Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1833 เอาคืน
“นะ น้องชายหลิง?” ฟู่เกาหยุนมองไปยังหลิงฮันด้วยสีหน้าประหลาดใจอันที่จริงไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่เฉิงจงและคนอื่นๆเองก็มองไปยังหลิงฮันด้วยสีหน้าแบบเดียวกัน เนื่องจากสภาพของหลิงฮันในตอนนี้นอกจากหัวล้านแล้ว แต่ขนคิ้วก็ยังไม่เหลือเลยแม้แต่เส้นเดียวหลิงฮันยกมือขึ้นไปลูบหัวของตัวเอง เพราะลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท เมื่อถูกคนอื่นเห็นสภาพนี้ เกรงว่าภาพลักษณ์ของเขาพังพินาศเสียแล้ว“ฮ่าๆ การเก็บเกี่ยวศิลาโลหิตมังกรของพวกเจ้าเป็นไปด้วยดีรึไม่?” เขาพยายามเบี่ยงประเด็น“หนุ่มน้อยหลิง ก้นของเจ้าไม่เป็นอะไรใช่รึเปล่า?” ซือถูเซี่ยวเจินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงหลิงฮันแทบจะสำลักออกมา การที่หัวข้าล้าน มันไปเกี่ยวอะไรกับก้นกัน ทำไมเจ้าจะต้องไปสนใจส่วนนั้นด้วย?โชคดีที่ฟู่เกาหยุนเอ่ยปากแทรกเข้ามาก่อน “ผลการเก็บเกี่ยวค่อนข้างดีทีเดียว ครั้งนี้ภูเขาไฟระเบิดรุนแรงมาก ทำให้จำนวนของศิลาโลหิตมังกรมีเยอะกว่าครั้งก่อนๆที่ผ่านมา ถือว่าพวกเราโชคดีมากจริงๆ”“หลิงฮัน ทำไมเจ้าถึงเพิ่งมาที่นี่เอาป่านนี้?” เฉิงจงเอ่ยถาม ถึงแม้พวกเขากับหลิงฮันจะตัดความสัมพันธ์กันแล้ว แต่เมื่อเห็นว่าฟู่เกาหยุนยังคงแสดงท่าทางสนิทสนมกับหลิงฮันอยู่ เขาจึงต้องกล่าวอะไรออกมาบ้างหลิงฮันหัวเราะและกล่าว “มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น การเดินทางก็เลยล่าช้าไปหน่อย” เขาไม่คิดจะโอ้อวดเฉิงจงแสดงสีหน้าภาคภูมิใจทันที ขนาดแค่จะมาที่นี่เจ้ายังเสียเวลาไปกับอุปสรรคเล็กๆน้อยๆงั้นรึ? ช่างอ่อนหัดเสียจริง“โอ้ นั่นมันหลิงฮันไม่ใช่รึ?” เสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับร่างของเป่ยเสวียนหมิงค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้ โดยที่ด้านหลังมีใครหลายคนติดตามมาด้วย ในหมู่ผู้ติดตามของเขา มีจอมยุทธผู้หนึ่งที่มีท่าทางเย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก“ทั้งๆที่ล่วงเกินผู้สืบทอดขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ไปแล้วแท้ๆ แต่ยังกล้าปรากฏตัวที่นี่อีกรึ? ข้าล่ะไม่รู้จริงๆว่าเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหน” เป่ยเสวียนหมิงกล่าวถากถาง เขารอคอยวันนี้มานานแล้วหลิงฮันมองไปยังอีกฝ่ายราวกับกำลังมองไปยังตัวตลก “แล้วเจ้าอยากรู้ไหมล่ะว่าความกล้าของข้านั้นมีมากขนาดไหน?”