Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน ตอนที่ 23 ภารกิจของตงป๋อเสวี่ยอิง
ทันใดนั้นเหล่าเทพจักรวาลคนอื่นๆ ในที่นั้นต่างก็มองไปทางตงป๋อเสวี่ยอิง เป็นเพราะโชคดี หรือว่าเป็นเพราะมีเคล็ดวิชาพิเศษกันแน่ ถ้าหากมีเคล็ดวิชาเคล็ดวิชาสำรวจที่สืบทอดมาจริงๆ เช่นนั้นก็จะเป็นความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่สำหรับทางฝั่งผู้บำเพ็ญเลยทีเดียว“เจ้าวางใจเถิด เทพจักรวาลที่นี่ล้วนไม่มีใครเอาข่าวไปบอกโลกภายนอกหรอก” บรรพชนทิพย์มองตงป๋อเสวี่ยอิง“ข้าอาศัยการส่งถ่ายผ่านระยะทางอันไกลโพ้น” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด “หลังจากเป็นขั้นอลวนแล้ว ข้าก็สำเร็จวิชาการส่งถ่ายผ่านระยะทางอันไกลโพ้น ข้าส่งร่างแปรของตัวเองเข้าไปในทางเดินโลกาพิศวง แล้วส่งเข้าไปในรังระดับเกราะทองพอดี นี่คือโชคใหญ่หล่นทับโดยแท้ สำหรับเคล็ดวิชาสำรวจ การค้นพบรังระดับเกราะทองนี้ หรือว่ามีเคล็ดวิชาพิเศษอันใด”บรรพชนทิพย์และบรรพชนโลกาประสานสายตากันลอบทอดถอนใจก็ถูกทางเดินโลกาพิศวงมีสภาพแวดล้อมพิเศษ ทั้งยังมีภยันตรายนานา ร่างจริงไปสำรวจก็อาจมีอันตรายถึงชีวิต ‘ประมุขหอหมื่นโลกาและจ้าวภูเขาฉื้อเหมย’ สามารถส่งร่างแปรไปทำการสำรวจได้ แต่น่าเสียดายที่เงื่อนไขของพวกเขาสูงจนเกินจริงไปมากตงป๋อเสวี่ยอิงโชคดีค้นพบได้แห่งหนึ่งก็ไม่เลวเป็นอย่างยิ่งแล้ว ก็ไม่สามารถคาดหวังมากเกินไปได้“การจะค้นพบรังระดับเกราะทองได้นั้นยากเย็นเหลือเกินจริงๆ ปกติแล้วเจ้าก็เคยส่งร่างแปรของตัวเองเข้าไป อาศัยโชคเช่นนี้อาจเป็นวิธีเดียวที่พวกเราสามารถค้นพบรังระดับเกราะทองได้ในตอนนี้”บรรพชนทิพย์พูด หากยังไม่ถึงที่สุดจริงๆ พวกเขาก็ย่อมไม่มีทางเห็นด้วยกับเงื่อนไขของจ้าวภูเขาฉื้อเหมย เพราะว่าศิลาปฐมโลกาที่พวกเขามีอยู่ก็มิได้มากมายอะไรนัก“ใช่แล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดราชันย์มีดที่อยู่ด้านข้างโบกมือ แหวนสีเงินวงหนึ่งก็ลอยมาหา “นี่คือศิลาปฐมโลกาหนึ่งแสนก้อน เป็นสิ่งที่พวกเราแต่ละคนรวบรวมกันมา เจ้าค้นพบรังระดับเกราะทอง นี่คือสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับ” เหล่าเทพจักรวาลได้ประกาศรางวัลเอาไว้ก่อนแล้วตงป๋อเสวี่ยอิงรับมาอย่างยินดี ในใจลอบตัดสินใจอย่างลับๆ ว่า… ตนจะกินทั้งหนึ่งแสนก้อนนี้ให้หมดอีกครั้ง! ถึงอย่างไรร่างแปรของตนก็สามารถสอดแนมได้ ขอแค่มีเวลาเพียงพอ เชื่อว่าในอนาคตก็จะสามารถค้นพบรังระดับเกราะทองแห่งที่สอง