Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1072
วันนี้คือวันที่จะมีการตรวจสอบต่อหน้าสาธารณชนในข้อห้ากบฏของหลิงฮันช่วงเวลากลางวันกองทัพได้ส่งตัวทหารไปนำตัวหลิงฮันมายังห้องโถงกลางของกองทัพที่มีไว้สำหรับสอบสวนความผิด ที่นี่แต่เดิมแล้วใช้เป็นห้องประลอง ตรงกลางห้องโถงเป็นพื้นเรียบทรงกลมโดยที่ถูกล้อมไปด้วยอัฒจันทร์ขั้นบันไดและไม่มีเก้าอี้ให้นั่งที่นั่งมีเพียงสามที่สำหรับผู้ตัดสิน พวกเขานั่งอยู่ในแท่นที่ยกสูงขึ้นไปอีกเพื่อมองสอบสวนหลิงฮัน ผู้ตัดสินทุกคนที่ดวงตะวันและจันทราอยู่ด้านหลังพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมาหลิงฮันไม่ถูกสวมกุญแจมือเพราะเขาเพียงถูกสงสัยว่าอาจจะเป็นกบฏเท่านั้นเขายืนอยู่คนเดียวตรงกลางห้องสอบสวนโดยถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนโดยรอบที่ยืนอยู่ทุกคนล้วนแต่อดสงสัยไม่ได้ว่า ชายหนุ่มที่ถูกจักรพรรดินีเรียกเข้าพบหลายครั้งในหนึ่งปีคนนี้จะจบชีวิตลงในการสอบสวนครั้งนี้จริงๆ?สุ่ยเยี่ยนยวี่ หลี่เหว่ยเหว่ย จื่อหยุนเอ๋อ สตรีคนอื่นๆรวมถึงสหายของหลิงฮัน หลินยู่ หม่าชิงและเย่เชิงหยุนก็มาเช่นกัน ส่วนจ้าวหลุนกับชาหยวนนั้นพวกเขามาล่วงหน้าก่อนแล้วเพื่อรอดูการแสดงสนุกๆ“หลิงฮัน เจ้ายอมสารภาพผิดรึไม่?” ผู้ตัดสินทั้งสามคนคือ คงเฉิ่งเหอ กู่เทียนชู หนานเม่ยหยาง เสียงของกู่เทียนชูดังก้องกังวาลและสร้างแรงกดดันไปถึงจิตวิญญาณถ้าเป็นคนอื่นหากถูกถามด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังไปถึงจิตวิญญาณเช่นนี้คงจะสารภาพออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจ ที่พวกเขาทั้งสามคนได้ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินนั้น แน่นอนว่าเป็นเพราะพวกเขาฝึกฝนทักษะทางจิตวิญญาณอย่างเชี่ยวชาญแต่จิตวิญญาณของหลิงฮันนั้นแข็งแกร่งและมั่นคง บวกกับแก่นพลังของจ้าวอสูรด้วยแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำจิตวิญญาณของหลิงฮันหวั่นไหว อย่างน้อยก็ต้องเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นกลางที่แข็งแกร่งถึงจะสามารถทำได้หลิงฮันตอบอย่างสงบนิ่ง “ข้าไม่รู้ว่าข้ามีความผิดใดที่ต้องสารภาพ!”“ช่างกล้า!” คงเฉิ่งเหอจ้องเขม่นด้วยสายตา “ต่อหน้าการสอบสวนเจ้ายังกล้าเล่นลิ้นอยู่อีก จงรีบสารภาพความเกี่ยวข้องระหว่างเจ้ากับแคว้นราชสีห์ทองมาซะ”หลิงฮันเผยรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด จะให้ข้าสารภาพอะไร?”