Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1417

อ่านนิยายจีนเรื่อง Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1417 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

บัดซบ เจ้ามันสัตว์ประหลาด!
ทุกคนตกตะลึงและไร้คำพูด
นี่มันเกินกว่าที่พวกเขาจะยอมรับได้ ทั้งที่ร่างกายถูกทุบตีจนรูปร่างบิดเบี้ยวแต่เจ้ากลับสามารถฟื้นสภาพกลับมาได้ในพริบตา?
แต่ทันใดนั้นเอง เหล่าปรมาจารย์ดาราต่างก็สูดหายใจลึกและดวงตาส่องประกาย
พลังฟื้นฟูนั่นต้องเป็นพลังของทักษะบ่มเพาะแน่นอนเนื่องจากพวกเขาไม่เห็นว่าหลิงฮันใช้สมบัติใดๆ!
ต่อให้ต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลขนาดไหนเพื่อใช้ทักษะบ่มเพาะนี้ แต่หากสามารถฟื้นฟูบาดแผลได้พริบตามันก็จะกลายเป็นไพ่ลับที่ช่วยให้รอดชีวิตได้อย่างแน่นอน
ขนาดหลิงฮันถูกโจมตีเละเทะจนคนอื่นคิดว่าตายไปแล้วยังฟื้นฟูกลับมามีสภาพสมบูรณ์ได้ในพริบตา ภายใต้ท้องฟ้านี้ มีทักษะบ่มเพาะที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้อยู่ได้อย่างไร?
อยากได้! ข้าอยากได้!
ปรมาจารย์ระดับดาราแต่ละคนจ้องมองหลิงฮันด้วยสายตาละโมภ แม้แต่จักรพรรดิโจ้วเทียนกับจักรพรรดิปี้ลั่วก็เช่นกัน แววตาของพวกเขาจดจ้องไปยังหลิงฮันราวกับไม่สนใจจักรพรรดินีแล้วในตอนนี้
ในโลกนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือพลัง หากมีพลังอำนาจ สถานะและสตรีงามก็จะเข้ามาหาเอง!
พวกเขาต้องการแย่งชิงทักษะบ่มเพาะของหลิงฮันมาเพื่อยกระดับพลังของตนเอง
“ไม่เลว แต่เจ้าจะทำแบบนั้นได้อีกกี่ครั้ง?” จักรพรรดิโจ้วเทียนลงมือปล่อยหมัดออกไป แม้หมัดจะดูเรียบง่ายแต่คลื่นของหมัดกลับครอบคลุมไปทั่วทุกทิศทาง
จักรพรรดิปี้ลั่วไม่ลงมือและเลือกที่จะรอ หลังจากหลิงฮันรับการโจมตีเขาก็จะลอบจู่โจมจากด้านหลังเหมือนกับที่จักรพรรดิโจ้วเทียนทำก่อนหน้านี้
“พวกตัวบัดซบ!” หลิงฮันสะบัดมือโยนเม็ดยาเพลิงลอยล่อง ก่อนหน้านี้จักรพรรดิปี้ลั่วใช้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่เป็นธาตุวารีและขยายร่างจนมีขนาดใหญ่ทำให้ไม่ได้รับผลจากเม็ดยาเพลิงลอยล่องเท่าไหร่
แต่จักรพรรดิโจ้วเทียนนั้นไม่ได้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ธาตุวารี
เม็ดยาระเบิดออกก่อให้เกิดคลื่นพลังที่รุนแรงกึกก้อง ชั้นอากาศที่ว่างเปล่าบิดเบี้ยวไม่เป็นรูปร่าง เหล่าปรมาจารย์ระดับดาราโดยรอบต่างแสดงท่าทีตกตะลึงในจำนวนเม็ดยาเพลิงลอยล่องที่หลิงฮันโยนออกไป
ใบหน้าของจักรพรรดิโจ้วเทียนเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด มือขวาของเขามีหยดโลหิตไหลซึมออกมาเนื่องจากการโจมตีเมื่อครู่ของหลิงฮัน
ถึงแม้จะเป็นเพียงบาดแผลเล็กน้อย แต่การที่เขาถูกทำให้บาดเจ็บโดยจอมยุทธระดับดาราขั้นกลางนั้นคือเป็นความอัปยศอันใหญ่หลวง
จักรพรรดิเช่นเขาไม่อาจมีชื่อเสียงมัวหมอง!
