Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 374
กระบี่เมฆาสีชาดอยู่ในมือ ฮวาอู๋โยวยิ่งปราดเปรียวดุดันสวบ!ในเสี้ยววินาทีนั้น เงากระบี่เต็มฟ้าแหวกขึ้นกลางอากาศ ราวแสงเพลิงยิงพุ่งปะทะทั่วฟ้าดิน ปกคลุมหลินสวินไปทั้งตัว“กระบี่เงาชาดไร้รูปของตระกูลฮวา!”“เพียงคนเดียวกลับฝึกสามวิชาใหญ่ที่สืบทอดมาในตระกูลฮวา พลังแท้จริงกับพรสวรรค์น่าตกใจนัก!”“วันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะหลินสวิน น่ากลัวว่าคนคงไม่คิดว่าวิชาสังหารที่แท้จริงของฮวาอู๋โยวจะเป็นเคล็ดวิชาดาบโบราณที่สืบทอดมาหรอก”ในขณะทั่วลานประลองเต็มไปด้วยความตกตะลึงในวิชาที่ฮวาอู๋โยวแสดงออกมานั้น ก็ได้ยินเสียงดาบครวญราวมังกรคำรามดังขึ้นชิ้ง!ลำแสงสีดำราวรัตติกาลนิรันดร์ปรากฏขึ้นกลางห้วงอากาศ ดาบเวทเรืองแสงเวลานี้พุ่งออกจากฝักอย่างอุกอาจในเวลาเดียวกัน พลังน่ากลัวราวภูเขาไฟที่คุกรุ่นมานานก็พลันระเบิดออกมาจากร่างหลินสวินแต่ที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจก็คือ ยามพลังของเขาเพิ่มสูงขึ้นถึงขีดสุด กลับปรากฏกลิ่นอายเรียบง่ายว่างเปล่าของ ‘หมื่นลักษณ์ไร้รูป’ แบบหนึ่งถ้ากล่าวว่าหลินสวินก่อนหน้านี้เป็นพายุสูงใหญ่ที่ทำลายล้างอย่างป่าเถื่อนบ้าคลั่ง เช่นนั้นหลินสวินที่ยกดาบขึ้นในตอนนี้ ท่าทีกลับแปรเปลี่ยนเป็นละสิ้นกิเลสเหนือธรรมดากลิ่นอายราวเมฆาลอยละล่องกระจัดกระจาย เงียบเชียบราวเซียนประทับดาบ ไม่แปดเปื้อนมลทินแม้สักนิดผู้คนอดตื่นตะลึงไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าสู้มาถึงเวลานี้ หลินสวินที่เพิ่งอยู่ระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นต้นก็ซุกซ่อนพลังไว้ไม่แสดงออกมาเช่นกัน!เมื่อมองดูท่วงท่ายามเขาถือดาบ ดูสงบนิ่งสุขุมราวเมฆาล่องลอย แต่กลิ่นอายที่ไม่เหมือนใครนั้นกลับพาให้ทุกคนยิ่งหวาดกลัวโครม!หลินสวินจับดาบในมือ เงาดาบเริงระบำ ราวมหาสมุทรกว้างถาโถมรุนแรง ดั่งทางช้างเผือกม้วนตลบ ในชั่วพริบตาก็ทำให้ฝนกระบี่เพลิงเต็มฟ้านั้นสลายเป็นผุยผง หายไปอย่างไร้ร่องรอยเห็นท่าทางผ่อนคลายสบายใจของเขา ทำให้ทุกคนไม่กล้าเชื่อว่า กระบี่เงาชาดไร้รูปที่ได้ชื่อว่าเป็นวิชาลับที่สืบทอดมาในตระกูลฮวาจะถูกสลายได้อย่างง่ายดายปานนี้“ชนรุ่นหลังน่ากลัวนัก!”มีผู้อาวุโสถอนหายใจรำพึงรำพันไม่ว่าจะเป็นฮวาอู๋โยวหรือหลินสวิน ตั้งแต่เริ่มต่อสู้มาถึงตอนนี้ ล้วนแสดงความสามารถในการต่อสู้ที่น่ากลัวเกินธรรมดาออกมา น่าตื่นตะลึงขึ้นเรื่อยๆ พาให้ผู้คนสั่นสะท้านไม่หยุดหย่อนแม้การต่อสู้ครั้งนี้จะยังไม่ปิดฉากลง แต่ก็เพียงพอพิสูจน์ได้ว่าทั้งสองคนนี้เหนือล้ำปานใด ในรุ่นเดียวกันนั้น สามารถเรียกได้ว่าโดดเด่นยอดเยี่ยม!