Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1828 สังหาร

อ่านนิยายจีนเรื่อง Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1828 สังหาร 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ทางด้านของลั่วจ่างเฟิงนั้น ตอนนี้ความคิดในหัวของเขากำลังขัดแย้งกัน
ควรจะหนีหรือไม่หนีดี?
หากจะหนีล่ะก็ ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากจื่อเหอปิงอวิ๋นที่กำลังถูกไล่ล่าเอาชีวิตนั้น ในช่วงวิกฤตเป็นตาย นางจะสามารถระเบิดพลังเฮือกสุดท้ายออกมาถ่วงเวลาหลิงฮันเอาไว้ได้ ซึ่งนานพอที่จะทำให้เขาหลบหนีพ้น
แต่ถ้าหากเขาเลือกที่จะหนีไป หยกต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ก็จะตกไปอยู่ในมือของหลิงฮันอย่างแน่นอน
ลั่วจ่างเฟิงนั้นครุ่นคิดอย่างรวดเร็วและตัดสินใจหลบหนี ขนาดการโจมตีผสานที่ทรงพลังที่สุดของเขากับจื่อเหอปิงอวิ๋นก็ยังไม่สามารถสังหารหลิงฮันได้ ต่อให้เขาอยู่ต่อไปก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
แถมเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดก็คือ หลิงฮันนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่แม้จะไม่สวมเกราะโลหิตมังกร ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากอำนาจเปลวเพลิงของเขตแดนลี้ลับแห่งนี้!
‘พรึบ’ แต่ในขณะที่เขาหันหลังและพยายามหลบหนีนั่นเอง จู่ๆคลื่นดาบก็พุ่งทะยานมาขวางทางเขา
ผู้ที่โจมตีคือจักรพรรดินี
ลั่วจ่างเฟิงชะงักก่อนจะหันไปมองจักรพรรดินีและกล่าว “แม่นางจงมากับข้า ด้วยอำนาจของข้า ในอนาคตข้าจะช่วยให้เจ้ามีสถานะเป็นถึงคุณหนูแห่งตำหนักเมฆาอัสนี!”
‘พรึบ’ จักรพรรดิให้คำตอบโดยการปลดปล่อยปราณดาบโจมตีอีกครั้ง
ลั่วจ่างเฟิงไม่คิดจะโน้มน้าวให้เสียเวลา เขาผลักฝ่ามือโจมตีตอบโต้จักรพรรดินีและทะยานร่างหลบหนีอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าอย่างไร สิ่งสำคัญอันดับแรกก็คือต้องหนีออกจากที่นี่ให้ได้ก่อน
จักรพรรดินีเค้นเสียงดูถูก ก่อนที่ร่างหลักและร่างแยกทั้งเก้าของนางจะทำการอัญเชิญสัตว์อสูรสงครามเปลวเพลิงนับร้อยออกมา
ถึงแม้นางจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลั่วจ่างเฟิง แต่ก็สามารถถ่วงเวลาเอาไว้ได้ชั่วขณะ เนื่องจากในตอนนี้ อีกฝ่ายกำลังอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงที่สุด
แผนการของจักรพรรดินีนั้นดูออกได้ไม่ยาก นางต้องการถ่วงเวลาลั่วจ่างเฟิงเอาไว้ เพื่อรอให้หลิงฮันเป็นคนกลับมาจัดการ
หลิงฮันจดจ้องไปยังจื่อเหอปิงอวิ๋นที่กำลังเผ่นหนี เขานำดาบอสูรนิรันดร์ออกมาพร้อมกับอัญเชิญสัตว์อสูรสงครามทั้งสิบ หลังจากที่พลังบ่มเพาะของเขาบรรลุเป็นนิรันดร์สามนิพพานแล้ว พลังของสัตว์อสูรสงครามก็ถูกยกระดับขึ้นมาหลายเท่า พวกมันแต่ละตัวมีพลังต่อสู้ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าจื่อเหอปิงอวิ๋น
ยิ่งพอพวกมันทั้งสิบโจมตีพร้อมกันแล้ว มีรึที่จื่อเหอปิงอวิ๋นจะต้านทานไหว?
“หากเจ้าสังหารข้า เจ้าจะถูกตัวตนทรงพลังของตระกูลจื่อเหอไล่ล่า! เจ้าควรรู้เอาไว้ว่า ถ้าหากเป็นศัตรูกับขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ล่ะก็ ต่อให้หนีไปสุดขอบโลก เจ้าก็ไม่มีวันรอดชีวิต!” จื่อเหอปิงอวิ๋นไม่ร้องขอความเมตตาและเลือกที่จะข่มขู่
หลิงฮันไม่แยแส เขาตั้งปฏิญาณเอาไว้แล้วว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังหารสตรีที่ไร้ความเป็นมนุษย์ผู้นี้ให้ได้
จื่อเหอปิงอวิ๋นรู้สึกสิ้นหวังอย่างแท้จริง กายหยาบของหลิงฮันไร้เทียมทานถึงขนาดที่สามารถท้านทานการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของนางได้ เพราะงั้นต่อให้นางลงมือโจมตีต่อไป อย่างมากหลิงฮันก็คงจะได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อยเท่านั้น
นางตาของนางส่องประกายโหดเหี้ยม ถ้าหากนางจะต้องตายอยู่ที่นี่ นางก็จะลากหลิงฮันไปด้วย!
เรือนร่างของจื่อเหอปิงอวิ๋นสั่นสะท้านเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆโปร่งใส ราวกับตัวตนของนางได้หายไปจากจุดที่นางยืนอยู่
หลิงฮันกวัดแกว่งดาบสะบั้นเข้าใส่นาง แต่แทนที่นางจะหลบหลีก นางกลับเลือกที่จะพุ่งทะยานร่างเข้าหาหลิงฮันแทน
‘ฉัวะ’ ดาบอสูรนิรันดร์ตัดผ่านร่างโปร่งใสของนางโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จื่อเหอปิงอวิ๋นรีบเข้าประชิดตัวอย่างรวดเร็ว และอ้าแขนโอบรัดหลิงฮันเอาไว้แน่น โดยที่เรือนร่างอันงดงามของนางได้มีตราประทับจำนวนมากพรั่งพรูออกมา
นี่คือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของนางอย่างแท้จริง แถมยังเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายอีกด้วย สิ่งที่นางกำลังจะทำคือการระเบิดแก่นกำเนิดนิรันดร์ออกมา และตายไปพร้อมกับศัตรู
เนื่องจากอยู่ภายใต้แรงรัดอันหนักแน่นของจื่อเหอปิงอวิ๋น หลิงฮันจึงไม่สามารถเข้าสู่หอคอยทมิฬได้ และต้องรับการโจมตีเพียงอย่างเดียว
“ห้วงมิติวายุคลั่ง!” จื่อเหอปิงอวิ๋นกล่าวออกมาเบาๆ ‘ครืนนน’ พริบตาเดียวกันนั้นเอง คลื่นพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว ก็ปะทุออกมาจากร่างกายของนาง
หลิงฮันรู้สึกราวกับร่างกายกำลังถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เพียงแต่หลังจากที่บรรลุเป็นนิรันดร์สามนิพพาน กายหยาบของเขาก็เกือบจะยกระดับเทียบเท่าแร่โลหะกึ่งนิรันดร์สามดาวแล้ว เขาเค้นเสียงเย็นชาและโคจรอำนาจของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์
เมื่อความสามารถของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ถูกกระตุ้น พลังป้องกันของเขาจะพุ่งทะยานเพิ่มสูงขึ้นเป็นเวลาสั้นๆ ซึ่งต่อให้เป็นการโจมตีของตัวตนระดับตัดวิญญาณหยิน เขาก็สามารถต้านทานไหว
‘ตูม’ วายุห้วงมิติโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่หลิงฮันยืนรับการโจมตีด้วยท่าทีนิ่งเฉย
จื่อเหอปิงอวิ๋นเผยสีหน้าตกตะลึง โดยที่ทำใจเชื่อไม่ลงว่า การโจมตีครั้งสุดท้ายของนางจะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อหลิงฮันเลยแม้แต่น้อย!
