Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 618
กระต่ายยักษ์เริ่มหวาดกลัวจนขนลุกตั้ง และขาสองข้างเริ่มอ่อนแรง แม้มันจะคิดวิ่งหนี แต่ในเมื่อมันมอบโสมโลหิตราชามังกรทรราชให้กับหลิงฮันแล้วมันจะวิ่งหนีได้อย่างไรมันเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และอีกฝ่ายคงไม่รู้ว่ามันต้องลงแรงไปมากแค่ไหนกว่าจะขุดโสมนี้ขึ้นมาได้“เผ่ามนุษย์ มันจะดีกว่าถ้าพวกเรากินซุปโสมด้วยกัน ข้าจะไปจับสัตว์มาให้เพื่อทำซุปโสมไก่ มันจะต้องอร่อยมากอย่างแน่นอน!” กระต่ายยักษ์จ้องมองไปที่ฮูหนิวทันที และเห็นน้ำลายของเด็กสาวตัวน้อยน้ำลายไหล“หนิวอยากกินซุปโสมเนื้อกระต่าย!” ฮูหนิวยกมือแสดงความขึ้นเห็น“ไปขอลุงของเจ้าเถอะ!” กระต่ายยักษ์อยากจะเตะฮูหนิว แต่ไม่กล้าหลิงฮันส่ายหัวและพูดว่า “ข้าไม่คิดที่จะกินโสมของเจ้าตอนนี้และจะกินมันปีหน้า! ในเมื่อเจ้ามอบมันให้กับข้าแล้ว หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้าจะคืนโสมให้เจ้าเป็นสองต้น เจ้าคิดว่าไง?”ช่วยไม่ได้ที่แววตาของกระต่ายยักษ์จะแดงก่ำและพูดว่า “เผ่ามนุษย์ เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้างั้นหรือ? ข้ากินสมุนไพรมากกว่าเจ้ากินข้าวเสียอีก!”“เจ้ากระต่ายดื้อรั้น เจ้าจะเชื่อหรือไม่นั้นมันเรื่องของเจ้า!” หลิงฮันกล่าว“ก็ได้ข้าจะเชื่อเจ้า!” กระต่ายยักษ์พยักหน้าอย่างรวดเร็ว “อ๊าก–” เจ้ากระต่ายยักษ์กรีดร้องออกมากะทันหัน “เจ้าเด็กนี่กัดข้าอีกแล้ว”“ฮูหนิว!” หลิงฮันกล่าวฮูหนิวไม่เต็มใจที่จะปล่อยกระต่ายยักษ์และพูดว่า “เจ้ากระต่ายตัวนี้น่าอร่อย หนิวอยากกินเนื้อกระต่าย!” ฮูหนิวกรีดร้อง“ไม่ได้!” หลิงฮันเข้าไปกอดฮูหนิวและรู้สึกแปลกใจ แม้ฮูหนิวจะเป็นจอมตะกละ แต่เขาไม่เคยเห็นฮูหนิวดื้อรั้นขนาดนี้มาก่อน หลิงฮันเลยนำเนื้อแห้งออกมาเพื่อปลอบใจฮูหนิวฮูหนิวส่งเสียงพึมพัมไม่พอใจ ดวงตาของนางยังคงจับจ้องไปที่เจ้ากระต่ายยักษ์“ตั้งแต่ที่สัตว์อสูรพวกนั้นไม่ไล่ตามมาแล้ว เช่นนั้นพวกเรามาหาอะไรกินกันก่อนเถิด” หลิงฮันพูด เขานำหม้อและส่วนผสมออกมาจากหอคอยทมิฬ รวมถึงโสมพันปีสองสามต้น“โสมม่วงพันปี!”“โสมหยกพันปี!”“โสมเหลืองพันปี!”ฉินหยีเย่วมองหน้าคนอื่น ดวงตาอันงดงามของนางไม่อาจซ่อนความประหลาดใจไว้ได้ เพราะพวกมันเป็นโสมพันปีหมดเลยประเด็นคือตอนนี้หลิงฮันกำลังใช้พวกมันทำซุป เขาร่ำรวยอะไรเยี่ยงนี้?นางหันหน้าไปมองจูเสวี่ยนเอ๋อและช่าง แต่สีหน้าของพวกเขากลับปกติไม่แสดงความตกใจออกมาเลยหรือว่าพวกเขามักจะกินอาหารฟุ่มเฟือยแบบนี้อยู่เป็นประจำ?กระต่ายยักษ์เองก็ตกใจเช่นกัน มันขโมยสมุนไพรมามากมาย แต่โสมพันปีนั้นหาได้ยากยิ่ง“อ๊าก–” มันส่งเสียงกรีดร้องออกมาอีกครั้ง เพราะถูกฮูหนิวกัดอีกรอบหลิงฮันเกิดความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเมื่อเขากำลังทำอาหาร เขาพูดว่า “เจ้ากระต่าย เจ้าเองก็เป็นสัตว์อสูรระดับตัวอ่อนวิญญาณ ทำไมเจ้าถึงถูกรังแกแบบนี้?” นี่ทำให้เขานึกถึงเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ไหน“ฮึ่ม