เจักรพรรดิโจ้วเทียนคำราม เขาใช้งานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์แปลงเป็นยักษ์เพลิงสูงพันฟุตและยกเท้ากระทืบเข้าใส่หลิงฮันและเนินเขาไปพร้อมกัน
ข้าจะเหยียบย้ำเจ้าด้วยเท่าให้เจ้าอัปยศยิ่งกว่าข้า!
หลิงฮันทะยานร่างขึ้นฟ้า เขาไม่อาจหลบไปไหนได้เนื่องจากต้องปกป้องเนินเขาด้านหลังที่ภรรยาของเขาบ่มเพาะพลังอยู่
หลิงฮันใช้กาลเวลาแปรผันพันปี แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนกับที่ผ่านๆมา ร่างเขาถูกซัดกระเด็นและจักรพรรดิปี้ลั่วก็ใช้โอกาสนี้ลอบจู่โจม หลิงฮันไม่สามารถหลบหลีกได้ เขาถูกทุบตีจนร่างกายบิดเบี้ยวและบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง
เขาใช้งานหยดวารีนิรันดร์เหมือนเดิม แต่หากใช้หยดวารีนิรันดร์ติดกันในช่วงสั้นๆ ประสิทธิภาพของมันจะลดลงอย่างมาก เมื่อเขาใช้หยดวารีนิรันดร์หยดที่สอง แม้ร่างกายจะฟื้นฟูกลับมามีสภาพสมบูรณ์แต่ความความที่ฟื้นฟูก็ช้ากว่าเดิมมาก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนตกตะลึงจนพูดไม่ออก ความสามารถในการรักษาบาดแผลที่น่าอัศจรรย์เช่นนั้นสามารถใช้ได้ติดต่อกัน!
“ช่างเข้าขากันได้ดีจริงๆ หรือว่าแท้จริงแล้วสวะเช่นพวกเจ้าจะร่วมมือกันรุมจัดการศัตรูมาตั้งนานก่อนหน้านี้แล้ว?” หลิงฮันเช็ดเลือดที่ปากและสบถด่า
ทั้งจักรพรรดิโจ้วเทียนและจักรพรรดิปี้ลั่วเปลี่ยนสีหน้าทันใด ปากของเจ้าหนูนี่ช่างหยาบคายยิ่งนัก เขากล้าด่าหยาบคายแม้กระทั่งกับจักรพรรดิเช่นพวกเขา!
“รนหาที่ตาย!”
หลิงฮันหัวเราะ เขาตั้งแขนเป็นคันศรและยิงศรฆ่ามังกรทะลวงดาราออกไป ทั้งจักรพรรดิโจ้วเทียนและจักรพรรดิปี้ลั่วหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกษรพลังปราณที่พุ่งเข้ามา พวกเขาสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามจากลูกศรพลังปราณนี้
ขนาดพวกเขายังรู้สึกถึงภัยอันตราย คนอื่นๆเองก็ย่อมรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน จอมยุทธคนใดที่พลังบ่มเพาะต่ำกว่าระดับดาราขั้นสูงสุด พวกเขาล้วนแต่หวาดกลัวจนแผ่นหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ หากเป้าหมายของลูกศรนั่นพุ่งมายังพวกเขา ในหมู่พวกเขาต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่สิ้นชีพ
แต่พร้อมกันนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิโจ้วเทียนหรือจักรพรรดิปี้ลั่วต่างก็ไม่ขยับตัวหลบ
นั่นเป็นเพราะหลิงฮันไม่ได้ยิงศรฆ่ามังกรทะลวงดาราออกไปอย่างเดียวแต่ยังปลดปล่อยอำนาจสวรรค์เหนี่ยวรั้งการเคลื่อนไหวของทั้งสองเอาไว้ด้วย
เพียงแต่ว่าจักรพรรดิก็ยังคงเป็นจักรพรรดิ ด้วยอำนาจอันองอาจและพลังบ่มเพาะที่สูงกว่าหลิงฮันหลายขั้นทำให้พวกเขาขยับตัวหลบได้ในทันที หลังจากนั้นทั้งสองคนได้ปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา
พวกเขาหันมองหน้ากันและมองเห็นความแน่วแน่ในแววตาของอีกฝ่าย
‘ต่อให้คราวนี้จะไม่สามารถได้ตัวจักรพรรดินี พวกเขาก็ต้องสังหารหลิงฮันให้ได้!’
