ตอนที่ 215-1 คืนเข้าหอ

อ่านนิยายจีนเรื่อง ตอนที่ 100 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

สวีโย่วเท้าคางมองใบหน้าตอนหลับของเสิ่นเวย เสิ่นเวยตะแคงตัวนอน ผมดำปรกอยู่ล่างใบหน้า ดวงหน้าแดงระเรื่อ ริมฝีปากเล็กๆ สีชมพู ขนตาที่ยาวงอนราวกับพัดอันเล็กสะท้อนเงาดำอยู่ใต้ตา จมูกส่งเสียงหายใจเบาๆ ออกมา สวีโย่วมองจนจิตใจตื้นตัน น้องสี่แซ่เสิ่น เวยเวย นางผู้เป็นที่รักของเขา ในที่สุดเขาก็แต่งงานกับนางแล้ว/n /n /nสวีโย่วมองคนที่หลับสนิทอยู่ข้างกายด้วยความรักใคร่ เกิดความคิดซุกซน เอาผมหนึ่งช่อของนางมาปัดป่ายไปบนหน้านาง ชั่วขณะคิ้วงามของคนข้างๆ ก็ขมวดมุ่น ถูหน้าไปมาบนหมอน มุมปากสวีโย่วอมยิ้ม จากนั้นก็แกล้งนางอีกเล็กน้อย ครั้งนี้คิ้วของเด็กน้อยขมวดมุ่นยิ่งกว่าเดิม ศีรษะก็ขยับอย่างไม่สบายตัว คล้ายอยากสะบัดสิ่งที่สร้างความน่ารำคาญออกไป/n /n /nท่าทางน่ารักนั้นทำให้สวีโย่วอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เหตุใดเด็กน้อยคนนี้ถึงได้น่ารักเพียงนี้ สวีโย่ว/n /n /nตะแคงตัวหอมลงไปบนแก้มเสิ่นเวยอย่างแรง ทำให้เสิ่นเวยตื่นทันที/n /n /nเสิ่นเวยลืมตาที่สะลึมสะลือขึ้น ยังคิดว่าอยู่ในห้องตัวเอง เมื่อได้เห็นสวีโย่วที่ยิ้มสดใสราวกับดอกไม้ผลิบาน ก็ตระหนักได้ฉับพลันว่าตนแต่งงานแล้ว นี่ไม่ใช่ห้องของตัวเอง แสดงว่าเมื่อครู่คนโรคจิตผู้นี้กำลังก่อกวนตนอยู่หรือ เมื่อเห็นว่าบนมือสวีโย่วกำลังจับผมช่อหนึ่งของตนอยู่ เสิ่นเวยก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ตนก็อายุยี่สิบสองแล้ว อายุเท่านี้แล้ว ยังเล่นอะไรที่ปัญญาอ่อนเช่นนี้อยู่อีก จะดีจริงๆ หรือ/n /n /nสวีโย่วเห็นใบหน้าที่ฉลาดปราดเปรื่องของเสิ่นเวยจนชินแล้ว ตอนนี้เห็นท่าทางสะลึมสะลือของนาง รู้สึกแปลกใหม่ยิ่งนัก! พลิกตัวกอดนางไว้ในอ้อมอกตนทันที ส่วนสีหน้ารังเกียจที่เด่นชัดบนใบหน้าเสิ่นเวย เขาทำเป็นว่าตัวเองตาบอดมองไม่เห็นไปเสีย/n /n /n“เด็กดื้อ ไม่รอข้าก็หลับก่อนแล้ว” สวีโย่วจิ้มจมูกเสิ่นเวยฟ้องร้องอย่างไม่พอใจ/n /n /nเสิ่นเวยไม่เคยสัมผัสกับผู้ชายระยะใกล้เช่นนี้มาก่อน ตอนนี้ซบอยู่บนร่างของสวีโย่ว รู้สึกทำตัวไม่ถูกยิ่งนัก อดขยับตัวอยากลุกขึ้นไม่ได้ แต่อับจนหนทางมือทั้งคู่ของสวีโย่วกอดหลังนางไว้แนบแน่น ไม่ให้นางหนี “ปล่อยมือ ให้ข้าลุก” กลิ่นสุราทั้งร่างเหม็นจะตายอยู่แล้ว