นี่ไม่ใช่เรื่องที่เด็กอย่างเจ้าจำเป็นต้องรู้!” กระต่ายยักษ์พูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ แต่เมื่อมันเห็นฟันสีขาวของฮูหนิว มันรีบหลบไปอยู่ด้านหลังหลิงฮันทันที“กระต่ายน้อยมาเล่นกัน!” ฮูหนิววิ่งไล่จับกระต่าย “พวกเรามาเล่นนกอินทรีไล่จับลูกไก่กันเถอะ หนิวจะเป็นนกอินทรี ถ้าเจ้าถูกหนิวจับ เจ้าจะถูกกิน!” ร่างของฮูหนิวแวบหายไปและกลายเป็นลำแสงพุ่งเข้าหากระต่ายยักษ์“นี่เจ้ายังคิดจะกินข้าอยู่อีกรึ!” กระต่ายยักษ์รีบวิ่งหนีทันทีเด็กน้อยคนหนึ่งและกระต่ายตัวหนึ่งกำลังวิ่งอยู่รอบกองไฟ ฝั่งหนึ่งรวดเร็ว แต่อีกฝั่งหนึ่งก็ไม่ได้ช้า ทว่ากลับจับกันไม่ได้ส่วนหลิงฮันนั่งปรุงอาหารและต้มซุปอย่างสบายใจ“นี่เจ้าไม่สนใจอะไรเลยหรือ?” ช่วยไม่ได้ที่ฉินหยีเย่วจะพูดแบบนั้นออกมา“ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพวกเขาก็หยุดเอง” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่ใส่ใจนี่…มันไร้ความรับผิดชอบเกินไป ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กน้อยอย่างฮูหนิวถึงนิสัยเสียแน่นอนว่าเมื่อกลิ่นหอยโชยออกมาจากหม้อ ฮูหนิวหยุดเล่นและรีบนั่งลงทันที ช่วยไม่ได้ที่นางจะเริ่มน้ำลายไหล“เอาเนื้อนกอินทรีมาให้ข้า!” กระต่ายยักษ์เองก็นั่งลง แต่มันนั่งห่างจากฮูหนิว“กระต่ายกินเนื้อได้ด้วยงั้นหรือ?” หลินฮันอดที่จะถามออกมาไม่ได้“หึ่ม มีนกอินทรีไม่รู้เท่าไหร่ที่กินกระต่ายอย่างพวกข้า นี่คือการแก้แค้น!” กระต่ายยักษ์กล่าว“โอ้วเป็นเช่นนั้นนี่เอง!” หลิงฮันตักเนื้ออินทรีและน้ำซุป แล้วส่งให้เจ้ากระต่ายยักษ์ นกอินทรีตัวนี้เพิ่งถูกฆ่าเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งมันเป็นสัตว์อสูรระดับบุปผาผลิบาน แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นสัตว์อสูรชั้นราชาจากนั้นหลิงฮันตักเนื้อและน้ำซุปให้ทุกคนได้กิน เนื้ออินทรีทั้งสดใหม่และน้ำซุปจากโสมพันปี เรียกได้ว่านี่คือยาบำรุงชั้นเลิศหลังจากกินเสร็จแล้ว หลิงฮันนำผลลูกพีชออกมากินต่อส่วนคนอื่นนั่งสมาธิและสกัดพลังที่ได้กินเข้าไปครั้งนี้มีหลิงฮัน ฮูหนิวและกระต่ายยักษ์ที่กินมากที่สุดหลิงฮันและฮูหนิวมีกระเพาะที่ใหญ่โต ส่วนกระต่ายยักษ์มีระดับพลังที่สูงกว่าทั้งยังแปลกประหลาด มันไม่ได้กินน้อยไปกว่าหลิงฮันกับฮูหนิวเลยหลังจากที่เวลาผ่านไปเนิ่นนาน พวกเขาทุกคนยืนขึ้นและเผยสีหน้าพึ่งพอใจออกมา“เย่หรงน่าจะรอพวกเรานานแล้ว”“เขารอนานหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก”“เขาคงไม่บ่นอะไรหรอก”“ใช่แล้ว!”ไม่มีใครสนใจความรู้สึกของเย่หรงแม้แต่คนเดียว และไม่สนใจว่าเย่หรงจะคิดยังไง“ไปกันเถอะ!” แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าไปที่หุบเขาโอสถอีกครั้ง เพราะที่นั่นมีสัตว์อสูรระดับก้าวสู่เทวาอยู่หลายตัวจากนั้น พวกเขามุ่งหน้าไปที่ที่นัดหมายกันเอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบเย่หรง แต่ในเมื่อพูดไว้แล้วมีแต่ต้องไปในระหว่างการเดินทางหลิงฮันถามกระต่ายยักษ์เกี่ยวกับหุบเขาโอสถ
คอมเม้นต์