Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น ตอนที่ 781
EG บทที่ 781 สร้างพิพิธภัณฑ์ ?หลังอาหารเช้าเฝิงหยู่ตัดสินใจพาเอเลน่าออกไปเที่ยว ดูเหมือนว่าเขาไม่เคยพาเธอออกไปเที่ยวมาก่อนเลย พอบอกเธอ เธอก็ตื่นเต้นดีใจจนปิดไม่อยู่
คิริเลนโกะบินไปนิวยอร์กอีกครั้งเพื่อจะจัดตั้งบริษัทลงทุนที่นั่น พร่ำพูดว่าเขาจะลงทุนบริษัทที่ชาวอเมริกันภาคภูมิใจ เพื่อให้เกียรติของรัสเซียบานสะพรั่งบนดินแดนอเมริกา!
แน่นอนว่าเฝิงหยู่ไม่อาจห้ามได้ เพราะเฝิงหยู่ก็คิดเหมือนกันว่าอเมริกาไม่ใช่เจ้าโลกด้านเทคโนโลยี ถ้าทำได้ก็บดขยี้อเมริกาในด้านเทคโนโลยีไปเลยดีกว่า!
เทคโนโลยีเป็นพลังการผลิตแรก ประโยคนี้สมเหตุสมผลมาก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องจักรกลหรือคอมพิวเตอร์เพื่อการควบคุม ต่างช่วยลดความยุ่งยากในการทำงานของผู้คน ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและประสิทธิภาพการผลิตได้อีก หนึ่งชั่วโมงคุณสามารถทำได้หนึ่งอย่าง แต่หนึ่งชั่วโมงของผมสามารถทำได้ร้อยอย่าง หากคุณภาพคล้ายกัน ความไร้ประสิทธิภาพจะถูกกำจัดโดยกลไกตลาดทันที
คอมพิวเตอร์เป็นหนึ่งในตัวแทนของอุตสาหกรรมไฮเทค หากสามารถครองอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ได้ ก็สามารถเป็นเจ้าโลกได้!
เวลานี้คิริเลนโกะติดต่อกลับไปรัสเซียเพื่อเริ่มการสรรหาบุคลากรด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้อง ทั้งวิศวกรซอฟต์แวร์และวิศวกรฮาร์ดแวร์
วิศวกรฮาร์ดแวร์สามารถเข้าร่วม Lianxiang ได้ด้วยหรือ? แม้ว่าเข้าร่วมไม่ได้ แต่พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมภายนอกอย่างการศึกษาCPUจำพวกนั้น พวกเขาสามารถสร้างสถานีอวกาศได้ กับอีแค่การสร้างซีพียู คงไม่มีปัญหาใช่ไหมล่ะ?
เฝิงหยู่ตระหนักได้ว่ายังมีสมบัติในรัสเซียอีกมากมายที่เขายังไม่ค้นพบ อัจฉริยะข้างต้นคือคนที่เขาคิดว่าตัวเองไม่สามารถขุดพบเจอ ทว่า ในสายตาของคิริเลนโกะ มันกลับกลายเป็นเรื่องที่สามารถจัดการได้ด้วยเงิน
คงเป็นเพราะเมื่อก่อนอนุรักษ์นิยมเกินไปนั่นแหละนะ หากคราวหน้าได้ไปรัสเซีย จะต้องศึกษาอย่างรอบคอบว่ายังมีอัจฉิริยะด้านใดที่สามารถขุดขึ้นมาได้
…
“เจ้าอยากดูอะไร? ที่นี่อากาศดี อบอุ่นกว่ามอสโกมาก แม้ไม่ใช่ฤดูท่องเรือสำราญ แต่ก็ไม่เลวเลยนะ” เฝิงหยู่ถามขณะจับมือเอเลน่า
“คุณตัดสินใจเองเลยค่ะ ฉันอะไรก็ได้” เอเลน่ากล่าว
เฝิงหยู่พลันค้นพบว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเอเลน่าเลยนอกจากรู้ว่าเธอชอบเต้น สิ่งนี้ทำให้เฝิงหยู่กระอักกระอ่วนใจ เพราะไม่รู้ว่าเธอชอบอะไรเลยไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร
“พิพิธภัณฑ์ไหม?” เฝิงหยู่พูดหยั่งเชิง
“ได้สิ” เอเลน่าพยักหน้าอย่างชาญฉลาด สิ่งที่เธอสนใจไม่ใช่การไปเที่ยว แต่เป็นนการอยู่กับเฝิงหยู่ต่างหาก
“ราล์ฟ คุณได้ซื้อโบรชัวร์การท่องเที่ยวในซีแอตเทิลมาหรือยัง?” เฝิงหยู่โทรหาราล์ฟ
น้ำเสียงก้าวร้าวมาก ผู้หญิงอย่างเอเลน่าทำให้ผู้คนลังเลที่จะโกรธเธอ เฝิงหยู่เลยเอาความโกรธไปลงที่ราล์ฟ!
