเก้าจะยังพลิกสถานการณ์ได้อย่างไรที่จริงแล้วความคิดของผู้อื่นในที่นั้นก็ไม่ต่างจากความคิดของอาจารย์หวง คิดว่าระดับค. ห้องเก้าคงได้รั้งท้ายอีกแน่แล้ว กลายเป็นห้องเรียนที่แย่ที่สุดในบรรดาทั้งเก้าห้องขนาดเสิ่นทั่วผู้เชื่อใจหลินสวินอย่างเต็มเปี่ยม เวลานี้ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ในใจเคลือบแคลงสงสัย ด้วยฝีมือของหลินสวิน ต่อให้ไม่สามารถสั่งสอนระดับค. ห้องเก้าให้ดีได้ ก็ไม่น่าเลวร้ายถึงขั้นนี้นี่หากถูกฟางจงเจียนที่ไม่พอใจและต่อต้านหลินสวินแต่แรกเห็นเข้า น่ากลัวจะทำให้หลินสวินเสื่อมเสียชื่อเสียง!“อาจารย์หวง”ฉับพลันหลินสวินก็เอ่ยปาก มุมปากระบายรอยยิ้มบาง “ท่านต้องดูให้ดีนะ”“อะไรหรือ”อาจารย์หวงมึนงงทันใดนั้นเขาก็แข็งทื่อไปทั้งตัว นัยน์ตาเบิกกว้างได้เห็นว่าในสนามสอบนั้น ศิษย์ระดับค. ห้องเก้าทั้งสามสิบคนกลับหลอมอาวุธที่ใช้ทดสอบเสร็จสิ้น แล้วลุกขึ้นยืนอย่างพร้อมเพรียงในเวลาเดียวกันนี้!สวบ!คนทั้งสามสิบคนขยับตัวพร้อมกัน การเคลื่อนไหวไม่ใช่เพียงแค่ใหญ่อย่างธรรมดา แต่เหมือนหารือกันไว้ก่อนแล้ว พาให้จิตใจของอาจารย์และศิษย์ทั้งโถงล้วนสั่นไหว สีหน้าพลันเปลี่ยนไปนี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้นประเดี๋ยวเดียวก็ทำการทดสอบเสร็จกันหมดแล้วหรือในชั่วขณะหนึ่ง สีหน้าของทั้งอาจารย์และลูกศิษย์เปลี่ยนเป็นตื่นตาตื่นใจถึงที่สุด ความรู้สึกนั้นเหมือนดั่งเห็นโคลนที่ฉาบไม่ติดผนังพลันแปลงร่างเป็นหยกงามไร้ราคี!‘พวกเขา…ก่อนหน้านี้พวกเขาตกลงกันเรียบร้อยแล้วหรือ’อาจารย์หวงสื่อจิตอย่างตกใจระคนสงสัย‘น่าจะเป็นเช่นนั้น ข้าก็เพิ่งรู้ขอรับ’หลินสวินตอบกลับพร้อมยิ้มบางๆเขาเพิ่งสังเกตเห็นจริงๆ เพราะเขาพบว่าศิษย์หลายคนสามารถทำการทดสอบเสร็จได้ในสามชั่วยามชัดๆ แต่ในช่วงขั้นตอนสุดท้าย ความเร็วในการหลอมอาวุธกลับช้าลงไปมากถ้าแค่คนเดียวก็ช่างเถอะ แต่เมื่อศิษย์หลายคนมีสภาพเดียวกันนี้ในเวลาเดียวกัน ก็กลายเป็นการเคลื่อนไหวที่ตั้งใจวางแผนมาแล้ว!‘ต้องเป็นความคิดพิเรนทร์ของเจ้าอ้วนหลิวฮุยแน่’หลินสวินกวาดสายตาออกไป ก็ดูออกว่าใครเป็น ‘ตัวการ’ ที่วางแผนนี้ เพราะบนใบหน้าอวบอ้วนของหลิวฮุยขณะนี้เต็มไปด้วยความได้ใจและหยิ่งผยอง เต็มไปด้วยท่าทางแก้แค้นเอาคืนและภูมิใจเวลานี้อาจารย์และศิษย์ที่อยู่ในที่นั้นโดยมากก็เริ่มมีปฏิกิริยา เดาออกว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร ล้วนอดแสดงสีหน้าแปลกประหลาดไม่ได้ศิษย์ระดับค. ห้องเก้าเจตนาร้ายกาจเสียจริง เห็นชัดว่าวางแผนเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อโจมตีเหล่าคนที่ดูถูกพวกเขาแต่จะว่าไป…ศิษย์ทั้งสามสิบคนทำการทดสอบสำเร็จในเวลาเดียวกัน ภาพนี้น่าตื่นตาอย่างแท้จริง!