หรือแม้กระทั่งแห่งที่สามได้ ถึงแม้ว่าการประกาศครั้งต่อไปอาจจะต้องรอเวลาอีกเนิ่นนาน เพราะการค้นพบสองแห่งนั้นก็ไม่มีทางใช้โชคดีมาอธิบายได้อีกแล้ว เกรงว่าใครๆ ก็อาจจะพากันสงสัยได้แต่สมบัติล้ำค่าของตนก็มีอยู่มิใช่น้อย สมบัติล้ำค่าที่ปรมาจารย์กู่ฉีทิ้งเอาไว้ให้ก็ยังมีอยู่บางส่วน กินหนึ่งแสนก้อนนี้ไปจนหมดก็จะมีส่วนช่วยเหลือดวงวิญญาณเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีส่วนช่วยในทุกๆ ด้านของการบำเพ็ญของตนอีกด้วย“ใช่แล้ว ตงป๋อ” บรรพชนเทียนอวี๋พูดยิ้มๆ “เคล็ดวิชาสืบทอดมังกรปาหลงนั้นของเจ้า สามารถบำเพ็ญไปได้สำเร็จถึงขั้นแปรที่เก้าแล้วหรือ”“บำเพ็ญสำเร็จแล้วขอรับ!” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดด้วยพลังยุทธ์ของตน ทั้งยังมีของวิเศษเมฆซ้อนสามสี ถึงแม้ว่าจะต้องรับมือกับฝูงมารระดับเกราะทองที่ชายขอบของห้วงอากาศหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะบังคับให้ตนสำแดงเคล็ดวิชาสืบทอดมังกรปาหลงออกมาได้เลย“ฮ่าฮ่า…” ท่านบรรพชนคีรีมารที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเสียงดังสนั่น “ดีมาก ได้ยินเทียนอวี๋พูดว่าเดิมทีวิชาการป้องกันของเจ้าก็ร้ายกาจอยู่แล้ว ตอนนี้เคล็ดวิชาสืบทอดมังกรปาหลงยังไปถึงแปรที่เก้าอีก ก็คงจะยิ่งล้ำเลิศ เจ้าก็คงจะรู้ว่าพวกเรามีภารกิจอย่างหนึ่งต้องการจะมอบหมายให้แก่เจ้า”“ข้ารู้ ก็คือการสืบหาฝูงมารผลาญทำลายที่แฝงตัวเข้ามา” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า“ถูกต้อง” ประมุขเหยากวงก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเสนาะหู “ฝูงมารผลาญทำลายเหล่านี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก นอกจากนี้ยังมีเคล็ดวิชาบางอย่างที่พวกเราไม่รู้อยู่อีกด้วย พวกเขาสามารถหนีจากการผนึกขังของพวกเราอย่างเงียบงันไร้สุ้มเสียง นอกจากนี้… พวกเราเทพจักรวาลก็เคยสะกดรอยอยู่หลายครั้ง แต่ว่าพวกเขาคงจะมีเคล็ดวิชาที่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังยุทธ์ของผู้บำเพ็ญอย่างพวกเรา พอพวกเราเทพจักรวาลสะกดรอย พวกเขาจึงไม่ปรากฏตัว ส่วนขั้นอลวนเมื่อเผชิญหน้ากับพวกเขา โดยทั่วไปแล้วก็จะเผชิญกับอันตรายถึงชีวิต”ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้าก่อนหน้านี้เพิ่งได้รับข่าว…ประมุขวังอวี้เฉี่ยนหนีไม่ทัน จึงถูกกลืนกินไปเสียแล้ว