Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1681 ได้รับภารกิจ
การแบ่งแยกพันคนให้เป็นสิบกลุ่มนั้นมีจุดประสงค์อยู่อีกอย่างหนึ่งในทุกๆปีกองกำลังจะได้รับทรัพยากรเป็นศิลาดวงดาว ตามกฎของกองกำลังสำรองแล้ว ทุกกลุ่มจะต้องทำการประลองกันและทรัพยากรในปีหน้าของกลุ่มที่เป็นอันดับสุดท้ายจะตกเป็นของกลุ่มอันดับหนึ่งกลุ่มของหลิงฮันที่มีสมาชิกอ่อนแอที่สุดจะไปเทียบกับกลุ่มอื่นได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่ากลุ่มของเขาถูกตัดสินใจให้อันดับสุดท้ายตั้งแต่ยังไม่ประลองเลยหรอกรึ?ด้วยเหตุนี้ สมาชิกแต่ละคนจึงไม่เหลือกำลังใจให้อยู่ต่อ บางคนถึงขนาดตั้งใจว่าจะขอถอนตัวและรอมาสมัครเข้าร่วมกองกำลังใหม่ในอีกหนึ่งร้อยปีหน้าหลิงฮันไม่กล่าวอะไร ความเป็นจริงด้วยพลังต่อสู้ของเขา เขาสามารถเอาชนะกลุ่มที่มีจอมยุทธนับร้อยได้ด้วยตัวคนเดียวด้วยซ้ำ ที่ยิ่งกว่านั้นคือตัวเขาเป็นถึงจักรพรรดิปรุงยาและที่นี่ก็ไม่ได้ขลาดแคลนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ เขาสามารถหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงได้เป็นจำนวนมากตราบใดที่ยอมติดตามเขา หลิงฮันก็ไม่มีทางทอดทิ้งพวกเขาติงหู่จ้องมองหลิงฮันด้วยสายตาเย็นชา เขาจะใช้วิธีการต่างๆทำให้หลิงฮันหายไปให้เร็วที่สุดผู้เข้าทดสอบแต่ละคนเข้าสู่ค่ายพักที่มีห้องแยกกัน ความจริงพวกเขาไม่มีอะไรให้ทำมากนัก สิ่งที่พวกเขาต้องฝึกฝนมีเพียงรูปแบบโจมตีผสานร่วมกันหรือไม่ก็มีภารกิจออกไปล่าโจรภูเขาบ้างในบางครั้งหลังจากหลิงฮันและจักรพรรดินีเข้าสู่ห้องพัก ทั้งสองก็หลบไปในหอคอยทมิฬทันทีหลิงฮันใช้พลังของหอคอยทมิฬขจัดเจตจำนงยุทธของติงหู่ เมื่อเจตจำนงยุทธหายไปร่างกายของเขาก็ฟื้นตัวในพริบตาจักรพรรดินีกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “ข้าจะเก็บตัวบ่มเพาะพลังและทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานภายในสามปี! อีกสามปีตระกูลติงจะไม่เหลือแม้แต่ไก่กา!”“ไม่ต้องรีบ” หลิงฮันโอบกอดและหอมผมดำสลวยของนาง “หากจะบ่มเพาะก็ถึงแค่ระดับสร้างสรรพสิ่งสูงสุดก็พอ หากจะทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานพวกเราต้องไปยังสถานที่ที่พิเศษ”ทำไมราชาเซียนถึงเป็นระดับพลังสูงสุดในโลกบรรพกาล?