Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน ตอนที่ 32 อ่อนแอก็ผิดหรือ
เบื้องล่างคือชนเผ่าหนึ่งซึ่งใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางหุบเขา ชนเผ่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่หลายหมื่น มีเทพแท้สามท่าน เทพโลกาก็มีนับพัน คนอื่นๆ หลายหมื่นคนล้วนแต่เป็นทวยเทพและเหนือธรรมดาทั้งสิ้นนี่คือชนเผ่าที่ธรรมดามากแห่งหนึ่งบนดินแดนเก้าเมฆา แต่ในยามนี้ ทั้งชนเผ่าเงียบเหงาตายซากไปหมด สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบ้างก็ยืน บ้างก็หมอบลง บ้างก็นั่งคว้าเนื้อย่างอยู่ตรงนั้น…เมื่อมองอย่างผิวเผินแล้วดูเหมือนไม่มีอาการบาดเจ็บอันใด แต่สายตาของพวกเขากลับมัวหม่นไปหมด วิญญาณแตกสลายไปแล้วตงป๋อเสวี่ยอิงไวสัมผัสต่อรอบด้านมากเพียงใด สามารถสัมผัสรับรู้กลิ่นอายของพิษทิพย์สายแล้วสายเล่าที่แผ่กำจายออกมารอบด้าน เป็นพิษทิพย์ที่ ‘ประมุขวังฉีอู่’ เชี่ยวชาญแม้จะเป็นเพียงแค่กลิ่นอายที่อ่อนแอมากก็ตามที…แต่ต่อให้เป็นผู้ปกครองเทพแท้ก็ยังต้องสังเวยชีวิตในพริบตา หากประมุขวังฉีอู่จงใจปล่อยพิษทิพย์ออกมา แม้แต่ยอดฝีมือเทพอากาศขั้นรวมเป็นหนึ่งโดยทั่วไปก็ล้วนมิอาจต้านทานได้“พี่ตงป๋อ ท่านกำลังเวทนาพวกเขาหรือ” มือกระบี่มารเหลือบมองลงไปเบื้องล่าง แต่กลับพูดยิ้มๆ ตามอำเภอใจว่า “เป็นเพราะตอนที่ประมุขวังฉีอู่ลงมือกับข้า ไม่ควบคุมกลิ่นอายของพิษทิพย์เลยแม้แต่น้อย จนชนเผ่านี้ถูกลูกหลงเข้า นี่ก็คือความน่าเศร้าของผู้ที่อ่อนแอ เพียงแค่ลูกหลงก็ต้องสังเวยชีวิตเสียแล้ว! ทว่าบัดนี้ประมุขวังฉีอู่ได้ตายไปแล้ว ชนเผ่านี้ของพวกเขาก็นับว่าได้แก้แค้นแล้ว”ตงป๋อเสวี่ยอิงมองรอยยิ้มของมือกระบี่มารในยามนี้แวบหนึ่ง แต่กลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง“ฟิ้ว”ตงป๋อเสวี่ยอิงยังสามารถสัมผัสได้ถึงร่องรอยการต่อสู้ที่หลงเหลืออยู่กลางอากาศของทั้งสองฝ่ายแล้วตามรอยไป “พวกเราไปดูที่อีกจุดหนึ่งกันเถิด” พูดพลางพามือกระบี่มารเคลื่อนที่ในพริบตาไปทันทีณ ที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่ข้างทะเลสาบ ชุมชนนี้ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าจำนวนนับไม่ถ้วน ไกลออกไปก็มองไม่เห็น สิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในชุมชนอันสงบสุขแห่งนี้ก็สูญเสียกลิ่นอายแห่งชีวิตไปหมดเช่นเดียวกันตงป๋อเสวี่ยอิงเหลือบมองไปยังเบื้องล่างด้วยสายตาเย็นชา“นี่ก็เป็นอีกจุดที่ถูกลูกหลงเข้า” มือกระบี่มารส่ายหน้า “สำหรับประมุขวังฉีอู่แล้ว คงไม่มีทางแยแสชีวิตของพวกเขาหรอก”“ฟิ้ว”ตงป๋อเสวี่ยอิงพามือกระบี่มารมุ่งหน้าตามร่องรอยที่ทิ้งเอาไว้กลางอากาศไปยังที่อีกแห่งหนึ่งณ ที่อีกแห่งหนึ่ง…ยังคงเป็นแหล่งชุมนุมที่ถูกลูกหลงเมื่อมองไปยังที่ต่างๆตอนแรกมือกระบี่มารยังพูดอยู่ แต่ต่อมาเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาบ้างแล้วเช่นเดียวกัน “ที่แท้แล้วตงป๋อเสวี่ยอิงผู้อาวุโสวังทวีสูญผู้นี้ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ พาข้าเคลื่อนที่ในพริบตาไปดูแหล่งอาศัยของมดปลวกที่อ่อนแอซึ่งถูกลูกหลงเข้าอย่างนั้นหรือ เฮอะ”เนื่องจากตงป๋อเสวี่ยอิงมีบุญคุณช่วยชีวิตเขา ข้อที่สอง ตงป๋อเสวี่ยอิงใช้เวลาสังหารประมุขวังฉีอู่สั้นเกินไปแล้ว พลังจึงทำให้เขาหวั่นเกรงเรื่องนี้ทำให้มือกระบี่มารต้องข่มความไม่พอใจเอาไว้“มือกระบี่มาร” ตงป๋อเสวี่ยอิงยืนอยู่กลางอากาศพลางเหลือบมองลงไปยังชนเผ่า ณ เชิงเขาด้านล่างพลางพูดเสียงเยียบเย็นว่า “ท่านมิมีสิ่งใดจะพูดเลยหรือ”“พูดอะไรเล่า” มือกระบี่มารหัวเราะ “เฮ้อ พวกเขาช่างตายอย่างน่าสงสารเสียจริง ประมุขวังฉีอู่ก็อำมหิตพอควรเลยทีเดียว ทว่าประมุขวังฉีอู่ก็ตายไปแล้ว ทำให้บุคคลชั้นสูงคนหนึ่งของลัทธิทิพย์โบราณตายไปพร้อมกับพวกเขาได้ก็นับว่าคุ้มค่าสำหรับพวกเขาแล้ว”“คุ้มค่ารึ” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองไปทางมือกระบี่มาร “สำหรับพวกเขาที่ตายไปแล้ว ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่าไปหมด”มือกระบี่มารขมวดคิ้ว “ผู้อาวุโสตงป๋อ ท่านหมายความว่าอย่างไรกัน”ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดเสียงต่ำว่า “ประมุขวังฉีอู่ไล่สังหารท่าน ท่านหนีมาตลอดทาง…ฟ้าดินกว้างใหญ่ มีทุ่งหญ้าผืนใหญ่ มีแมกไม้และทะเลสาบ ท่านสามารถหนีไปได้ตั้งหลายที่ ไยจึงไม่หลบเลี่ยงชนเผ่าเหล่านี้เล่า”พวกมือกระบี่มารมิอาจแหวกทางเชื่อมมิติได้ ทำได้เพียงเคลื่อนที่ในพริบตาในระยะสั้นๆ เท่านั้นทุกครั้งที่เคลื่อนที่ในพริบตาก็ล้วนแต่สามารรับรู้สถานการณ์ของบริเวณที่จะเคลื่อนที่ในพริบตาไปได้อย่างง่ายดาย“หากท่านหลบเลี่ยงสักหน่อย การต่อสู้ก็คงไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาหรอก” ตงป๋อเสวี่ยอิงถาม “แต่ท่านมิได้ทำเช่นนี้”มือกระบี่มารสะดุ้ง เขาขมวดคิ้ว สีหน้าไม่น่ามองอย่างยิ่ง “ผู้อาวุโสตงป๋อ ท่านช่วยเหลือข้า แต่ข้าก็ได้ให้ศิลาปฐมโลกาไป และข้าว่าทางวังทวีสูญก็คงจะต้องให้แต้มความดีความชอบเป็นรางวัลแก่ท่าน พวกนี้ก็แค่มดปลวกที่ถูกลูกหลงระหว่างการต่อสู้เข้าไปเท่านั้น นอกจากนี้ยังเพราะประมุขวังฉีอู่อีกด้วย! ท่านอยู่ที่นี่ พุ่งเป้ามาที่ข้าด้วยจงใจจะทำให้ข้าลำบากใจเช่นนั้นหรือ”เมื่อตงป๋อเสวี่ยอิงได้ยินคำว่า ‘มดปลวก’ สองคำนี้ ก็เข้าใจความคิดของอีกฝ่ายขึ้นมาทันที“ผืนดินกว้างใหญ่ไพศาล แหล่งชุมนุมชนมีน้อยมาก” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดต่อไป “แต่ท่านหลบหนีมาตลอดทาง กลับเหมือนจงใจผ่านแหล่งชุมนุมชนของชนเผ่าเหล่านี้”มือกระบี่มารสีหน้าเข้มขึ้นแล้วพูดพลางยิ้มเย็นว่า “ข้าหนีเอาชีวิตรอด ตนเองยังเอาตัวไม่รอดเลย ไหนเลยจะมีความคิดแยแสชีวิตของมดปลวกได้เล่า เอาล่ะ ข้าข้าไม่มีใจจะพูดกับท่านให้มากความ บุญคุณช่วยชีวิตในครั้งนี้ ขอบคุณมากก็แล้วกัน พวกเราแยกจากกันเพียงเท่านี้เถิด!”