เสิ่นเวยปิดจมูกดิ้นพล่านคิดจะออกห่างจากเขาเล็กน้อย/n /n /n“ไม่ปล่อย” ในดวงตาสวีโย่วอมยิ้ม พอใจยิ่งนัก! หญิงงามในอ้อมอกที่เฝ้ารอมาเนิ่นนาน เขาจะยอมปล่อยมือได้อย่างไร/n /n /n“จะปล่อยไม่ปล่อย” เสิ่นเวยแยกเขี้ยวใส่สวีโย่ว ดวงตามีความข่มขู่/n /n /nท่าทางกางกรงเล็กนั่นทำให้รอยยิ้มในดวงตาของสวีโย่วลุ่มลึกยิ่งขึ้น “ไม่ปล่อย!”/n /n /n“จะไม่ปล่อยจริงๆ ใช่หรือไม่” เสิ่นเวยหรี่ตาลง ดวงตามีประกายความชั่วร้ายกะพริบผ่าน/n /n /nสวีโย่วส่ายหน้า “ไม่ปล่อย!” เขากลับอยากดูว่าเด็กน้อยคนนี้จะเล่นลูกไม้อะไร/n /n /n“ข้าให้ท่านปล่อยไม่ปล่อย ให้ท่านปล่อยไม่ปล่อย!” ปากเสิ่นเวยกล่าวอย่างโหดเ**้ยมดุร้าย มือขาวนวลก็จู่โจมใบหน้าที่หล่อเหลาดั่งหยกใบนั้นของสวีโย่ว ดึงแก้มเขาบิดไปมาจนเป็นรูปร่างแปลกประหลาดต่างๆ นานา/n /n /nแรกเริ่มเป็นเพียงแค่การระบายอารมณ์ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นความสนุกสนาน หัวเราะคิกคักพลางขยุ้มหน้าของสวีโย่ว/n /n /nเสิ่นเวยเล่นอย่างสนุกสนาน สวีโย่วรู้สึกเพียงจนปัญญาเต็มทรวง “เด็กดื้อ” เขาเพียงพลิกตัวเบาๆ ก็กดเสิ่นเวยไว้ข้างใต้แล้ว ดวงตามีประกายอันตราย “เวยเวยอยากให้ข้าพาเข้าเรือนหอเลยหรือไม่” พูดพลางคร่อมตัว/n /n /n“ไม่เอา” ร่างของเสิ่นเวยแข็งทื่อในชั่วพริบตา ของแข็งๆ ที่ดันนางอยู่นั่นก็คือของอย่างว่าใช่หรือไม่ ให้ตายเถอะ อันตรายนัก! รีบเอาออกไปได้หรือไม่/n /n /n“ไม่เอาหรือ เวยเวยทำร้ายจิตใจข้าเก่งจริงๆ” สวีโย่วมองเสิ่นเวยที่กลายเป็นลูกแมวน่ารัก น่าสงสาร ในใจก็ยิ่งพอใจ ทว่าบนใบหน้ากลับแสดงท่าทีเจ็บปวดออกมา ซ้ำยังตั้งใจดันนางเล็กน้อย/n /n /n“ท่าน ท่านอย่าเข้ามา!” เสิ่นเวยหาเสียงของตัวเองกลับมาอยู่นาน ก่อนหน้านี้หมอนี่ก็ปกติมาโดยตลอด เหตุใดถึงกลายเป็นผีทะเลในชั่วพริบตา เมื่อเห็นความหยอกล้อในดวงตาของสวีโย่ว เสิ่นเวยก็โมโหแล้ว หยิกเอวของอย่างแรงหนึ่งครา/n /n /n“ท่าน ลุกให้ข้าเดี๋ยวนี้” เสิ่นเวยกัดฟันกรอด แทบจะกล่าวหนึ่งคำหยุดหนึ่งหน ความขายหน้าในใจมากยิ่งกว่าความเขินอาย แม้ว่าจะไม่เคยสู้รบจริงๆ มาก่อน แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นคนที่ผ่านสังคมสกปรกโสมมในยุคปัจจุบันมาแล้ว เหตุใดถึงได้ถูกคนโบราณลวนลามเอาได้ จะลวนลามก็ควรเป็นนางที่ลวนลามเขา!