ไม่ใช่เพราะพรสวรรค์หรือทักษะของจอมยุทธไม่เพียงพอ แต่การจะบรรลุระดับโลกียนิพพานจำเป็นต้องอยู่ในตำแหน่งพิเศษของดินแดนแห่งเซียนที่สามารถสัมผัสถึงอำนาจของสวรรค์และปฐพีได้เพื่อตัดขาดเจตจำนงแห่งสวรรค์หากไม่อยู่ในสถานที่พิเศษ ต่อให้เป็นราชาเซียนที่แข็งแกร่งขนาดไหนก็ต้องติดอยู่ในระดับราชาเซียนตลอดกาลความเกรี้ยวกราดของจักรพรรดินียังคงไม่ทุเลาลง “งั้นข้าจะรีบบรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งขั้นสูงสุดให้ไวที่สุด” นางมั่นใจเป็นอย่างมาก ตราบใดที่บรรลุราชาเซียนสูงสุด นางจะสามารถทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานได้อย่างไม่มีปัญหาหลิงฮันส่ายหัว “การทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ระดับโลกียนิพพานคือระดับพลังที่จอมยุทธจะตัดขาดความรู้สึกทางโลกเพื่อผสานตนเองเข้ากับวิถีแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ กล่าวคือยิ่งตัดความรู้สึกทางโลกได้มากก็จะยิ่งผสานกับสวรรค์และปฐพีได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น”นี่คือสิ่งที่จักรพรรดิเพลิงอัสนีบอกกับเขาเพียงคนเดียว ในระดับโลกียนิพพานจอมยุทธจำเป็นจะต้องตัดความรู้สึกทางโลกสี่ครั้ง แต่อย่าเพิ่งพูดถึงสี่ครั้งเลย เพียงแค่ตัดความรู้สึกครั้งเดียวปรมาจารย์ที่ทรงพลังส่วนใหญ่ก็สูญเสียตัวตนของตัวเองไปแล้ว เนื่องจากพวกเขาได้สูญเสียความรู้สึกที่มีต่อสิ่งสำคัญของตนเองไปโดยส่วนใหญ่ ความรู้สึกที่พวกเขาถูกตัดออกไปจะเป็นความรู้สึกที่มีต่อครอบครัว คนรักหรือมิตรสหายจักรพรรดินีชะงักนิ่งเงียบ สำหรับนางสิ่งสำคัญที่สุดคือหลิงฮัน หากนางต้องตัดขาดความรู้สึกรักใคร่ที่มีต่อหลิงฮันนางขอตายดีกว่า แต่หากไม่ยอมตัดความรู้สึกทางโลก นางก็จะไม่สามารถบรรลุระดับโลกียนิพพานคิดว่าการจะมีอายุขัยเป็นนิรันดร์จะทำได้ง่ายๆโดยไม่ต้องสูญเสียสิ่งใดเป็นค่าแลกเปลี่ยนเลย?จักรพรรดินีครุ่นคิดและกล่าว “หากข้าต้องตัดความรู้สึกของตนเอง ข้าขอไม่กลายเป็นนิรันดร์และอยู่กับเจ้าด้วยอายุขัยที่เหลือที่กว่า”การละความรู้สึกทางโลกไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นความรัก ความรู้สึกที่จะสูญเสียไปคืออะไรก็ได้ที่เจ้าของความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยมากที่สุดซึ่งสำหรับคนส่วนใหญ่ก็คือความรักที่มีต่อคนสำคัญ“เพราะงั้นหากต้องการทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพา พวกเราจึงต้องวางแผนให้ดีเสียก่อน” หลิงฮันโอบกอดเอวจักรพรรดินี ไม่เพียงแค่นาง แต่ทุกคนในหอคอยทมิฬจะต้องเตรียมการให้ดีก่อน ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะสูญเสียความรู้สึกที่มีต่อญาติพี่น้องหรือคนรักไปอย่างเลี่ยงไม่ได้เมื่อเขาเดินมายังต้นสังสารวัฏก็พบเห็นทุกคนกำลังบ่มเพาะพลังกันอย่างหนัก หอคอยทมิฬสามารถดูดซับพลังวิญญาณของดินแดนแห่งเซียนเข้ามาได้ และด้วยความช่วยเหลือของต้นสังสารวัฏ อีกไม่นานทุกคนคงสามารถผสานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สำเร็จและออกไปโลกภายนอกได้หลังจากพูดคุยถึงสถานการณ์ในโลกภายนอกให้ทุกคนได้รับรู้ หลิงฮันกับจักรพรรดินีก็กลับออกจากหอคอยทมิฬค่ำคืนผ่านพ้นไป วันรุ่งขึ้นก็ได้เริ่มการฝึกฝนกองกำลังกลุ่มสิบกลุ่มจะมีผู้ฝึกสอนสิบคน ผู้ฝึกสอนของกลุ่มหลิงฮันมีชื่อว่าอู่จิง เขาเป็นชายวัยกลางคนร่างอ้วนท้วมที่มีพลังบ่มเพาะระดับราชาเซียนสูงสุด“เจ้าพวกหนอนแมลงขยะ การที่ข้าต้องมาฝึกสอนพวกเจ้านับว่าเป็นความอัปยศอย่างมากจริงๆ!” อู่จิงสบถหยาบคาย“ข้าอุตส่าห์ยอมลดตัวมาฝึกสอนพวกเจ้าเพื่อมาดูพวกเจ้าแสดงป่าหี่เหมือนลิงเช่นนี้?”“ไร้ค่า!”“ไร้สมอง!”“หมูยังฉลาดยิ่งกว่าพวกเจ้าร้อยเท่า!”ใบหน้าของเขาเผยถึงความไม่สบอารมณ์ ไม่ว่ากลุ่มของหลิงฮันจะแสดงผลฝึกฝนออกมาได้ดีหรือไม่ดีเขาก็สบถด่าไว้ก่อนกลุ่มของหลิงฮันคือกลุ่มที่มีสมาชิกอ่อนแอที่สุด หากถูกสบถด่าดูถูกไปมากๆ เดี๋ยวพวกเขาก็ทนไม่ไหวและขอถอนตัวไปเองและอีกสามวันต่อมา อู่จิงก็ได้ประกาศกับกลุ่มหลิงฮันว่าพวกเขาได้รับภารกิจให้ไปปราบกองโจรและต้องออกเดินทางทันทีอะไรกัน ได้รับภารกิจรวดเร็วขนาดนี้เลย?ทุกคนมองหน้ากัน ไม่ว่าใครก็คิดว่าเรื่องนี้มันเร็วเกินไปพวกเขาเพิ่งจะเรียนรู้รูปแบบโจมตีผสานได้เพียงแค่รูปแบบเดียวและไม่เข้าใจกลยุทธ์อื่นๆแม้แต่นิดเดียว จะให้พวกเข้าน่ะรึไปจัดการกองโจร?นี่มันภารกิจฆ่าตัวตายชัดๆ!บางทีภารกิจนี้อาจจะสำเร็จ แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นคงก็ไม่น้อย เป็นไปได้ว่าสมาชิกกว่าครึ่งของกลุ่มอาจไม่ได้กลับมาพวกเขาไม่ใช่คนโง่และเดาได้ว่านี่ต้องเป็นแผนการของติงหู่เป็นแน่ เป้าหมายของอีกฝ่ายคือหลิงฮันแต่มีพวกเขาติดร่างแหไปด้วย“หลิงฮัน เจ้าเป็นหัวหน้ากลุ่ม เจ้าต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จลุล่วง!” อู่จิงมอบแผ่นหยกให้แก่เขา “ข้อมูลของกลุ่มโจรภูเขาอยู่ในนี้แล้ว พวกมันเป็นกลุ่มโจรหางแถวที่มีราชาเซียนสูงสุดแค่สิบคนเท่านั้น”“เพราะงั้นความสูญเสียของกลุ่มจึงห้ามมีมากกว่าสิบคน หากเกินกว่านี้… เมื่อเจ้ากลับมาจะต้องได้รับโทษจากทางกองกำลัง!”
คอมเม้นต์