Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1698 จักรพรรดินีลงมือทดสอบ
หยวนซิ่งผิงสวมชุดดำลวดลายสีทอง หากสังเกตให้ดีจะพบว่าลวดลายบนชุดนั้นส่องประกายแสงอยู่เป็นระยะชุดที่เขาสวมใส่ชื่อเกราะสมบัติที่ไม่รู้ว่ามีคุณสมบัติช่วยเพิ่มพลังโจมตีหรือพลังป้องกันเขาเป็นชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาและมีผมที่ดำสลวย เพียงแค่ถูกสายตาของเขาจดจ้องก็อาจจะทำให้ผู้คนหัวใจสั่นไหวได้หยวนซิ่งผิงก้าวเดินอย่างเชื่องช้า แม้จะมีสายตานับพันจ้องมองมาเขาก็ยังมีท่าทีสงบนิ่งเขาก้าวเดินมาถึงหน้าแท่งเสาและหยุดฝีเท้าในที่สุดต่อหน้าราชารุ่นเยาว์ที่กำลังเฉิดฉาย แม้แต่ชายหนุ่มผมแดงก็ยังมีท่าทียำเกรงและเป็นฝ่ายกล่าวทักทายอย่างสุภาพ “ยินดีที่ได้พบพี่ชายหยวน”หยวนซิ่งผิงพยักหน้าตอบ ที่จริงตัวเขาไม่เห็นชายหนุ่มผมแดงอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นตัวแทนของจ่างซุนเหลียงเขาจึงต้องยอมไว้หน้า สายตาของหยวนซิ่งผิงกวาดมองไปที่แท่งเสาก่อนจะปล่อยหมัดออกไป‘ตูม’ แท่งเสาสั่นสะท้านพร้อมกับแสงที่ส่องสว่างออกมาเกินแปดสิบรูแปดสิบสองแต้ม!“สมกับเป็นหยวนซิ่งผิง ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!”“ในที่สุดก็มีคนทำคะแนนได้เกินแปดสิบแต้ม”“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมหยวนซิ่งผิงถึงนำพาเมืองสองมหาภพคว้าชัยชนะได้ ที่แท้เขาก็ทรงพลังถึงเพียงนี้”ใครหลายคนเอ่ยชม ถึงแม้ทุกคนจะเป็นคู่แข่งกันในการประลองที่จะเริ่มขึ้น แต่ในโลกแห่งวรยุทธนั้นผู้ที่แข็งแกร่งย่อมเป็นใหญ่ หยวนซิ่งผิงคู่ควรแล้วที่จะได้รับการชมเชยจากพวกเขาหยวนซิ่งผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาลังเลอยู่ชั่วครู่แต่ก็ไม่ได้โจมตีต่อการที่เขาลังเลทำให้ผู้เริ่มคิดไปต่างๆนาๆว่าหยวนซิ่งผิงนั้นจงใจเก็บซ่อนพลังเพื่อให้ดูลึกลับหลังจากหยวนซิ่งผิงก็มีอัจฉริยะอีกหลายคนที่ลองทดสอบดู แต่พวกเขาทุกคนต่างทำคะแนนได้เพียงเจ็ดสิบกว่าๆเท่านั้น ณ เวลานี้มีเพียงหยวนซิ่งผิงคนเดียวที่ทำให้แสงของแท่งเสาส่องประกายได้เกินแปดสิบแต้ม“หลิงฮัน เจ้ารีบไปทดสอบเร็ว!” พวกเม่าซูอวี่เซ้าซี้หลิงฮัน แต่ก็ช่างบังเอิญอีกแล้วที่จู่ๆฝูงชนก็เกิดเสียงเอะอะขึ้นมาอีกครั้งตันอวี่จิงเองก็มาที่นี่ด้วย!