“เหอะ เจ้าจะกร่างได้ก็แค่ไม่กี่วันนี้เท่านั้น หากแม่นางจื่อเหอปิงอวิ๋นพบเจอเจ้าเมื่อไหร่ เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน!” เป่ยเสวียนหมิงแสยะยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนไปมองที่ฟู่เสี่ยวอวิ๋นและกล่าว “ฟู่เสี่ยวอวิ๋น ทีนี้เจ้ารู้สึกเสียใจแล้วรึยังที่ละทิ้งข้า ไปสวะเช่นนี้?”ใบหน้าของฟู่เสี่ยวอวิ๋นแสดงออกถึงความเหยียดหยาม ที่นางไม่ต้องการแต่งงานกับเป่ยเสวียนหมิง ไม่ใช่เพราะนางดูหมิ่นความอัปยศของอีกฝ่าย แต่เพราะนางได้เห็นนิสัยที่แท้จริงของอีกฝ่ายต่างหาก“เส่าหลิน เจ้ารู้สึกคันไม้คันมือบ้างรึเปล่า?” เป่ยเสวียนหมิงหันกลับไปกล่าวกับผู้ติดตามคนที่มีท่าทางเย่อหยิ่งชายผู้ติดตามคนนั้นแสยะยิ้มและกล่าว “ท่านต้องการให้ข้าจัดการใคร?”“คนกลุ่มนี้” เป่ยเสวียนหมิงชี้ไปยังพวกฟู่เกาหยุนอดีตพี่เขยของเขาผู้นี้มักจะดูถูกเขามาโดยตลอด ทั้งๆที่เขาพยายามทำดีด้วยแทบตายตอนนี้เมื่อไม่สามารถแต่งงานกับฟู่เสี่ยวอวิ๋นได้แล้ว ก็ถึงเวลาอันควรที่เขาจะต้องสั่งสอนอดีตพี่เขยคนนี้เพื่อระบายความแค้นเสียบ้าง!แล้วเขาไม่กลัวการล้างแค้งขากตระกูลฟู่งั้นรึ?เหอๆ นอกจากที่นี่จะไม่ใช่อาณาเขตของตระกูลฟู่แล้ว ด้วยอำนาจของนิกายอาญาสิ้นแสง มีรึที่ตระกูลฟู่จะกล้าทำอะไรเขา?ตราบใดที่เขาไม่ได้สังหารใคร ก็ไม่มีปัญหาต้องกังวลชายเย่อหยิ่งผู้นี้มีชื่อว่าเหอเส่าหลิน เขามองไปยังฟู่เกาหยุนอย่างเหยียดหยามและกล่าว “พวกเจ้าจงเข้ามาพร้อมกันให้หมดทีเดียว ข้าไม่ต้องการเปลืองแรงไปไล่จัดการพวกเจ้าทีล่ะคน”ฟู่เกาหยุนและเหล่าผู้ติดตามเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที แต่ก็ต้องพยายามระงับความโกรธเอาไว้ เนื่องจากฟู่เกาหยุนนั้นมอบสิทธิ์เข้าร่วมเขตแดนลี้ลับทั้งหมดให้กับผู้ติดตาม และไม่ได้พายอดฝีมือที่ทรงพลังมาคอยคุ้มครองเหมือนกับเป่ยเสวียนหมิง“อะไรกัน ไม่กล้างั้นรึ?” เหอเส่าหลินแสยะยิ้ม “ผู้สืบทอดของตระกูลฟู่อะไรกัน เจ้ามันก็แค่เศษสวะขี้แพ้ดีๆนี่เอง!”“เจ้าเป็นถึงนิรันดร์สี่นิพพานสูงสุด แต่กลับมาท้าสู้กับพวกข้าน่ะรึ? เจ้าไม่รู้สึกละลายใจบ้างเลยรึไง?” ฟู่เกาหยุนทนไม่ไหวและกล่าวเหน็บแนมกลับไป“อ่อนแอก็คืออ่อนแอ จะหาข้ออ้างไปเพื่ออะไร?” เหอเส่าหลินกล่าวอย่างเย็นชา คิดว่าพลังบ่มเพาะของเขาพระเจ้าเป็นคนมอบให้รึไง? การที่บรรลุระดับพลังนี้ได้ ล้วนแต่มาจากความพยายามอย่างหนักของเขาทั้งนั้นฟู่เกาหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงมืดมน “ครั้งนี้ข้าขอยอมแพ้!”