ฝูงมารผลาญทำลายที่แฝงตัวเข้ามาเหล่านั้นช่างแกร่งกล้าอย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้ก็เคยมีขั้นอลวนชั้นที่แปดขั้นสุดยอดสองคนตายด้วยน้ำมือของพวกเขามาก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะกระวนกระวายใจ แต่ก็ยังรอให้เคล็ดวิชาการป้องกันของตงป๋อเสวี่ยอิงแกร่งขึ้นเช่นเดิม อีกทั้งตงป๋อเสวี่ยอิงยังมี ‘การส่งถ่ายผ่านระยะทางอันไกลโพ้น’ พวกเขายังได้มอบของขวัญให้ จึงเป็นเหตุผลให้วางใจได้ในการส่งตงป๋อเสวี่ยอิงไปตรวจสอบถึงอย่างไรในการคาดการณ์ของพวกเขา ผู้ที่แทรกซึมเข้ามานั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีเทพจักรวาลอยู่ด้วยถึงเวลานั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าตงป๋อเสวี่ยอิงจะได้เผชิญหน้ากับศัตรูที่เป็นเทพจักรวาล!“นี่คือของขวัญที่พวกเราเตรียมเอาไว้ให้เจ้า” บรรพชนทิพย์ยื่นมือออกมา กำไลข้อมือสีดำวงหนึ่งก็ปรากฏขึ้น กำไลข้อมือสีดำนี้ประกอบขึ้นจากไข่มุกสิบสองเม็ด ภายในไข่มุกทุกเม็ดล้วนมีค่ายกลสามมิติปรากฏอยู่รางๆ กำไลข้อมือวงนี้ลอยตรงเข้ามาตงป๋อเสวี่ยอิงรับมา เพิ่งมาถึงมือก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักอันน่าหวาดหวั่นบนมือ ด้วยพลังยุทธ์ของเขา ฝ่ามือก็รู้สึกถึงการกดลงมาไข่มุกทุกเม็ดยังหนักกว่าดวงอาทิตย์เสียอีก“ไข่มุกสิบสองเม็ดเป็นสารสำคัญที่รวมตัวกันอยู่ในส่วนลึกของพื้นดินอันไร้ที่สิ้นสุดในยุคโลกทิพย์โบราณดั้งเดิม วัตถุวิเศษที่ใช้สร้างวิญญาณขึ้นมาใหม่ สิบสองเม็ดนี้เกิดขึ้นมาพร้อมกัน” บรรพชนทิพย์พูด “โดยทั่วไปแล้วเหล่าเทพจักรวาลต่างก็เตรียมวัตถุล้ำค่ารักษาชีวิตเอาไว้ให้ตัวเอง แต่วัตถุล้ำค่าระดับนั้น ขั้นอลวนคนหนึ่งอย่างเจ้าไม่มีทางกระตุ้นอย่างสมบูรณ์ได้แน่! กำหนดด้วยพลังยุทธ์ของเจ้าแล้วดูเหมือนว่าไข่มุกสิบสองเม็ดนี้จะดีที่สุดแล้ว”“หลังจากที่เจ้าหลอมรวมได้สำเร็จแล้ว พอกระตุ้นเมื่อใด ประกายเทพคุ้มกายสิบสองชั้นปกป้องพร้อมกัน แม้แต่ระดับข้า บรรพชนโลกา และราชันย์มีด หมายจะทำลายอย่างสุดกำลัง ก็ยังต้องใช้เวลาครู่หนึ่ง เวลาเล็กน้อยนี้เพียงพอให้เจ้าทำการส่งถ่ายผ่านระยะทางอันไกลโพ้นหนีเอาชีวิตรอดได้” บรรพชนทิพย์พูด “สามารถทำลายได้ในพริบตา ก็มีเพียงแค่จอมเทพศักดิ์สิทธิ์คนเดียวเท่านั้น”ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้าถึงอย่างไรตนก็เป็นเพียงแค่ขั้นอลวน สามารถอาศัยของวิเศษเอาชีวิตรอดต่อหน้าพวกบรรพชนโลกาและบรรพชนทิพย์ได้ก็ล้ำเลิศมากแล้ว