Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1365
หลิงฮันถอนหายใจ “ข้ารู้ว่าเท่านี้ยังไม่พอ!”“ฮึ่ม นี่เจ้ากำลังโอ้อวด?” ทั่วทั้งใบหน้าหานซินเหยียนประดับไว้ด้วยความตกตะลึงจนลืมหยอกล้อหลิงฮัน“ข้าจะโอ้อวดทำไม?” หลิงฮันประหลาดใจ“ก็เจ้าบอกเองว่าจดจำสมุนไพรได้ถึงสี่แสนชนิดไม่ใช่รึไง?” หลินอวีฉีกล่าวย้ำหลิงฮันชะงัก เขาสามารถจดจำสมุนไพรได้ราวๆสี่แสนกว่าชนิดจริงๆ แต่ลืมไปว่าสำหรับโลกภายนอก การจดจำสมุนไพรได้ถึงสี่แสนชนิดนั้นเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์เกินไปแต่ในเมื่อกล่าวออกไปแล้วคงคืนคำพูดตัวเองไม่ได้ เขาทำได้เพียงพยักหน้า“นี่ไม่เจ้ากำลังโกหกก็คงเป็นสุดยอดอัจฉริยะ!” หลินอวีฉีกล่าว“ข้าศึกษารูปลักษณ์ของสมุนไพรมาตั้งแต่อายุแปดปี หนึ่งแสนหกพันปีที่ผ่านมานี้ข้าไม่เคยพลาดที่จะลืมจดจำเลยซักวัน แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังจดจำสมุนไพรได้เพียงสองแสนเจ็ดหมื่นชนิดเท่านั้นซึ่งนับว่าเป็นอัจฉริยะแล้ว” หานซินเหยียนเอ่ยแทรกหลิงฮันตกตะลึง นี่สมองของเจ้าทำด้วยอะไร เวลาตั้งหนึ่งแสนปีเจ้าจดจำสมุนไพรได้เพียงสองแสนเจ็ดหมื่นชนิด?แต่ตำหนักเป่าหลินจะยอมฟูมฟักนักปรุงยาที่มีศักยะภาพปานกลางได้อย่างไร? พรสวรรค์ของในศาสตร์แห่งการปรุงยาของหานซินเหยียนนั้นโดดเด่นมากเขาเองก็เห็นด้วยตาตนเองแล้วดังนั้นปัญหาจึงไม่ใช่ที่ตัวหานซินเหยียนแต่เป็นเขา!เขาที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นจักรพรรดิแห่งศาสตร์ปรุงยา ย่อมมีพรสวรรค์ในการจำแนกสมุนไพรที่หาใครทัดเทียม“ขอพี่สาวทดสอบเจ้าหน่อย” หลินอวีฉีนำสมุนไพรออกมาและเอ่ยถาม “สมุนไพรชนิดนี้คืออะไร?”“ดอกบัวตะวันแผดเผา” เขาตอบกลับไปในขณะที่ชำเลืองมองเพียงพริบตาหลินอวีฉีหั่นสมุนไพรออกเป็นหลายส่วนและกล่าว “ต่อพวกมันกลับให้เป็นเหมือนเดิม”หลิงฮันสะบัดมือ ชิ้นส่วนสมุนไพรนับไม่ถ้วนลอยขึ้นกลางอากาศและค่อยๆเชื่อมต่อกันด้วยปราณก่อเกิด ผ่านไม่นานดอกบัวก็กลับมามีสภาพตูมดังเดิมทั้งหลินอวีฉีกับหานซินเหยียนตรวจสอบสมุนไพรก่อนที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึงอย่างปิดไม่มิด“ต่อเลย” หลินอวีฉีหยิบสมุนไพรชิ้นอื่นๆออกมาเพื่อเพื่อทดสอบหลิงฮันสมุนไพรบางชนิดที่เขายังจดจำไม่ได้เขาข้ามพวกมันไปทันที แต่ถ้าเป็นอันไหนที่เขารู้เขาสามารถเชื่อมพวกมันให้กลับมาในสภาพเดิมได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะถูกหั่นออกเป็นกี่ส่วนหลินอวีฉีกลายเป็นไร้คำพูด เขารู้ว่าหลิงฮันมีพรสวรรค์โดดเด่นในด้านหลอมเม็ดยา แต่ไม่คาดคิดว่าแม้กระทั่งพรสวรรค์ในด้านสมุนไพรก็ยังน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า นางหันหลังและใช้อำนาจแห่งกฏเกณฑ์เป็นโล่ป้องกันการรับรู้ของหลิงฮันเมื่อหันกลับมา บนมือของนางก็มีชิ้นส่วนที่ถูกหั่นจากสมุนไพรหลายชนิดวางอยู่ปะปนกัน“ในมือข้ามีสมุนไพรอยู่ทั้งหมดกี่ชนิดและพวกมันคือสมุนไพรอะไร?” นางถาม การทดสอบครั้งนี้ถูกเพิ่มระดับความยากขึ้นหลิงฮันเอ่ยชื่อของสมุนไพรแต่ละชนิดออกมาทีละอัน จนสุดท้ายมีสมุนไพรเพียงสามชนิดที่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อของมันออกมา “ส่วนที่เหลือข้ายังไม่ได้จดจำพวกมัน”หลินอวีฉีกับหานซินเหยียนตกตะลึงจนไร้คำพูด เพื่อที่จะทดสอบแน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องจดจำสมุนไพรมาบ้างเหมือนกัน แต่ต่อให้พวกนางรู้จักสมุนไพรเหล่านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอ่ยชื่อของพวกมันออกมาได้รวดเร็วเหมือนหลิงฮันชายคนนี้ราวกับว่าจดจำสมุนไพรทั้งหมดจนฝังลึกไปยังแก่นแท้ของสมอง เขาสามารถจำแนกชนิดสมุนไพรได้จากชิ้นส่วนทุกส่วนของสมุนไพรมีสมุนไพรบางชนิดที่มีรูปลักษณ์คล้ายกันมากแต่หลิงฮันกลับสามารถเอ่ยชื่อแยกประเภทได้โดยไม้ต้องเสียเวลาครุ่นคิด การทดสอบเมื่อครู่หลินอวีฉีจงใจนำชิ้นส่วนของสมุนไพรที่คล้ายคลึงกันถึงสิบชนิดปะปนกันแต่หลิงฮันก็แยกแยะพวกมันได้โดยไม่ผิดพลาดแม้แต่น้อย“ครั้งนี้จะยากขึ้นอีก” หลินอวีฉีนำสมุนไพรร้อยชนิดออกมา ซึ่งหลิงฮันสามารถบอกชื่อของพวกมันได้ทั้งหมด หลังจากนั้นนางได้หั่นพวกมันออกเป็นหลายล้านชิ้นก่อนจะทำให้กระจัดกระจายกันออกไปและวางไว้บนโต๊ะ “ทำให้กลับเป็นเหมือนเดิม”หลิงฮันยิ้ม เขาสะบัดมือนำสมุนไพรลอยขึ้นฟ้าและกวาดตามอง ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของสมุนไพรเหล่านี้ถูกจดจำไว้ในสมองของเขาหมดแล้ว สมองของเขาทำงานด้วยความเร็วสูงและรวมสมุนไพรให้เข้ากันอย่างรวดเร็วในศาสตร์แห่งการปรุงยาไม่ว่าจะส่วนใดพรสวรรค์ของเขาถือว่าโดดเด่นไร้ใครเทียบ ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในทวีปฮงเทียน ตราบใดที่เห็นสมุนไพรแม้แต่ครั้งเดียวเขาก็จะจดจำพวกมันได้อย่างสมบูรณ์แม้พลังบ่มเพาะจะไม่สูงเหมือนตอนนี้และยิ่งพลังบ่มเพาะของเขาสูงขึ้น ความสามารถในการจดจำก็ยิ่งแม่นยำขึ้นเศษสมุนไพรที่ถูกหั่นออกเป็นหลายล้านชิ้นค่อยๆกลับมาสู่รูปทรงดั้งเดิมของพวกมันดวงตาคู่งามของหลินอวีฉีกับหานซินเหยียนเริ่มขยายกว้างขึ้น แม้กระทั่งปากก็อ้าออกเป็นวงกลมผ่านไปอีกไม่นานหลิงฮันก็หยุดมือพร้อมกับรวมสมุนไพรทั้งหมดให้กลับสู่สภาพเดิมได้เสร็จสมบูรณ์“เจ้ามันไม่ปกติ!” หลินอวีฉีดึงสายตากลับมาจากความตะลึง แววตาของนางปริ่มไปด้วยความหลงไหลกับว่าการเคลื่อนไหวอันลื่นไหลของหลิงฮันนั้นทำให้จิตใจของนางหวั่นไหวหานซินเหยียนไม่ปกปิดความรู้สึกเลื่อมใสที่ผุดขึ้นในใจ “กว่าข้าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างน้อยล้านปี”“พ่อหนุ่ม จงเข้าร่วมกับตระกูลหลินของข้า!” แววตาของหลินอวีฉีส่องประกาย “ข้ายกหานซินเหยียนให้เจ้าเลยเป็นไง?”“พี่สาวอวีฉี!” หานซินเหยียนตะคอกด้วยใบหน้าแดงก่ำหลิงฮันหัวเราะและกล่าว “เจ้าชอบพูดล้อเล่นอยู่เรื่อย”.เมื่อเห็นหลิงฮันปฏิเสธ หานซินเหยียนก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย สตรีผู้นี้ช่างแปลกประหลาดนัก นางเป็นคนไม่ยินยอมแท้ๆ แต่พอเขาปฏิเสธกลับมีท่าทีไม่พอใจหลินอวีฉีทำท่าทียั่วยวนก่อนจะเขยิบเข้าใกล้หลิงฮัน กลิ่นหอมจากร่างของนางเย้ายวนเป็นอย่างมาก “น้องชาย หรือว่าเจ้าจะชอบสตรีมีอายุเช่นพี่สาวคนนี้?”“พี่สาวอวีฉี!” หานซินเหยียนรีบดึงหลินอวีฉีกลับมากด้วยท่าทีเขินอาย เมื่อครู่เพิ่งจะยกนางให้คนอื่น คราวนี้ถึงขนาดยกตัวเองให้แล้ว?“หน้าอกเล็กๆเช่นเจ้าน่ะ ไม่มีใครเอาหรอก!” หลินอวีฉีผลักหานซินเหยียนไปด้านข้างและเผยเนินอกของตนเอง ภูเขาสองลูกมีขนาดที่น่าอัศจรรย์และเป็นความภาคภูมิใจของสาวงามเช่นนางหลิงฮันทำเพียงยิ้มตอบและกล่าว “ข้ามีภรรยาแล้ว หากเจ้าต้องการเข้าตระกูลหลิงคงต้องเป็นภรรยาคนที่ยี่สิบสอง”“เจ้าเคยบอกว่าคนที่สิบเก้าไม่ใช่รึ?” หลินอวีฉีหัวเราะและจงใจทำให้ภูเขาขนาดมหึมากระเพื่อมเพื่อดึงดูดสายตาหลิงฮันหลิงฮันกล่าว “คนฝักใฝ่ในรักเช่นข้า ในช่วงครึ่งปีนี้เป็นธรรมดาที่จะมีภรรยาเพิ่มขึ้น”หานซินเหยียนไม่รู้ว่าที่หลิงฮันกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือล้อเล่นแต่เผลอแอบคิดในใจไปว่าหลิงฮันที่เป็นนักปรุงยามากพรสวรรค์จะมีเวลาเพียงพอให้กับภรรยาถึงสิบสองคนรึ?
คอมเม้นต์