ในระยะหลายร้อยปีที่ผ่านมานี้ นางเป็นอัจฉริยะอีกคนที่กำลังเฉิดฉาย ไม่รู้ว่าจอมยุทธระดับราชาเซียนที่ทรงพลังพ่ายแพ้ต่อนางไปมากมายเพียงใดแล้ว ผู้คนต่างเล่าลือกันว่าในการประลองครั้งนี้ นางเป็นเพียงคนเดียวที่จะต่อสู้กับหยวนซิ่งผิงได้อย่างสมน้ำสมเนื้อตันอวี่จิงสวมชุดคลุม ผมสีดำยาวของนางพลิ้วไหวราวกับน้ำตกที่งดงาม มีบุรุษมากมายหลายคนตกหลุมรักนางเพียงแรกพบ“ธิดาตัน” ชายหนุ่มสมแดงเป็นฝ่ายทักทายอีกครั้ง ในหมู่จอมยุทธที่ปรากฏตัวในตอนนี้ มีเพียงนางกับหยวนซิ่งผิงแค่สองคนเท่านั้นที่อยู่ในสายตาของเขา เนื่องจากจ่างซุนเหลียงเป็นคนกล่าวเองว่า “ทั้งสองคนนี้น่าสนใจ”ในเมื่อเจ้านายของเขากล่าวเช่นนั้น เขาย่อมไม่กล้าดูแคลนทั้งสองตันอวี่จิงเองก็ไว้หน้าอีกฝ่ายโดยการพยักหน้าตอบเล็กน้อย สายตาของนางจดจ้องไปยังแท่งเสาและปล่อยการโจมตีออกไป‘ตูม’ รูบนแท่งเสาส่องประกายแสงทันทีที่การโจมตีเข้าปะทะแปดสิบสี่แต้ม!แม้นี่จะยังไม่ใช่การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของนาง แต่ก็ไม่อาจตัดสินได้ว่านางนั้นเหนือกว่าหยวนซิ่งผิง“หลิงฮัน เจ้ารีบทดสอบเร็วๆเข้า!” พวกเม่าซูอวี่โน้มน้าวหลิงฮันเป็นครั้งที่สามและภาวนาขอให้อย่ามีเหตุการณ์ใดเข้ามาแทรกอีกครั้งนี้ไม่มีเหตุการณ์ใดแทรกเข้ามาก็จริง แต่ที่คาดไม่ถึงคือจักรพรรดินีเป็นฝ่ายก้าวเดินออกไปแทน ก่อนหน้านี้นางอยู่ในอ้อมกอดหลิงฮันจึงไม่มีใครสังเกต แต่นางเมื่อก้าวเท้าเดินออกมา เลือนร่างอันผอมบางทรงเสน่ห์ก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันทีเพียงแค่จักรพรรดินีก้าวเดินเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มผมแดงก็เผลอลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางสุภาพโดยไม่รู้ตัว แม้จะได้สติกลับคืนมาแล้วเขาก็ยังยืนแน่นิ่งอยู่เช่นนั้นราวกับสตรีที่อยู่ตรงหน้ามีสถานะทัดเทียมกับทายาทอย่างจ่างซุนเหลียงแน่นอนว่าจักรพรรดินีย่อมไม่แยแสอีกฝ่าย นางยื่นมืออันเรียวบางออกมาและผลักเข้าใส่แท่งเสาเบาๆ‘ตูม’ เมื่อถูกฝ่ามือกระแทกเข้าใส่ แท่งเสาก็สั่นไหวเล็กน้อยพร้อมกับส่องประกายแสงออกมาจากรูเก้าสิบสองแต้ม!ผู้คนโดยรอบกลายเป็นแน่นิ่งไร้คำพูดทันที พวกเขาทุกคนค่อยๆหันหน้ามองหากันด้วยอาการหายใจติดขัดเพียงแค่ผลักฝ่ามือเบาๆก็ทำให้แท่งเสาส่องประกายแสงได้ถึงเก้าสิบสองแต้ม!เมื่อครู่เป็นเพียงแค่การผลักฝ่ามือธรรมดาไม่ผิดแน่ เพราะหากใช้พลังเต็มที่ล่ะก็ ตราประทับแห่งเต๋าของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์คงปรากฏให้เห็นแล้วแต่แค่โจมตีลวกๆยังทำให้แท่งเสาส่องประกายได้ถึงเก้าสิบสองรู หากนางเอาจริงล่ะจะเป็นอย่างไร?เก้าสิบเก้า… หรืออาจจะหนึ่งร้อย?พระเจ้า สตรีผู้นี้คือราชาแห่งยุคที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าจ่างซุนเหลียงแน่นอน!จักรพรรดินีไม่ได้ลงมือต่อ นางเพียงแค่อยากรู้พลังของตนเองเท่านั้นหลิงฮันยิ้ม หลังจากจักรพรรดินีทะลวงผ่านเป็นราชาเซียน พลังต่อสู้ของนางก็ได้ยกระดับขึ้นอีกขั้น ไม่เช่นนั้นต่อให้นางเอาจริงก็อาจจะทำให้แท่งเสาส่องแสงได้เพียงราวๆเก้าสิบแต้ม แต่ด้วยระดับพลังในตอนนี้ เกรงว่าเก้าสิบเก้าแต้มก็ยังไม่ได้ขีดจำกัดของนาง“ข้าขอเอ่ยถามชื่อของแม่นางได้หรือไม่?” ชายหนุ่มผมแดงมีท่าทีสุภาพยิ่งกว่าเดิม“หล่วนซิง” จักรพรรดินีกล่าวอย่างไม่แยแสพร้อมกับเดินเข้าหาหลิงฮันชายหนุ่มผมแดงยังอยากรู้ข้อมูลของจักรพรรดินีมากกว่านี้ แต่ในขณะที่เขาก้าวเท้าและพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง จักรพรรดิก็ถลึงตาหันมองเขาทำให้ต้องล่าถอยกลับมาอย่างช่วยไม่ได้หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าขอถามได้รึไม่ว่า เกาะเมฆาเซียนสามารถพาคนใกล้ตัวไปด้วยได้รึเปล่า?”ชายหนุ่มผมแดงแน่นิ่งไปครู่หนึ่ง เขาพยักหน้าและกล่าว “แน่นอน แต่ว่าสามารถพาไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น”หลิงฮันยิ้มให้กับจักรพรรดินีและกล่าว “ภรรยาข้า ครั้งนี้ข้าคงต้องขอพึ่งพาบุญบารของเจ้าแล้ว”จักรพรรดินียิ้มตอบ น่าเสียดายที่คนอื่นๆไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ของนางเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ผู้คนโดยรอยก็อยากจะทุบตีหลิงฮันขึ้นมาทันทีบุรุษที่กินข้าวนิ่มเช่นเจ้าช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!หลิงฮันโอบกอดเอวของจักรพรรดินีโดยไม่สนใจสายตาผู้คน“ช้าก่อนแม่นาง!” หยวนซิ่งผิง เดินพรวดเข้ามาและกล่าว “ข้าเพิ่งได้รับทักษะนิรันดร์ทักษะหนึ่งมาไม่นานนี้ คาดว่ามันอาจเป็นทักษะของนิรันดร์ระดับแบ่งแยกวิญญาณ ไม่ทราบว่าแม่นางสนใจจะมาศึกษาทักษะนี้ด้วยกันกับข้ารึไม่?”พรวด ทักษะนิรันดร์ระดับแบ่งแยกวิญญาณ!ทุกคนตกตะลึงและถอนหายใจอิจฉา หยวนซิ่งผิง ช่างโชคดียิ่งนักที่ได้ทักษะระดับนั้นมาครอบครอง แต่การที่เขาเสนอมันออกมาโดยยอมให้ใครก็ไม่รู้มาศึกษาด้วยกันนั้น แสดงให้เห็นว่าตัวเขานั้นหลงรักจักรพรรดินีเพียงแค่แรกเห็นขนาดยังไม่เปิดเผยใบหน้าก็ยังทำให้อัจฉริยะขนาดหยวนซิ่งผิง หวั่นไหวได้?ไม่มีใครแปลกใจในเรื่องนี้เท่าไหร่ หากพวกเขามีทักษะนิรันดร์ที่สุดยอดเช่นนั้นพวกเขาก็ยินดีจะแบ่งปันให้กับจักรพรรดินีเช่นกันหากจะได้ใกล้ชิดกับจักรพรรดินี ไม่ว่าต้องใช้อะไรแลกก็ถือว่าคุ้มค่า* 吃软饭กินข้าวนิ่ม = ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน *
คอมเม้นต์