Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน ตอนที่ 27 ความเป็นมาของหอกยาว
หัวหอกล่องลอยอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนจะธรรมดาสามัญ แต่ปลายหอกกลับแผ่ระลอกคลื่นมิติอันบิดเบี้ยวสายแล้วสายเล่าออกมา ขณะเดียวกันยังมีค่ายกลชั้นแล้วชั้นเล่าปกคลุมและสกัดหัวหอกนี้เอาไว้ พันธนาการราวกับเปลือกไข่ชั้นแล้วชั้นเล่า นี่ก็คือการป้องกันมิให้แขกเหรื่อเกิดความคิดที่จะแย่งชิงเอาไป แม้จะกล่าวว่าทั้ง ‘ชุมชนของล้ำค่า’ มีค่ายกลแน่นหนา ทั้งยังเป็นนครหลวงรัฐเมฆทักษิณาด้วย การแย่งชิงก็เป็นเรื่องที่โง่งมมากแต่บางคนที่มุทะลุ และคิดเอาเองว่าตนมีความสามารถในการหนีเอาชีวิตรอดที่แข็งแกร่ง ก็ยังคงมีบ้างเป็นครั้งคราว ดังนั้นจึงย่อมมีการสกัดกั้นเอาไว้เพื่อมิให้ปะทะถูกสมบัติลับระดับนี้ได้“ไปดูที่ร้านนั้นกันเถิด” ตงป๋อเสวี่ยอิงกล่าวผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลายตามตงป๋อเสวี่ยอิงมาจนถึงหน้าประตูร้านค้า ร้านค้าแห่งนั้นกินพื้นที่กว้างขวางยิ่งนัก เหนือร้านค้ามีอักขระพิเศษอันเก่าแก่เขียนเอาไว้ว่า ‘ฝาน’“สกุลฝานหรือ” มารรับใช้จื่อไป๋ที่อยู่ด้านข้างโบกพัดจีบไปมาเบาๆ “สกุลฝานเป็นถึงหนึ่งในสามสกุลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรัฐโบราณคิมหันตวายุ เป็นตระกูลที่มีคนจำนวนมากอยู่ทั่วดินแดนจิตโลกา”ตงป๋อเสวี่ยอิงฟังแล้วก็พยักหน้า‘ครอบครัวสกุลฝาน’ เป็นตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วดินแดนจิตโลกา เป็นหนึ่งในสามสกุลใหญ่แห่งนครหลวงโบราณคิมหันตวายุ เทพจักรวาลในครอบครัวสกุลฝานมีมากถึงหลายสิบท่าน ลำพังแค่ครอบครัวสกุลฝานเพียงครอบครัวเดียว…หากพูดถึงพลังแล้วก็เพียงพอจะกดดัน ‘รัฐโบราณเสียดฟ้า’ หนึ่งในหกรัฐโบราณได้แล้ว เห็นได้ชัดว่าแม้ทั้งหกรัฐโบราณจะมีสถานะสูงส่งมาก แต่ก็ยังคงมีการแบ่งความแข็งแกร่งและอ่อนแออยู่ดีรัฐโบราณเสียดฟ้านั้นต่ำต้อยที่สุด“ครอบครัวสกุลฝานแข็งแกร่งหาใดเปรียบเลยทีเดียว” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบรำพึง ครอบครัวหนึ่งสามารถกดดันรัฐโบราณเสียดฟ้าได้…“คุณชายท่านนี้ รีบเข้ามาโดยเร็วเถิดเจ้าค่ะ” ทันใดนั้นก็มีสาวใช้รูปงามนางหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับตงป๋อเสวี่ยอิงพาผู้ใต้บังคับบัญชาเดินเข้าไปแม้ชั้นที่หนึ่งของร้านค้าจะกว้างขวางเป็นอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน ภายในก็มีระเบียงอันคดเคี้ยว แต่สายตาของตงป๋อเสวี่ยอิงก็สามารถมองทะลุอุปสรรคในอากาศต่างๆ และมองเห็นสมบัติล้ำค่าทั้งหลายซึ่งอยู่ตามที่ต่างๆ ในชั้นที่หนึ่งได้อย่างง่ายดาย“ไม่มีสมบัติลับเลยสักชิ้น” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบส่ายหน้า“ขึ้นไปชั้นสองกันเถอะ”ตงป๋อเสวี่ยอิงตรงขึ้นไปยังชั้นสอง ภายในชั้นสองพอจะมีสมบัติลับอยู่บ้าง ทว่าด้วยสายตาของตงป๋อเสวี่ยอิงแล้วก็ตัดสินว่าเป็นสมบัติลับที่ค่อนข้างอ่อนแอทั้งสิ้น เกรงว่าคงจะมีไว้ให้เหล่าขั้นอลวนใช้งาน……ไม่นานนักตงป๋อเสวี่ยอิงก็มุ่งหน้าไปยังชั้นสาม“คุณชายท่านนี้ ชั้นสามอนุญาตให้พาผู้ใต้บังคับบัญชาขึ้นไปได้เพียงแค่สองคนเท่านั้นนะขอรับ” ขณะมุ่งหน้าไปยังปากบันไดขึ้นชั้นสามก็มีบ่าวรับใช้มาสกัดกั้น เห็นได้ชัดว่าชั้นสามของร้านค้าแห่งนี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก หากพาผู้ใต้บังคับบัญชากลุ่มหนึ่งขึ้นไปก็คงจะเอิกเกริกวุ่นวายจนกลายเป็นอะไรไปแล้ว“จื่อไป๋ ผู้อาวุโสเถียน ขึ้นไปข้างบนกับข้า” ตงป๋อเสวี่ยอิงกำชับ“ขอรับ”มารรับใช้จื่อไป๋และเถียนอี้จือติดตามอยู่ด้านหลังทั้งสามคนมาถึงชั้นสามของร้านค้าสกุลฝาน ชั้นสามมีขนาดใหญ่พอๆ กับชั้นหนึ่งและชั้นสอง อันที่จริงแล้วสมบัติลับที่ล่องลอยอยู่กลับมีเพียงสิบสองชิ้นเท่านั้น ด้านข้างของแต่ละชิ้นล้วนมีสาวใช้นางหนึ่งยืนอยู่“คุณชายท่านนี้ จะชมดูสมบัติลับหรือขอรับ ส่วนของสกุลฝานเราในนครหลวงรัฐเมฆทักษิณานี้ จัดอยู่ในร้อยอันดับแรกของส่วนต่างๆ ของสกุลฝานที่แผ่คลุมไปทั่วทั้งดินแดนจิตโลกา” ชายชราร่างอ้วนท้วนผู้หนึ่งเดินเข้ามา เขาพูดพลางหัวเราะคิกคัก กลิ่นอายจางๆ บนร่างเขากลับเป็นกลิ่นอายของขั้นอลวนมารรับใช้จื่อไป๋สะบัดพัดจีบไปมาแต่กลับถ่ายเสียงพูดว่า “คุณชายขอรับ ตาเฒ่าคนนี้น่าจะเป็นมารรับใช้ ทว่าข้ามองไม่ออกว่าเขาเป็นมารรับใช้ประเภทใด”ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้าน้อยๆมารรับใช้ขั้นอลวน…ตระกูลระดับยอดอย่างสกุลฝาน ยินดีให้มารรับใช้ควบคุมธุรกิจบางอย่างให้มากกว่า! เนื่องจากมารรับใช้จงรักภักดีอย่างสิ้นเชิง ไม่มีทางคดโกงเอาเงินเข้ากระเป๋าตนเองเด็ดขาด“คุณชายลองดูสมบัติลับ ‘ค้อนเมฆเวหา’ ชิ้นนี้ดูสิขอรับ” ชายชราร่างอ้วนท้วนชี้ไปทางค้อนสีดำอันใหญ่ที่ลอยอยู่ด้านข้าง มันสูงกว่าคนเสียอีก “นี่คืออาวุธสมบัติลับที่ ‘ผู้เคารพผอหนู’ ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วรัฐโบราณเสียดฟ้าในขณะนี้เคยใช้งานในสงครามรัฐโบราณครั้งที่หนึ่ง ต่อมาผู้เคารพผอหนูตั้งใจหลอมสมบัติลับที่เหมาะสมกับตนเองมากกว่าขึ้นมา จึงมิได้ใช้ค้อนเมฆเวหาเล่มนี้อีกต่อไป ภายหลังมันได้ผ่านการเจรจาการค้ามามากมาย ท้ายที่สุดจึงได้ตกมาอยู่ในมือของสกุลฝานเรา และถูกจัดวางไว้ที่นี่ชั่วคราว นับได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าประจำร้านของเราในนครหลวงรัฐเมฆทักษิณาเลยทีเดียว อ้อ ใช่แล้ว ภายในสมบัติลับชิ้นนี้ยังมีศาสตร์ลับวิถีค้อนเมฆเวหาของผู้เคารพผอหนูชุดหนึ่งบรรจุอยู่ด้วยนะขอรับ”ตงป๋อเสวี่ยอิงมองดูค้อนใหญ่สีดำราวกับภูเขาย่อมๆ ซึ่งล่องลอยอยู่กลางอากาศอันนั้นกำลังแผ่อานุภาพอันน่าหวาดหวั่นออกมา มันน่าหวาดหวั่นกว่าสร้อยข้อมือไข่มุกสิบสองเม็ดของตนในตอนนั้นมากทีเดียว“ราคาเป็นเช่นไร” ตงป๋อเสวี่ยอิงถามชายชราร่างอ้วนท้วนยิ้มกว้าง “แปดพันล้านแก้วผลึกจักรวาลขอรับ”ตงป๋อเสวี่ยอิงฟังแล้วหนังตาก็กระตุกรัวแปดพันล้าน…แม่เฒ่าอิงซานซื้อไหวหรือ ก็ไม่แน่หรอกกระมัง“ถึงอย่างไรก็เป็นอาวุธที่ผู้เคารพผอหนูเคยใช้ในสงครามรัฐโบราณครั้งที่หนึ่ง เทพจักรวาลที่สิ้นใจไปด้วยอาวุธชิ้นนี้ก็มีมากต่อมาก” ชายชราร่างอ้วนท้วนกล่าว “ควรค่าแก่การให้เทพจักรวาลทุ่มเทสมบัติล้ำค่าเพื่อซื้อมันนะขอรับ”ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ฟังจนเข้าใจแล้วว่านี่เป็นสมบัติล้ำค่าประจำร้าน ครอบครัวสกุลฝานจงใจโอ้อวดทรัพยากรที่ตนสั่งสมเอาไว้! สมบัติล้ำค่าระดับนี้ไหนเลยจะสามารถขายทิ้งได้ง่ายๆ เล่าสมบัติลับที่ร้ายกาจทั้งหลาย…โดยทั่วไปก็ต้องพบผู้บำเพ็ญที่แข็งแกร่งซึ่งบังเอิญชอบเข้าพอดี จึงยินดีที่จะซื้อไว้ด้วยราคาสูงลิ่ว“ร้ายกาจ ร้ายกาจ”ตงป๋อเสวี่ยอิงชมเชยคำสองคำ แล้วก็ชมสมบัติลับชิ้นอื่นต่อไปเขาเดินแล้วก็หยุด เดินแล้วก็หยุด ไม่นานนักก็มาถึงหัวหอกที่ตงป๋อเสวี่ยอิงปรารถนาเป็นอย่างมากอันนั้น“หัวหอกนี้ก็มีประวัติศาสตร์อยู่บ้าง” ชายชราร่างอ้วนท้วนพูดยิ้มๆ “จะว่าไปแล้วเจ้าของมันก็พอจะมีความสัมพันธ์กับครอบครัวสกุลฝานเราอยู่บ้าง”ตงป๋อเสวี่ยอิงหัวใจกระตุกเจ้าของมันหรือครอบครัวสกุลฝานรู้ความเป็นมาโดยละเอียดของหัวหอกอันนี้หรอกหรือนี่“นานแสนนานมาแล้ว ก่อนหน้าสงครามรัฐโบราณครั้งที่หนึ่งเสียอีก