“เหอะ ข้านึกแล้วว่าเจ้าต้องทำเป็นไม่รู้ ก็ได้ งั้นเรียกพยานมา!” หนานเม่ยหยางสะบัดมือพยานเดินลงมาคนแรกคือจ้าวหลุน!ขณะที่มองอีกฝ่ายเดินลงมาจากอัฒจันทร์หลิงฮันก็อดส่ายหัวในใจไม่ได้ เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นบุตรของจอมพลจ้าวที่ยิ่งใหญ่ แต่เจ้ากลับเอาแต่ทำเรื่องที่ลดค่าตัวเอง?คนที่มีจิตใจคับแคบเช่นนี้การสำเร็จในอนาคตย่อมถูกจำกัดทุกคนกล่าวกันเป็นเสียงเดียวกันว่าจ้าวหลุนเป็นอัจฉริยะที่อยู่เหนืออัจฉริยะในหมู่จอมยุทธอายุใกล้เคียงกัน ในอนาคตมีแต่คนคิดว่าเขาจะกลายเป็นตัวตนระดับดารา แต่หลิงฮันมองเช่นนั้นเขาเคยเห็นตัวตนระดับดารามาพอสมควร ถึงแม้นิสัยอารมณ์ของแต่ละคนจะต่างกัน แต่สิ่งที่พวกเขาทุกคนมีเหมือนกันคือกลิ่นอายราชันที่อยู่เหนือคนทั่วไปและความแน่วแน่ แต่ตัวจ้าวหลุนเขามองเห็นเพียงความอ่อนหัดและใจเสาะ คนเช่นนี้ถูกกำหนดให้มีสามารถทะลวงผ่านระดับดาราได้สำเร็จแน่นอนที่จ้าวหลุนในตอนนี้ยังสามารถบ่มเพาะพลังได้อย่างรวดเร็วอย่างแรกเป็นเพราะระดับพลังยังต่ำอยู่ อย่างที่สองคือเขามีบิดาที่ไม่ลังเลจะมอบทรัพยากรทุกอย่างให้กับเขา ไม่เช่นนั้นคนที่มุมมองเช่นเขาไม่มีทางทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราในระยะเวลาหมื่นปีแน่นอนจ้าวหลุนมองมาที่หลิงฮัน เมื่อเห็นสายตาที่เหยียดหยามจากอีกฝ่ายเขาก็แทบจะปะทุความโกรธออกมาเจ้าเป็นผู้ต้องหาแถมยังเป็นเพียงจอมยุทธจากโลกใบเล็ก เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเหยียดหยามข้า?เขาเป็นถึงบุตรของจอมพลจ้าว สถานะของเขาสูงกว่าผู้คนเกินกว่าเก้าส่วนในจักรวรรดิแห่งนี้!ข้าจะสังหารเจ้าให้ได้!จ้าวหลุนแสยะยิ้มแสยะกล่าว “จ้าวหลุนคารวะผู้อาวุโสทั้งสาม!”ผู้ติดสินทั้งสามเป็นคนของกองทัพ พวกเขามีตำแหน่งเป็นอัศวินของจักรพรรดิ ในห้องโถงแห่งนี้พวกเขาจึงมีสถานะสูงกว่าจ้าวหลุน ต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้จ้าวหลุนจึงต้องยอมลดฐิติลงมา“ทายาทจ้าวไม่ต้องมากพิธี!” ถึงแม้พวกคงเฉิ่งเหอทั้งสามคนจะมีสถานะสูงกว่า พวกเขาก็กล่าวตอบจ้าวหลุนด้วยน้ำเสียงสุภาพ พวกเขาจะไม่ไว้หน้าบุตรของจอมพลจ้าวได้อย่างไร?