Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1128

อ่านนิยายจีนเรื่อง Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1128 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

“อะไรกัน!”
หลังจากเข้ามาในหอคอยทมิฬ กลุ่มแสงก็ส่งเสียงกรีดร้องทันที แน่นอนว่าทางสัมผัสสวรรค์ เพราะเซียนหวู่เซียงสูญเสียกายหยาบไปนานและไม่สามารถส่งเสียงออกมาจากปากเหมือนมนุษย์ได้
“เจ้าหนู เจ้ามีอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ที่กว้างใหญ่ไพศาลแบบนี้ได้ยังไงกัน? ราวกับเป็นโลกใบหนึ่ง!” ถ้าเซียนหวู่เซียงมีร่างกาย เขาคงจะล้มทั้งยืนไปแล้ว
ในจุดนี้เซียนหวู่เซียงเชื่ออย่างหมดใจว่าหลิงฮันอาจช่วยเขาสร้างกายหยาบขึ้นมาได้และกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
นั่นเป็นเพราะการกลับมามีชีวิตอีกครั้งจะต้องใช้บุปผาวิญญาณ ซึ่งสามารถพบได้ในหนึ่งหมื่นล้านปี มันเป็นเรื่องที่ยากมากจนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับมันมา
แต่ตอนนี้หลิงฮันได้แสดงให้เห็นพื้นที่ด้านในของอุปกรณ์มิติ ซึ่งทำให้เขาตกใจมาก
ถึงแม้เขาจะสร้างอุปกรณ์มิติขึ้นมาได้เหมือนกัน แต่อย่างดีที่สุดก็สร้างพื้นที่มิติได้ขนาดเท่าวังเท่านั้น ถ้าใหญ่กว่านั้นพื้นที่มิติจะไม่เสถียรและพังทลายได้ทุกเมื่อ
หลิงฮันพาเซียนหวู่เซียงไปที่ต้นสังสารวัฎและพูดว่า “นี่จะทำให้ดวงวิญญาณของเจ้าแกร่งกล้าขึ้นและไม่สูญสลาย แล้วเมื่อใดที่ข้าแข็งแกร่งขึ้น ข้าก็จะรวบรวมพลังห้าธาตุและสร้างกายหยาบให้เจ้า”
ก้อนแสงของเซียนหวู่เซียงวนเวียนอยู่รอบกิ่งไม้ของต้นสังสารวัฎ เมื่อเขาตระหนักว่ามันคืออะไร เขาก็พูดออกมาว่า “เป็นมันจริงๆ เจ้านี่สามารถทำให้ดวงวิญญาณของข้าแข็งแกร่งขึ้นได้! พระเจ้า น…นี่มันต้นสังสารวัฎ!”
แม้ว่าบุปผาวิญญาณจะล้ำค่า แต่มันจะเทียบกับต้นสังสารวัฎได้อย่างไร?
มันไม่สมควรมีอยู่ เพราะต้องใช้เวลาเติบโตมากถึงสิบสองล้านล้านปี
สิบสองล้านล้านปีหมายถึงอะไร?
ต่อหน้าต้นสังสารวัฎ มันทำให้เขาเป็นเหมือนคนต่ำต้อยและมีพลังชีวิตน้อยกว่าเศษเสี้ยวของอีกฝ่าย
“เจ้าหนู เจ้ามีสมบัติของจักรพรรดิเซียนได้อย่างไรกัน?” เซียนหวู่เซียงถามด้วยเสียงที่สั่นคลอน
จอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งหรือเรียกว่าเซียน ชั้นต้นจะเรียกว่าเซียนชั้นต้น ชั้นกลางจะเรียกว่าเซียนชั้นกลาง ชั้นสูงจะเรียกว่าเซียนชั้นสูง และชั้นสมบูรณ์แบบจะเรียกว่าจักรพรรดิเซียน ซึ่งการทะลวงผ่านแต่ละชั้นนั้นยากยิ่งกว่ายากจนแทบเป็นไปไม่ได้
อาจกล่าวได้ว่าหลังจากที่เซียนเข้าสู่ระดับสร้างสรรพสิ่ง แม้ว่าจะเป็นแค่เซียนชั้นต้น แต่มันก็ห่างชั้นจากเซียนชั้นกลางมาก
เซียนหวู่เซียงเป็นเซียนชั้นต้น ต่อหน้าจักรพรรดิเซียนเขาเป็นเหมือนแค่มด
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ผู้อาวุโสพอใจกับสถานที่แห่งนี้หรือไม่?”
“พอใจ! พอใจ!” เซียนหวู่เซียงกล่าวด้วยความสุข ต้นสังสารวัฎสามารถทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อได้ แม้กระทั่งพลังบ่มเพาะก็ยังฟื้นฟูได้ นี่ทำให้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“ถ้างั้นเจ้าจะปล่อยพวกข้าออกไปได้แล้วหรือยัง?” หลิงฮันถามอีกครั้ง
“ไม่มีปัญหา!” เซียนหวู่เซียงกล่าว
“จริงสิ แล้วอะไรคือภัยพิบัติแห่งเซียน?” หลิงฮันถามออกมาอย่างกะทันหัน
เซียนหวู่เซียงกล่าว “เจ้าไม่รู้ว่าภัยพิบัติแห่งเซียนคืออะไร แต่ก็ทำการเจรจากับข้าอย่างนั้นรึ?”
หลิงฮันยิ้ม “ภายในอุปกรณ์มิตินี้มีจิตวิญญาณอยู่ ซึ่งมันแค่บอกให้ข้าพูดตามที่มันพูด”
