Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1220
ในที่สุดหลิงฮันก็เริ่มออกเดินทางเดิมทีพาหนะแหวกเมฆาไม่สามารถนั่งได้หลายคน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะมันได้ถูกดัดแปลงเป็นเรือเหินดาราแล้ว หลังจากที่ป้อนพิกัดดาวเข้าไปมันก็สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเองดังนั้น ทุกคนสามารถเข้าไปฝึกฝนอยู่ด้านในหอคอยทมิฬอย่างหายห่วง โดยไม่จำเป็นต้องมีคนคอยขับขี่แม้พาหนะแหวกเมฆาจะได้รับการดัดแปลง แต่มันก็ยังต้องใช้เวลานานถึงสองปีกว่าจะไปถึงดาวหยุนติ่ง!แต่สำหนับตัวตนระดับพระเจ้า เวลาสองปีไม่ได้นานอะไรเลย แต่พวกเขาทุกคนก็ไม่สามารถปล่อยให้เวลาสองปีสูญเปล่าได้ฝึกฝน! ฝึกฝน! และฝึกฝน!ถึงหอคอยทมิฬจะขาดแคลนพลังปราณ แต่เรื่องนั้นก็ไม่สำคัญ เพราะหลิงฮันมีผลึกก่อเกิดและเม็ดยาจำนวนมาก ตราบใดที่หลิงฮันยังคงเป็นผู้นำ เขาก็สามารถจัดหาเม็ดยาให้เหล่าพรรคพวกของเขาได้ ดังนั้นความก้าวหน้าของทุกคนจึงเป็นไปแบบก้าวกระโดดทุกคนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนบ่มเพาะพลัง แต่หลิงฮันใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการปรุงยาตั้งแต่ที่เขาทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทรา เขาก็พยายามหลอมเม็ดยาปราณโลหิตคลั่ง แล้วด้วยการฝึกฝนอยู่ใต้ต้นสังสารวัฎ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่ารากฐานพลังไม่เสถียรเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งเป็นเม็ดยาระดับแปด แต่ตอนนี้หลิงฮันเป็นแค่นักปรุงยาระดับห้าเท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหลอมเม็ดยาข้ามระดับได้ขนาดนั้น แต่โชคยังดีที่เขามีสูตรเม็ดยาโบราณอยู่ เม็ดยาเหล่านั้นเป็นเม็ดยาระดับหกและเจ็ด ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่เขาจะหลอมสำเร็จหลิงฮันนำสูตรปรุงยาระดับหกออกมา มันมีชื่อว่าเม็ดยาระเบิดอัสนีหลังจากที่ใช้เม็ดยานี้แล้วจะใช้พลังสายฟ้าได้และยกระดับพลังต่อสู้ได้สองดาวถึงมันจะเพิ่มพลังต่อสู้ได้แค่สองดาว แต่อย่างได้ดูถูกมันเชียว ต้องทราบก่อนว่าทั้งที่หลิงฮันมีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม ยังมีพลังต่อสู้แค่หกดาว การที่พลังต่อสู้สองดาวถือว่ายอดเยี่ยมหรือไม่? แต่ถ้ายิ่งพลังต่อสู้สูงเท่าไหร่ ประสิทธิภาพของมันก็จะลดลงเท่านั้น และอาจเพิ่มพลังต่อสู้ได้แค่หนึ่งดาวผ่านไปห้าเดือน ในที่สุดหลิงฮันก็หลอมเม็ดยาระเบิดอัสนีสำเร็จเป็นครั้งแรก หลังจากที่ล้มเหลวทั้งหมดเก้าครั้งจากนั้น เขาก็เริ่มศึกษาปรุงยาเม็ดยาระดับเจ็ดที่มีชื่อว่าเม็ดยาชำระล้างกระดูกที่สามารถช่วยยกระดับกายหยาบได้เขาใช้เวลานานขึ้น หลังจากผ่านไปเจ็ดเดือนเต็ม หลิงฮันเริ่มลองอีกครั้ง และเมื่อเขาหลอมเม็ดยาชำระล้างกระดูกสำเร็จเป็นครั้งแรก การเดินทางสองปีของเขาเองก็ใกล้จะถึงสิ้นสุดหลังจากที่เฟิงโป๋วหยุนและคนอื่นๆ ทะลวงผ่านระดับ พวกเขาไม่เพียงแค่ทำให้รากฐานพลังมั่นคงเท่านั้น แต่ยังมีความก้าวหน้าที่เห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งติงผิง เขาทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุดแล้ว มันน่าทึ่งมากด้านหน้าของพวกเขามีดาวสีแดงปรากฏอยู่ นั่นคือดาวหยุนติ่งเหตุผลที่มันมีสีแดงเพราะมันมีสิ่งชีวิตใต้น้ำที่มีชื่อว่า สาหร่ายเมฆโลหิต ที่เติบโตอยู่ทุกหนแห่งในดาบหยุนติ่งและดาวหยุนติ่งมีพื้นที่น้ำมาก