Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 985
“จ้าวหลุน เมื่อใดกันที่เจ้าขี้กระวนกระวายเช่นนี้?” ชาหยวนหัวเราะจ้าวหลุนเค้นเสียง เขาอ่อนเยาว์กว่าชาหยวนร้อยปีนิดๆ ดังนั้นเมื่อเขาเพิ่งทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดอีกฝ่ายก็บรรลุชั้นปลายของขั้นสูงสุดไปแล้ว ซึ่งหมายถึงเขายังอ่อนด้อยกว่าอีกฝ่ายถึงสามส่วนแต่ถ้าหากต้องสู้กันจริงๆเขาก็มั่นใจว่าด้วยทักษะลับในมือเขาจะต้องจัดการอีกฝ่ายได้แน่นอนหลิงฮันเดินมาถึงลานประลองตรงไหล่เขา เมื่อครึ่งปีก่อนที่นี่คือสถานที่ที่เขาประลองกับหลัวป้า เขาไม่นึกเลยว่าเขาจะต้องประลองเป็นตายอีกครั้งเร็วขนาดนี้ไป๋หยวนซือรออยู่กลางลานประลองแล้ว เขานั่งคุกเข่าสงบนิ่งราวกับเป็นรูปปั้นหินสำหรับจอมยุทธการนั่งรอเฉยๆไม่กี่ชั่วโมงไม่นับว่าเป็นเรื่องที่ยากเย็น พวกเขาสามารถสงบใจให้แน่นิ่งได้หลายวันหลิงฮันเดินไปหยุดยืนอยู่ด้านข้างไป๋หยวนซือ“มาแล้วรึ?” ไป๋หยวนซือลืมตาขึ้นหลิงฮันยิ้มและกล่าว “มาเริ่มกันเลย”“การทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นกลางด้วยเวลาทีรวดเร็วเช่นนี้คงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากสินะ?” ไป๋หยวนซือกล่าว“ก็ไม่ได้ยากเย็น” หลิงฮันตอบไป๋หยวนซือหยุดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “นายน้อยของข้ายังต้องการสุนัขรับใช้อยู่ เจ้ามีสิทธิ์เลือกว่าจะยอมสยบหรือจะยอมตาย!”หลิงฮันแสยะยิ้ม “เจ้าจะเป็นสุนัขรับใช้ก็เป็นไป เจ้าไม่ต้องมาลากคนอื่นไปเป็นกับเจ้าด้วย!”“โอหัง!” ไป๋หยวนซือคำราม เสียงของเขาแทบจะทำให้หูชาและชะงัก เสียงของเขาแฝงไปด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัว เขามองไปยังหลิงฮันอย่างเย็นชาและกล่าว “ในเมื่อเจ้าดื้อด้านขนาดนี้ก็ตกตายไปเสีย!”หลิงฮันยกหนึ่งมือขึ้นท้าทายและกล่าว “ถ้าเจ้าต้องการทิ้งชีวิตของตัวเองขนาดนั้นข้าก็ขอไม่ปรานี!”“พูดจาอวดดี!” ไป๋หยวนซือไม่ใช้อาวุธ เขาใช้มือขวาที่ถูกปกคลุมไปด้วยรูปแบบอักขระศักดิ์สิทธิ์โจมตีเข้าใส่หลิงฮันหลิงฮันยิ้ม เขายืนรับการโจมตีของอีกฝ่ายแต่โดยดี‘ตูม’ หมัดของไป๋หยวนซือปะทะเข้าใส่หน้าอกของหลิงฮัน อักขระนับไม่ถ้วนปลดปล่อยแสงอันไร้ที่สิ้นสุดออกมาใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส หลิงฮันถูกการโจมตีของเขาแล้ว ร่างของหลิงฮันจะต้องแหลกสลายแน่นอน แต่ทันใดนั้นเองสีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนไป นั่นเพราะร่างของหลิงฮันนันแน่นิ่งไม่ขยับแม้แต่น้อยนี่มันบ้าอะไรกัน!ยังไม่ทันที่เขาจะคิดเหตุผลว่าทำไมหลิงฮันถึงไม่บาดเจ็บ หลิงฮันก็ยกมือขึ้นพร้อมกับโยนตาข่ายออกมาตาข่ายขนาดใหญ่สยายออกและคลุมร่างของไป๋หยวนซือเอาไว้ไป๋หยวนซือตกตะลึงแต่ไม่ลนลาน เขาติดตามจ้าวหลุนไปยังโบราณสถานต่างๆและพบเจอกับภัยอันตรายมามากมาย หากเขาไม่สามารถมีสติอยู่ตลอดเวลาเขาจะมีคุณสมบัติติดตามจ้าวหลุนได้อย่างไร?‘ฟุบ’ เขารีบชักดาบเพื่อเตรียมตอบโต้ ดาบนั้นส่องประสายและส่งเสียงราวกับกำลังร้องเพลง“ลาก่อน!” หลิงฮันนำคันศรและลูกศรออกมาพร้อมกับโคจรทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราเขาไม่คิดเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายตอบโต้ และต้องการกำจัดเขี้ยวเล็บของจ้าวหลุนทิ้งซะ!ทันใดนั้นขนทั่วร่างของไป๋หยวนซือก็ลุกซู่ เขาสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายที่ร้ายแรง แต่เมื่อเขาพยายามจะรีดเค้นพลังในร่างกลับพบว่าพลังปราณของเขาถูกสะกดเอาไว้เขาสามารถใช้พลังปราณได้แค่ของระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นกลางเท่านั้น!