Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 547
จื่อเสวี่ยนเซียนทิ้งข้อความเอาไว้ในสถานที่ที่อันตรายที่สุด นางกล่าวว่าความลับทุกอย่างถูกซ่อนเอาไว้ในตำหนักสันตินิรันดร์ที่ตั้งอยู่ ณ หุบเขาไร้ขอบเขต หลิงฮันสงสัยเป็นอย่างมากว่าอะไรคือความลับที่ถูกปกปิดเอาไว้ถึงหนึ่งหมื่นปีความลับนี้ถึงขนาดทำให้นางต่อต้านตัวตนระดับทลายมิติของเผ่าตนเอง แถมยังสละชีวิตเพื่อทิ้งความลับนี้ไว้ในเมื่อเขามาถึงภูมิภาคกลางแล้ว ก็ได้เวลาตามหาความลับที่จื่อเสวี่ยนเซียนทิ้งเอาไว้ให้เสียทีกระดองขยายขนาดกว้างออกไปหนึ่งร้อยเมตร ซึ่งทำให้มีน้ำถึงหนึ่งพันปอนด์ แต่ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งของหลิงฮัน เขาสามารถยกมันง่ายๆด้วยมือข้างเดียวโดยไม่ใช้ปราณก่อเกิด เขาจ้องมองไปยังแผนที่และพยายามค้นหาภูเขาหรือแม่น้ำที่คุ้นเคยจากความทรงจำ“มีมากมายกว่ายี่สิบแห่ง” หลิงฮันส่ายหัว มีภูเขาจำนวนมากถึงยี่สิบเก้าเขาที่ตรงตามความทรงจำในชีวิตก่อน เพราะอย่างไรเขาก็แค่เคยได้ยินสภาพภูมิประเทศของหุบเขาไร้ขอบเขตมาเท่านั้นแต่ไม่เคยได้เดินทางไปเองเลยสักครั้ง“จะไปสำรวจตอนนี้เลยหรือรอให้จบการแข่งขันก่อนดี?” หลิงฮันครุ่นคิด “การค้นหาตำหนักสันตินิรันดร์ในหุบเขาไร้ขอบเขตไม่ได้ใช้เวลาวันหรือสองวัน ในเมื่อให้สัญญากับคนอื่นเอาไว้แล้วก็ไม่อาจกลับคำ”“แต่ข้าต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนอยู่ภายในตำหนักสมบัติวิญญาณจริงๆรึ?”“จริงสิ หยินหงกล่าวเอาไว้มีผู้คนจำนวนมากเพิ่งกลับออกมาจากโบราณสถาน ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นจะต้องการนำสมบัติที่ตนเองไม่ได้ใช้ออกมาประมูล ข้าลองไปถามช่วงเวลาวันจัดงานประมูลก่อนแล้วกัน”ช่างบังเอิญเป็นอย่างมาก งานประมูลจะจัดขึ้นในเย็นวันนี้ แถมยังเป็นงานประมูลครั้งใหญ่ในรอบเดือนอีกด้วย ส่วนในเดือนถัดไปนั้นจะเป็นงานประมูลครั้งใหญ่ในรอบปี ซึ่งจะยิ่งใหญ่และอลังการมาก เห็นบอกว่าแม้แต่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาและระดับสวรรค์ก็จะเข้าร่วมแต่งานประมูลครั้งใหญ่ในรอบเดือนนั้นจำเป็นต้องมีบัตรเชิญถึงจะเข้าร่วมได้ หลิงฮันได้ไปหาหยินหงเพื่อถามหาบัตรเชิญ เขาคิดว่าสถานะของหยินหงในตำหนักสมบัติวิญญาณนั้นจะต้องไม่ต่ำต้อย แค่บัตรเชิญคงจะไม่มีปัญหาแต่เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นหยินหงกลับมาด้วยมือเปล่า“น่าโมโหมาก!” ใบหน้าของหยินหงเต็มไปด้วยความโกรธ “นังหยินฉีที่น่ารังเกียจนั่น ที่นายหญิงผู้นี้ไม่ได้บัตรเชิญมาเป็นเพราะนาง!”หลิงฮันขมวดคิ้วและถาม “ไม่ได้งั้นรึ?”