“ไปกันเถอะ!” เขาสะบัดมือและกำลังจะนำพวกพ้องจากไป“ใครบอกกันว่าให้เจ้าไปได้?” เป่ยเสวียนหมิงยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก “เจ้าไม่เข้าใจกฎของผู้อ่อนแอเลยรึไง? หากเจ้ายอมแพ้ ก็ต้องทิ้งบางสิ่งเอาไว้ด้วย!”ฟู่เกาหยุนกัดฟัน เขายดมือขวาขึ้นและตวัดตัดแขนซ้ายจนขาด“ท่านพี่!” ฟู่เสี่ยวอวิ๋นอุทานฟู่เกาหยุนไม่ได้กล่าวตอบนาง และใช้สายตาจดจ้องไปยังเป่ยเสวียนหมิง “เท่านี้พอรึยัง?”เป่ยเสวียนหมิงหัวเราะและกล่าวอย่างเย็นชา “ยังไม่พอ!”ครั้งนี้แม้แต่เฉิงจงและคนอื่นๆก็โมโหจนแทบจะทนไม่ไหว ขนาดตัดมือทิ้งข้างหนึ่งแล้วยังไม่พออีกงั้นรึ? นี่เจ้ายังจะต้องการอะไรอีก?เป่ยเสวียนหมิงกวาดสายตามองไปยังฟู่เสี่ยวอวิ๋น และยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ “ฟู่เสี่ยวอวิ๋น ที่เรื่องราวกลายมาเป็นแบบนี้ทั้งหมดก็เพราะเจ้า! เจ้าเองก็ต้องชดใช้ด้วย”“เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร?” ฟู่เสี่ยวอวิ๋นกัดริมฝีปาก“ถอดเสื้อผ้าออก” เป่ยเสวียนหมิงกล่า “จงให้พวกเข้าเชยชมเรือนร่างของเจ้าซะ”ใบหน้างดงามของฟู่เสี่ยวอวิ๋นเปลี่ยนเป็นซีดขาว หากเผยเรือนร่างเปลือยเปล่าต่อหน้าสาธารณชนล่ะก็ นางจะยังมีหน้าไปพบใครได้อีก? ต่อให้ในอนาคตนางบรรลุเป็นราชานิรันดร์ ความอัปยศในจิตใจของนางก็ไม่มีวันหายไปซือถูเซี่ยวเจินเป็นคนแรกที่ทนต่อไปไม่ไหวและกล่าวออกมา “นี่เจ้ายังเป็นบุรุษที่มีไข่อยู่รึเปล่า? เข้ามาเลย มารดาผู้นี้จะเป็นคนจัดการเจ้าเอง!”หลิงฮันที่ตอนแรกกำลังคิดจะเข้าแทรกแซง ต้องหยุดชะงักและเปลี่ยนสีหน้าทันที เมื่อได้ยินคำพูดที่หยาบคายของนางเป่ยเสวียนหมิงกัดฟัน ต่อให้มอบความกล้าให้เขาเพิ่มขึ้นอีกหมื่นเท่า เขาก็ไม่กล้าบาดหมางกับหลานสาวของปรมาจารย์นักปรุงยาสามดาว เขาสะบัดมือและกล่าว “เส่าหลิน ในมือแม่นางฟู่ไม่ยินยอมที่จะให้ความร่วมมือ ก็จัดการพี่ชายและเหล่าผู้ติดตามซะ!”“น้อมรับคำสั่งนายน้อย!” เหอเส่าหลินโค้งตัวเล็กน้อย เขารู้ดีว่าความสำเร็จภายภาคหน้าของเป่ยเสวียนหมิงจะต้องสูงส่งกว่าเขาแน่นอน เพราะงั้นเขาจึงจำเป็นต้องแสดงท่าทางเคารพเมื่อโค้งตัวเสร็จ เหอเส่าหลินก็กวาดมองไปยังฟู่เกาหยุนและเหล่าผู้ติดตามด้วยสายตาโหดเหี้ยม
คอมเม้นต์