ตาข่ายนี่มันอะไรกัน?ในขณะที่เขากำลังคิดเช่นนี้ลูกศรในมือของหลิงฮันก็เล็งขึ้นเหนือหน้าอกของเขาหลิงฮันปล่อยมือ ลูกศรที่ถูกยิงออกไปนั้นพุ่งทะยานราวกับสายน้ำฉึก!ลูกศรพุ่งทะลวงศีรษะของไป๋หยวนซือโดยไม่มีแรงต่อต้าน‘พลั่ว’ ศีรษะทั้งหัวของไป๋หยวนซือระเบิดกระจุย!ผู้คนรอบข้างกลายเป็นไร้คำพูดใครจะไปคาดคิดว่าหลิงฮันจะเอาชนะไป๋หยวนซือได้? นอกจากนั้นก็ไม่ใช่แค่ชัยชนะธรรมดาแต่เป็นการสังหารอย่างเด็ดขาด ถ้าหากไป๋หยวนซือเป็นฝ่ายสังหารหลิงฮันได้ก็คงไม่มีใครแปลกใจเพราะไป๋หยวนซือมีพลังที่สูงพอแต่ตอนนี้ทุกคนล้วนแต่อ้าปากค้างทำใจเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ลงความต่างของระดับพลังของไป๋หยวนซือกับหลิงฮันแทบจะห่างกันห้าขั้น!นอกจากนั้นไป๋หยวนซือก็ยังเป็นอัจฉริยะเกือบสามดาว ด้วยพลังต่อสู้เช่นนี้เขาพลังของเขาแทบจะห่างกับหลิงฮันเจ็ดดาวพลังต่อสู้ที่ห่างกันเจ็ดดาวยังต้องตกตาย?เรื่องแบบนี้ใครจะไปทำใจเชื่อได้ลง?ณ ยอดเขา ใบหน้าของจ้าวหลัวเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันทีคนเช่นเขาย่อมไม่เก็บเรื่องความตายของไป๋หยวนซือมาใส่ใจ อีกฝ่ายเป็นเพียงสุนัขที่ทำงานเพื่อเขา หากเขาต้องการหาสุนัขตัวใหม่ใครกันจะไม่ยินยอม?แต่ปัญหาก็คือสุนัขนั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของ ตอนนี้สุนัขของเขาถูกสังหารต่อหน้าต่อตา แบบนี้จะให้เขาไม่รู้สึกเสียหน้าได้อย่างไร?“ข้ารู้แล้ว ตาข่ายนั่นคือตาข่ายผนึกสีชาด!”“อะไรคือตาข่ายผนึกสีชาด?”“ตาข่ายผนึกสีชาดคือตาข่ายที่ใช้ผนึกพลัง เมื่อถูกผนึกพลังบ่มเพาะจะถูกสะกดให้ลดลงมาหนึ่งขั้น!”“เป็นเช่นนี้เอง!”ผู้คนรอบข้างพยักหน้าเข้าใจ ถ้าไป๋หยวนซือถูกลดลงมาหนึ่งขั้น งั้นพลังต่อสู้ของเขาก็คงเหลือเพียงภูผาวารีขั้นกลางชั้นสูงสุดเท่านั้น การที่หลิงฮันจะสังหารเขาก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้“ฮึ่ม!” จ้าวหลัวกระโดดลอยลงมาจากยอดเขาและหยุดยืนอยู่ด้านข้างไป๋หยวนซือ เขาจ้องไปยังหลิงฮันด้วยสายตาเย็นชาและกล่าว “เจ้าสังหารเขารึ?”‘เจ้าตาเจ้าไม่บอด เจ้าก็น่าจะเห็นไม่ใช่รึ!” หลิงฮันไร้พลังอย่างสิ้นเชิงหลังจากใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราออกไปด้วยพลังทั้งหมด แต่ก็ใช้ว่าเขาจะหวั่นเกรงอีกฝ่ายทุกคนสูดหายใจลึก จ้าวหลุนนั้นเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสำนักนภาสีชาด แถมยังเป็นบุตรชายคนเดียวของนายพลจ้าว!ใบหน้าของจ้าวหลุนมืดมนและเย็นชา “ในเมื่อเจ้าสังหารคนของข้าก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก จงคุกเข่าลงและฆ่าตัวตายเสีย!”หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “นายน้อยจ้าวเจ้าบ้ารึเปล่า? คนของเจ้าไม่สามารถูกสังหารงั้นรึ? นี่คือการประลองที่ถูกต้อง และข้าก็สังหารเขาตามกฎของการประลอง!”“เหอะ สังหารคนของข้ายังไงเจ้าก็ต้องการ!” จ้าวหลุนขมวดคิ้วและปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวออกมา“ไร้สาระ!” หลิงฮันเค้นเสียง เขาคิดจะหยิบตาข่ายผนึกสีชาดขึ้นและเดินจากไป‘พรึบ’ แต่ในตอนนั้นเองจ้าวหลุนก็ลงมือโจมตีใส่หลิงฮันระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดและเป็นอัจฉริยะสี่ดาว การโจมตีของเขาจะทรงพลังขนาดไหน? ยิ่งกว่านั้นตอนนี้หลิงฮันก็อยู่ในสภาพที่อ่อนแรงที่สุดด้วย‘ปัง’ หลิงฮันถูกฝ่ามือของอีกฝ่ายโจมตีใส่จนร่างกระเด็นทันที“ยังไม่ตาย?” จ้าวหลุนมองไปยังหลิงฮันที่กำลังกระอักโลหิต เขาอดแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาไม่ได้
คอมเม้นต์