หยินหงนั่งลงและพูดอย่างไม่เต็มไป “นางขัดขวางข้าไม่ยอมให้ข้าได้รับบัตรเชิญ”“นางมีความขัดแย้งกับเจ้า?” หลิงฮันถาม“จะว่าอย่างนั้นก็ได้” หยิงหงครุ่นคิดชั่วขณะ “นางแค่อิจฉาข้าที่ข้ามีหน้าอกใหญ่กว่า!”“ฮ่าๆๆ” หลิงฮันไม่เชื่อ“ที่จริงนางเป็นบุตรสาวของท่านลุงของข้า และท่านลุงกับข้า… ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่” นางบอกความจริงหลิงฮันอุทาน ‘โอ้’ ออกมา ที่แท้ก็ปัญหาภายในตระกูลนี่เอง“ข้าจะคิดหาทางอื่นนำบัตรเชิญมาให้เจ้า” หยินหงพูดอีกครั้งหลิงฮันส่ายหัว “ข้าจะใช้วิธีของตัวเอง”“ด้วยตัวเจ้าเอง? ตอนนี้เจ้าจะทำอะไรได้?” หยินหงถามหลิงฮันยิ้มและพูด “อย่าลืมสถานะที่แท้จริงของข้า”หยินหงตกตะลึงและพูดออกไป “เจ้าแน่ใจว่าจะทำอะไรเสี่ยงๆแบบนั้น?”“ที่นี่ไม่ใช่อาณาเขตภายนอกที่ไร้ผู้คน ความเสี่ยงจึงลดลงมา” หลิงฮันหัวเราะ เขาตัดสินใจจะใช้โฉมหน้าที่แท้จริงปรากฏตัว ด้วยสถานะนักปรุงยาระดับสวรรค์ เขาจะไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการประมูลรึ? ไม่ว่าเขาจะซื้ออะไรในงานประมูล ทุกคนก็จะจำเขาในฐานะหลิงฮันไม่ใช่’ฮันหลิง’เมื่องานประมูลจบลง หลิงฮันจะหายตัวไปและปรากฏตัวด้วยฐานะของฮันหลิงแทน เพียงเท่านี้ทุกอย่างก็ปลอดภัย!เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น หลิงฮันได้นำวัตถุดิบจากหอคอยทมิฬออกมาแจกจ่ายให้กับหญิงสาวทุกคน แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีความสุขที่ได้กินอาหารจากวัตถุดิบเหล่านั้น โดยเฉพาะเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนกับหยินหง พวกนางกินกันมูมมามจนเสียภาพลักษณ์อันงดงามไปหมด“มอบอาหารเหล่านี้ให้ข้าทุกวันแล้วนายหญิงคนนี้จะเป็นของเจ้า” หยินหงกล่าวแน่นอนว่าหลิงฮันแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เขาเดินออกไปจากตำหนักสมบัติวิญญาณและลบการแปลงโฉมออกกลับไปเป็นหน้าตาปกติพร้อมกับเดินกลับเข้ามายังตำหนักสมบัติวิญญาณอีกครั้ง“แขกผู้มีเกียรติ งานประมูลในคืนนี้จัดขึ้นเพื่อแขกพิเศษเท่านั้น” เมื่อกำลังเดินขึ้นบันไดเขาก็ถูกห้ามเอาไว้หลิงฮันแสดงสถานะที่แท้จริงออกไป “ข้าคือหลิงฮัน หรือว่าแม้แต่นักปรุงยาระดับสวรรค์ก็ยังไม่นับว่าเป็นแขกพิเศษ?”“อะไรกัน!” ชายคนนั้นตกตะลึงกับคำว่า ‘นักปรุงยาระดับสวรรค์’ หลังจากลังเลอยู่ชั่วขณะเขาก็รีบกล่าวออกมา “ได้โปรดรอสักครู่ ข้ารับใช้ผู้ต่ำต่อยคนนี้จะไปนำเรื่องนี้ไปรายงานทันที”ชายคนนั้นเดินหายไปอย่างเร่งรีบ โดยมีคนอื่นมาทำหน้าที่รับรองแขกแทนเวลานี้คือเวลาที่การประมูลกำลังจะเริ่ม ผู้คนที่ผ่านเข้ามามากมาย มีทั้งจอมยุทธวัยกลางคนที่ทรงพลัง จอมยุทธชราที่มีกลิ่นอายล้ำลึก จอมยุทธรุ่นเยาว์ที่เลือดร้อนแน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีบัตรเชิญคนที่เดินผ่านมาย่อมมองเห็นหลิงฮันที่หยุดอยู่ตรงทางเข้างาน บางคนถึงกับแสดงสีหน้าเหยียดหยามดูถูกออกมา ไม่มีบัตรเชิญแต่ยังคิดจะเข้าร่วมงานประมูล? ช่างน่าด้านจริงๆ!