Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 546
ซวนหยวนจื่อกวงหันหลังเดินจากไป แต่เมื่อเขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็ได้ยินเสียงพึมพำของหลิงฮัน “งี่เง่า” ซวนหยวนจื่อกวงอดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับมาและจ้องมองด้วยสีหน้าเย็นชา “เจ้าพูดว่าอะไร?”“โอ้ ก็พูดว่าเจ้างี่เง่าไง ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะรู้จักชื่อของตนเองดีและรีบหันกลับมาแบบนี้” หลิงฮันยิ้มซวนหยวนจื่อกวงกลายเป็นเกรี้ยวกราดในทันที โลหิตของเขาเดือดพล่านพร้อมกับหัวของเขาที่ปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมากลายเป็นรูปร่างของมังกร นกอมตะและพยัคฆ์ขาวซึ่งแสดงให้เห็นว่ารุ่นเยาว์ผู้นี้แข็งแกร่งขนาดไหนแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก บางทีอาจจะไม่ด้อยกว่าจักรพรรดิดาบและสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์เลย“เมื่อใดที่เจ้าออกมาสถานที่นี้ ข้าจะสังหารเจ้า!” ซวนหยวนจื่อกวงพูดอย่างเย็นชาและหนักแน่น“งี่เง่า เอาไว้เมื่อข้าอารมณ์ดีเดี๋ยวข้าจะเป็นคนไปเอาชีวิตของเจ้าเอง” หลิงฮันพูดอย่างเกียจคร้าน สำหรับตัวเขาที่ในชีวิตที่แล้วเป็นถึงจอมยุทธระดับสวรรค์ รุ่นเยาว์ทุกคนในยุคสมัยนี้ไม่มีค่าพอจะมาเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริงของเขาในความคิดของเขา คนที่เขาต้องการจะไล่ตามก็คือจักรพรรดิดาบ จักรพรรดิกระบี่ตะวันที่อาจจะทะลวงผ่านขึ้นไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วซวนหยวนจื่อกวงไม่อยากเสียเวลาทะเลาะกับหลิงฮันต่อ มันเค้นเสียงดูถูกและสะบัดชายเสื้อเดินจากไปครั้งนี้หลิงฮันไม่ได้พึมพำอะไรเขากำลังคิดว่าจะนำเส้นผมของซวนหยวนจื่อกวงเข้าไปใส่ในขวดหยกต้องสาปดีหรือไม่ เพียงแต่ว่าหากจอมยุทธได้บรรลุระดับบุปผาผลิบานแล้ว เส้นผมของเขาจะไม่มีวันร่วงหล่นเองรวมถึงเล็บก็จะไม่ยาวด้วยดังนั้นการนำชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานมาให้ได้จึงเป็นเรื่องที่ลำบากมากช่างมันเถอะ ก็แค่ระดับบุปผาผลิบานขั้นเก้า ตราบใดที่ขั้นพลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย การจะสังหารอีกฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องยาก“ไปกันเถอะ พวกเราต้องจัดเตรียมที่พักกันก่อน” หยินหงพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ยิ่งหลิงฮันกับซวนหยวนจื่อกวงมีความบาดหมางกันก็ยิ่งทำให้โอกาสที่หลิงฮันจะช่วยนางมีมากขึ้น“เห็นข้ามีความบาดหมางแล้วต้องมีความสุขขนาดนั้นเชียว?” หลิงฮันหยอกล้อ“ถ้านายหญิงคนนี้มีความสุขแล้วเจ้าจะทำไม?” หยินหงตบหน้าอกทั้งห้าคนเดินเข้าไปยังตำหนักสมบัติวิญญาณ เมื่อหยินหงบอกสถานะของตนไปก็ถูกต้อนรับให้ไปยังสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ด้านหลังคฤหาสน์หลัก เพราะว่าภูมิภาคเหนือคือภูมิภาคที่ระดับของเหล่าจอมยุทธอ่อนแอที่สุด ตำหนักสมบัติวิญญาณของภูมิภาคเหนือจึงมีสถานะต่ำสุดไปด้วย อำนาจของนางในที่นี้จึงมีไม่มากนัก“เหอะ รอก่อนเถอะ ถ้านายหญิงคนนี้ได้อันดับหนึ่งของการแข่งขัน ใครกันจะกล้าดูถูกข้าอีก!” นางพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“พี่ชายฮัน ซวนหยวนจื่อกวงผู้นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ท่านไม่ควรประมาท” จูเสวียนเอ๋อพูดกับหลิงฮันด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานหลิงฮันพยักหน้าและพูด “วางใจได้ ข้าไม่กลัวผู้ใดทังนั้น แต่ข้าก็ไม่ได้ดูถูกผู้ใดเช่นกัน แม้ตอนนี้พลังของหมอนั่นจะแข็งแกร่งกว่าข้า แต่ถ้าหากคาดหวังว่าจะสังหารข้าได้ก็ฝันไปเถอะ”ด้วยไพ่ลับต่างๆของเขา หลิงฮันจึงมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก“จริงสิ ข้าขอถามอะไรเจ้าสักหน่อย” หลิงฮันพูดกับหยินหง “เจ้ารู้จักหุบเขาไร้ขอบเขตรึไม่?”“หุบเขาอะไรนะ?” หยินหงสับสน“หุบเขาไร้ขอบเขต!”“นายหญิงผู้นี้อาศัยอยู่ในภูมิภาคกลางเพียงไม่กี่ปี แถมอาณาเขตของภูมิภาคกลางยังกว้างใหญ่ไพศาลอีกด้วย สำหรับตำแหน่งของหุบเขาไร้ขอบเขตนั้นข้าจะไปถามใครสักคนให้เอง” หยินหงเดินจากไป ผ่านไปสักพักนางก็ยังไม่กลับมา “เด็กไม่ดี นี่เจ้ากลั่นแกล้งนายหญิงผู้นี้รึ? ข้าไปถามคนมาหลายคนแล้ว แต่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อของหุบเขาที่ว่ามาก่อนเลย”คิ้วของหลิงฮันขมวดเข้าหากัน กาลเวลาที่ผ่านไปทำให้ชื่อของสถานที่ต่างๆเปลี่ยนแปลง ปัญหาก็คือในภูมิภาคกลางที่กว้างใหญ่นี้ เขาจะหาหุบเขาที่เป็นเป้าหมายเจอได้อย่างไร?“เดี๋ยวเถอะ นายหญิงกำลังพูดกับเจ้าอยู่นะ ช่วยสนใจข้าหน่อยได้รึไม่?” หยินหงถามด้วยสีหน้าอับอาย“นิสัยขี้น้อยใจแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่ได้แต่งงานหรอก!” หลิงฮันกล่าวเตือน“เหอะ นายหญิงผู้นี้ไม่แต่งงานกับใครง่ายๆหรอก!” หยินหงเค้นเสียง “เจ้าพักผ่อนไปก่อน พยายามอย่าไปมีเรื่องกับซวนหยวนจื่อกวงล่ะ เห้อ…การที่สาขาภูมิภาคใต้เชิญสัตว์ประหลาดเช่นนั้นมา ดูเหมือนการแข่งขันประลองยุทธจะหวังอะไรมากไม่ได้แล้ว”หลิงฮันหัวเราะและพูด “ข้ามีวิธี”“วิธีแบบใด” หยินหงถาม“เจ้าต้องหาทางนำเส้นผมของซวนหยวนจื่อกวงมาให้ได้ ข้าจะใช้เส้นผมนั่นทำการสาปแช่งจนเขาไร้เรี่ยวแรงและต้องพ่ายแพ้ต่อเสวียนเอ๋อ” หลิงฮันยิ้ม“พอเลย!” หยินหงมีสีหน้าโมโห เด็กหนุ่มคนนี้ล้อนางเล่นอีกแล้ว “นายหญิงผู้นี้จะพักผ่อนเสียหน่อย ยังเวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนก่อนการแข่งขัน อย่าทำอะไรให้ร่างกายบาดเจ็บล่ะ”‘พรึบ’หลังจากหยินหงจากไป