ที่ต้องรู้ก็คือ ในการทดสอบตอนนี้มีเพียงศิษย์ระดับค. ห้องหนึ่งที่ทำแบบทดสอบเสร็จทั้งห้อง!นี่ก็หมายความว่า ไม่ว่าคะแนนท้ายที่สุดของการทดสอบจะเป็นอย่างไร ในแง่ความเร็วของการทดสอบ ระดับค. ห้องเก้าเป็นรองเพียงระดับค. ห้องหนึ่งเท่านั้น มีตำแหน่งเป็นที่สอง!“เฮ้อ ไม่คิดเลย ไม่คิดเลยนะ อาจารย์เสี่ยวหลินจัดแจงเช่นนี้ทำให้ระดับค. ห้องเก้าดึงดูดความสนใจได้”อาจารย์หวงทอดถอนใจ เห็นชัดว่านึกว่าทั้งหมดนี้เป็นการบงการของหลินสวินหลินสวินอึ้งไป แต่ก็ไม่อธิบาย เพียงพูดพลางยิ้มว่า “หากพวกเขาไม่มีฝีมือเช่นนี้ ก็คงทำถึงขั้นนี้ไม่ได้หรอกขอรับ”อาจารย์หวงตะลึง ในใจสับสนคำพูดนี้ของหลินสวินเข้าใจได้ง่ายมากเกินไปแล้ว เห็นชัดเจนว่ากำลังบอกว่า ศิษย์ระดับค. ห้องเก้าเปลี่ยนไปจากเดิมในช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ได้ร่ำเรียน ดังนั้นถึงได้สร้างความเคลื่อนไหวใหญ่โตเช่นนี้ได้นี่ย่อมพิสูจน์ได้อย่างหนักแน่นโดยอ้อมๆ ว่าวิธีการสอนที่หลินสวินถูกผู้อื่นตำหนินั้น ไม่ได้แหกคอกแหวกแนว ไม่ได้หลุดจากตำราไม่เป็นไปตามแบบแผน และยิ่งไม่ใช่การเรียกร้องความสนใจจากฝูงชน!กลับกัน เพียงระยะเวลาหนึ่งเดือน หลินสวินก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงราวเกิดใหม่เช่นนี้กับ ‘ศิษย์ชั้นเลว’ ระดับค. ห้องเก้าเหล่านั้น นี่เหมือนกับปาฏิหาริย์ สามารถปิดปากกลุ่มคนที่ไม่พอใจและริษยาหลินสวินพวกนั้นได้สนิท!เวลาล่วงเลย การทดสอบก็ยังคงดำเนินต่อไปเพียงแต่บรรยากาศนั้นต่างจากเมื่อครู่นี้ ศิษย์ระดับค. ห้องเก้าที่ทำแบบทดสอบเสร็จแต่ละคนต่างยิ้มแย้มด้วยความดีใจ เริงร่ามีชีวิตชีวาเมื่อกลับมาดูอาจารย์และศิษย์ที่มาสังเกตการณ์เหล่านั้น ต่างทำหน้าไม่ถูก เกรงว่าคงคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวเหนือความคาดหมายเช่นนี้เกิดขึ้นส่วนสายตาที่พวกเขามองไปยังหลินสวินก็ล้วนฉายแววเคารพอย่างลึกซึ้ง ความเปลี่ยนแปลงของระดับค. ห้องเก้านั้นใหญ่ยิ่ง ทำให้พวกเขาไม่ยอมรับไม่ได้ศิษย์ระดับค. ห้องเก้าสามารถทำได้ถึงขั้นนี้ ต้องยกความดีความชอบใหญ่ยิ่งให้กับอาจารย์อย่างหลินสวินคนนี้!จนกระทั่งการทดสอบจบลง หลังจากที่พวกเสิ่นทั่วผู้คุมสอบหลักทั้งสามประเมินคะแนนสุดท้ายของห้องเรียนทั้งเก้า สนามสอบก็อึกทึกนัก คลื่นเสียงดั่งกระแสน้ำที่กระเพื่อมไปทั่วโถงใหญ่“เก่งเกินไปแล้ว ไม่อยากเชื่อเลย!”