/n /n /nสวีโย่วเห็นสุนัขจิ้งจอกน้อยโกรธเกรี้ยวแล้ว ก็ปล่อยนางอย่างเชื่อฟัง มือใหญ่ๆ ลูบไปตามผมสลวยของนาง กล่าวปลอบ “พอแล้วๆ ไม่แกล้งเจ้าแล้ว เป็นความผิดข้าเอง”/n /n /nเสิ่นเวยแค่นเสียงหึหนึ่งครา กลอกตาขาวมองเขาปราดหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นความผิดของเขา ตนนอนอยู่ดีๆ ไม่ได้ไปหาเรื่องเขาเลย/n /n /nเสิ่นเวยพลิกตัวลงจากเตียง เห็นว่าในห้องไม่มีคนรับใช้อยู่แม้แต่คนเดียว ก็ขมวดคิ้วจัดแจงชุดแต่งงานและผมให้เรียบร้อยด้วยตัวเอง เทียนสีแดงที่ใหญ่เท่าแขนสองเล่มลุกไหม้อยู่เงียบๆ ส่องให้ภายในห้องสว่างราวกับกลางวัน/n /n /n“โกรธจริงๆ หรือ” สวีโย่วมองเสิ่นเวยที่ก้มหน้าไม่พูดด้วยเสียงอ่อนโยน/n /n /nเสิ่นเวยชายตามองเขาปราดหนึ่ง “ขี้เกียจจะสนใจท่านแล้ว”/n /n /nสวีโย่วหัวเราะเบาๆ “ขอบคุณใต้เท้าฮูหยินที่ใจกว้าง” สายตากวาดมองโต๊ะอาหารโต๊ะนั้นที่ถูกแตะแล้วปราดหนึ่ง กล่าว “ฮูหยินกินอิ่มแล้ว ข้ายังหิวอยู่เลย ข้าช่างน่าสงสาร ฮูหยินกินเป็นเพื่อนข้าหน่อยเถอะ” เขากล่าวด้วยสีหน้าน้อยใจทั้งใบหน้า แต่เจ้าพูดก็พูดไปสิ จะเลียมริมฝีปากทำไม ลูกผู้ชายโตมาในตระกูลสูงศักดิ์เช่นนั้นเลียริมฝีปากเหมือนกับอะไรดี ไม่รู้หรือว่าจะทำให้เกิดอาชญากรรมได้ เสิ่นเวยอดทนเก็บความคิดที่จะผลักหมอนี่ให้ล้ม เบะปากเดินเข้าไป/n /n /nสวีโย่วจูงมือของเสิ่นเวย ดึงนางมานั่งบนตักตน เสิ่นเวยกลุ้มใจ มารตนนี้คงไม่คิดจะกินแบบนี้ใช่หรือไม่ สวีโย่วหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้ว เฮ้ เขาคิดจะกินแบบนี้จริงๆ ด้วย/n /n /nเสิ่นเวยเพิ่งจะขยับได้เล็กน้อย สวีโย่วก็ตบหัวนางเบาๆ “เด็กดี ข้าหิวจริงๆ กินไปแต่สุรา”/n /n /nเสิ่นเวยเบ้ปาก ใครจะเชื่อ! ร่างกายอ่อนแอเช่นนั้นของเขาใครจะกล้ารินสุราให้เขาดื่ม แต่ว่าหัวใจเสิ่นเวยก็อ่อนลงแล้ว กอดก็กอดเถอะ อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว “กับข้าวเย็นหมดแล้ว ให้คนเอาไปจัดการใหม่เถอะ”/n /n /nสวีโย่วมองคนที่ยอมอยู่ในอ้อมอกโดยดี ถอนหายใจออกเสียงด้วยความพอใจ “ไม่ต้อง ดึกแล้วไม่ต้องทำให้ยุ่งยาก กินเท่าที่มีเถอะ” คำพูดนี้เขาที่เป็นคนพูดเองยังไม่เชื่อ จะมีคนใช้ไว้ทำไม ไม่ใช่ปรนนิบัตินายได้ทุกเวลาหรือ ขอเพียงแค่นายบอกว่าจะกิน ต่อให้เป็นกลางดึกครัวก็ต้องก่อไฟทันที กินเท่าที่มีอะไรกัน เพียงแค่อยากรีบกินให้ท้องอิ่มจะได้ลิ้มรสหญิงงามก็เท่านั้นเอง/n /n /nขณะที่สวีโย่วกำลังกิน ก็ไม่ลืมที่จะป้อนเสิ่นเวยไปหลายคำ เสิ่นเวยปฏิเสธไม่ได้ก็ทำได้เพียงกินเข้าไป กินไปพลางเสียดสีไปพลาง มารตนนี้ไม่ใช่ว่าเย็นชาสันโดษหรอกหรือ คิดจะเปลี่ยนนิสัยหรือไร/n /n /nกินอิ่มดื่มพอแล้ว สวีโย่วก็สะกิดเสิ่นเวยกล่าวอย่างมีเลศนัย “ดึกแล้ว ควรจะอาบน้ำเตรียมตัวได้แล้ว เจ้าก่อน หรือข้าก่อน หรือว่าพวกเราสองคนอาบน้ำพร้อมกันดี” แววตาเขามีไฟปรารถนา มองออกว่าเขาค่อนข้างโน้มเอียงไปทางตัวเลือกสุดท้าย/n /n /nเสิ่นเวยยื่นมือผลักเขาออกไป “ไม่ต้องแม้แต่จะคิด” แค่นเสียงหึหนึ่งคราเดินเข้าไปในห้องด้านใน/n /n /nสวีโย่วหัวเราะร่าฮ่าๆ อยู่ข้างหลัง “ดูท่าแล้วฮูหยินจะอดทนรอไม่ไหว วางใจ ข้าจะทำให้เจ้าพอใจแน่นอน”/n /n /nใบหน้าของเสิ่นเวยแตกระแหงในชั่วขณะ นางอดทนรอไม่ไหวงั้นหรือ เขาต่างหากที่อดทนรอไม่ไหวไม่ใช่หรือ/n /n /nหลีฮวาและคนอื่นๆ ข้างนอกได้ยินเสียงหัวเราะของท่านเขย จิตใจที่พะว้าพะวงก็วางลง เมื่อได้ยินคุณหนูของตนเดินเข้าไปในห้องด้านใน นางก็อยากเข้าไปรับใช้ แต่ก็เป็นกังวลท่านเขย ขณะที่นางกำลังลังเลไม่แน่ใจก็ได้ยินคุณหนูเรียกชื่อนาง นางจึงรีบผลักประตูเข้าไป ทำความเคารพท่านเขยแล้วจึงเข้าไปในห้องด้านใน/n /n /nเดิมเสิ่นเวยไม่คิดจะเรียกหลีฮวา แต่ไม่มีใครรับใช้แม้แต่ชุดแต่งงานที่ซับซ้อนบนร่างนั้นนางก็ยังจัดการไม่ได้/n /n /nสวีโย่วนอนอยู่บนเตียง หูฟังเสียงน้ำที่ดังมาจากห้องด้านใน ทั้งจิตใจรอคอย/n /n /nเสิ่นเวยแช่น้ำจนร่างทั้งร่างสบายขึ้นแล้ว ก็สวมชุดป้ายตัวในเดินออกมา ผมสีดำทิ้งตัวลงบนหัวไหล่ สวีโย่วมองใบหน้าเล็กๆ ที่ถูกน้ำร้อนรมจนแดงนั้น ก็ถีบขาทั้งคู่ลุกขึ้นจากเตียง เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปในห้องด้านใน/n /n /n“เดี๋ยวๆ เปลี่ยนน้ำ…” เสิ่นเวยยังพูดไม่ทันจบเขาก็หายไปไม่เห็นเงาแล้ว ข้างในมีเสียงที่มีความสุขของเขาดังออกมา “ไม่เป็นไร ข้าอาบน้ำที่เหลือจากฮูหยินก็ได้แล้ว”/n /n /n“ผู้ชายหน้าไม่อาย” ใบหน้าของเสิ่นเวยแดงขึ้นกว่าเดิม ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะโกรธหรือเขิน คงจะเป็นทั้งสองอย่าง!/n /n /nเสิ่นเวยนั่งลงริมเตียง หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเดินวนในห้อง เดินวนเสร็จแล้วก็นั่งลงอีกครั้ง แม้ว่าบนหน้านางจะพยายามสงบ แต่ก็ยังคงปิดบังความจริงที่จิตใจนางว้าวุ่นไม่ได้ ว่ากันว่าต้องหาประสบการณ์ความรู้ แต่อย่างไรเสียนี่ก็เป็นคืนแต่งงานครั้งแรกในชีวิตทั้งสองภพของนาง นางไม่มีประสบการณ์จริงๆ!