“หึ!”ฮวาอู๋โยวมีสีหน้าเย็นชาราวน้ำแข็ง ยกกระบี่ขนานกับท้องฟ้า ห่ากระบี่สีชาดราวพายุคลั่งหมุนวนไร้รูปร่าง พาให้คนไม่สามารถคาดเดาได้แต่ทั้งหมดนี้กลับถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะย้อนกลับในเวลานี้!หลินสวินถือดาบไว้ในมือ ท่วงท่าละกิเลสราวเซียนที่ถูกขับลงสู่โลกมนุษย์ เยื้องย่างบนลานประลอง คมดาบสง่างามยากสังเกต ราวละมั่งเร้นกายไม่อาจตามรอยตูม! ตูม! ตูม!แทบจะไม่ต่างจากที่คาด เห็นเพียงห่ากระบี่เพลิงที่พุ่งเข้ามาไม่หยุดหย่อนนั้นถูกบดสลายไปทีละแถบ ราวเพลิงลุกโชนผลิบานบนพื้นลานประลองส่วนหลินสวินเดินฝ่าเข้าไปกลางห่าฝนราวกับเยื้องย่างในสวน ทุกที่ที่คมดาบแหวกว่าย ล้วนถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองน่ากลัวไปแล้ว เห็นๆ กันอยู่ว่าเป็นกระบวนท่าดาบธรรมดา แต่พออยู่ในมือหลินสวินกลับระเบิดพลังเกินจินตนาการโดยสิ้นเชิงออกมาความเข้าใจและการควบคุมวิชาดาบของเขาพาให้คนใหญ่คนโตมากมายล้วนใจสั่นระรัว มองตาค้าง อึกอักพูดอะไรไม่ออกวิชากระบี่เงาชาดไร้รูปของฮวาอู๋โยวนั้นน่ากลัวปานใด หากเป็นผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณรุ่นหลังทั่วไป น่ากลัวคงถูกสังหารสิ้นกลางลานประลองในพริบตาแต่ตอนนี้ ต่อหน้าหลินสวิน กลับดูประหนึ่งไม่ใช่การโจมตีด้วยซ้ำ ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงสักนิด!การพลิกผันนี้รวดเร็วยิ่งนัก พาให้คนมึนงงในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ แม้หลินสวินจะสามารถสู้กับฮวาอู๋โยวได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แต่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกเล่นงานอยู่ตลอดแต่บัดนี้ ทุกอย่างพลิกผันไปแล้ว!ตูม! ตูม! ตูม!ยามห่ากระบี่ทั่วฟ้าปรากฏ ก็ถูกหนึ่งคมดาบบดขยี้ แสดงให้เห็นถึงพลังแข็งแกร่งเพียงไหน ภาพการณ์เช่นนั้นพาให้คนตื่นตะลึงมาถึงตอนนี้ ผู้คนในที่นั้นล้วนนั่งไม่ติด เสียงร้องตกตะลึงดังไปทั่ว สีหน้าเต็มไปด้วยความสั่นสะท้านความแข็งแกร่งของหลินสวินเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปอีกครั้ง เกินจินตนาการนัก!