“ข้าก็บอกแล้วไง ระดับค. ห้องเก้ามีอาจารย์เสี่ยวหลินอยู่ คิดจะไม่ทำใครตกตะลึงก็คงยาก”“จริงด้วย ครั้งนี้ระดับค. ห้องเก้าโดดเด่นนัก ลบคำสบประมาทก่อนหน้านี้ ทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จจนได้”“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ถ้าไม่มีอาจารย์เสี่ยวหลินก็ไม่มีวันนี้ของระดับค. ห้องเก้า!”“อาจารย์เสี่ยวหลินหล่อเหลานัก แม่นางอย่างข้าหมายมั่นแล้วว่าจะจีบเขา!”“อุบะ! คนอย่างอาจารย์เสี่ยวหลินไม่แน่หรอกว่าจะแลเจ้า แม่คนหน้าไม่อาย!”เสียงฮือฮา เสียงสนทนาต่างดังขึ้นไม่หยุดหย่อนในเวลานี้เหตุผลนั้นง่ายดาย เพราะคะแนนสุดท้ายของการทดสอบครั้งนี้ ระดับ ค. ห้องเก้ากระโดดขึ้นมาอยู่อันดับห้าเหมือนม้ามืด ปลดเปลื้องคำเหยียดยามว่า ‘ที่หนึ่งจากท้าย’ ที่พันธนาการอยู่บนตัวมาโดยตลอดได้อย่างราบรื่นช่วงเวลาสั้นๆ เพียงเดือนเดียวเท่านั้น!จากอันดับรั้งท้าย พุ่งสู่อันดับห้า!การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ทำให้ทั้งโลกตื่นตะลึงได้แล้ว!อย่างไรเสียนี่ก็เป็นการทดสอบนักสลักวิญญาณ คิดจะพัฒนานั้นง่ายดายเสียที่ไหนยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนก็รู้ดีว่าศิษย์ระดับค. ห้องเก้าล้วนเป็นพวกศิษย์ชั้นเลวที่ถูกมองว่ารับมือยาก แต่หลินสวินสามารถชี้นำ ‘ศิษย์ชั้นเลว’ พวกนี้จนพลิกสถานการณ์ได้ นี่ช่างน่าตกใจยิ่งเมื่อผ่านการทดสอบนี้ไป ก็เป็นการพิสูจน์ความสามารถในการสอนของหลินสวินอย่างหมดจด ได้รับเสียงชื่นชมและยกย่องจากทั้งโถงภายหน้าหากใครคิดจะโจมตีความสามารถในการสอนหนังสือของหลินสวิน คงไม่ง่ายดายเช่นนั้นอีกแล้ว“อาจารย์เสี่ยวหลิน พวกเราทำได้แล้วขอรับ!”ท่ามกลางความครึกครื้น หลิวฮุยวิ่งพลางหัวเราะร่ามาขอความดีความชอบจากหลินสวิน“อ้อ”หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย ขมวดคิ้วแล้วถามกลับไปว่า “เจ้าไม่รู้สึกอับอายหรือ”หลิวฮุยพลันอึ้งไป ท่าทางตะลึงค้าง อับอายหรือ หรือว่าคะแนนนี้ยังไม่ดีพอ“เป็นศิษย์ของข้า ไม่ได้ที่หนึ่งถือเป็นความอับอาย”คำพูดต่อมาของหลินสวินทำให้หลิวฮุยพลันทำตัวไม่ถูก ในใจเกิดความละอาย ที่แท้…ที่แท้อาจารย์เสี่ยวหลินก็คาดหวังกับศิษย์อย่างพวกเขาเอาไว้สูงเช่นนี้!เมื่อหลิวฮุยนำความไปบอกต่อศิษย์คนอื่นในชั้น แต่ละคนต่างมีสีหน้าเหม่อลอย จากนั้นก็เผยสีหน้าละอายใจพวกเขาไม่เพียงไม่ถูกกระทบกระเทือนจิตใจ กลับเกิดเป็นความภูมิใจในตนเองอย่างประหลาดที่แท้ในใจของอาจารย์เสี่ยวหลิน ศิษย์อย่างพวกเขาก็สามารถคว้าที่หนึ่งได้!……………[1] ไม้ใหญ่ล่อลม หมายถึงคนที่ยิ่งโดดเด่น ยิ่งมีชื่อเสียงหรือทรัพย์สินเงินทองมาก ก็ยิ่งตกเป็นเป้าหมายของผู้อื่นได้ง่าย
คอมเม้นต์