รุ่นเยาว์ผู้นี้น่าสะพรึงกลัวเกินไป ด้วยอายุที่ไม่เกินห้าร้อยปีกลับมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวเพียงนี้ หากลองให้เวลาเขาสักห้าร้อยปีล่ะ?
เขาจะกลายภัยคุกคามในระดับที่จักรวรรดิอาจล่มสลาย!
ฆ่า! ต้องฆ่าหลิงฮันให้ได้! หลังจากช่วงชิงทักษะบ่มเพาะของอีกฝ่ายแล้วพวกเขาก็จะบุกไปชิงตัวจักรพรรดินี
“เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังอันแข็งแกร่ง เจ้าจะยังเล่นเล่ห์อะไรได้อีก?” จักรพรรดิโจ้วเทียนนำดาบออกมา แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ดาบเก้าอสุรกาย แต่ถึงอย่างนั้นอำนาจของดาบก็น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก คลื่นดาบทะยานสูงเสียดฟ้า ดาบเล่มนี้ต้องเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ประเภทดาบที่ทรงพลังที่สุดในระดับดาราเป็นแน่
จักรพรรดิปี้ลั่วมีท่าทีเคร่งขรึมและค่อยๆนำหอกสีมรกตเข้มออกมาอย่างช้าๆ หอกเล่มนี้เป็นสมบัติของจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีคราม ถึงแม้พลังของมันจะยังไม่ถึงขั้นของระดับวารีนิรันดร์ แต่ในหมู่ระดับดาราแล้วมันคืออุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ชั้นหนึ่ง
พวกเขาหวาดกลัวในศักยภาพของหลิงฮัน หากสังหารหลิงฮันไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตสัตว์ประหลาดตนนี้จะกลายเป็นภัยคุกคามขนาดไหน นอกจากนั้นพวกเขาก็ต้องแย่งชิงทักษะบ่มเพาะที่น่าอัศจรรย์ของหลิงฮันมาให้ได้
“จะวัดกันด้วยอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์?” หลิงฮันแสยะยิ้ม ทันทีที่เขานึกคิดดาบอสูรนิรันดร์ก็ปรากฏออกมาลอยเหนือหัวและปลดปล่อยแสงอันเจิดจรัส เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพียงอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบ แต่อำนาจที่มันปลดปล่อยออกมากลับเหนือยิ่งกว่าดาบของจักรพรรดิโจ้วเทียนและหอกของจักรพรรดิปี้ลั่วไม่รู้กี่เท่า
ทุกคนตกตะลึง เพียงแค่ดาบเล่มเดียวเหตุใดถึงได้มีอำนาจอันทรราชย์เพียงนี้?
แต่พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าในอนาคตแร่โลหะที่ใช้หลอมดาบอสูรนิรันดร์จะกลายเป็นแร่โลหะระดับนิรันดร์ เมื่อผสานกับเจตจำนงยุทธของหลิงฮันและอำนาจสวรรค์ พลังของมันจึงสูงยิ่งขึ้นไปอีก
โดยแก่นแท้แล้ว ดาบอสูรนิรันดร์มีระดับที่สูงกว่าหลิงฮันมากนัก
ในมือของหลิงฮันมีดาบไม้ถูกถือเอาไว้ มันคือดาบมารจากดินแดนใต้พิภพที่เขายังไม่สามารถฟื้นฟูอำนาจของมันให้กลับมาได้ แต่ตราบใดที่มันได้สัมผัสโลหิต พลังทำลายที่มันปลดปล่อยออกมาไม่ได้ด้อยไปกว่าดาบอสูรนิรันดร์เลย
ดาบอสูรนิรันดร์ปลดปล่อยแสงสว่างเจิดจรัสไปทั่วท้องฟ้า อำนาจของมันบดบังรัศมีความองอาจของดาบและหอกในมือจักรพรรดิทั้งสองจนแทบจะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่ดาบไม้นั้นแม้จะดูไร้พิษภัยแต่ภายในกลับแฝงเอาไว้ด้วยอำนาจแห่งความชั่วร้าย

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด