Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1351
จ้าวขู่ไม่กล้าลีลา เขารีบพาสนมทั้งสิบสองและกองทหารปฐพีหลบหนี ส่วนเรื่องจะกลับมาแก้แค้นรึไม่นั้นค่อยว่ากันผู้คนของนิกายมังกรปฐพีที่หลืออยู่ตกอยู่ในความสิ้นหวัง แม้แต่จ้าวขู่ก็ยังเผ่นหนี!“เดรัจฉานเช่นพวกเจ้าไม่อาจปล่อยให้มีชีวิตรอด!” หลิงฮันลงมือสังหารอย่างไรความปรานีเฟิงโปหยุน ติงผิงและคนอื่นๆก็ลงมือบดขยี้นิกายมังกรปฐพีเช่นกันหลังจากการล่าสังหารเสร็จสิ้น ทุกคนก็รู้ว่าความแค้นอันหนักอึ้งในจิตใจถูกยกออกไปในที่สุดห้านิกายโบราณก็ถูกลบออกไปจากประวัติศาสตร์อย่างสมบูรณ์ พวกเขาไม่ต้องกังวลว่าจะมีเหตุการณ์แบบทวีปฮงเทียนเกิดขึ้นอีกหลิงฮันเก็บรวบรวมทรัพย์สินที่ได้จากสงครามเรือเหาะมีขนาดใหญ่เกินไป แม้แต่สัมผัสสวรรค์ของเขาก็ไม่สามารถครอบคลุมได้ทั่ว แถมการจะทำให้มันล่องลอยบนฟ้า เขาจำเป็นต้องใช้ผลึกก่อเกิดมหาศาลหลิงฮันไม่ได้มั่งคั่งขนาดนั้นเขาลงมือรื้อถอดเรือเหาะและขนของมีค่าออกจากเรือเหาะ หากพบแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ก็จะนำไปให้ดาบอสูรนิรันดร์ดูดกลืน วัสดุอื่นๆจากเรือก็จะนำไปขายเป็นผลึกก่อเกิดเมื่อหลิงฮันถอดรูปแบบอาคมรูปแบบสุดท้ายของเรือออก เรือเหาะก็สูญเสียความสามารถในการลอยกลางอากาศและตกลงสู่พื้นทันที แต่เนื่องจากด้านลงเป็นแอ่งน้ำความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงไม่หนักหนามากนักแต่คลื่นกระแทกของเรือเหาะขนาดใหญ่ก็ส่งผลให้พื้นที่รอบข้างสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหวโชคดีที่ที่นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โครงสร้างของพื้นดินจึงเสถียรอย่างมาก หากเป็นโลกใบเล็ก คลื่นกระแทกจากเรือคงหนีไม่พ้นส่งผลให้ดวงดาวระเบิด ความเสียหายจะรุนแรงกว่านี้อย่างน้อยหมื่นเท่าสมกับที่จ้าวขู่เป็นทายาทของตัวตนระดับวารีนิรันดร์ หลิงฮันได้รับแร่โลหะศักดิ์มามากมาย ดาบอสูรนิรันดร์ได้กลืนกินพวกมันอย่างบ้าครั้งจนค่อยๆยกระดับเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเก้า ขนาดของมันที่หดลงก่อนหน้านี้ก็ฟื้นสภาพกลับมา แม้จะยังไม่เท่าเดิมแต่ตอนนี้ตัวดาบก็มีขนาดราวๆสองฟุตแล้วหลิงฮันรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก พวกเขาเดินจากออกจากนิกายมังกรปฐพีและมุ่งหน้าไปยังเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อขายวัสดุต่างที่ได้จากการรื้อถอนเรือเหาะผลจากการเก็บเกี่ยวนั้นมหาศาลอย่างมาก