เมื่อฟังที่หลิงฮันพูดเซียนหวู่เซียงตกใจอีกครั้ง เพราะเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีจิตวิญญาณอยู่ในอุปกรณ์มิติ เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “เซียนมีพลังแห่งการสร้างสรรพสิ่ง แต่นั่นเป็นพลังที่ท้าทายสวรรค์และปฐพี ทุกหนึ่งพันล้านปีจะต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติแห่งเซียน”
“นี่คือคำสาปของสวรรค์ที่จะทำให้เหล่าเซียนต้องเจอกับภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายหรือทัณฑ์สวรรค์หรือความโชคร้ายและอื่นๆอีกมากมาย”
“แม้จะรอดพ้นภัยพิบัติมาได้ แต่ในอีกหนึ่งร้อยล้านปีต่อมา ภัยพิบัติแห่งเซียนก็จะทวีปความรุนแรงยิ่งขึ้นไม่มีวันจบสิ้นจนกว่าจะตาย”
“หากต้องการหลุดพ้นภัยพิบัติแห่งเซียน มีหนทางเดียวคือต้องแข็งแกร่งขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น”
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ เซียนเป็นเหมือนตัวตนที่สูงส่ง ไร้เทียนทาน แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่เป็นเหมือนคำสาปไม่จบสิ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจำนวนของเซียนนั้นถึงมีน้อยจนหายาก
เพราะในระดับเซียนยากที่จะทะลวงผ่านชั้นถัดไป แล้วยังต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทุกหนึ่งร้อยปีอีก ถ้าหากไม่พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น แม้ครั้งนี้อาจโชคดีรอดพ้นภัยพิบัติมาได้ แต่ครั้งหน้าจะต้องเป็นจุดจบอย่างแน่นอน
“ดังนั้น เส้นทางของจอมยุทธจึงเป็นเหมือนการแล่นเรือทวนกระแสน้ำ ถ้าไม่ก้าวหน้าขึ้นก็จะถอยหลัง แล้วถ้าถอยหลังก็จะต้องตาย” เซียนหวู่เซียงสรุปความโหดร้ายของเส้นทางของจอมยุทธ
หลิงฮันกล่าว “ถ้าเจ้าได้รับกายหยาบห้าธาตุ เจ้าจะต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติแห่งเซียนทุกหนึ่งร้อยปีอีกครั้ง”
“นั่นคือเรื่องที่ข้าคิดเอาไว้แล้วหลังจากที่กลับมายืนอยู่ในจุดเดิมอีกครั้ง ซึ่งข้าพร้อมแล้วที่จะก้าวข้ามภัยพิบัติแห่งเซียน หากผ่านครั้งแรกไปได้ มันก็จะไม่สามารถเป็นภัยคุกคามของข้าได้อีกต่อไป” เซียนหวู่เซียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ “แล้วหลังจากนั้นข้าก็จะพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อสังหารศิษย์ทรยศพวกนั้น!”
“ยังไงก็ตาม ผู้อาวุโสปล่อยพวกข้าออกไปได้แล้ว”
หลิงฮันออกจากหอคอยทมิฬพร้อมกับเซียนหวู่เซียง
ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างไม่คาดคิด เป้าหมายของเขาในการหลบซ่อนตัวอยู่ในหอคอยทมิฬคือเพื่อไม่ทำให้จักรพรรดินีได้รับอันตราย ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะเปิดเผยความลับของหอคอยทมิฬ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมายของเขามาก
เมื่อหลิงฮันออกมาจากหอคอยทมิฬ เขาก็เห็นจักรพรรดินีหายดีแล้วและกำลังยืนอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว มันมีความเหงาที่ไม่สามารถอธิบายได้ ซึ่งทำให้ทุกคนอยากรีบเข้าไปโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนทันทีเพื่อกำจัดความเหงาของนาง
เสน่ห์ของจักรพรรดินีนั้นน่าทึ่งมาก
หลิงฮันถอนหายใจ เขาส่งเสียงกระแอมและพูดว่า “องค์จักรพรรดินี พวกเราจะได้ออกไปจากที่นี่ในอีกไม่ช้า”
จักรพรรดินีจ้องมองหลิงฮันด้วยแววตาที่ซับซ้อน ทั้งที่นางถูกผนึกพลัง แต่หลิงฮันก็ไม่คว้าโอกาสนั้นจัดการนาง นี่ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจมาก และแน่นอนว่านางรู้ตัวเองดีว่ามีเสน่ห์มากแค่ไหน
สิ่งที่ตกตะลึงที่สุดสุดสำหรับนางคือเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่
เขายอมที่จะเปิดเผยความลับของอุปกรณ์มิติเพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของนาง
ต้องบอกว่าเป็นจักรพรรดินีต่างหากที่รู้สึกหวั่นไหว

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด