Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน ตอนที่ 31 มารเฒ่าเข็มทอง

อ่านนิยายจีนเรื่อง Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน ตอนที่ 31 มารเฒ่าเข็มทอง 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

กระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาไม่มีควันหลงใดๆ คล้ายจะเป็นกระบวนท่าที่เรียบง่ายเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาและวิถีระลอกคลื่นผสานกัน กลับมีเสียงดังกัมปนาทยิ่งนัก ทั้งบริเวณการเข่นฆ่าล้วนมีน้ำวนขนาดมหึมาถือกำเนิดขึ้น ใจกลางน้ำวนก็คือหอกยาวเล่มนี้! ตงป๋อเสวี่ยอิงได้เปรียบทางด้านความเร็ว เมื่อรับมือศิษย์พี่เจ๋อชวี่หย่งก็แค่แทงตรงออกไป แม้ศิษย์พี่เจ๋อชวี่หย่งจะสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามอันใหญ่หลวง แต่ก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยความมั่นอกมั่นใจในตนเอง มันยังคงก้มศีรษะปะทะต่อไป การปะทะนี้ ราวกับอุกกาบาตก้อนหนึ่งที่ปะทะเข้ามา
ตู้มมม…
ปลายหอกพลิกหมุนทำให้ศีรษะของเจ๋อชวี่หย่งยุบลงไปเป็นหลุม เนื่องจากผิวกายของเขามีอาภรณ์สีทองคอยป้องกันอยู่ ปลายหอกจึงมิอาจแทงทะลุได้ แต่อานุภาพอันน่าหวาดหวั่นก็แทรกซึมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ศีรษะของเขายุบลงไปทันที ไม่นานนักแม้แต่ลำคอก็ยังแตกสลายไปโดยพลัน
ทว่าร่างกายอันใหญ่โตของเขาก็เอี้ยวหลบแล้วถอยหนีไปอย่างรวดเร็ว และศีรษะก็งอกกออกมาอีก ดวงตาคู่เล็กของเขามองตงป๋อเสวี่ยอิงด้วยความตกตะลึงอยู่บ้างพลางพยักหน้าเล็กน้อย “ข้ายอมแพ้ วิถีหอกของเจ้านี่ ข้ายอมแพ้ด้วยปากและด้วยใจ!” แม้พลังชีวิตของร่างกายเขาจะแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่คาดว่าเมื่อผ่านไปสักแปดหรือสิบกระบวนท่าก็ต้องสังเวยชีวิตอยู่ดี
……
ผู้ที่ชมการประลองอยู่พากันตื่นตระหนกไปหมด
“ชนะแล้วหรือ”
“กระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกามิใช่ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของศิษย์พี่ตงป๋อเสวี่ยอิง เขายังมีวิถีหอกที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า”
“นี่ก็เป็นอันดับสี่แล้ว”
เสียงดังระงมไปหมด ถึงอย่างไรพลังของศิษย์พี่เจ๋อชวี่หย่งก็เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป แต่กลับพ่ายแพ้เสียได้ นี่ก็เพียงพอให้ศิษย์เทพแท้ทั้งหลายต้องพากันแหงนหน้ามองด้วยความเทิดทูนแล้ว แม้แต่บรรดาผู้อาวุโสตำหนักนอกเหล่านั้นก็ยังนัยน์ตาเป็นประกาย เห็นดีเห็นงามในตัวตงป๋อเสวี่ยอิงเป็นอันมาก
ทว่าบรรพชนเทียนอวี๋ จอมกระบี่และบรรดาประมุขวังทั้งหลายรวมทั้งผู้อาวุโสตำหนักใน ผู้อาวุโสตำหนักนอกและบรรดาศิษย์ที่ค้นคว้าสิบสามกระบี่ผลาญโลกามาบ้างต่างก็สังเกตข้อหนึ่งว่า…วิถีหอกที่มีท่าทียิ่งใหญ่กว่าซึ่งตงป๋อเสวี่ยอิงสำแดงออกมาในตอนหลังนั้น อันที่จริงก็คือวิถีหอกซึ่งมี ‘กระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกา’ เป็นพื้นฐาน จากนั้นก็หลอมรวมความเร้นลับของกฎเกณฑ์ต่างๆ เข้าไป!
มีแต่ผู้ที่ระดับขั้นสูงส่งพอ หรือไม่ก็มีการค้นคว้าสิบสามกระบี่ผลาญโลกาจึงจะมองเรื่องนี้ออกได้
บรรดาประมุขวังและคนอื่นๆ ที่มีระดับขั้นสูงก็ได้เห็นอะไรมากกว่า!