“บอส ซื้อมาแล้วครับ จะรีบเอาไปส่งให้คุณทันที”
ราล์ฟถอนหายใจ แม้ว่าเลขานุการจะมีเงินเดือนสูงและมีอำนาจมาก แต่ก็มีเรื่องให้ต้องจัดการเยอะแยะเต็มไปหมด ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเป็นแม่บ้านกันนะ?
สักพักราล์ฟก็กลับมา ตอนเขาเดินเข้าประตูยังหายใจหอบแฮ่กแฮ่กอยู่เลย
เฝิงหยู่รับโบรชัวร์ท่องเที่ยวมาแล้วคลี่ดู เอียงคอตะโกนใส่หน้าราล์ฟทันที “ทำไมเป็นภาษาอังกฤษ!”
ราล์ฟวงกลมไว้แล้วว่าบอสเก่งภาษาอังกฤษ เขาน่าจะเข้าใจเนื้อหาได้สิ แล้วที่นี่ห็เป็นอเมริกา ถ้าไม่ใช่ภาษาอังกฤษแล้วจะเป็นภาษาอะไรได้อีก?
เขาพลันเห็นเอเลน่านั่งด้านข้างบอส จึงตบศีรษะแล้วพูดด้วยความอับอาย “บอส โบรชัวร์ท่องเที่ยวภาษารัสเซียหาซื้อยากมากครับ”
เฝิงหยู่โบกมือ “ช่างเถอะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ยังทำไม่ได้”
ราล์ฟอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา คนจากประเทศที่พูดภาษารัสเซียไม่ค่อยมาเที่ยวอเมริกานี่นา? แต่ต่อให้มาเที่ยวอเมริกาจริง พวกเขาคงเลือกเมืองใหญ่ๆอย่างลอสแองเจลิส
เฝิงหยู่ชี้โบรชัวร์ท่องเที่ยวแล้วแปลให้เอเลน่าฟัง “นี่คือเฮนรี่อาร์ตแกลเลอรี่ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในรัฐวอชิงตัน ส่วนนี่คือพิพิธภัณฑ์โกลด์รัช และนี่คือพิพิธภัณฑ์อุตสาหกรรม นี่คือพิพิธภัณฑ์การบินของบริษัทโบอิ้ง … “
ราล์ฟรู้สึกชื่นชมในใจ ไม่แปลกใจเลยที่คนๆนี้ได้เป็นหัวหน้า อายุอานามยังน้อย ทั้งยังเป็นคนจีน แต่มีความเชี่ยวชาญทั้งภาษาอังกฤษและภาษารัสเซียจนแม้แต่เขายังละอายใจ!
มองท่าทางจริงจังของเฝิงหยู่ ราล์ฟก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เขาเคยคิด ทั้งๆที่เขาทำงานกับบอสเป็นเวาลานานแล้ว แต่ทำไมไม่เห็นบอสมองหาผู้หญิงคนไหนเลยล่ะ เขาจึงคิดว่าบอสมีปัญหาด้านรสนิยมทางเพศ?
ตามปกติบอสที่มีทั้งทรัพย์สินและตำแหน่งสามารถทำแค่การกระดิกนิ้ว ก็มีสาวสาวมะรุมมะตุ้มให้เลือก ต่อให้เป็นดารานักแสดงสวยสวยก็เถอะ? แต่บอสกลับปฏิเสธผู้หญิงที่เข้าหาเขา ทั้งๆที่หญิงสาวบางคนมีหน้าตาสะสวยในสายตาของราล์ฟ
แต่พอหญิงสาวที่อยู่ข้างบอสปรากฏตัว เขาก็ไม่แปลกใจที่บอสไม่ชายตามองหญิงสาวที่สวยแต่รูปจูปไม่หอมเหล่านั้น ดูท่าทางของเธอคนนี้สิ หน้าตาแบบนี้ยังจะมีใครเทียบได้อีก? หากเขามีแฟนสาวที่สวยงามปานนางฟ้าเช่นนี้ เขาก็จะไม่ชายตาแลผู้หญิงธรรมดาๆ แถมยังหมดอารมณ์ทางเพศอีก
เอเลน่ายิ้มแย้มและตั้งใจฟังที่เฝิงหยู่กำลังพูด กระทั่งเฝิงหยูถามความคิดเห็นของเธอ เธอจึงพูดกระซิบว่า “เฮนรี่อาร์ทแกลเลอรีดีไหม?”