/n /n /nตอนที่สวีโย่วออกมาก็เห็นเสิ่นเวยนิ่วหน้าเล็กๆ ท่าทางโมโหเคียดแค้น ก็อดหัวเราะไม่ได้ เสียงหัวเราะนี้ทำเสิ่นเวยตกใจ นางเงยหน้าขึ้น ก็เห็นท่อนบนที่เปลือยของสวีโย่ว จากนั้นก็เห็นนางถอยไปข้างหลังราวกับกระต่ายน้อยที่แตกตื่น ถอยไปได้หนึ่งก้าวก็ได้สติกลับมา กล่าวอย่างระมัดระวัง “ท่านจะทำอะไร” ในใจแอบด่าคนเสเพล แต่ดวงตากลับจ้องมองอย่างอดไม่ได้ จุๆๆ มารตนนี้ดูผอมอย่างยิ่ง ไม่คิดว่าเรือนร่างจะน่าทึ่งเช่นนี้ น่าลูบสักทีจริงๆ!/n /n /nสวีโย่วมองเด็กน้อยที่ปากไม่ตรงกับใจ เบื้องลึกในใจก็อารมณ์ดีอย่างอดไม่ได้ ก้าวยาวเข้าไปอุ้มเสิ่นเวยเข้ามาในอ้อมอก เลิกม่านเตียงแล้วโยนลงบนเตียง เสิ่นเวยยังไม่ทันได้ร้องอุทาน เขาก็กดตัวลงมาแล้ว “ฮูหยิน หนึ่งเค่อในราตรีงามล้ำค่าดั่งเงินทอง อย่าได้ทำลายค่ำคืนอันงดงามเช่นนี้เลย!”/n /n /nเสิ่นเวยมองใบหน้ามารที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ ใบนั้น ใบหน้างามก็แดงอย่างไม่รักดีอีกครั้ง ทำให้สวีโย่วหัวเราะเสียงดังขึ้นมาอีก ในใจเสิ่นเวยคับแค้นอย่างถึงที่สุด เห็นชัดๆ ว่านางมาจากยุคปัจจุบัน เหตุใดคนที่เขินอายถึงได้เป็นนาง ไม่ได้ นางต้องจู่โจมกลับ! เสิ่นเวยใจเต้นไม่สู้ขยับกาย อุ้งมือลูบตรงไปที่แผงอกของสวีโย่ว หนึ่งครั้ง สองครั้ง ความรู้สึกที่มือนับว่าไม่เลวอย่างยิ่ง/n /n /nเสิ่นเวยจมดิ่งอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่ทันได้รู้สึกตัวเสื้อผ้าก็ถูกสวีโย่วถอดออกไปหมดแล้ว นางร้องอุทานหนึ่งคราก็เอื้อมมือไปดึงผ้าห่ม แต่กลับถูกสวีโย่วกดไว้แนบแน่นขยับไม่ได้ “ฮูหยิน เรือนร่างของข้าน่าลูบไล้ใช่หรือไม่”/n /n /nเสิ่นเวยเก็บอุ้งมือกลับมาทันที แต่ถูกสวีโย่วคว้าไว้ได้ กดลงบนอกของตน ดวงตาของเขามีเปลวไฟเล็กสองลูกกะพริบวาบ เสียงก็แหบพร่าขึ้นมา “ดูท่าแล้วเวยเวยจะพอใจกับเรือนร่างของข้ายิ่งนัก”/n /n /nลมหายใจที่อุ่นร้อนของเขาเป่าลงข้างหูของเสิ่นเวย คันๆ ชาๆ เสิ่นเวยเบี่ยงตัวหลบไปข้างๆ อย่างอดไม่ได้ “จั๊กจี้”/n /n /n“ยังมีจั๊กจี้กว่านี้อีก” สวีโย่วพูดพลางก้มหน้าประกบริมฝีปากสีชมพูของนาง ร้อนแผดเผาและรุนแรง เสิ่นเวยรู้สึกว่าตนหายใจไม่ออก สมองมึนเมา ทำได้เพียงขยับไปตามความสามารถของร่างกาย ลุ่มหลง/n

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด