Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 528
เมื่อพูดถึงจอมยุทธระดับทลายมิติ ดูเหมือนว่าน่าจือเหยียนจะมีความมั่นใจกลับคืนมาและพูดว่า “เผ่ามนุษย์อย่างเจ้าแม้ว่าเจ้าจะมีความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยม แต่ยังไงระดับบุปผาผลิบานก็ไม่มีทางต่อสู้กับเผ่าใต้สมุทรแห่งมหาสมุทรเหนือของข้าได้ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าอยู่ที่นี่เพื่อรับคำสั่งจากเบื้องบนให้ค้นหาวัตถุโบราณบางอย่างเพื่อนำมันกลับไป และเผ่าใต้สมุทรของข้านั้นเกลียดพื้นดินและไม่เคยคิดที่จะบุกดินแดนของเจ้า”สิ่งที่มันพูดออกมาน่าเชื่อถือเล็กน้อย อย่างน้อยในชีวิตที่แล้วของหลิงฮันเขาก็ไม่เคยได้ยินเผ่าใต้สมุทรมาก่อนหลิงฮันหัวเราะออกมาและพูดว่า “ข้าเป็นเผ่ามนุษย์ แต่เจ้ากลับพูดเรื่องสำคัญแบบนั้นออกมา?”น่าจือเหยียนกลายเป็นตกตะลึง แม้เผ่าใต้สมุทรจะแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้มันตกอยู่ในเอื้อมมือของหลิงฮัน ชีวิตและความตายอีกฝ่ายเป็นคนตัดสิน เขาจึงรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า “ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว”“น่าอับอายยิ่งนัก จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานกลับทำตัวว่านอนสอนง่ายและยอมจำนน?”“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าหลิงฮันและน่าจือเหยียนกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่ แต่ข้ามองเห็นใบหน้าที่จอมจำนนของน่าจือเหยียน” ฝูงชนกล่าวน่าอับอาย!“ตระกูลนั่นมีจอมยุทธระดับสวรรค์?” หลิงฮันลูบคางของเขาและคิดว่ามันแปลก “หากเผ่าใต้สมุทรของเจ้าแข็งแกร่งขนาดนั้น เหตุใดถึงส่งเจ้ามาแค่คนเดียว?”“ผู้อาวุโสไม่ต้องการให้มันเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเหมืองแห่งนี้มันชั่วร้ายเกินไป ถ้าหากเผ่าใต้สมุทรมาแห่กันมาที่นี่ บางทีแม้แต่ตระกูลราชวงศ์ก็อาจตื่นตระหนก” น่าจือเหยียนกล่าว“แล้วสิ่งที่เจ้าต้องการคืออะไร?” หลิงฮันถามน่าจือเหยียนลังเลเล็กน้อยและพูดว่า “มันเป็นขวด”“มันทำอะไรได้?”“ข้าไม่รู้ แต่ผู้อาวุโสบอกว่ามันสำคัญมาก และข้ามีหน้าที่เพียงแค่นำขวดกลับไปเท่านั้น”“แล้วเจ้าเป็นคนสำคัญอะไรหรือไม่?” หลิงฮันเค้นเสียง แต่เมื่อคิดแบบนั้น เผ่าใต้สมุทรและมนุษย์บนบกนั้นไม่ได้ติดต่อกัน มีผู้คนจำนวนมากต้องตกตายไปจากการขุดเหมือง แต่เผ่าใต้สมุทรคงไม่สนใจแม้แต่น้อย จากมุมมองนี้ น่าจือเหยียนน่าจะเป็นคนไม่สำคัญ“ข้า…” น่าจือเหยียนรู้สึกสมเพช ความแข็งแกร่งของมันในดินแดนทางตอนเหนืออันโดดเดี่ยวสมควรจะอยู่ในอันดับต้นๆ แต่ภายในเผ่าใต้สมุทรมันแทบจะไร้ค่าหลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า “เจ้าจะต้องอยู่กับข้าซักพัก!” เขาตบน่าจือเหยียนจนสลบแล้วเดินไปในที่ลับตาคนก่อนที่จะพามันเข้าไปในหอคอยทมิฬเพราะเผ่าใต้สมุทร ทำให้ข้าไม่รู้ว่ามีเผ่ามนุษย์กี่คนที่ต้องตกตายไปแน่นอนว่าข้าไม่สามารถปล่อยมันไปได้ แต่หลิงฮันต้องการเค้นข้อมูลจากมันเพิ่ม ดังนั้นเขาจึงไม่มีแผนที่จะฆ่ามันตอนนี้เมื่อเห็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานถูกหลิงฮันจัดการได้อย่างง่ายดาย ทุกคนจึงคิดอยู่ในใจว่าถ้าหลิงฮันต้องการฆ่าพวกเขามันก็ง่ายเหมือนกับการพลิกฝ่ามือ จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานนั้นแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อหลิงฮันหันไปมองโปวเหวินหลินด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “นายท่านโปว…”“ข้ายอมแล้ว! ข้ายอมแล้ว!” โปวเหวินหลิงรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายเป็นถึงจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถต่อกรด้วยได้หลิงฮันรู้สึกไม่พอใจและพูดว่า “นายท่านโปวดูเหมือนจะชอบต่อต้านคนอื่นเสียจริง”“มากับข้า พาข้าะไปหาจักรพรรดิอัคคี” หลิงฮันยิ้มโปรเหวินหลินรู้สึกลังเลขึ้นมาทันที เขาคงจะไม่ถูกจักรพรรดิอัคคีฆ่าตาย แต่แล้วตัวมันเองล่ะ?“เฮ้อ นายท่านโปวถ้าท่านไม่พูดแล้วข้าจะต้องเดินไปที่ไหนกันเล่า?” หลิงฮันยิ้มแล้วพูดต่อว่า “ข้าเกลียดนักคนที่พูดด้วยแล้วเงียบ ท่านอยากให้ข้าเกลียดท่านหรือไม่?”ฮูหนิวแยกเขี้ยวออกมา คนที่หลิงฮันเกลียดนางยินดีที่จะใช้หมัดทุบตีอีกฝ่ายให้จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานสองคนกำลังจ้องมองมาที่มัน โปวเหวินหลินจึงไม่อาจทำอะไรได้นอกจากพูดออกมาว่า “ตกลง!”หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ถ้างั้นไปกันเถอะ”ทั้งสามคนจากไป ทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น แผ่นหลังของพวกเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่ออันหนาวเหน็บ แรงกดดันของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานนั้นน่าสะพรึงกลัวเกินไป“เป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นข้าก็คงไม่กล้าขัดใจเขา เขาสามารถฆ่าคนอื่นได้ด้วยนิ้วมือเดียว”“ข้าได้ยินมาว่าบุตรชายของโปวเหวินหลินถูกฆ่าตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แน่นอนว่าโปวเหวินหลินต้องทำการแก้แค้นและไล่ตามเขามา แต่ผลลัพธ์มันกลับกลับตาลปัตร”“ดูเหมือนว่าพวกเราทุกคนห้ามดูถูกรุ่นเยาว์เสียแล้ว และอย่าได้รุกรานจอมยุทธลึกลับ มิฉะนั้นตระกูลของพวกเราอาจถูกทำลาย!”“ใช่แล้ว!”***************ทั้งสามคนเดินตรงไปที่พระราชวัง ด้วยความเร็วที่ไม่ได้รวดเร็วนัก ดังนั้นเมื่อพวกเขาเดินมาถึงพระราชวัง มันก็มีการป้องกันที่แน่นหนารอคอยอยู่แล้ว“หยุด!” ใครบางคนกล่าว “ที่แห่งนี้คือแคว้นอัคคี คนนอกไม่อาจเข้ามาได้!”หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ข้ามีเรื่องบางอย่างที่ต้องการพูดกับจักรพรรดิอัคคี จงเรียกเขาออกมาเพื่อพูดคุยกับซึ่งหน้า อย่าได้บังคับให้ข้าต้องลงมือ เพราะคนของข้านั้นเกลียดความรุนแรง”ปากของโปวเหวินหลินถึงกับกระตุก และบ่นอยู่ในใจ “เกลียดความรุนแรงงั้นรึ?”“รีบลงมือเร็วเข้า” มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังออกมาจากด้านในพระราชวัง ตอนนี้ทุกคนรับรู้พลังของหลิงฮันแล้ว แล้วใครจะกล้าปิดรูปแบบอาคม? ถ้าไม่มีรูปแบบอาคมป้องกัน แล้วมันจะป้องกันการรุกรานจากจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานได้อย่างไร?หลิงฮันตบไหล่ของโปวเหวินหลินและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้ารู้จักชายคนนี้หรือไม่? ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าสิบลมหายใจ ถ้าข้ายังไม่เห็นจักรพรรดิอัคคี ข้าจะฆ่าชายคนนี้ซะ”ทันใดนั้น โปวเหวินหลินรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาทันที จักรพรรดิอัคคีจะเข้ามาเสี่ยงเพื่อชีวิตของมันไปทำไม? มันคงถึงฆาตแล้วหลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ไม่มีอะไร ข้าแค่พูดข่มขู่พวกมันเท่านั้น”โปวเหวินหลินรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที“แต่ข้าจะตัดแขนขาของเจ้าแทน” หลิงฮันพูดต่อ“ว่าไงนะ!” โปรเหวินหลินรู้สึกหวาดกลัวอีกครั้ง“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าช่างตลกเสียจริง ลืมมันไปเถอะ ข้าแค่หยอกล้อเจ้าเล่น แต่ข้ายังคงต้องการพบจักรพรรดิอัคคี” หลิงฮันจ้องมองออกไปและเริ่มใช้เนตรแห่งสัจธรรมเพื่อหาจุดอ่อนของรูปแบบอาคมตอนนี้เขาเป็นปรมาจารย์รูปแบบอาคมระดับห้าแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสร้างรูปแบบอาคมระดับหก แต่ถ้าเป็นการแก้รูปแบบอาคมนั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
คอมเม้นต์