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ราล์ฟ บอกคนขับให้เตรียมรถไปเฮนรี่อาร์ทแกลเลอรี ส่วนคุณไปที่ติดต่อพิพิธภัณฑ์ว่าผมจะเช่าวันนี้!”
เอเลน่าดึงมือของเฝิงหยู่แล้วพูดว่า “อยากดูกับทุกคนค่ะ”
“ได้สิ แค่คุณมีความสุขก็พอ ราล์ฟ ไปซื้อตั๋ว ผมหวังว่าพอไปถึงผมจะเข้าไปด้านในได้ทันที”
“ครับ บอส ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” ราล์ฟรีบวิ่งกุลีกุจอออกไป วิ่งไปพลางพร้อมหยิบโทรศัพท์ออกมาติดต่อกับบุคคลในพิพิธภัณฑ์
ในความเป็นจริงเฝิงหยู่ไม่ชอบไปที่แกลเลอรีสักเท่าไหร่ เขาเชื่อว่าสิ่งที่ใครๆเรียกกันว่างานศิลปะจะถูกโปรโมตเพื่อให้มีราคาแพงยิ่งขึ้น หากเป็นผลงานศิลปะจริงๆก็ไม่ควรวัดมูลค่ามันสิ งานศิลปะไร้มูลค่าในสายตาของคนที่ชอบ แต่ในสายตาของคนธรรมดามันเป็นเพียงวัตถุ ภาพวาด แจกัน หรืออะไรจำพวกนั้น
แต่มันจะกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในสายตาของนักธุรกิจ มีการประเมินราคางานศิลปะ เปลี่ยนมันเป็นเงิน และขายให้ได้กำไรมากขึ้น นี่แหละคือจุดประสงค์ของพวกเขา
แค่แขวนภาพจิตรกรรมสีน้ำมันสมัยเรอเนซองส์ไว้ให้ห้อง ก็พิสูจน์ได้ว่ามีจิตวิญญาณของนักศิลปะหรือ? มันสามารถพิสูจน์ว่าคุณสง่างามหรือ? ไม่ใช่หรอก คนเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ก็แค่นำภาพมาตกแต่งบ้าน ถ้าพูดกันตรงๆก็คง…เป็นไอ้งั้งนั่นแหละ!
เฝิงหยูเคยคิดอย่างนี้ เขาไม่คิดจะซื้อภาพวาดสีน้ำมันเหล่านี้ แต่เขาชอบภาพวาดภูมิทัศน์จีน เครื่องเคลือบลายครามจำพวกนั้นต่างหาก เขาวางแผนจะซื้อในอเมริกาสักล็อต หากมีงานศิลปะสมบัติระดับชาติจริงๆก็ต้องควักกระเป๋าให้พิพิธภัณฑ์ แต่การบำรุงรักษางานศิลปะประเภทนั้นจำเป็นต้องมีความเป็นมืออาชีพมาก เฝิงหยู่จึงไม่เข้าใจ
หรือเขาควรจะสร้างพิพิธภัณฑ์เอง?
จริงสิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? สร้างพิพิธภัณฑ์ด้วยตัวเอง แล้วเชิญผู้เชี่ยวชาญมาซ่อมและบำรุงรักษา จะได้ทิ้งชื้อไว้ในอนาคต!
พิพิธภัณฑ์เฟิงหยู่ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว ถ้ากลับไปแล้วจะสั่งให้คนไปรวบรวมงานศิลปะจีนในอเมริกามา ไม่เกี่ยงราคาแพง ถึงแม้ราคาของงานศิลปะจีนในเวลานี้จะยังไม่เพิ่มขึ้นเลยก็ตาม!
ไม่คาดคิดว่าแค่การพาเอาเลน่ามาเที่ยว ก็ทำให้เขาหาอาชีพใหม่ได้ เขาเริ่มสนใจงานศิลปะเหล่านี้เสียแล้วสิติดตามเพจใหม่ได้ที่ https://www.facebook.com/ceonovel23
คอมเม้นต์