Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 1488
“หลิงฮัน!” ใบหน้าของเนี่ยเทียนเฉิงมืดมน ในตอนที่ถูกหลิงฮันโจมตีตอบโต้แบบไม่ทันตั้งตัวจนล่วงหล่นสู่หุบเขาเฉินเอี๋ยนทำให้เขารู้สึกอัปยศเป็นอย่างมาก!เขาไม่ได้รู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าหลิงฮัน แต่เป็นเพราะพลังบ่มเพาะของเขาในตอนนั้นถูกผนึกเอาไว้ หากเป็นพลังที่แท้จริงแล้วเขาสามารถกำราบหลิงฮันได้เพียงด้วยมือข้างเดียวตอนนี้เมื่อไม่มีถูกจำกัดพลังบ่มเพาะอีกต่อไปและด้วยอุปกรณ์กึ่งเซียนในมือ เป็นไปได้รึไงที่เขาจะเอาชนะหลิงฮันไม่ได้?“วันนี้ข้าจะคืนความอัปยศที่เจ้าทำไว้กับข้าคืนให้หมด” เนี่ยเทียนเฉิงกล่าวหลิงฮันส่ายหัว ชายผู้นี้ช่างไร้เหตุผลสิ้นดีในตอนแรกพวกเขาเป็นสหายร่วมกลุ่มที่ดีต่อกัน แต่เมื่อมีเรื่องของจักรพรรดินีเข้ามาเกี่ยวข้องอีกฝ่ายก็เป็นคนลอบโจมตีเขาก่อน เขาแต่ตอบโต้ไปความที่ควรเท่านั้นเองแบบนี้ยังจะมากล่าวโทษเขาอีก?“รับมือ!” หลิงฮันไม่สบอารมณ์ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาและปล่อยหมัดใส่เนี่ยเทียนเฉิงอีกฝ่ายยังคิดว่าเขามีพลังบ่มเพาะระดับดาราขั้นกลาง แต่ที่จริงแล้วหลังจากจบการแย่งชิงวาสนาที่หุบเขาเฉินเอี๋ยน พลังบ่มเพาะของหลิงฮันก็ยกระดับเป็นระดับดาราขั้นสมบูรณ์ และทะลวงผ่านระดับวารีนิรันดร์ในเวลาต่อมาสามารถกล่าวได้ว่าในตอนนี้ต่อให้ไม่มีรูปแบบอาคมสลักเอาไว้บนร่างกายหลิงฮันก็สามารถรับมือกับจอมยุทธระดับดาราที่มีอุปกรณ์เซียนได้อย่างง่ายดายเนี่ยเทียนเฉิงแสยะยิ้ม กล้าเป็นฝ่ายโจมตีเขาก่อนเลยรึ? ช่างกล้านัก!เป็นจอมยุทธระดับดาราขั้นกลางที่บ้าอะไรเช่นนี้!เขารีบนำอุปกรณ์กึ่งเซียนออกมา กิ่งลูกท้อเซียนส่องประกายสลัวพร้อมปลดปล่อยกลิ่นหอมลอยกว้างไกลสิบไมล์‘ตูม’ ร่างของเนี่ยเทียนเฉิงสั่นสะท้าน อุปกรณ์กึ่งเซียนสามารถสลายพลังทำลายของหลิงได้ เพราะอย่างไรเขาก็ไม่ได้เอาจริงเพราะกลัวว่าจะเผลอสังหารหมดปลวกในการประลอง“อั่ก!” เนี่ยเทียนเฉิงกระอักโลหิต เขาได้รับบาดเจ็บเพียงเพราะรับแรงกระแทกจากหมัดของหลิงฮัน“เป็นไปได้อย่างไร!” เนี่ยเทียนเฉิงตะโกนลั่น ใบหน้าของเขายังคงประดับเอาไว้ด้วยท่าทียิ่งยโสเมื่อราวๆหนึ่งถึงสองปีก่อน หลิ.ฮันยังมีพลังบ่มเพาะเพียงระดับดาราขั้นกลางแท้ๆ แต่เหตุใดตอนนี้ถึงบรรลุระดับวารีนิรันดร์แล้ว…นั่นต้องเป็นเพราะวาสนาอันยิ่งใหญ่ที่ได้รับจากแผ่นหินสีทองไม่ผิดแน่!