เพื่อการโจมตีนี้ นางถึงขนาดยอมสละแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง อย่างน้อยเจ้าก็น่าจะได้รับบาดเจ็บสักหน่อยไม่ใช่รึไง?
แต่นางไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไปแล้ว เรือนร่างอันงดงามของนางๆค่อยแตกร้าวราวกับเศษกระจก แม้แต่ดวงวิญญาณเองก็แหลกสลายลอยไปตามสายลม
น่าพิสมัย
หลิงฮันไม่แสดงสีหน้าเป็นทุกข์หรือมีความสุข การเข่นฆ่านั้นไม่ใช่สื่งที่น่าพิสมัยอยู่แล้ว แต่การที่เขาไม่สามารถสังหารจื่อเหอปิงอวิ๋นด้วยมือของตนเองนั้น ทำให้เขารู้สึกสลดต่อเหล่าคนแคระที่ต้องตายอย่างไร้ความเป็นธรรม!
สายตาของเขากวาดมองไปยังลั่วจ่างเฟิง และรังเกียจที่จะต้องสังหารใครเพิ่มอีกสักคน
เมื่อถูกสายตาของหลิงฮันจับจ้องขนทั่วร่างของลั่วจ่างเฟิงก็ตั้งชันทันที เขาส่งเสียงคำรามและพุ่งทะลวงผ่านวงล้อมของสัตว์อสูรสงครามเปลวเพลิงนับร้อยของจักรพรรดินี ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามเข้าปะทะกันหลิงฮันเด็ดขาด เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงต้องมีจุดจบตามจื่อเหอปิงอวิ๋นไป
ในฐานะที่เป็นถึงผู้สืบทอดของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ และเป็นอัจฉริยะที่มีความหวังบรรลุเป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์ในอนาคต เขาจะมาตายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
ด้วยการที่ลั่วจ่างเฟิงดิ้นรนเอาชีวิตรอดอย่างสุดชีวิต จักรพรรดินีจึงไม่สามารถรั้งเอาไว้ได้อีกต่อไป เขาพุ่งหนีออกมาจากวงล้อมสัตว์อสูรสงครามได้แต่ก็ต้องแลกมาด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วน ซึ่งแน่นอนว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ลั่วจ่างเฟิงย่อมไม่สนใจอยู่แล้ว
หลิงฮันโคจรทักษะแสงอัสนีและไล่ตามลั่วจ่างเฟิง
ลั่วจ่างเฟิงเผยสีหน้าอัปยศอย่างถึงที่สุด ในสายตาของเขา หลิงฮันนั้นเป็นเพียงขยะไร้ค่า การที่ต้องมาถูกขยะไร้ค่าไล่ล่าเช่นนี้ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอาย
รอให้ออกไปจากเขตแดนลี้ลับแห่งนี้ก่อนเถอะ!
ลั่วจ่างเฟิงกล่าวในใจ หลิงฮันคือคนที่ครอบครองอำนาจต้นกำเนิดสวรรค์และปฐพีอยู่ถึงสองชนิด แถมยังอาจจะได้ครอบครองหยกต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ด้วย เพราะงั้นเขาจึงไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายลอยนวลไปไหนได้อย่างแน่นอน เขาจะไปเรียกปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งของตำหนักเมฆาอัสนีมาช่วยกำราบหลิงฮัน และแย่งชิงวาสนามาจากอีกฝ่าย
ทั่วร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยคลื่นสายฟ้า กายหยาบกำเนิดอัสนีสวรรค์ระเบิดพลังออกมา และพุ่งทะยานหนีด้วยความเร็วสูง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด