EG บทที่ 797 ก่อตั้งบริษัทเลอโนโว่คิงซอฟท์
 
สามวันต่อมาเฝิงหยู่บินกลับปักกิ่งจากเซียงเจียง นี่คือการกลับมาเยี่ยมครอบครัวฝูกับครอบครัวหลี่ และได้ทำการตรวจสอบ ปรึกษาหารือเกี่ยวกับ Fengyu consulting
แต่ครั้งนี้รีบกลับปักกิ่ง ยังมีสิ่งที่สำคัญที่ต้องทำคือ ก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ เลอโนโว่/คิงซอฟท์ ที่กำลังจะถูกจัดตั้งขึ้นแถมยังเป็นการตกลงลงทุนระยะสั้น
บริษัทเลอโนโว่  บริษัทคิงซอฟท์และบริษัทซอฟท์แวร์ของคิริเลนโกะล้วนมีวิศวกร ผลิตภัณฑ์และการลงทุน ในขณะที่เฝิงหยู่มีเพียงเงินทุนและแนวคิดเท่านั้น มูลค่าเฉพาะของแนวคิดนี้ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะคำนวณ
โชคดีที่เฝิงหยู่สัญญาว่าจะออกเงินทุนมากที่สุด ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงสามารถยอมรับสัดส่วนการลงทุนที่เฝิงหยู่ต้องการได้
ประธานเฝิง ผมแนะนำคุณสักหน่อย นี่คือฉิวป๋อจวิน ผู้ก่อตั้งบริษัทคิงซอฟท์ซอฟท์แวร์ การเขียนซอฟท์แวร์ของเขานั้นไม่เป็นสองรองใครในประเทศจีนของเรา นี่คือเหลยต้าจวิน ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทปักกิ่งคิงซอฟท์ และความสามารถของเขานั้นแข็งแกร่งมากนี่คือ … ” หลิ่วฉวนจื้อ แนะนำบุคคลที่อยู่ตรงหน้าให้กับเฝิงหยู่รู้จัก
“สวัสดีทุกคน หลังจากนี้พวกเราจะเป็นครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต” เฝิงหยู่พูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณคือประธานเฝิงใช่ไหม ？แผนปรับปรุง WPS ถูกเสนอโดยคุณใช่ไหม？ ใครเป็นอาจารย์ของคุณ และเรียนจบจากสถาบันไหน ？” ฉิวป๋อจวินมองเฝิงหยู่แบบแปลกๆ
“ผมไม่ได้เรียนเกี่ยวกับซอฟท์แวร์หรือคอมพิวเตอร์หรอก ผมแค่หยิบยกการปรับปรุงบางอย่างจากมุมมองของผู้ใช้ คุณไม่คิดว่าหลังจากแก้ปัญหาที่ผมพูดไปแล้วซอฟท์แวร์OFFICEของเราจะดีขึ้นกว่าเดิมเหรอครับ  และคุณสมบัติอาจจะดีกว่าOFFICEของบริษัทไมโครซอฟท์อีก   ”
หลิวฉวนจื้อยังพูดเสริมอีกว่า “คุณอาจไม่รู้ว่า ประธานเฝิงยังเป็นกรรมการของบริษัทไมโครซอฟท์อีกด้วยนะ”
เหลยต้าจวินอึ้งและถามว่า “บริษัท ไหน？ ไมโครซอฟท์？ บริษัทไมโครซอฟท์ที่เป็นบริษัทในสหรัฐอเมริกานั่นเหรอ？”
เฝิงหยู่ได้แต่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนว่าชื่อแบรนด์ของไมโครซอฟท์ยังใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมนะ
“ยังมีบริษัทไมโครซอฟท์ไหนอีกเหรอ?” หลิ่วฉวนจื้อพูดกับเฝิงหยู่ด้วยความนับถือ เขาสงสัยว่าทำไมเฝิงหยู่ถึงกลายเป็นกรรมการของบริษัทไมโครซอฟท์ได้ ก่อนหน้านี้เขารู้แค่ว่าเฝิงหยู่มีหุ้นไมโครซอฟท์อยู่จำนวนมาก แต่การมีหุ้นและการเป็นกรรมการของบริษัทนั้นมันคนละเรื่องกันเลย
ทุกคนในห้องมองเฝิงหยู่อย่างชื่นชม ก่อนหน้านี้มีบางคนที่ไม่เห็นดีเห็นงามกับเฝิงหยู่ แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนมุมมองและมองเฝิงหยู่ด้วยความเคารพนับถือ
ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนสามารถนำเสนอคำแนะนำที่ดีอย่างมากมายเพื่อการปรับปรุง แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นคณะกรรมการของไมโครซอฟท์นี่เอง แม้ว่าพวกเขาไม่ต้องการยอมรับ แต่ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งทางด้านเทคนิค ระดับการพัฒนาหรือขนาดของบริษัทซอฟท์แวร์ บริษัทคิงซอฟท์เทียบบริษัทไมโครซอฟท์ไม่ได้เลย
“ผมเป็นนักลงทุนคนหนึ่ง ซอฟท์แวร์จะสมบูรณ์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับทุกคนและความพยายามร่วมกันของช่างเทคนิค“ เฝิงหยู่ถ่อมตัวแลยอมรับฟังข้อคิดเห็นของคนอื่น
“ประธานเฝิงถ่อมตัวแล้ว ทุกคนร่วมมือกันขยันขันแข็ง เพื่อสร้างความรุ่งเรืองให้กับซอฟท์แวร์จีนของเรา คุณคิริเลนโกะยังไม่มาเลย แต่โทรศัพท์ก็ติดต่อได้นะ เรามาตกลงแผนการที่เราคุยไว้กันแบบนี้ดีกว่า บริษัทร่วมทุนมีชื่อว่า บริษัทเลอโนโว่/คิงซอฟท์ซอฟท์แวร์ ที่อยู่ภายใต้แบรนด์ของเลอโนโว่กรุ๊ป  ทางฝั่งมอสโกตั้งอีกบริษัทหนึ่งขึ้นมาชื่อว่าบริษัทเลอโนโว่/คิงซอฟท์สาขามอสโคว  ร่วมกับบริษัทเลอโนโว่/คิงซอฟท์ซอฟท์แวร์ วิศวะกรชาวรัสเซียยังคงทำงานอยู่ที่นั่น”
“ต่อมาทุกคนจะแบ่งโครงการ การวิจัยและพัฒนา WPS และซอฟต์แวร์สำนักงานอื่นๆอยู่ที่ปักกิ่ง หุ้นส่วนซอฟท์แวร์จะอยู่ในมอสโก การวิจัยและพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ การวิจัยและพัฒนาโปรแกรมแอนตี้ไวรัสนั้นดำเนินการโดยทั้งสองฝ่าย หากมีทิศทางใหม่สำหรับการวิจัยและพัฒนาทุกคนจะหารือกัน “
เฝิงหยู่พยักหน้า แบบนี้ดูมีเหตุผลฟังดูเข้าท่าดี ตอนนี้สิ่งที่กำไรที่เร็วที่สุดคือ WPS และหุ้นส่วนซอฟต์แวร์ ต่อมาเป็นระบบแอนตี้ไวรัสและระบบคอมพิวเตอร์นี่เป็นสิ่งที่ยากที่สุด แต่ถ้าประสบความสำเร็จก็สามารถทำให้ บริษัทเลอโนโว่คิงซอฟท์ กลายเป็นบริษัทอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์และไมโครซอฟท์
“และนี่คือความร่วมมือของทุกด้านของเราตามสัดส่วนของการลงทุนในสินทรัพย์เพื่อแบ่งหุ้น นอกจากนี้พวกผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีและอื่น ๆ ได้รับการประเมินในรายละเอียดและจะถูกกำหนดเป็นหุ้น บริษัท มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบรรดาพวกเขา เลอโนโว่ กรุ๊ป ลงทุน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐพร้อมเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องและสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 24% บริษัท Moscow Burst Bear ซอฟต์แวร์ จำกัด ลงทุนหุ้นในเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐและมีสัดส่วนการถือหุ้น 27% บริษัทเลอโนโว่คิงซอฟท์ลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์และเงินทุนห้าล้านดอลลาร์สหรัฐโดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 11% และเฝิงหยู่เองลงทุน 55 ล้านเหรียญสหรัฐในอาคารสำนักงานชั้นสามเฝิงหยู่มีสัดส่วนการถือหุ้น 38% “ หลิ่วฉวนจื้อกล่าวต่อ
เงินทุนที่จ่ายโดยเฝิงหยู่เกิน 50% แต่อัตราส่วนการถือหุ้นเพียง 38% เนื่องจาก เฝิงหยู่ไม่มีเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคและไม่มีผลิตภัณฑ์ แต่เฝิงหยู่ยังรู้สึกว่าเขาสามารถทำกำไรได้
สามารถรวบรวมวิศวกรซอฟท์แวร์ที่มีความสามารถและศักยภาพมากมาย และในอนาคตจะเติบโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับการลงทุน
สำหรับสำนักงานชั้นที่สามของอาคารเฝิงหยู่นั้นเดิมทีว่างเปล่า เพื่อใช้ประโยชน์จากอาคารให้ดีที่สุด
สัดส่วนของหุ้นเหล่านี้ในความเป็นจริงบางส่วนยังไม่ได้พูดถึงชัดเจนเ เช่นหุ้นของบริษัทคิงซอฟท์ ไม่ใช่ของฉิวป๋อจวินแต่เพียงผู้เดียว แต่เดิมถือหุ้นตามสัดส่วน พวกเขาร่วมกันก่อตั้งบริษัทเลอโนโว่คิงซอฟท์เพื่อบริหารจัดการหุ้น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทนี้ก็คือ ฉิวป๋อจวิน เหลยต้าจวิน และผู้บริหารอื่น ๆ อีก และวิศวกรที่เหลือก็ยังร่วมถือหุ้นอีกด้วย มองจากมุมนี้ ฉิวป๋อจวินและคนอื่น ๆ ที่ ปฏิบัติต่อวิศวกรดีกว่าเลอโนโว่ กรุ๊ป
“อัตราส่วนนี้เป็นผลมาจากการตกลงของทุกคน ตอนนี้มีใครมีข้อคัดค้านหรือ มีไหม? โอเค งั้นลำดับต่อมาจากนั้นผู้บริหารของ บริษัทเลอโนโว่คิงซอฟท์จะได้รับการพิจารณาต่อไป  ตามที่ทุกคนตกลง ประธานบริษัท เลอโนโว่คิงซอฟท์ซอฟท์แวร์ผมจะเป็นคนรับผิดชอบเอง ในส่วนนี้ได้รับการพิจารณาจากประธานเฝิงและคุณคิริเลนโกะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการประกอบด้วยคุณคิริเลนโกะ มอสคอฟ เฝิงหยู่ ฉิวป๋อจวิน เหลยต้าจวิน จูลี่หนานและผม ทั้งหมดเจ็ดคน มีคณะกรรมการติดตามจำนวนห้าคนซึ่ง … มีใครคัดค้านหรือไม่?“ หลิ่วฉวนจื้อถามต่อ
นี่คือสิ่งที่ทุกคนได้ตกลงกัน อีกสามคนแต่ละคนเข้าสู่คณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัทคือหลิ่วฉวนจื้อ คณะกรรมการตรวจสอบได้รับการเสนอชื่อและก่อตั้งโดยเฝิงหยู่และแน่นอนว่าประธานคณะกรรมการคือเฝิงหยู่
สามวันต่อมา คิริเลนโกะ มอสคอฟ และกลุ่มอื่น ๆ มาถึงปักกิ่งและทุกคนก็ได้ทำการลงนามในเอกสาร บริษัทเลอโนโว่คิงซอฟท์ซอฟท์แวร์ก็ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
คณะกรรมการจะเลือกตามที่ทุกคนลงมติกัน หลิ่วฉวนจื้อเป็นประธานและแต่งตั้งนายจูลี่หนานเป็น CEO ของบริษัทเลอโนโว่คิงซอฟท์ซอฟท์แวร์และขอให้ฉิวป๋อจวิน เหลยต้าจวิน มอสคอฟ เป็นรองประธานและมอสคอฟเป็นประธานบริษัทมอสโก
จากระดับบนสู่ระดับล่าง ระดับพื้นฐานของการจัดการข้างต้นทั้งหมดได้ถูกกล่าวถึงเป็นระดับพื้นฐานที่ได้รับมอบหมายให้แต่งตั้งผู้นำของแต่ละสาขา สิ่งที่ทำให้ฉิวป๋อจวินสงสัยก็คือ เฝิงหยู่คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด แต่เขาได้ดำรงตำแหน่งกรรมการเพียงคนเดียวและไม่มีตำแหน่งหน้าที่อื่นและความรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงิน
ประธานเฝิงแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพวกเขา และมีความคิดต่างจากคนร่ำรวย  พวกเขาคงไม่เข้าใจหรอกมั้ง….
ติดตามเพจใหม่ได้ที่ https://www.facebook.com/ceonovel23