“สามารถแก้ไขกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาได้ด้วยหรือนี่ นำกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาหลอมรวมเข้ากับวิถีระลอกคลื่นหรือ” ประมุขวังด้านข้างตกใจ
“กระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาสมบูรณ์แบบมาก ศิษย์ที่เป็นผู้ปกครองขั้นเทพแท้ทั้งหลายศึกษาจนเป็นก็ไม่เลวแล้ว คิดจะแก้ไขนั้นเป็นไปไม่ได้เลย! ตงป๋อเสวี่ยอิงผู้นี้กลับสามารถแก้ไขกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาได้ แล้วนำวิถีระลอกคลื่นหลอมรวมเข้าไปในนั้น นี่มันช่างร้ายกาจเกินไปแล้ว”
“แก้ไขกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาไปแล้วจริงๆ ด้วย!”
สายตาของประมุขวังเหล่านี้ต่างก็ร้อนแรงนัก
พวกเขามองออกว่าวิถีหอกในตอนหลังของตงป๋อเสวี่ยอิงนั้น มิใช่เพียงแค่กระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาหลอมรวมเข้ากับวิถีอื่นๆ แต่เป็นการแก้ไขบางด้านที่ละเอียดยิบของกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกา! ทำให้มันหลอมรวมเข้ากับวิถีระลอกคลื่นได้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
หากเพียงแค่เสริมให้สมบูรณ์ แม้จะเก่งกาจ แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้บรรดาประมุขวังตกใจได้
แต่ถึงขั้นสามารถแก้ไขได้…ก็หมายความว่าตงป๋อเสวี่ยอิงสามารถมองเห็นความหมายของการใช้งาน ‘กระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกา’ ในตอนที่บรรพชนเทียนอวี๋คิดค้นขึ้น จนถึงขั้นอาจหาญลงมือแก้ไข และสามารถยกระดับอานุภาพขึ้นไปได้อีกด้วย!
“กล้าแก้ไขกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกา ทั้งยังสำเร็จอีกต่างหาก” บุรุษผมขาว ‘จอมกระบี่’ ซึ่งนั่งอยู่ในจุดสูงที่สุดกล่าว “เขายังเยาว์วัยถึงเพียงนี้ คาดว่าหากใช้เวลามากหน่อยก็คงจะฝึก ‘กระบี่ที่สองผลาญโลกา’ ได้สำเร็จตั้งแต่ยังอยู่ในขั้นผู้ปกครอง”
ในประวัติศาสตร์ของทั้งวังทวีสูญ
ผู้ที่ฝึกกระบี่ที่สองผลาญโลกาสำเร็จตั้งแต่ยังเป็นขั้นผู้ปกครองมีเพียงท่านเดียวเท่านั้น! จะเห็นได้ถึงความยากของมัน
บรรพชนเทียนอวี๋เหลือบมองลงไป จากนั้นก็พยักหน้าพลางหัวเราะร่า “ฮ่าฮ่า ไม่เสียทีที่มาจากจักรวาลเดียวกับท่านและจอมมาร ไม่เลวเลยจริงๆ! บัดนี้ ในบรรดาศิษย์เทพแท้เหล่านี้ ผู้ที่สามารถแก้ไขศาสตร์ลับขั้นจักรวาลได้ ก็มีเพียงตงป๋อเสวี่ยอิงและอวี่เจี้ยนเค่อซึ่งจัดอยู่ในอันดับหนึ่งเท่านั้น ทว่าอวี่เจี้ยนเค่อบำเพ็ญมาเป็นระยะเวลานานกว่ามากทีเดียว เมื่อเทียบกับตงป๋อเสวี่ยอิงแล้ว การรับรู้ก็ด้อยกว่ามากทีเดียว”
“ใช่ หากพูดถึงความสามารถที่ซ่อนอยู่ ในบรรดาศิษย์เทพแท้รุ่นนี้ ตงป๋อเสวี่ยอิงนั้นเป็นอันดับหนึ่ง” จอมกระบี่ก็ยอมรับ
ความสามารถที่ซ่อนอยู่
อย่างแรกก็คือดูพลัง อย่างที่สองก็คือดูอายุ อย่างที่สามก็คือดูประสบการณ์ที่ผ่านมา
บัดนี้ความลึกล้ำของผลสำเร็จของตงป๋อเสวี่ยอิงในด้านความเร้นลับของกฎเกณฑ์นั้น มีเพียง ‘อวี่เจี้ยนเค่อ’ ซึ่งจัดอยู่ในอันดับหนึ่งเท่านั้นที่สามารถเทียบเทียมได้! ส่วนระยะเวลาในการบำเพ็ญของเขาสั้นกว่ามากยิ่งนัก ที่ผ่านมาล้วนแต่อยู่ในจักรวาล เพิ่งมายังโลกทิพย์ได้ไม่นานสักเท่าใดนัก
******
ทั้งวังทวีสูญ ผู้ที่สามารถมองการแก้ไขกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาออก มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงสิบกว่าท่านเท่านั้น
ดังเช่นบรรดาผู้อาวุโสที่เคยฝึกสิบสามกระบี่ผลาญโลกามาก่อน ก็แค่มองออกว่ากระบวนท่านี้มีกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาเป็นพื้นฐาน ส่วนการแก้ไขรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ น่ะหรือ ระหว่างการต่อสู้เพียงครู่เดียว พวกเขามิได้มีสายตาถึงระดับที่จะวิเคราะห์ปรัชญาคลื่นลมบทที่เก้า แล้วแยกแยะวิถีระลอกคลื่นออกมา และวิเคราะห์ส่วนของกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาได้ว่ามีการแก้ไขรายละเอียดเล็กน้อย
สายตาเช่นนี้ มีเงื่อนไขของระดับขั้นสูงส่งยิ่งนัก!