โครมผ่านไปครู่หนึ่ง ฮวาอู๋โยวถูกคมดาบทำให้ไหวสะเทือนถอยไป ใบหน้าพริ้มพรายพลันซีดขาวเวลานี้สีหน้าของนางไม่ได้หยุดอยู่ที่เย็นเยียบ แต่เป็นแข็งทื่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงตาราวดารานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกยากจะเชื่อได้เป็นไปได้อย่างไร!เด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นต้นเช่นเขา เหตุใดถึงได้ครอบครองพลังดาบที่น่ากลัวขนาดนี้ได้ฮวาอู๋โยวตกใจระคนสงสัย ยิ่งไม่ชอบใจ การลงมือปราดเปรียวดุดันน่าสะพรึงกลัวยิ่งขึ้น ราวอสุรีที่บันดาลโทสะถึงขีดสุด กระบี่เมฆาสีชาดในมือส่งเสียงกระบี่คำรามหนักหน่วงแต่ไม่นานนักนางกลับถูกผลักกระเด็นถอยไปอีกครั้ง ผมดำขลับข้างหูถูกตัดออก อีกนิดเดียวก็จะตัดคอนางขาด!ฮวาอู๋โยวหวาดหวั่น ใบหน้างามพริ้งเขียวคล้ำ นางกัดฟันกรอด ในใจเอ่อล้นไปด้วยไฟโทสะและความรู้สึกไม่ยินยอม บุกเข้าสู้ต่อฝึกปราณมาถึงตอนนี้ พรสวรรค์นางโดดเด่นเหนือใคร พ่ายแพ้น้อยครั้งนัก ถูกขนานนามว่าเป็นผู้ล้ำเลิศในหมู่คนรุ่นเยาว์ในตระกูล ถ้าครั้งนี้มาแพ้เด็กหนุ่มอย่างหลินสวินท่ามกลางสายตานับหมื่น ย่อมเป็นความอับอายครั้งใหญ่!การต่อสู้ยิ่งโหดร้ายยิ่งขึ้นหนึ่งดาบ หนึ่งกระบี่ ผลัดกันห้ำหั่นกลางลานประลอง สะเทือนสภาพอากาศแปดทิศ ผู้ชมในลานประลองล้วนดวงตาพร่างพราย จิตใจไหวหวั่นแทบลืมหายใจศึกนี้ไม่เพียงตื่นตาตื่นใจ ยังเป็นการต่อสู้ของยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่แท้จริง!เพียงแต่ว่า ทุกสายตาในตอนนี้กลับจับจ้องไปที่หลินสวินเกินความคาดหมายไปแล้ว!ใครก็ไม่อาจคาดคิดได้ว่า หลินสวินที่พวกเขาเห็นว่าอ่อนแอรนหาที่ตาย ไม่เพียงสามารถต่อสู้กับฮวาอู๋โยวอย่างสมน้ำสมเนื้อ ในท้ายที่สุดกลับพลิกสถานการณ์ใหญ่โตเกินความคาดหมาย!ผู้ใดก็คาดไม่ถึง“วิปริตแล้ว วิปริตไปแล้ว! เวรเอ๊ย! ถ้าเขาไปเข้าร่วมการทดสอบระดับอาณาจักรก่อนหน้านี้ได้ อาศัยความสามารถในการต่อสู้ขั้นนี้ คงคว้าห้าอันดับแรกมาได้ง่ายเหมือนล้วงกระเป๋าหยิบของแน่!”หนิงเหมิงร้องเสียงหลงไม่หยุดหย่อน ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกภายในจิตใจได้อีกแล้ว“ให้ตายสิ! ก่อนหน้านี้ทำให้ข้ากังวลแทนเขาแทบตาย มาดูตอนนี้ เจ้าบ้านี่มั่นใจอยู่ก่อนแล้ว จงใจให้ข้าเป็นตัวตลกล่ะสิ!”สืออวี่ก็กัดฟันกรอดกงหมิงกับเย่เสี่ยวชีอดยิ้มเจื่อนไม่ได้ พวกเขาก็ไม่คิดเช่นกันว่า ไม่ได้พบกันสองปี หลินสวินจะร้ายกาจกว่าสมัยอยู่ค่ายกระหายเลือดเสียอีก ดูเอาเถอะ ใช้ปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นต้นก็เริ่มกำราบฮวาอู๋โยวได้ ใครจะไปเชื่อในอีกห้องรับรองหนึ่ง หลินเทียนหลง หลินเนี่ยนซานและหลินผิงตู้ล้วนสีหน้าคล้ำเคร่งนิ่งขรึม บรรยากาศเงียบเชียบจนน่ากลัว“เด็กคนนี้…เด็กคนนี้…ควรฆ่าให้ตาย! ต่อให้ไม่ได้ภูเขาชำระจิต ก็ปล่อยให้ภัยร้ายแบบเขาเติบใหญ่ไม่ได้เด็ดขาด มิเช่นนั้นคงทำให้ข้ากินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นแน่!”ครู่หนึ่งหลินเทียนหลงก็พูดประโยคนี้ลอดไรฟันออกมา สีหน้าถมึงทึงบูดเบี้ยว เผยให้เห็นจิตสังหารหนาแน่นไร้ที่สิ้นสุดความสามารถของหลินสวินโดดเด่นสะดุดตาเกินไป อายุเพิ่งสิบกว่าปีเท่านั้น ก็สามารถกำราบฮวาอู๋โยวผู้ลือชื่อทั่วนครต้องห้ามอยู่ก่อนแล้วได้ถ้าปล่อยให้หลินสวินเติบใหญ่ แล้วจะร้ายกาจขนาดไหนถ้อยคำนี้ของหลินเทียนหลงทำให้สีหน้าหลินเนี่ยนซานและหลินผิงตู้เคร่งเครียดยิ่งขึ้น จิตใจว้าวุ่นไม่สงบ“เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร ทำไม ทำไมกัน”ในเวลาเดียวกันนั้น ฮวาอู๋เหินราวถูกฟ้าผ่า สีหน้าแปรปรวน ไม่อาจคาดคิดได้ว่าพี่รองฮวาอู๋โยวที่เก่งกล้าสามารถราวกับเทพีสงครามนั้น จะไม่เพียงสังหารหลินสวินไม่ได้ กลับตกอยู่ในอันตรายในขณะนี้!เช่นนี้ฮวาอู๋เหินจะรับได้อย่างไรกันเสียงถกเถียง เสียงเซ็งแซ่ เสียงร้องตกใจพวกนี้ เวลานี้ดังขึ้นทั่วสังเวียนสวรรค์ยุทธ์เสียงแล้วเสียงเล่า เห็นได้ว่าอานุภาพของหลินสวินเกินธรรมดา พาให้พวกเขาสั่นสะท้านเพียงใด“เริ่มสัมผัสประตูของขอบเขตการฝึกยุทธ์แล้วสินะ ในด้านนี้ฮวาอู๋โยวด้อยกว่าเขาแล้ว”มีคนใหญ่คนโตรุ่นอาวุโสวิเคราะห์“พูดว่าวิถียุทธ์ของเด็กคนนี้มหัศจรรย์อาจเป็นการกล่าวเกินจริงไปบ้าง แต่กระนั้นก็ไม่ห่างชั้นกันมากนัก ข้าเคยชมการทดสอบระดับอาณาจักรก่อนหน้านี้ไม่นาน หนุ่มสาวที่ได้ห้าอันดับแรก ไม่มีสักคนที่จะทำได้ถึงขั้นนี้”“สายเลือดท่านเต้าเฉินมีผู้สืบทอดแล้วสิ!”“ถ้าเด็กคนนี้โผล่ขึ้นมากะทันหัน เหตุนองเลือดวุ่นวายเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้นน่ากลัวจะเกิดขึ้นซ้ำรอยอีก เกรงว่า…หลายคนไม่ต้องการเห็นภาพนั้นเกิดขึ้น”คนใหญ่คนโตบางคนแลกเปลี่ยนกันเวลานี้ ในลานประลองพลันเกิดเสียงร้องตกใจดังขี้นเห็นเพียงบนลานประลองนั้น ดาบของหลินสวินแผ่กลิ่นอายไร้มลทินดุจแสงเรือง เพียงชั่วพริบตาก็บีบจนฮวาอู๋โยวต้องกระโดดหลบ!ไม่ทันไรทั่วร่างของฮวาอู๋โยวก็เกิดบาดแผลจากคมดาบมากมาย เลือดสีแดงสดไหลริน ดูน่าสะท้านขวัญฮู้ม!และในเวลานี้เอง บนคมดาบของหลินสวินพลันเกิดประกายแสงราวราตรีนิรันดร์ ดั่งรัตติกาลคลี่ม่านเข้าปกคลุม ดวงดาวสุกสกาวร่วงหล่น เกิดเป็นภาพนิมิตวันสิ้นโลกที่สามารถทลายฟ้าดินได้กระบวนท่าคว้าดารา!ลึกลงไปในดวงตาของหลินสวินเต็มไปด้วยจิตสังหารเยียบเย็นโหดเหี้ยม ศึกชี้เป็นชี้ตาย ย่อมชี้ขาดว่าใครจะตายใครจะอยู่ เขาไม่มีทางแสดงความเมตตาเด็ดขาดในใจหลินสวินมิแบ่งชายหญิง เพียงแบ่งตนและศัตรู!นอกจากนี้ ฮวาอู๋โยวผู้นี้ก็หวังจะฆ่าเขาที่นี่อยู่แล้ว เขาจะไว้ชีวิตอีกฝ่ายอย่างไม่จริงใจไปได้อย่างไรเล่าดังนั้นในชั่วขณะที่ดีที่สุดนี้ หลินสวินจึงใช้กระบวนท่าคว้าดารา!ชั่วพริบตา เสียงอึกทึกในสังเวียนสวรรค์ยุทธ์พลันเงียบกริบ ตกอยู่ในบรรยากาศเงียบสนิท ทุกคนเบิกตากว้าง ไม่อาจทำใจเชื่อได้หลินสวินผู้นี้…จะลงมือฆ่าคนจริงๆ หรือ!?หรือเขาไม่กลัวจะผิดใจใหญ่หลวงกับตระกูลฮวาอย่าว่าแต่ผู้อื่น แม้แต่พวกสืออวี่ หนิงเหมิงล้วนตกใจเกินคาด ความบ้าคลั่งร้ายกาจของหลินสวินพวกเขารู้มานานแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่าเขาจะยอมแตกหักขนาดนี้ได้!แต่คิดไปคิดมา แค้นแล้วฆ่าศัตรูได้โดยไม่ต้องสนใจผลกระทบใดๆ เลย ความรู้สึกนี้…ช่างสาแก่ใจนัก!“ไม่…!”ที่น่าตลกก็คือ พวกหลินเทียนหลงในเวลานั้นกลับล้วนมีสีหน้าพรั่นพรึง ไม่ต้องการเห็นภาพฮวาอู๋โยวถูกฆ่าเกิดขึ้น“พี่รอง!” ฮวาอู๋เหินสติกระเจิดกระเจิง ร้องเสียงหลงแม้พูดแล้วเหมือนช้า ทว่าความจริงนั้นรวดเร็วยิ่ง ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นในชั่วขณะเดียว ในเวลาชี้เป็นชี้ตายนี้ ดวงตาฮวาอู๋โยวอดฉายแววเลื่อนลอยไม่ได้ไม่คาดคิดเลยว่าตนจะพ่ายแพ้จริงๆ นอกจากนี้ยังมีความตายเป็นจุดจบ…“เจ้าหนุ่ม! เลิกแผลงฤทธิ์เสีย!”เห็นเพียงดาบนี้ของหลินสวินลดลง ไม่ได้สังหารฮวาอู๋โยว ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่า แรงกดดันน่ากลัวหาใดเปรียบสายหนึ่งจะพลันปกคลุมลานประลองเสียงตูมดังขึ้น ร่างหลินสวินไหวสะเทือนราวถูกฟ้าผ่า ดาบในมือพลันสลายไปแทบจะในเวลาเดียวกัน เงาร่างผู้สูงวัยผอมแห้งพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าฮวาอู๋โยวชายสูงวัยผู้นี้แต่งกายชุดม่วงทั้งตัว หนวดเคราผมเผ้าสีขาวเงิน นัยน์ตาในกระบอกตาลึกวาบประกายหมุนวนราวอสนีบาตฮวาเชียนเฉิงผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะแห่งตระกูลฮวา!ผู้ชมในลานประลองฮือฮา ล้วนหน้าตาเหวอ ไม่คิดว่าผู้แข็งแกร่งตระกูลฮวาจะไม่สนหน้าตาเช่นนี้ ลงมือแทรกแซงการประลองระหว่างผู้ฝึกรุ่นเยาว์ด้วยตัวเอง!
คอมเม้นต์