เนี่ยเทียนเฉิงกัดฟันแค้น ก่อนหน้านี้เขาล่วงลงไปยังด้านล่างสุดของหุบเขาทำให้ไม่ได้รับวาสนาใดๆ เขาจึงจากไปโดยไม่เห็นการปะทะกันระหว่างหลิงฮันกับกู่ต้าวอี้และในตอนรับศิษย์ ที่หลิงฮันถูกขานชื่อเป็นอันดับสองเขาคิดไปเองว่าเป็นเพราะหลิงฮันเป็นผู้ชนะแย่งชิงวาสนา เขาจึงไม่ได้สืบค้นถึงพลังของหลิงฮันแต่ตอนนี้เนี่ยเทียนเฉิงรู้แล้วว่าพลังบ่มเพาะของหลิงฮันได้เหนือกว่าเขาไปแล้ว!“บัดซบ!” เขาสยบด่า หากไม่ใช่ใช่เพราะหลิงฮันล่ะก็เขาอาจจะได้รับวาสนาอันยิ่งใหญ่และทะลวงผ่านระดับวารีนิรันดร์ไปแล้วไม่คิดจะกล่าวโทษตนเองและนำความแค้นเคืองทั้งหมดไปลงที่หลิงฮัน มือขวาของเขายกขึ้นพร้อมกับกระตุ้นใช้งานพลังของอุปกรณ์กึ่งเซียนเต็มที่หากปลดปล่อยพลังทั้งหมดของอุปกรณ์กึ่งเซียนออกมา มันจะมีพลังอำนาจที่สามารถทัดเทียมกับระดับวารีนิรันดร์ น่าเสียดายที่พลังบ่มเพาะของเขานั้นอ่อนแอเกินไปทำให้พลังของอุปกรณ์กึ่งเซียนสามารถสังหารได้เพียงจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นและทัดเทียมกับระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลาง“ตาย!” เนี่ยเทียนเฉิงกวัดแกว่งกิ่งลูกท้อเซียนเข้าใส่หลิงฮัน ประกายแสงสีชมพูของกิ่งไม้ส่องสว่างปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวปัง!หลิงฮันปล่อยฝ่ามือออกไป อำนาจของอุปกรณ์กึ่งเซียนถูกสลายพร้อมกับคลื่นพลังจากฝ่ามือได้กระแทกเข้าใส่ใบหน้าของเนี่ยเทียนเฉิงร่างของเนี่ยเทียนเฉิงถูกซัดกระเด็น ปากของเขากระตุกก่อนจะสำลักฟันที่แตกหักออกมาสองสามซี่และสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสิ้นหวังขนาดกระตุ้นพลังของอุปกรณ์กึ่งเซียนเต็มที่แล้วก็ยังไม่สามารถโค่นหลิงฮันได้?แม้จะไม่สบอารมณ์แต่บุรุษนั้น สิบปีค่อยแก้แค้นก็ยังไม่สาย!สำนักละอองดาราเป็นสถานที่ที่ไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ตอนนี้เขาพ่ายแพ้หลิงฮันแต่ใช้ว่าจะต้องพ่ายแพ้ตลอดไป ตัวเขาเป็นถึงราชาระดับสองที่มีโอกาสกลายเป็นราชาระดับสาม ตราบใดที่เขาทะลวงผ่านระดับวารีนิรันดร์สำเร็จเขามั่นใจว่าตนเองไม่มีทางด้อยกว่าหลิงฮันทำไมต้องฝืนดันทุรังแก้แค้นตอนนี้ทั้งๆที่ยังมีโอกาสอีกในวันหลัง?“ข้าขอ…”เพี๊ยะ!