สตรีอีกสามคนก็แยกย้ายกันไปห้องของตนเองหลิงฮันนั่งลงและครุ่นคิดว่าจะหาหุบเขาไร้ขอบเขตอย่างไรดีเขาเคยได้ยืนชื่อของหุบเขาไร้ขอบเขตมาก่อนในชีวิตที่แล้ว แต่เขาไม่เคยไปที่นั่นสักครั้ง เขารู้เพียงแค่ว่ามันอยู่ที่ไหนสักแห่งในภูมิภาคกลางเท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาคงไม่สามารถเจาะจงพื้นที่ได้และค่อยๆค้นหาไปเรื่อยๆห้องที่พักของตำหนักสมบัติวิญญาณค่อนข้างหรูหราทีเดียว แถมภายในห้องยังมีแผนที่ของภูมิภาคกลางวางเอาไว้ เพียงแค่มันไม่ใช่แผนที่ที่ละเอียดอะไรนัก มันทำสัญลักษณ์เอาไว้เพียงแค่พื้นที่ใหญ่ๆ เมืองเล็กๆบางเมืองหรือภูเขาบางแห่งยังไม่มีชื่อเขียนเอาไว้ด้วยซ้ำหลิงฮันพยายามจดจำข้อมูลในแผนที่และเปรียบเทียบกับความทรงจำในชีวิตที่แล้ว นิ้วของเขาชี้ไปยังแผนที่และพึมพำออกมา “ที่นี่คือแคว้นบุปผาลอยล่อง!”อาณาเขตของภูมิภาคหลางกว้างใหญ่เกินไป ในภูมิภาคนี้มีแคว้นทั้งหมดสามสิบหกแคว้นและแคว้นบุปผาลอยล่องก็คือหนึ่งในนั้น เพียงแม้จะมีแคว้นมากมายถึงสามสิบหกแคว้น แต่แคว้นบุปผาลอยล่องก็ยังกว้างใหญ่กว่าดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยวอยู่ดีการจะค้นหาหุบเขาใดหุบเขาหนึ่งช่างเป็นเรื่องที่ลำบากยิ่งนัก!ข้าหวังว่าในแคว้นบุปผาลอยล่องจะมีหุบเขาไม่มากด้วยแผนที่เช่นนี้เขาไม่สามารถรู้ถึงภูมิประเทศของแคว้นต่างๆได้ละเอียดนัก หลิงฮันเรียกคนรับใช้มาเพื่อวานให้ไปซื้อแผนที่ของแคว้นบุปผาลอยล่อง ตำหนักสมบัติวิญญาณเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีทุกอย่าง ตราบใดที่มีเงินแม้ไม่ต้องออกไปก็สามารถหาซื้อของที่ต้องการได้ผ่านไปไม่นานคนรับใช้ก็กลับมาพร้อมกับบอกว่าแผนที่นั้นมีทั้งหมดสามระดับ แผนที่ระดับธรรมดาสามารถซื้อได้ขอแค่มีเหรียญเงิน แผนที่ระดับกลางนั้นต้องใช้ผลึกก่อเกิดหนึ่งดาวในการแลกเปลี่ยน ส่วนแผนที่ระดับสูงนั้นต้องใช้ผลึกก่อเกิดสองดาวสิบก้อนหลิงฮันคิดในใจว่าตำหนักสมบัติวิญญาณช่างหัวการค้ายิ่งนัก เขารีบส่งผลึกก่อเกิดสองดาวสิบก้อนให้คนรับใช้ไปซื้อแผนที่มาผ่านไปสักพักแผนที่ก็ถูกนำมาแผนที่ที่ต้องใช้ผลึกก่อเกิดสองดาวสิบก้อนในการแลกเปลี่ยนแน่นอนว่าย่อมหรูหรา วัตถุดิบที่ใช้ทำแผนที่คือกระดองของเต่ามังกรชิงหลงเต่ามังกรชิงหลงไม่ใช่สัตว์อสูรระดับสูง แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมคือความสามารถเฉพาะตัวของมัน กระดองของมันสามารถขยายใหญ่ได้ถึงหนึ่งร้อยเมตรและยังสามารถย่อขนาดให้เล็กได้เหลือเท่าฝ่ามือเพราะอย่างนี้เต่ามังกรชิงหลงจึงถูกล่าจนจำนวนของพวกมันแทบจะสูญพันธุ์หลิงฮันเดินไปลานที่พักและยกมือขึ้น ทันใดนั้นกระดองเต่าขนาดเล็กในมือของเขาก็ขยายใหญ่พร้อมกับแสดงภาพภูเขาและแม้น้ำลำธารให้เห็น
คอมเม้นต์