พวกบรรพชนทิพย์เองก็คิดทุกวิถีทางแล้ว สำหรับจอมเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นหรือ ตนยังห่างชั้นกับจอมเทพศักดิ์สิทธิ์มากมายมหาศาลนัก“ฝูงมารผลาญทำลายนั้นไม่มีบุคคลระดับจอมเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่เลย” บรรพชนเทียนอวี๋พูดพลางยิ้มน้อยๆ “ของวิเศษนี้เพียงพอสำหรับเจ้าแล้วล่ะ ตงป๋อ แต่เจ้าก็ต้องระวังอย่าให้ถูกลอบโจมตีเป็นอันขาด ถ้าหากกระตุ้นไม่ทันก็อาจถูกสังหารได้ เช่นนั้นก็ต้องตำหนิที่เจ้ามีพลังยุทธ์ไม่เพียงพอเองแล้วล่ะ”“เข้าใจแล้วขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ยังมีความมั่นใจในตนเองเป็นอย่างมาก‘อาณาเขตกฎเกณฑ์’ ย่อมมีอยู่แล้ว เป็นถึงยักษ์ใหญ่ขั้นอลวน อาณาเขตกฎเกณฑ์แผ่ไปเป็นแสนลี้ในอาณาบริเวณโดยรอบ ไม่ว่าผู้ใดเข้าไปในอาณาเขตแสนลี้นี้ ต่างก็ถูกตงป๋อเสวี่ยอิงตรวจสอบรับรู้ได้ทั้งสิ้น คิดจะลอบเข้ามาในอาณาเขตกฎเกณฑ์โดยไม่ถูกค้นพบ… ก็ช่างยากเย็นเกินไปเสียแล้ว ตงป๋อเสวี่ยอิงเป็นถึงผู้แกร่งกล้าขั้นอลวนคนแรกที่เป็นวิถีโลกเทียมเท่าที่ประวัติศาสตร์เคยมีมา อาณาเขตกฎเกณฑ์ของเขาลึกลับเป็นที่สุดอันที่จริงแล้วผู้แกร่งกล้าของระบบความเร้นลับของกฎเกณฑ์ อาณาเขตกฎเกณฑ์ก็ขึ้นชื่อเรื่องความยากที่จะถูกแทรกซึมอยู่แล้ว เพราะพวกเขาต่างก็มองทะลุพื้นฐานของทางสายนี้ของตน เช่นพวกเหล่ากลืนกินและศาสตร์โบราณนั้นก็ก่อร่างขึ้นมาจากอาณาเขตกฎเกณฑ์เพียงอย่างเดียวล้วนๆ ผู้แกร่งกล้าของระบบความเร้นลับของกฎเกณฑ์ก็เป็นตนเองจงใจไปสร้างอาณาเขตเองนอกจากอาณาเขตกฎเกณฑ์แล้ว ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ยังมีความเฉียบแหลมในการรับสัมผัสห้วงอากาศเป็นที่สุด ผ่านการบำเพ็ญทางเดินโลกาพิศวงมาสองหมื่นล้านปี วิชาลับผู้ท่องก็ยกระดับไปถึงชั้นที่สี่สิบเก้า ผนวกกับการบำเพ็ญภาพวาดภาพที่สองและภาพวาดภาพที่สามของจักรพรรดิเก้าเมฆา…ระดับของการควบคุมห้วงอากาศสูงส่งเป็นที่สุดหนึ่งอาณาเขตกฎเกณฑ์ กับหนึ่งการรับสัมผัสห้วงอากาศ นี่คือสิ่งที่รักษาเอาไว้อยู่ตลอดเวลา……“ฝูงมารผลาญทำลายที่แทรกซึมเข้ามาเหล่านี้แกร่งกล้าเป็นที่สุด ผู้แกร่งกล้าชั้นที่แปดขั้นสุดยอดก็มีอยู่สองคนที่หนีไม่ทันจนถึงแก่ความตาย ต้องรู้ไว้ว่า พวกเขาเผชิญหน้ากับระดับชั้นที่เก้าขั้นสุดยอด ก็มีความมั่นใจในการรักษาชีวิต” ท่านบรรพชนคีรีมารน้ำเสียงทุ้มต่ำ มองดูตงป๋อเสวี่ยอิง “ดังนั้นพวกเราจึงสงสัยกันมาตลอดว่ามีเทพจักรวาลแฝงตัวเข้าไป