สวบมือกระบี่มารเคลื่อนที่ในพริบตาจากไปทันทีตงป๋อเสวี่ยอิงมองมือกระบี่มารจากไปแล้วหายวับไปไม่มีความคิดจะแยแสชีวิตของมดปลวกเลยหรือตงป๋อเสวี่ยอิงสามารถคาดเดาได้ว่า บางทีในตอนเริ่มต้น มือกระบี่มาอาจจะมิได้แยแสสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในชนเผ่าเลยจริงๆ ตายแล้วก็ตายไป เขาไม่สนใจเลย! แต่ในเมื่อชนเผ่ามากมายถึงเพียงนั้นถูกลูกหลง มือกระบี่มารก็คงจะตั้งใจ! เขาจงใจทำเช่นนี้ อาจจะเพราะหวังว่ายอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่สักคนที่ซ่อนตัวอยู่ในชนเผ่า เมื่อกลิ่นอายพิษทิพย์ของประมุขวังฉีอู่กระทบถูกผู้ที่อ่อนแอ หากมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งซ่อนเร้นอยู่จริง ก็จะลงมือขัดขวางประมุขวังฉีอู่ ถึงตอนนั้น มือกระบี่มารก็มีหวังที่จะรอดชีวิตได้แล้ว!“อ่อนแอก็ผิดด้วยหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพึมพำเสียงต่ำกับตนเองสำหรับมือกระบี่มารผู้สูงส่งแล้ว ผู้ที่อ่อนแออยู่ในระดับล่างก็คือมดปลวก เขาไม่แยแสเลยจริงๆ“แม้ข้าจะเวทนาพวกเขา และโมโหมือกระบี่มารด้วยเช่นกัน แต่กลับไม่มีจิตคิดสังหารแต่อย่างใด” ตงป๋อเสวี่ยอิงพึมพำมือกระบี่มารเป็นสมาชิกคนหนึ่งของเมืองราชันย์มีดโลกทิพย์ทั้งห้า! แม้โลกทิพย์ทั้งสามจะลอบร่วมมือกันต่อสู้กับสองลัทธิใหญ่ แต่ภายในโลกทิพย์ทั้งสามก็มิได้สมัครสามสามัคคีกันอย่างเต็มที่อย่างแรก ‘โลกทิพย์นิจนิรันดร์’ ปกครองโดยบรรพชนทิพย์และบรรพชนโลกา บรรพชนทิพย์และบรรพชนโลกาล้วนแต่จัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของสิ่งมีชีวิตระดับยอดสุด พวกเขาไม่ค่อยเห็นโลกทิพย์กิเลนบูรพาและโลกทิพย์ทะเลสัตตดาราอยู่ในสายตาสักเท่าใดนัก ส่วนโลกทิพย์กิเลนบูรพาและโลกทิพย์ทะเลสัตตดารากลับมีความสัมพันธ์อันดียิ่งต่อกัน แม้แต่เจ้าเมืองหลัวก็แค่สร้างเจดีย์ดาวขึ้นมาทั้งหมดหกแห่งเท่านั้น หกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกทิพย์ทะเลสัตตดาราและโลกทิพย์กิเลนบูรพาล้วนมีเจดีย์ดาวอยู่ที่ละแห่ง แน่นอนว่ามีเพียง ‘บรรพชนกู่’ เท่านั้น ที่ได้เจดีย์ดาวมา จะเห็นได้ว่าบรรพชนกู่ถูกผลักไสเมื่ออยู่ภายในโลกทิพย์กิเลนบูรพาดังนั้น…หกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกทิพย์กิเลนบูรพาและโลกทิพย์ทะเลสัตตดารามีความสัมพันธ์อันดียิ่งต่อกัน แทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน! ในจำนวนนั้นผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดก็คือราชันย์มีด! ราชันย์มีดนั้นทัดเทียมกันกับพวกบรรพชนทิพย์ บรรพชนโลกาและจอมมารดา“ถึงอย่างไรมือกระบี่มารก็เป็นบุคคลสำคัญของเมืองราชันย์มีด”“คนของลัทธิทิพย์โบราณและลัทธิจอมมารดาข้าบอกสังหารก็สังหารเลย แต่มือกระบี่มารข้ามิอาจลงมือได้ง่ายๆ”ดังเช่นในฐานะที่ตงป๋อเสวี่ยอิงเป็นผู้อาวุโสตำหนักในแห่งวังทวีสูญ ต่อให้ขุมอำนาจต่างๆ เช่นเมืองราชันย์มีดเดือดแค้นตงป๋อเสวี่ยอิงก็มิอาจลงมือได้ตามใจ มิเช่นนั้นแล้วก็เป็นการตบหน้าวังทวีสูญ! หากผูกใจเจ็บแล้วจริงๆ โดยทั่วไปก็ต้องรายงานขึ้นไปก่อน แล้วให้บุคคลระดับสูงสุดของขุมอำนาจฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ลงโทษเอง“ยิ่งไปกว่านั้นที่ก้นบึ้งจิตใจของข้า ข้าก็เพียงแค่คิดว่ามือกระบี่มารเลือดเย็นและอำมหิตอย่างยิ่ง แต่ก็มิได้คิดว่าเขาสมควรตาย” ตงป๋อเสวี่ยอิงทอดถอนใจ นี่คือเรื่องจริงผู้บำเพ็ญที่แข็งแกร่ง ไม่รู้ว่าบำเพ็ญมาแล้วกี่ร้อยล้านปีตงป๋อเสวี่ยอิงบำเพ็ญมาหลายหมื่นล้านปี ก็นับว่าเยาว์วัยในหมู่พวกเขาแล้ววันคืนอันยาวนาน ญาติมิตรผู้เป็นที่รักมากมายลาลับไปตั้งนานแล้ว ในระหว่างการบำเพ็ญ บ้างก็กลายเป็นสันโดษขึ้น เยียบเย็นหรืออำมหิตขึ้น หากมีเงื่อนไขต่อพฤติกรรมของผู้บำเพ็ญสูงเกินไปแล้ว เกรงว่าผู้บำเพ็ญกว่าครึ่งในสามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คงจะถูกผลักไปยังฝ่ายตรงข้าม เช่นนั้นก็เกรงว่า ‘จอมเทพศักดิ์สิทธิ์’ แห่งลัทธิทิพย์โบราณคงจะสามารถคว้าชัยได้ในเวลาไม่นานนัก!การต่อต้านลัทธิทิพย์โบราณจึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด! เมื่อเป็นดินแดนที่จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ปกครอง จะต้องนับถือจอมเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างสิ้นเชิง ‘การนับถือ’ พรรค์นี้ มิใช่การนับถือที่ยังนับได้ว่าอิสระเหมือนอย่างจักรวาลบ้านเกิด และมิใช่การนับถือจากวิญญาณอย่างง่ายๆ เหมือนผู้ที่อ่อนแอของลัทธิจอมมารดา หากแต่เป็นรอยประทับบนวิญญาณจึงต้องภักดีอย่างสิ้นเชิง!เพื่อจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ สามารถสละชีพของตนได้ สามารถเสียสละญาติมิตรผู้เป็นที่รักของตนได้ ไม่มีความเป็นตนเองอีกต่อไป นี่คือสิ่งที่ผู้บำเพ็ญที่เก่งกาจอยู่บ้างไม่อยากจะยอมรับ“ขุมอำนาจอย่างวังทวีสูญและเมืองราชันย์มีดล้วนมีกฎอยู่ มารร้ายที่เข่นฆ่าตามอำเภอใจจะถูกสังหาร และอย่างเช่นมือกระบี่มารก็แค่ลูกหลงเท่านั้น…ยังห่างไกลจากคำว่าฝ่าฝืนกฎไปไกลโข” ตงป๋อเสวี่ยอิงส่ายหน้าแม้แต่บรรดาสิ่งมีชีวิตระดับยอดสุด เพื่อที่จะทำให้ทุกแห่งหนเสมอภาคกัน แม้กฎที่ตั้งขึ้นมาจะเข้มงวด แต่ก็ยังคงอยู่ในขอบเขตที่สิ่งมีชีวิตอย่างจอมมารสามารถยอมรับได้จากนั้นตงป๋อเสวี่ยอิงก็เคลื่อนที่ในพริบตาสวบๆๆเขาเคลื่อนที่ในพริบตาไปตามสถานที่ต่างๆ เลียบร่องรอยในอากาศไปเพื่อตรวจดูสถานที่อื่นๆ ที่ถูกลูกหลงเข้า ทุกบริเวณที่ก่อนหน้านี้ประมุขวังฉีอู่และมือกระบี่มารไล่สังหารกันมาตลอดทาง มิมีสิ่งมีชีวิตใดเคราะห์ดีรอดชีวิตเลย ……………………………
คอมเม้นต์