ตอนนั้นดินแดนจิตโลกาวุ่นวายกว่านี้มาก ไม่เหมือนตอนนี้ที่ค่อนข้างเป็นระเบียบเรียบร้อย ตอนนั้นนครหลวงโบราณคิมหันตวายุยังมิได้ถูกสถาปนาขึ้นมา” ชายชราร่างอ้วนท้วนกล่าว “‘มหาเคารพลู่เทียน’ ของครอบครัวสกุลฝานเราท่องไปทั่วดินแดนจิตโลกาและเคยผูกมิตรกับสหายนาม ‘นายท่านฉื้ออวิ๋น’ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตอันน่าหวาดหวั่นที่มีพลังไม่แพ้มหาเคารพลู่เทียนเลย แต่จนใจที่นายท่านฉื้ออวิ๋นกำแหงและเอาแต่ใจเกินไป ทั้งยังทะเยอทะยานไม่ยอมอ่อนน้อม ไม่ยอมสวามิภักดิ์ ท้ายที่สุดจึงต้องเอาชีวิตไปทิ้ง แน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องก่อนสงครามรัฐโบราณครั้งที่หนึ่งเสียอีก ข้าจึงทราบเพียงครึ่งๆ กลางๆ เท่านั้น”“ทว่าหัวหอกอันนี้เขาเคยให้มหาเคารพลู่เทียนดูมาก่อน เป็นหัวหอกของ ‘หอกมารเมฆาแดง’ อาวุธของนายท่านฉื้ออวิ๋นจริงๆ”“น่าเสียดายที่เวลาผันผ่านไปอย่างไม่หยุดหย่อน บัดนี้จึงเหลือเพียงหัวหอกแล้ว” ชายชราร่างอ้วนท้วนพูดพลางส่ายศีรษะตงป๋อเสวี่ยอิงลอบทอดถอนใจเรื่องก่อนสงครามรัฐโบราณครั้งที่หนึ่งหรือ เช่นนั้นก็จะต้องล่องลอยเหลือเกิน แม้แต่ประวัติศาสตร์ที่จารึกเอาไว้ก็ต้องเลือนรางเป้นอันมาก เพราะถึงอย่างไรนครหลวงโบราณทั้งหลายก็ยังมิได้ก่อตั้งขึ้นนายท่านฉื้ออวิ๋นหรือ“ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่หรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงถาม“เนื่องจากบกพร่องไป เหลือเพียงหัวหอกจึงค่อนข้างถูกขอรับ” ชายชราร่างอ้วนท้วนพูดยิ้มๆ “ห้าร้อยล้านแก้วผลึกจักรวาลขอรับ”“ห้าร้อยล้านหรือ”ตงป๋อเสวี่ยอิงตกใจยังนับว่าถูกอีกหรือเนื่องจากการฝึกฝนร่างเมฆทักษิณาทิพย์จำเป็นต้องใช้วัสดุล้ำค่า บัดนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของตนจึงมีอยู่เพียงห้าสิบกว่าล้านแก้วผลึกจักรวาลเท่านั้น และนี่ก็ยังเป็นเพราะแม่เฒ่าอิงซานได้มอบแก้วผลึกจักรวาลให้ตนถึงห้าสิบล้านก้อนขณะสำเร็จเป็นขั้นรวมเป็นหนึ่งอีกต่างหากห้าร้อยล้าน ราคานี้น่าหวาดหวั่นมากทีเดียว ยังแพงกว่ามารรับใช้จื่อไป๋เสียอีก!“ไม่แพงจริงๆ นะขอรับ หากขั้นอลวนที่ร้ายกาจทุ่มเทสมบัติล้ำค่าจนสิ้นก็สามารถซื้อได้แล้ว” ชายชราร่างอ้วนท้วนกล่าว “เพราะเป็นอาวุธของนายท่านฉื้ออวิ๋น หากเป็นอาวุธที่สมบูรณ์ เกรงว่าราคาก็คงจะไม่แพ้ ‘ค้อนเมฆเวหา’ อันนั้นเลย! ตอนนี้แค่ห้าร้อยล้านแก้วผลึกจักรวาล แค่เศษนิดหน่อยเท่านั้น”ซื้อไม่ไหวจริงๆแม้พลังของตนที่เปิดเผยออกไปจะสำเร็จเป็นขั้นอลวนผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ก็ต้องใช้เวลาสั่งสมสมบัติล้ำค่าอยู่ดี การสั่งสมสมบัติล้ำค่าน่ะหรือ โดยทั่วไปก็ต้องออกไปเสี่ยงอันตรายหรือไม่ก็ต้องออกศึกไปเข่นฆ่า“ห้าร้อยล้าน” ตงป๋อเสวี่ยอิงรู้สึกใจสะท้านช่วยไม่ได้ในสถานที่เล็กๆ อย่างเมืองอัคคีโชติ ด้ามหอกมิได้ถูกยืนยันความเป็นมา เพราะแม้แต่อักขระลับบนด้ามหอกก็ยังขาดหาย ทำให้ตนสามารถซื้อมาได้ในราคาถูกแต่หัวหอกนี้นั้นไม่เหมือนกัน หัวหอกนั้นเป็นส่วนของหอกยาวที่ใช้บุกโจมตีและสังหารศัตรู ในยามปกติหัวหอกจะทำให้อากาศรอบด้านสั่นสะท้านและเกิดระลอกคลื่นมากมาย เมื่อเห็นก็รู้แล้วว่ามิใช่วัตถุธรรมดา มหาเคารพลู่เทียนก็ยังยืนยันความเป็นมาของมันอีก ราคาจึงย่อมเพิ่มสูงขึ้นไปเป็นธรรมดา“ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงหัวหอกอันหนึ่งเท่านั้น” ชายชราร่างอ้วนท้วนดูท่าทีของตงป๋อเสวี่ยอิง ก็รู้สึกว่าหนุ่มน้อยตรงหน้าคนนี้คงอยากจะซื้อจริงๆ จึงกล่าวขึ้นว่า “หากอยากได้จริงๆ ยังถูกลงได้อีกหน่อยนะขอรับ”สามารถถูกลงได้อีกหน่อยจริงๆมีที่มายิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายแล้วบกพร่อง ราคาที่ครอบครัวสกุลฝานตั้งกันเอาไว้ภายใน ต่ำที่สุดก็แค่สามร้อยล้านแก้วผลึกจักรวาลเท่านั้น“ถูกลงสักเท่าไหร่หรือ ต่ำกว่าหนึ่งร้อยล้านสามารถซื้อได้หรือไม่” ตงป๋อเสวี่ยอิงถามชายชราร่างอ้วนท้วนส่ายหน้ารัว “เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ก็แค่ถูกลงนิดหน่อยเท่านั้น”“อ้อ”ตงป๋อเสวี่ยอิงออกจะผิดหวังอยู่บ้างช่วยไม่ได้ ก็ซื้อไม่ไหวนี่นา!ทว่าต่อให้ซื้อไม่ไหว หากตนได้หัวหอกนี้มาแล้วชมดูด้วยตนเอง เพื่อตรวจดูอักขระลับที่หมุนเวียนอยู่ภายในก็ยังดี! แม้ชมดูเพียงครั้งเดียว และจำได้เพียงบางส่วน…แต่หากรวมกับความพิสดารที่ปลายหอก ก็จะมีส่วนช่วยตนอย่างมหาศาล เกรงว่าตนคงจะรับรู้ความพิสดารที่แฝงเอาไว้ในหอกยาวได้ง่ายขึ้นสามเท่าห้าเท่าเลยทีเดียว“ข้าขอดูหน่อยจะได้หรือไม่” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองไปทางชายชราร่างอ้วนท้วนตรงหน้า หัวหอกนี้ถูกค่ายกลหลายชั้นสกัดกั้นเอาไว้ ราวกับเปลือกไข่ที่ห่อหุ้มเอาไว้ชั้นแล้วชั้นเล่า เห็นได้ชัดว่ามิให้ลูกค้าชมดูได้ง่ายๆ ……………………………
คอมเม้นต์