เดิมทีผู้บำเพ็ญระดับชั้นที่เก้าของเจดีย์ดาวก็มีอยู่ไม่มากอยู่แล้ว ผู้ที่มีการส่งถ่ายผ่านระยะทางอันไกลโพ้นก็มีอยู่เพียงสี่คนเท่านั้น คนหนึ่งเป็นของโลกทิพย์โบราณ คนหนึ่งคือลูกน้องของจอมมารดา ยังมีอีกคนหนึ่งก็คือจ้าวภูเขาฉื้อเหมยที่เห็นแก่ตัวเป็นที่สุด ดังนั้นพวกเราจึงมีเพียงเจ้า ตงป๋อผู้นี้ ที่เหมาะสมจะรับภารกิจนี้ไป”ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า“มีเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นเจ้าก็ยิ่งต้องระมัดระวังตัว” ท่านบรรพชนคีรีมารพูด“เจ้าคือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการไปเสาะหาตัวพวกเขา” ราชันย์มีดก็พูดขึ้นเช่นกัน “ความปลอดภัยของตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”โดยทั่วไปแล้วเรื่องใหญ่เช่นนี้ต่างก็ต้องให้เหล่าเทพจักรวาลไปจัดการด้วยตัวเองแต่จนใจ…ฝูงมารผลาญทำลายที่แฝงตัวเข้าไปเหล่านั้นสามารถสัมผัสได้ถึงพลังยุทธ์ของผู้บำเพ็ญ พอสัมผัสได้ถึงเหล่าเทพจักรวาล พวกเขาก็ย่อมไม่ปรากฏตัวอยู่แล้ว ส่วนขั้นอลวน พวกที่อ่อนแอหน่อยต่างก็พากันไปตายทั้งสิ้น!“ขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า“เจ้ารีบหลอมรวมของวิเศษโดยเร็วที่สุดเถิด หลังจากหลอมรวมแล้วก็ไปรับภารกิจเสีย” ราชันย์มีดเอ่ยอย่างจริงจัง “ลูกน้องของพวกเราในแต่ละช่องทางก็จะส่งข้อมูลข่าวสารมากมายให้กับเจ้า ส่วนจะสืบเสาะค้นหาเช่นไรนั้น ทั้งหมดให้เจ้าตัดสินใจจัดการเอง”……กลางป้อมห้วงอากาศตงป๋อเสวี่ยอิงปลีกวิเวกนานหลายปีจึงสามารถหลอมรวม ‘ไข่มุกสิบสองเม็ด’ ได้สมบูรณ์ทั้งหมด แน่นอนว่าภายในระยะเวลาเก้าปีนี้เขาก็กินศิลาปฐมโลกาหนึ่งแสนก้อนที่ได้มาใหม่ลงไปจนหมดสิ้นแล้ว“ไปได้แล้ว” ในวันนั้นตงป๋อเสวี่ยอิงได้ดื่มอำลากับมิตรสหายจำนวนหนึ่ง คล้ายว่าจะเป็นสหายที่คุ้นเคยกันในช่วงสองหมื่นล้านปีนี้ทั้งสิ้นทันใดนั้นก็ไปจากป้อมห้วงอากาศด้วยการส่งถ่ายผ่านระยะทางอันไกลโพ้น เริ่มต้นเดินทางในอากาศอันสับสนอลหม่านและโลกทิพย์ทั้งสาม ไปเสาะหาตัวฝูงมารผลาญทำลายที่แฝงตัวเข้ามาเหล่านั้น… ภารกิจนี้ไม่มีกำหนดระยะเวลา เกรงว่าภายในระยะเวลาอันยาวนานนี้ตนเองก็ต้องไล่ตามหาไล่สังหารพวกเขา! ผู้ที่อ่อนแอตนก็สังหารไป ส่วนผู้ที่แข็งเกร่งตนก็เชิญเทพจักรวาลมาสังหารแน่นอนว่าตงป๋อเสวี่ยอิงก็จัดร่างแปรสองร่างเอาไว้สืบเสาะภายในทางเดินโลกาพิศวงต่อไป………………………………………….
คอมเม้นต์