เขากำลังจะกล่าวยอมแพ้ แต่ทันใดนั้นฝ่ามือปราณก่อเกิดขนาดใหญ่ก็พุ่งกระแทกเข้ามาใส่หน้าจนเขาต้องกลืนคำที่กำลังจะพูดลงท้องไปเนี่ยเทียนเฉิงเกรี้ยวกราด ‘เพี๊ยะ’ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งตัวใบหน้าก็ถูกฝ่ามือกระแทกเข้าใส่อีกครั้งจนพูดอะไรไม่ออกตามกฎของการประลองแล้วจะตัดสินผู้ชนะก็ต่อเมื่อมีฝ่ายหนึ่งร่วงจากลานประลอง หมดสภาพต่อสู้หรือกล่าวยอมแพ้ด้วยตัวเอง เพราะงั้นการที่หลิงฮันขัดขวางไม่ให้เขากล่าวยอมแพ้หรือไม่ได้โจมตีให้เขาร่วงจากลานประลองนั้นการประลองก็ไม่มีทางสิ้นสุด“อืม ข้านับถือเจ้าจริงๆ ยอมสู้จนตัวตายที่กว่ายอมรับความพ่ายแพ้!” หลิงฮันกล่าวในขณะที่ยังตบตีใบหน้าของเนี่ยเทียนเฉิงอย่างต่อเนื่องนับถือน้องสาวเจ้าสิ!เนี่ยเทียนเฉิงอยากจะร้องไห้ เจ้าจะชนะก็ชนะไปสิ ทำไมถึงต้องปฏิบัติกับข้าเช่นนี้ด้วย?เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ ใบหน้าของเขาถูกกระแทกใส่ไม่หยุด“ข้า… ข้า… ข้า…” ทุกครั้งที่เนี่ยเทียนเฉิงอ้าปากพูด หลิงฮันก็จะตบตีใบหน้าเพื่อบังคับให้เขาหุบปากแค่จะพูดคำสามคำออกมาทำไมถึงลำบากขนาดนี้เนี่ยเทียนเฉิงยังคงกล่าว “ยอม…”หลิงฮันยิ้ม มีรึที่เขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายกล่าวจบ?เนี่ยเทียนเฉิงอ้าปาก ‘เพี๊ยะ!’ อ้าปากอีกครั้ง ‘เพี๊ยะ!’ทุกคนที่เห็นภาพนี้ล้วนแต่กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว แม้เนี่ยเทียนเฉิงจะยังไม่กล่าวคำว่า ‘ข้ายอมแพ้’ ออกมาแต่ทุกคนก็รู้ดีว่าเขาต้องการจะกล่าวอะไรน่าสงสารยิ่งนัก“พอได้แล้ว!” ปรมาจารย์ของสำนักคนหนึ่งทนดูไม่ไหวและหยุดการต่อสู้หลิงฮันยอมทำตามแต่โดยดีเนื่องจากไม่อยากก่อปัญหา ไม่เช่นนั้นปรมาจารย์คนนั้นก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้เนี่ยเทียนเฉิงจ้องมองหลิงฮัน แววตาของเขาไม่เพียงแสดงออกถึงความโกรธแต่ยังแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัวเนื่องจากเมื่อครู่เขาคิดว่าหลิงฮันอาจจะลงมือสังหารเขาจริงๆ เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ทิ้งเงามืดแห่งความกลัวเอาไว้ในก้นบึงจิตใจของเขาซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสำเร็จในอนาคตการประลองของลานประลองอื่นมีทั้งยังคงดำเนินอยู่และจบลงแล้วการประลองดำเนินไปเป็นเวลาแปดวันจนในที่สุดก็ได้ศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดสิบหกคนสุดท้าย
คอมเม้นต์