ดังนั้นทั้งดาวจึงมีสีแดงพาหนะแหวกเมฆาหยุดเคลื่อนที่ ตอนนี้มันถูกควบคุมโดยหลิงฮัน อย่างไรก็ตามหลังจากที่มันถูกดัดแปลงเป็นเรือเหินดารา มันจึงไม่ใช่พาหนะที่โปรยบินบนท้องฟ้าได้อีกต่อไป นั่นเป็นเพราะความเร็วต้นของมันจะช้า แต่เมื่อความเร็วของมันไปถึงจุดสูงสุด มันก็จะรวดเร็วมากและง่ายต่อการชนดังนั้น ไม่ว่าหลิงฮันจะระมัดระวังแค่ไหน พาหนะแหวกเมฆาก็กระแทกพื้นอยู่ดีเมื่อร่อนลง แต่โชคดีที่มีรูปแบบอาคมป้องกันอยู่ ทำให้มันทนต่อแรงกระแทกดังกล่าวและไม่พัง มิฉะนั้นหลิงฮันมันคงเป็นปัญหาสำหรับหลิงฮันแน่ตอนกลับดาวเหอหนิงเขาเก็บพาหนะแหวกเมฆาเข้าไปในหอคอยทมิฬ และพาเฟิงโป๋วหยุนกับคนอื่นๆออกมาสัมผัสกับพลังปราณของที่นี่“พลังปราณของที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์กว่าดาวเหอหนิงกับดาวเฟยหยุนเล็กน้อย” พวกเขากล่าว“บางทีระดับของจอมยุทธของที่นี่ก็อาจจะสูงกว่าด้วย”จุดลงจอดของพวกเขาอยู่ในส่วนลึกของภูเขา หลังจากใช้ความพยายามเล็กน้อยเพื่ออกมาจากพื้นที่ภูเขา ในไม่ช้าพวกเขาก็เห็นเมืองที่ใกล้ที่สุดอย่างแรกเลยที่พวกเขาต้องทราบคือ พวกเขาอยู่ที่ไหนและห้านิกายโบราณอยู่ที่ไหนเมื่อพวกหลิงฮันมาถึงเมือง พวกเขาต่างก็เผยสีหน้าประหลาดใจ เพราะภายในเมืองมากมีจอมยุทธหัววัว หัวแกะ และหัวเสือ และอื่นๆนี่หมายความว่า…สัตว์อสูรฝึกฝนบ่มเพาะพลังจนทะลวงผ่านขอบเขตพระเจ้า จึงแปลงกายเป็นมนุษย์ได้!ในดาวเหอหนิงและดาวเฟยหยุน สัตว์อสูรและเผ่ามนุษย์นั้นไม่ถูกกัน เจ้ากินข้า ข้ากินเจ้า และสังหารกันไปมา แต่ที่นี่มีเผ่ามนุษย์อยู่หลายคนอาศัยอยู่ภายในเมือง และดูเหมือนพวกเขาจะเข้ากันได้ดีกับสัตว์อสูรต่างดาว ต่างวัฒนธรรมมันดูแปลกตาสำหรับพวกเขามาก แต่สัตว์อสูรครึ่งมนุษย์กลับไม่สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ราวกับคุ้ยเคยจอมยุทธเผ่ามนุษย์หลิงฮันและพรรคพวกของเขาเดินเข้าไปในโรมเตี๊ยมแห่งหนึ่งเพื่อหาข้อมูล เขาเรียกบริกรคนหนึ่งมาพูดคุย และในที่สุดเขาก็เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับดาวดวงนี้มากขึ้นเหตุผลที่ว่าทำไมสัตว์อสูรและเผ่ามนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันได้นั้น นั่นเป็นเพราะพวกเขามีศัตรูร่วมกัน นั่นคือดินแดนใต้พิภพ!หลังจากที่หลิงฮันซื้อแผนที่ ในที่สุดเขาก็ค้นพบตำแหน่งที่ตั้งของห้านิกายโบราณ มันตั้งอยู่ในใจกลางจักรวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งไม่ไกลจากพวกเขาเท่าไหร่นัก จากที่นี่น่าจะเดินทางประมาณครึ่งเดือนจักรวรรดิราชวงศ์!นี่แสดงให้เห็นขุมพลังนี้จะต้องมีจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์จักรพรรดิแห่งจักวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นที่รู้จักกันในนาม จักรพรรดิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ และกล่าวกันว่าเขาทะลวงผ่านจุดสูงสุดของระดับวารีนิรันดร์เมื่อล้านปีก่อน ตอนนี้เขากำลังวางแผนที่จะสืบทอดบัลลังก์ให้กับคนรุ่นหลัง เพื่อทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่งส่งต่อบัลลังก์ให้กับคนรุ่นหลัง ไม่ใช่ลูกหลานทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น?นั่นเป็นเพราะจักรพรรดิเพลิงศักดิ์สิทธิ์มีชีวิตอยู่มานานมาก บุตรชายและหลานของเขาต่างก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว แต่เขายังมีลมหายใจอยู่
คอมเม้นต์