“พวกบัดซบ!” หลี่เหว่ยเหว่ยพึมพำ แต่เสียงของนางไม่ใช่ว่าจะเบาๆในสถานที่เช่นนี้คนที่กล้ากล่าวดูถูกผู้พิพากษาคงจะมีแค่หลี่เหว่ยเหว่ย ชาหยวน จ้าวหลุนและทายาทขุมอำนาจที่ทรงอำนาจอื่นๆพวกคงเฉิ่งเหอทั้งสามคนชะงักเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอายคงเฉิ่งเหอกล่าว “ทายาทจ้าว ท่านเป็นหนึ่งในผู้นำกองทัพสำรวจและเป็นคนนำกองกำลังบุกลอบโจมตีแคว้นราชสีห์ทองคำด้วยตัวเอง ช่วยเล่าเหตุการณ์ในตอนนั้นหน่อยได้รึไม่”“ได้แน่นอน” จ้าวหลุนกล่าวด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมเพื่อเป็นการไว้หน้าผู้สอบสวนทั้งสาม “ข้าได้ปรึกษาหารือกับราชินีที่เก้าและนำกำลังคนข้ามแม่น้ำคลื่นพิโรธ…” เขาเริ่มเล่าเหตุการณ์ในวันนั้น เขาไม่ได้บิดเบือนเรื่องราวใดๆเพื่อจงใจใส่ร้ายหลิงฮันนั่นเพราะหน้าที่นี้ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องทำเอง แต่เป็นหน้าที่ของ ‘พยาน’ คนอื่นๆจ้าวหลุนแสยะยิ้ม เจ้าจงใจเอ่ยถึงราชินีที่เก้าหลายต่อหลายครั้งเพื่อประชดหลิงฮัน ขนาดหลิงฮันตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นนี้นางก็ยังไม่ปรากฏตัวเจ้ารู้สึกปวดใจรึไม่?ที่นางไม่ปรากฏตัวก็ไม่แปลก ใครไม่รู้บ้างว่าราชินีทั้งเก้ามีสถานะสูงส่งขนาดไหน พวกนางอยู่เหนือกฎทั้งปวงและมีอำนาจไม่ต่างกับองค์จักรพรรดินี พวกนางไม่มีใครเลยที่แต่งงาน!ในเมื่อราชินีแปดคนยังไม่ได้แต่งงาน ราชินีที่เก้าก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกันราชินีที่เก้าใกล้ชิดกันหลิงฮันเกินไป ซึ่งจักรพรรดินีจะต้องแทรกแซงเรื่องนี้แน่นอน!ในตอนแรกเขามีความรู้สึกไม่พอใจราชินีที่เก้าอย่างมาก แต่หลังจากที่กลับมาเขาก็ถูกจอมพลจ้าวกล่าวเตือนอย่างเอาเป็นเอาตายว่าห้ามมีความคิดเช่นนั้นกับราชินีที่เก้าเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นตัวของจอมพลจ้าวเองคงไม่พ้นถูกจักรพรรดินีตัดหัวการคิดร้ายต่อราชินีเป็นความผิดอันใหญ่หลวง!ขนาดข้าจ้าวหลุนยังไม่มีคุณสมบัติพอ แล้วมดปลวกจากโลกใบเล็กเช่นเจ้าจะมีสิทธิ์อะไร?สุดท้ายจ้าวหลุนก็แสดงความคิดของตนเองออกไป “ในตอนนั้นข้าสวมใส่เกราะสมบัติที่บิดาข้ามอบให้เอาไว้อยู่ เมื่อเกราะถูกกระตุ้นใช้งานเต็มที่ข้าจะสามารถป้องกันการโจมตีของจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุด ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังหลบหนีมาได้อย่างยากลำบากกว่าจอมยุทธของแคว้นราชสีห์ทองคำจะล่าถอยกลับไป”“ที่ข้าอยากถามก็คือขนาดตัวข้ายังลำบากแทบตายกว่าจะผ่าการไล่ล่ามาได้ แถมกองทัพที่ข้าพาไปด้วยทุกคนก็ล้วนแต่ตกตายด้วยเงื้อมมือของศัตรู แล้วจอมยุทธที่มีพลังบ่มเพาะเพียงภูผาวารีเช่นเจ้าจะสามารถหนีพ้นได้อย่างไร?”จ้าวหลุนกล่าวเสียงดังและชี้ไปยังหลิงฮัน
คอมเม้นต์