บางทีเขาอาจจะมีเงินมากพอที่จะซื้อแร่โลหะระดับเก้าจำนวนมากและยกระดับดาบอสูรนิรันดร์ให้เป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบได้เลย หากเป็นเช่นนั้นอำนาจของดาบอสูรนิรันดร์จะเหนือกว่าระดับพลังของหลิงฮันพวกเขาเดินทางมาถึงเมืองเมืองวายุผสาน ที่นี่เป็นเมืองขนาดมหึมาที่มีตัวตนระดับดาราคอยคุ้มกันอยู่ ทั้งวรยุทธต่างๆและธุรกิจการค้าของเมืองนี้รุ่งเรืองอย่างมากหากพูดถึงการค้าขายก็ต้องเป็นโรงประมูลจินหยวน หลิงฮันส่งลูกศิษย์ไปจัดการเรื่องต่างๆโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเองหลังจากผ่านไปครึ่งวันเศษๆ ศิษย์ทั้งห้าก็กลับมาเพื่อแจ้งว่านำของไปส่งให้โรงประมูลเรียบร้อย ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังนำข่าวใหญ่กลับมาด้วย อีกไม่นานนี้ การประมูลครั้งใหญ่จะถูกจัดขึ้น หนึ่งในสินค้าที่จะถูกประมูลคือ… แก่นไขกระดูกหยก!แก่นไขกระดูกหยก… มันคือสิ่งที่เฒ่าสวีขอให้หลิงฮันตามหา ชายชราไม่ได้บอกเอาไว้ว่าสิ่งนี้ใช้ทำอะไรได้ เขากล่าวเพียงแค่หากหลิงฮันพบเห็นสิ่งนี้จะต้องนำมันกลับไปให้เขาให้ได้*เฒ่าสวี คนที่สอนทักษะจิตเจ็ดสังหารให้หลิงฮัน ***เฒ่าสวีกับแก่นไขกระดูกหยก ผมไม่ได้บันทึกชื่อไว้เลยขอแปลใหม่เลยหลิงฮันไม่เคยลืมเรื่องนี้แถมยังบอกให้พี่น้องทั้งสามกับเหล่าศิษย์คอยตามหาสิ่งนี้ด้วย ไม่คาดคิดว่าจู่ๆมันจะปรากฏขึ้นเช่นนี้“อาจารย์ สิ่งนั้นสามารถใช้ทำอะไรได้?” ติงผิงเอ่ยถาม“ข้าก็ไม่รู้” หลิงฮันยักไหล่ศิษย์ทั้งห้ามีสีหน้างงงวย ไม่รู้วิธีใช้แต่กลับตามหา?หลิงฮันหัวเราะ “คงต้องลองไปสอบถามเสียหน่อย” ในเมื่อรู้แล้วว่าแก่นไขกระดูกหยกจะถูกนำมาประมูล ทำไมไม่ไปสอบถามเสียหน่อยล่ะ?หลิงฮันมุ่งหน้าไปสอบถามรายละเอียดของแก่นไขกระดูกหยกการข้อมูลที่ได้มา สิ่งนี้มีคุณสมบัติสองอย่าง หนึ่งคือมันสามารถช่วยระงับและรักษาพิษที่มีคุณสมบัติเผาผลาญได้ สองคือมันมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูพลังชีวิต กล่าวได้ว่ามันคือสมบัติที่ถูกสร้างขึ้นจากปาฏิหาริย์ของสวรรค์และปฐพี ความสามารถในการฟื้นฟูของมันยอดเยี่ยมกว่าเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่หลายขุมดังนั้นราคาของแก่นไขกระดูกหยกจึงสูงเป็นอย่างยิ่งและดึงดูผู้คนจำนวนมากให้มาประมูล ไม่ว่าอย่างไรสมบัติที่สามารถรักษาพลังชีวิตได้ก็ถือว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดหลิงฮันถอนหายใจ ตอนนี้เขากลับมาพบเจอปัญหาเดิมๆอีกแล้วไม่มีเงิน!ถึงแม้วัสดุที่เขาส่งไปประมูลจะสามารถขายได้เป็นเงินจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะเพียงพอกับแก่นไขกระดูกหยกรึเปล่า ยิ่งกว่านั้นเขาก็ยังต้องการซื้อแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์อีกเป็นจำนวนมากจะหาเงินอย่างไรดี?“อาจารย์ ที่เมืองนี้มีลานประลองอยู่ ทุกๆครั้งที่ชนะเงินพนันจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่หากชนะสิบครั้งติดต่อกันเงินพนันจะเพิ่มขึ้นถึงพันเท่า! แต่หากพ่ายแพ้จะไม่ได้อะไรเลย” เจียนเยว่ซวนกล่าว“โอ้?” หลิงฮันตาโตทันที “แล้วการประลองยุติธรรมรึไม่?”ถ้าชนะเก้าครั้งรวดแล้วครั้งที่สิบทางนั้นส่งจอมยุทธที่ระดับสูงกว่าหนึ่งระดับเต็มลงมาประลอง ใครจะเอาชนะการประลองสิบครั้งติดต่อกันได้?“ผู้ประลองจะพบกับคู่ต่อสู้ที่ระดับพลังเท่ากันเท่านั้น” เจียนเยว่ซวนกล่าว “เพียงแต่ว่าตัวอาจารย์นั้นไม่สามารถเข้าร่วมได้”“ทำไมกัน?”“มีกฎว่าผู้ลงประลองต้องเป็นจอมยุทธที่ระดับพลังต่ำกว่าดาราเท่านั้น” เจียนเยว่ซวนหัวเราะหลิงฮันกลายเป็นไร้คำพูด แต่พอคิดดูแล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเมืองนี้มีตัวตนระดับดาราคอยคุ้มครอง นั่นหมายถึงจอมยุทธระดับดาราเป็นตัวตนสูงสุดของเมืองนี้ แล้วพวกเขาจะยอมลดสถานะของตัวเองลงมาประลองเพื่ออะไร?“ไปกันเถอะ พวกเจ้าจะต้องชนะเพื่อข้า!” หลิงฮันทำได้เพียงพึ่งพาคนอื่น“ข้าจัดการเอง!” ติงผิงตบหน้าอก “ศิษย์จะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง”“ไม่ ให้ข้าเอง!” เฉินหลุยเจียงรีบกล่าวแทรกเหล่าศิษย์แย่งกันเป็นคนแก้ไขปัญหาให้กับหลิงฮัน“ฮ่าๆ น้องสี่ พวกเราก็อยากจะลองเหมือนกัน” เฟิงโปหยุนกับมู่หลงชิงเสนอตัวหลิงฮันครุ่นคิดและกล่าว “ในกลุ่มพวกเรา ติงผิงคือคนที่ได้เปรียบที่สุดคือติงผิงที่ขัดเกลาพลังบ่มเพาะบรรลุระดับภูผาวารีขั้นสมบูรณ์ชั้นกลาง ในหมู่จอมยุทธระดับเดียวกันเขากล่าวได้ว่าเป็นตัวตนไร้พ่าย”ทุกคนพยักหน้า ในการประลองคู่ต่อสู้จะเป็นจอมยุทธระดับเดียวกันเท่านั้น แต่ชั้นพลังต่ำ กลาง สูง ปลายหรือสูงสุดนั้นไม่จำเป็นต้องเท่ากันดังนั้นยิ่งขั้นพลังสูงก็ช่วยรับประกันว่าจะไม่เสียเปรียบให้กับคู่ค่อสู้ระดับเดียวกันยิ่งกว่านั้นจะมีสักกี่คนเชียวที่ขัดเกลาพลังบ่มเพาะจนบรรลุขั้นสมบูรณ์?น้อยมาก! เพราะงั้นคนเหล่านี้จึงเป็นราชาในหมู่ราชา!“เช่นนั้นคนลงประลองคนแรกให้เป็นหน้าที่ของติงผิง เจ้าต้องเอาชนะสิบครั้งติดต่อกันเพื่อให้เงินเดิมพันเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่าให้ได้” หลิงฮันตัดสินใจเดิมพันผลึกก่อเกิดทั้งหมดไปกับติงผิง“อาจารย์โปรดไว้ใจศิษย์!” ติงผิงตบหน้าอกอย่างมั่นใจ
คอมเม้นต์