“เจ้าหนู ทำไมไม่คุกเข่าอ้อนวอนข้าดูล่ะ บางทีข้าอาจจะพาเจ้าเข้าไปข้างในก็ได้” แน่นอนว่าย่อมมีพวกปากผล่อย ถึงแม้หลิงฮันจะเป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน แต่ในภูมิภาคกลางแห่งนี้ ระดับบุปผาผลิบานไม่นับว่าแข็งแกร่งอะไรหลิงฮันจ้องมองไปยังต้นเสียงอย่างเย็นชาและพูด “ปากที่เน่าเสียแบบนั้น ไม่กลัวว่าจะสร้างปัญหาให้กับตระกูลบ้างรึ?”คนที่พูดคือรุ่นเยาว์อายุยี่สิบปี พลังบ่มเพาะของมันคือระดับห้วงจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ท่าทีของมันกลับหยิ่งยโสเหลือเกิน“เจ้าหนู เจ้ารู้รึไม่ว่าข้าคือใคร?” รุ่นเยาว์ผู้นั้นพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ “แซ่ของข้าคือซุน”“โอ้ ซุนงั้นรึ” หลิงฮันพยักหน้า“บัดซบ!” รุ่นเยาว์ผู้นั้นคำรามอย่างเกรี้ยวกราด“ซุนฉ่าว อย่าไปสนใจ มันก็แค่เด็กบ้านนอกเท่านั้น! ที่นี่คือตำหนักสมบัติวิญญาณ ไม่ใช่สถานที่ที่จะสร้างปัญหาได้ง่ายๆ” ใครบางคนกล่าวเตือนรุ่นเยาว์คนนั้นรุ่นเยาว์ผู้นั้นเค้นเสียงดูถูกและจ้องมายังหลิงฮัน “โชคดีไปนะ ข้าจะยอมไว้ชีวิตเจ้า!”หลิงฮันส่ายหัว ด้วยสถานะนักปรุงยาระดับสวรรค์ของเขา แค่เม็ดปลวกตัวสองตัวทำไมจะต้องหวาดกลัว?“ห้ามังกรสองนกอมตะมาที่นี่!”“จริงรึ!”“ช่างสง่างามยิ่งนัก!”ทันใดนั้นผู้คนก็เริ่มส่งเสียงเอะอะและจ้องมองไปยังด้านหลัง คนเจ็ดคนกำลังใกล้เข้ามาอย่างองอาจ ห้าคนเป็นบุรุษส่วนอีกสองคนเป็นสตรี แต่ละคนดูมีอายุเพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น พวกเขาเรียกได้ว่าเป็นห้ามังกรสองนกอมตะในหมู่จอมยุทธ ทั้งเจ็ดคนมีพลังบ่มเพาะระดับบุปผาผลิบาน!ในภูมิภาคกลางมีจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานอายุต่ำกว่าสามสิบปีมากมาย แต่ที่นี่คือเมืองหมื่นสมบัติไม่ใช่นิกายดาบสวรรค์หรือนิกายนกอมตะเมฆาสวรรค์ จึงไม่สามารถรู้ได้ว่าทั้งเจ็ดคนมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งแค่ไหนห้ามังกรสองนกอมตะ ทั้งเจ็ดคนคือรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองหมื่นสมบัติ ถ้าไม่มีทรัพยากรบ่มเพาะที่มากพอ อัจฉริยะทั่วไปก็ไม่สามารถบรรลุระดับบุปผาผลิบานก่อนอายุสามสิบได้ทั้งเจ็ดคนดูสูงส่งและสง่างาม พวกเขาเดินผ่านผู้คนไปอย่างมั่นใจ“หืม?” มังกรคนหนึ่งสังเกตเห็นหลิงฮันและแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา “ข้าไม่นึกเลยว่าจะมีระดับบุปผาผลิบานที่เยาว์วัยขนาดนี้! ฮ่าๆๆ เจ้าหนู มาเป็นผู้ติดตามข้าซะ”
คอมเม้นต์