Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1626 วางแผนรับมือ
จักรพรรดินีพุ่งไปปรากฏตัวด้านข้างเซียนซิงฉา ‘ปัง’ นางผลักผ่ามือดันร่างของเซียนซิงฉาออกไปพลังต่อสู้ของนางในตอนนี้แข็งแกร่งจนแม้แต่เซียนซิงฉาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ฉงเยี่ยคิดว่าเซียนซิงฉาแค่ยอมอ่อนข้อให้สตรีงดงามเท่านั้น เขาแสยะยิ้มไปยังจักรพรรดินี ในเมื่อนางเสนอตัวมาหาเขาเองงั้นเขาก็ขอรับไว้!“กล้าคิดร้ายกับสามีของข้า?” ใบหน้าของจักรพรรดินีเต็มไปด้วยท่าทางหยิ่งยโส “เจ้าคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มาจากไหน?”ความงดงามและสเน่ห์ของจักรพรรดินีนั้นต่อให้เกรี้ยวกราดก็ยังน่าหลงไหล ฉงเยี่ยรู้สึกหวาดหวั่นในใจ เขาที่เป็นเซียนเหตุใดถึงถูกทำให้หวั่นไหวง่ายดายขนาดนี้?ความงามของสตรีผู้นี้ช่างน่าอัศจรรย์นักเขาไม่กล่าวตอบและปล่อยหมัดออกไปหวังจะกำราบจักรพรรดินีให้เร็วที่สุด“บังอาจ!” ฉงเยี่ยเค้นเสียงและสะบัดมัดตอบโต้ ‘พรึบ’ มืออันเรียวบางของนางหวัดแกว่งราวกับดาบปลดปล่อยคลื่นดาบออกไป‘ฉัวะ’ร่างของฉงเยี่ยถูกผ่าครึ่งในพริบตา ร่างซีกซ้ายและร่างซีกขวาๆค่อยๆแยกออกจากกัน ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความตกตะลึงอย่างปิดไม่มิดเหตุใดนางถึงทรงพลังขนาดนี้!เซียนระดับกลางอย่างเขาไม่สามารถตอบสนองต่อหนึ่งกระบวนของนางทัน?ฉงเยี่ยรีบโคจรปราณก่อเกิดและเผาผลาญพลังชีวิตอย่างต่อเนื่องเพื่อผสานร่างทั้งสองให้ต่อกลับเป็นหนึ่งเดียว เพียงแต่ว่าคลื่นดาบของจักรพรรดินีได้ผสานเอาไว้ด้วยพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึง ต่อให้เขาโคจรปราณก่อเกิดและพลังชีวิตช่วยก็ไม่ได้ผลใบหน้าของฉงเยี่ยเปลี่ยนเป็นซีดเผือด สำหรับเซียนเช่นพวกเขาการที่ร่างกายถูกผ่าครึ่งนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็ก ตราบใดที่ร่างยังแยกออกจากกันไม่มากและโคจรปราณก่อเกิดเอาไว้ ร่างที่แยกออกจากกันก็จะฟื้นสภาพกลับเป็นเหมือนเดิมได้ในเวลาไม่นานเพียงแต่ความจริงกลับไม่ใช่แบบนั้น ภายในร่างกายของเขาถูกพลังทำลายของคลื่นดาบแทรกแซงด้วยความเร็วที่มากกว่าพลังฟื้นฟู หากปล่อยไว้เช่นนี้ ทั้งกายหยาบและดวงวิญญาณของเขาจะแหลกหลายไปด้วยกันทั้งคู่ฉงเยี่ยรู้สึกหวาดกลัว ความหยิ่งผยองที่ตนเองเป็นคนของดินแดนต้องห้ามหดหายไปทันทีดวงวิญญาณของเขารีบทิ้งกายหยาบลอยออกมาจากร่าง ในขณะที่ดวงวิญญาณกำลังลอยออกมา ฉงเยี่ยพบว่าจักรพรรดินีได้มองมาที่เขาด้วยใบหน้าอาฆาตและสะบัดมืออันเรียวงามอีกครั้ง‘ฉัวะ’ ดวงวิญญาณของเขาถูกคลื่นบดขยี้ทันที โลหิตไหลทะลักออกจากกายหยาบราวกับห่าฝนฉงเยี่ยผิดเองที่ประมาทโดยปกติแล้วหากเซียนเช่นเขาต้องการหลบหนีโอกาสสำเร็จนั้นมีสูงมาก แต่ใครใช้ให้เขาดูถูกจักรพรรดินีมากเกินไปกัน? เป็นเพราะเขาต้องการพาตัวจักรพรรดินีกลับไปด้วยเขาถึงต้องรับผลกรรมเช่นนี้เซียนซิงฉาและคนอื่นๆเปลี่ยนสีหน้า ก่อนหน้านี้เป็นหลิงฮันที่สังหารเซียน ส่วนคราวนี้ก็เป็นจักรพรรดินี ราวกับว่าในสายตาของทั้งสองคนเซียนเป็นเพียงหมูที่สามารถเชือดทิ้งได้ตามใจเพียงแต่ในเมื่อจักรพรรดินีกล้าจะลงมือสังหารฉงเยี่ยก็หมายถึงนางไม่หวาดกลัวราชาเซียน หรือก็คือหลิงฮันยังสามารถยกระดับพลังของตนเองเพื่อสังหารราชาเซียนได้อีกครั้ง เมื่อคิดเช่นนี้เซียนซิงฉาและคนอื่นๆก็ไม่จำเป็นต้องกังวลภายนอกหลิงฮันเผยรอยยิ้มแต่ในใจเขากลับกัดฟัน คราวหน้าราชาไค่หยุนคงเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเองแน่ ตอนนี้เขาไม่มีวาสนาศักดิ์สิทธิ์ของหอคอยทมิฬหลงเหลือแล้วจะทำอย่างไรดี?โชคดีที่ต่อให้ราชาไค่หยุนจะตามหาตำแหน่งของเขาผ่านบ่วงอาฆาตได้ แต่ขนาดฉงเยี่ยก็ยังเวลาๆตั้งสี่ถึงห้าปีกว่าจะมาถึงที่นี่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆาอยู่ห่างจากที่นี่ไกลขนาดไหนเขายังมีเวลาเตรียมตัวสี่ถึงห้าปี“อืม…” หลิงฮันใช้มือลูบคาง หากเขาไปขอความช่วยเหลือจากดินแดนต้องห้ามอื่นนั่นก็เหมือนกับเปิดเผยว่าเขาไม่มีไพ่ลับสำหรับสังหารราชาเซียนเหลือแล้ว ดินแดนต้องห้ามบางขุมอำนาจก็อาจจะสื่อสัตย์แต่ก็มีบางขุมอำนาจน่ะรึ… เหอๆ“อืม อีกสีปีข้างหน้าข้าจะจัดงานแลกเปลี่ยนสมบัติและเชิญชวนราชาเซียนทั้งหมดมาที่นี่และก็ยังสามารถถ่วงเวลาพวกเขาต่อด้วยการแลกเปลี่ยนความเข้าใจในด้านวรยุทธได้อีก ในตอนนั้นหากราชาไค่หยุนบุกมา ราชาเซียนเหล่านั้นจะต้องออกหน้าแทนข้าแน่นอน”“เอาตามนี้แล้วกัน!”ที่สำนักละอองดวงดาวมีทายาทของดินแดนต้องห้ามเหล่านั้นอยู่มากมาย หลิงฮันแค่ฝากพวกเขาส่งข้อความไปบอกให้ราชาเซียนมารวมตัวกันที่ดาวมู่ถูในสี่ปีข้างหน้าก็พอในขณะเดียวกันหลิงฮันเองก็เริ่มบ่มเพาะพลังอย่างหนักแม้จะสามารถใช้พึ่งพาราชาเซียนเหล่านั้นแต่ที่พึ่งที่ดีที่สุดยังไงก็หนีไม่พ้นพลังของตัวเองระยะเวลาสี่ปีแม้จะเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุเป็นราชาเซียน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปหากแค่ทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับต้น ตราบใดที่เขาก้าวเท้าเข้าสู่ระดับพลังของเซียน พลังต่อสู้ของเขาจะยกระดับขึ้นอีกมหาศาลและสามารถต่อสู้ทัดเทียมกับเซียนระดับสูงได้ในตอนนั้นต่อให้สู้ไม่ไหว อย่างน้อยเขาก็ยังสามารถหลบหนีเมื่อคำเชิญถูกส่งไป ข่าวการตายของฉงเยี่ยก็ไปถึงหูของดินแดนต้องห้ามต่างๆด้วย เหล่าราชาเซียนยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีกว่าหลิงฮันยังมีไพ่ลับที่สามารถสังหารราชาเซียนได้อยู่ ไม่เช่นนั้นแล้วพวกหลิงฮันจะกล้าสังหารฉงเยี่ยได้อย่างไร?หนึ่งปีครึ่งต่อมา จำนวนดวงดาวที่หลิงฮันควบแน่นได้เพิ่มเป็นแปดล้านดวง สามปีต่อมา จำนวนดวงดาวที่หลิงฮันควบแน่นได้เพิ่มเป็น 9999999 ดวง หลิงฮันก็เหมือนกับจักรพรรดินี ความเร็วในการควบแน่นดวงดาวของเขาลดฮวบและพบกับคอขวดหลิงฮันไม่มีเวลาร่วมหลับนอนกับสตรีนกอมตะและจักพรรดินีแม้แต่น้อย เขาใช้เวลาในทุกวันไปกับการบ่มเพาะพลังใต้ต้นสังสารวัฏ นั่นคือสิ่งที่เขาตั้งใจไว้ว่าจะทำเช่นนั้น แต่สุดท้ายเขาก็ถูกจักรพรรดินีลากไปร่วมหลับนอนด้วยหลิงฮันใช้เวลาอีกครึ่งปีจนในที่สุดก็ควบแน่นดวงดาวดวงสุดท้ายได้ดวงดาวสิบล้านดวง… ขีดจำกัดแท้จริงของระดับวารีนิรันดร์!หลิงฮันเก็บตัวบ่มเพาะพลังอีกครั้ง เมื่อผ่านไปอีกครึ่งปีในที่สุดตัวตนที่ทรงพลังของดินแดนต้องห้ามต่างๆก็มาถึงเพื่อเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนสมบัติและแลกเปลี่ยนศาสตร์วรยุทธตามคำเชิญของหลิงฮันหลิงฮันเลิกเก็บตัวบ่มเพาะพลัง ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากระดับสร้างสรรพสิ่งอีกแค่ปลายขอบและเชื่อว่าคงอีกไม่นานที่เขาจะสามารถทะลวงผ่านได้สำเร็จเขาขอให้จักรพรรดิเพลิงอัสนีมาทำการชี้แนะราชาเซียนเหล่านี้เพื่อถ่วงเวลา ตามความเป็นจริงแล้วราชาไค่หยุนอาจจะปรากฏตัวเมื่อไหร่ก็ได้ อาจจะเป็นตอนนี้ หนึ่งปีข้างหน้าหรือสิบปีข้างหน้าแต่หลิงฮันเชื่อว่าราชาไค่หยุนจะปรากฏตัวในอีกไม่นาน เนื่องจากเซียนจากขุมอำนาจตนเองถูกสังหารไปถึงสองคนมีรึที่เขาจะทนอยู่เฉยไหว?ในตอนที่จักรพรรดิเพลิงอัสนีปรากฏตัวเพื่อทำการชี้แนะ ราชาเซียนทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบอารมณ์ จะให้พวกเขาฟังการชี้แนะจากเด็กน้อยที่ดูมีอายุน้อยกว่าสิบปีผู้นี้น่ะรึ? เพียงแต่พวกเขาก็ต้องตกตะลึงทันทีที่พบว่าเด็กน้อยผู้นี้เป็นถึงเซียนระดับกลาง!เมื่อจักรพรรดิเพลิงอัสนีเปิดปากกล่าวชี้แนะ เหล่าราชาเซียนต่างก็นั่งนิ่งตั้งใจรับฟังทุกคำพูดที่ถูกกล่าวออกมาล้วนแต่รวบรัดและลึกซึ้งเป็นอย่างมาก
คอมเม้นต์