“เฮอะ”
เนื่องจากดูเหมือนว่าประมุขวังผู้สูงส่งทั้งเก้าและบรรพชนเทียนอวี๋รวมทั้งจอมกระบี่ล้วนแต่กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ สีหน้าของบรรดาประมุขวังก็ยิ่งมองเห็นได้ชัดเพียงมองแวบเดียว ทำให้หนึ่งในศิษย์อาภรณ์รู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมา
“ก็แค่เอาชนะเจ๋อชวี่หย่งหน้าโง่นั่นได้ บรรดาประมุขวังก็ชมเชยถึงเพียงนี้แล้วหรือนี่” บุรุษคิ้วเขียวร่างผอมซูบ ‘มารเฒ่าเข็มทอง’ ซึ่งเป็นอันดับสองกล่าว นัยน์ตาซึ่งเปล่งประกายสีเขียวมองตงป๋อเสวี่ยอิงอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “เช่นนั้นข้าก็จะเหยียบเขาให้จมอยู่ใต้เท้าไปเลย! ดูสิว่าบรรดาประมุขวังจะยังชมเชยอยู่อีกหรือไม่!” เขามิได้ฝึกฝนสิบสามกระบี่ผลาญโลกา จึงมองความพิสดารของวิถีหอกนั้นของตงป๋อเสวี่ยอิงไม่ออก
และเขาก็ยิ่งไม่รู้ว่า ที่บรรดาประมุขวังชื่นชมนั้น เป็นเพราะตงป๋อเสวี่ยอิงได้แก้ไขศาสตร์ลับขั้นจักรวาล!
มารเฒ่าเข็มทอง
เดิมทีมีสมญาว่า ‘บรรพชนเข็มทอง’ แล้วถูกบังคับให้เปลี่ยนชื่อ จึงได้เปลี่ยนเป็น ‘มารเฒ่าเข็มทอง’ เห็นได้ชัดว่าทะเยอทะยานมากจนเข้ากระดูก
เคราะห์ดีที่วังทวีสูญราวกับห้วงสมุทรที่เปิดกว้างรับธารนับร้อยเข้ามา ขอเพียงไม่ฝ่าฝืนกฎของวัง ก็สามารถโอบอ้อมอารีต่อผู้บำเพ็ญที่โหดเหี้ยมเหล่านี้ได้บ้าง
“สวบ” มารเฒ่าเข็มทองบินตรงออกมา
“ตงป๋อเสวี่ยอิง เจ้านี่อวดดีพอตัวทีเดียว ข้อแรกก็คือท้าทายศิษย์อาภรณ์ทองตั้งหลายท่าน ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่า พลังน้อยนิดเช่นเจ้ายังห่างชั้นอยู่มากโข!” มารเฒ่าเข็มทองบินไปถึงกลางอากาศ จากนั้นก็พูดเสียงดังกังวาน เสียงนั้นสะท้อนก้องไปทั่วทุกทิศทุกทาง
ตงป๋อเสวี่ยอิงในอาภรณ์ทองสีทองทั้งร่างซึ่งอยู่กลางอากาศมองไปทางมารเฒ่าเข็มทองด้วยความตกตะลึงอยู่บ้าง
อวดดีหรือ
ตนท้าทายศิษย์อาภรณ์ทอง ถึงจะชนะแต่ก็ไม่เคยได้ใจจนลืมตัวมาก่อน นอกจากนี้ที่ตนไปท้าทาย ก็สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ ไยจึงบอกว่าอวดดีไปได้เล่า
ถึงอย่างไรตงป๋อเสวี่ยอิงก็เพิ่งมายังวังทวีสูญเป็นครั้งแรก แม้จะได้รับข้อมูลมาคร่าวๆ แล้ว และรู้จักพลังของมารเฒ่าเข็มทอง แต่กลับไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับนิสัยของ ‘มารเฒ่าเข็มทอง’ เลย
“ศิษย์พี่เข็มทองจะเชิญมาต่อสู้หรือ ข้าปรารถนาก็ยังหามิได้เลย” ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้ม “เชิญ”
“เช่นนั้นข้าก็จะชี้แนะเจ้าเสียหน่อยล่ะ” มารเฒ่าเข็มทองยังคงโอหังเป็นอันมาก ทว่าเขาก็มีสิ่งที่ทำให้มั่นใจพอจะโอหังได้ อวี่เจี้ยนเค่อซึ่งเป็นอันดับหนึ่งและมารเฒ่าเข็มทองซึ่งอยู่ในอันดับสอง เมื่อเทียบกับศิษย์อาภรณ์ทองคนอื่น ก็มีข้อได้เปรียบมหาศาลนัก! อวี่เจี้ยนเค่อนั้น เป็นเพราะแก้ไขศาสตร์ลับขั้นจักรวาลแล้วคิดค้นท่าไม้ตายของตนเองขึ้นมา
ส่วนมารเฒ่าเข็มทองกลับเพราะศาสตร์โบราณที่น่าหวาดหวั่นอย่างยิ่ง!
“ไป”
มารเฒ่าเข็มทองพลันลงมือในชั่วพริบตา เขาเดี่ยวสีดำบนหน้าผากของเขาพลันสว่างวาบขึ้นมาทันใด
ตู้มๆๆ!!!
ลำแสงสีดำนับร้อยสายพลันปรากฏขึ้นกลางฟ้าดินแล้วทะยานมาทางตงป๋อเสวี่ยอิงอย่างบ้าคลั่ง ลำแสงสีดำเหล่านี้รวดเร็วอย่างยิ่ง เป็นการออกอาวุธที่รวดเร็วที่สุดในบรรดาร่างจริงขั้นผู้ปกครองทั้งหมดเท่าที่ตงป๋อเสวี่ยอิงเคยพบมา ลำแสงสีดำแต่ละสายแทบจะมาถึงตรงหน้าในพริบตา
ตงป๋อเสวี่ยอิงเข้าไปในฟ้าดินโลกเทียมทันใดโดยสัญชาตญาณ ขณะเดียวกันก็สำแดงวิถีหอกออกมา แม้แต่บริเวณการเข่นฆ่าก็ยังสำแดงออกมาทันที!
แต่ลำแสงสีดำเหล่านี้รวดเร็วเกินไปแล้ว ลำแสงสีดำนับร้อยสายแทบจะสังหารเข้าไปในฟ้าดินโลกเทียมในพริบตา อานุภาพส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังคงมีอานุภาพถึงแปดเก้าส่วน
“เคร้งๆๆ” ตงป๋อเสวี่ยอิงสำแดงวิถีหอกออกมาโดยมิทันได้ป้องกัน เพราะลำแสงนับร้อยสายล้วนแต่วิจิตรพิสดารทั้งยังรวดเร็วอย่างยิ่ง ทันใดนั้นก็ถาโถมเข้าโจมตีบนร่างอย่างต่อเนื่อง
อาภรณ์ทองเหนือผิวกายทนทานหาใดเปรียบ
ในฐานะผู้ท่องอากาศ ร่างกายก็เลือนรางไป แรงกระทบที่ได้รับมาล้วนถูกตงป๋อเสวี่ยอิงเคลื่อนย้ายไปกลางอากาศอย่างสุดกำลัง อานุภาพที่หลงเหลืออยู่แต่ละสายซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างแท้จริงนั้น สำหรับร่างกายที่สามารถเทียบได้กับระดับขั้นเทพอากาศแล้วกลับมิได้เป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด
“ศาสตร์โบราณระดับยอดสุดช่างร้ายกาจโดยแท้” ตงป๋อเสวี่ยอิงอุทาน
ความเชี่ยวชาญศาสตร์โบราณนั้นมีร้อยแปดพันประการ บ้างก็แข็งแกร่งเย้ยฟ้า ยามนี้มารเฒ่าเข็มทองมิได้สำแดงกระบวนท่าอะไรที่ร้ายกาจนัก อาศัยพรสวรรค์ของศาสตร์โบราณล้วนๆ ก็สามารถโจมตีถูกร่างของตงป๋อเสวี่ยอิงได้แล้ว!
“ศิษย์น้องตงป๋อเสวี่ยอิง พลังน้อยนิดเท่านี้ เจ้าก็ฝึกให้มากอีกหน่อยเถอะ” มารเฒ่าเข็มทองยิ้มเย็น นัยน์ตาที่เปล่งประกายสีเขียวทอดมองไปยังอากาศอันเวิ้งว้างไกลออกไปอย่างเย็นชา เขาสามารถสัมผัสรับรู้ได้ถึงตงป๋อเสวี่ยอิงซึ่งเร้นกายอยู่ในฟ้าดินโลกเทียม
……………………………….

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด