Super God Gene ตอนที่ 2943 ฉินซิว
หานเซิ่นตกตะลึงขณะที่มองไปที่รูปปั้น จากที่ไนน์เทาซันด์คิงบอก มันไม่ใช่รูปปั้นหยกจริงๆ แต่มันเป็นเขาของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกนำมาทำเป็นอาวุธขั้นทรูก็อต แต่ไม่สำคัญว่ามันจะดีสักแค่ไหน มันก็ควรจะเป็นแค่วัตถุที่ไม่มีชีวิต แต่หลังจากที่รูปปั้นปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา รูปปั้นก็เริ่มจะดูเหมือนกับคนจริงๆขึ้นมา มันไม่ได้แค่ดูเหมือนเท่านั้น มันมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ดวงตาของรูปปั้นดูมีชีวิตชีวาและร่างกายของรูปปั้นก็ดูอ่อนนุ่ม รูปปั้นยืนขึ้นและหันมองไปทุกคน ไนน์เทาซันด์คิงมองไปที่รูปปั้นหยกด้วยความตกใจ ร่างกายของเขาสั่นรัว ดวงตาบนชุดเกราะต่อสู้เทาซันด์อายค่อยๆปิดลงและแสงบนชุดเกราะก็ดับลงไป เขาไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไปแล้ว เขาคุกเข่าลงต่อหน้ารูปปั้นและก้มหันลงไปแตะกับพื้น เขาไม่กล้าจะเงยหน้าขึ้นมา“ข้ารับใช้หมายเลขเก้าคารวะท่านหญิงหว่านเอ๋อ ร์ ท่านหญิงหว่านเอ๋อร์ยังจำข้าน้อยได้ไหม?” หานเซิ่นคิด ‘ไอ้แก่ไนน์เทาซันด์คิงนี่รู้ว่าน้องสาวของผู้นำเซเคร็ดชื่อว่าหว่านเอ๋อร์ แต่เขากลับไม่ยอมบอกเรา’ รูปปั้นมองไปที่ไนน์เทาซันด์คิงที่กำลังก้มหัวลงกับพื้นและสั่นด้วยความกลัว หลังจากนั้นเธอก็ยกแก้วไวน์ในมือขึ้นมาและดื่มไวน์ทั้งหมดที่อยู่ข้างในเข้าไป “หมายเลขเก้า เป็นเจ้าอย่างนั้นรึที่ต้องการจะทำลายรูปปั้น?”หลังจากที่รูปปั้นดื่มไวน์เข้าไป มันก็เริ่มพูดขึ้นมา เสียงของมันไม่ได้เป็นเสียงของผู้หญิง แต่มันเป็นเสียงของผู้ชาย ในตอนที่ไนน์เทาซันด์คิงได้ยินเสียงนั่น เขาก็เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว เขามองไปที่รูปปั้นราวกับว่าเขาเห็นผี เขาหยุดมองแค่แว็บเดียวก่อนที่จะตบหน้าตัวเองในทันทีและพูดขึ้นว่า“มันเป็นความผิดของข้าน้อยเอง ข้าน้อยเป็นข้ารับใช้ที่ไม่ดี ข้าน้อยสมควรตาย” หานเซิ่นยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความแปลกใจ ไนน์เทาซันด์คิงไม่ได้แค่ตบหน้าตัวเองเล่นๆ เขาตบอย่างรุนแรงจนกระดูกบริเวณแก้มของเขาหัก ด้วยการตบไม่กี่ครั้ง ใบหน้าของเขาก็ปกคลุมไปด้วยเลือด ไนน์เทาซันด์คิงตบตัวเองซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด มันแรงพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตายแบบหนึ่ง รูปปั้นหยกไม่ได้หยุดดูไนน์เทาซันด์คิงที่กำลังตบหน้าตัวเอง มันมองไปที่หานเซิ่น ซึ่งทำให้หานเซิ่นรู้สึกหนาวขึ้นมาทันที เขารวบรวมพลังอย่างลับๆ เมื่อดูจากท่าทางของไนน์เทาซันด์คิง เขาก็สันนิษฐานว่ารูปปั้นหยกนี้คงจะเป็นผู้นำเซเคร็ด รูปปั้นมองไปที่หานเซิ่นและยิ้มขณะที่ถามขึ้นว่า “เจ้าชื่ออะไร?” ถึงแม้ร่างกายของเขาจะดูเหมือนกับหว่านเอ๋อร์ แต่ออร่าของเขาโดดเด่นเกินไป แค่สัมผัสก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ “คริสตัลไลเซอร์หานเซิ่น เจ้าล่ะชื่ออะไร?”หานเซิ่นสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีจิตมุ่งร้ายอะไร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ประมาณ เขายังคงระมัดระวังตัว “ชื่ออย่างนั้นหรอ นั่นเป็นความทรงจำที่ห่างไกลจนข้าเกือบจะลืมไปแล้ว”ชายคนนั้นหัวเราะ หลังจากที่หยุดคิดอยู่นาน เขาก็พูดขึ้นว่า “ชื่อของข้าคือฉินซิว” ก่อนที่หานเซิ่นจะได้พูดอะไร ฉินซิวก็พูดต่อว่า “หานเซิ่น เจ้าจะมาดื่มเป็นเพื่อนข้าหน่อยได้ไหม?” ฉินซิวนั่งลงในศาลา เขายกขวดไวน์ขึ้นมาและเทไวน์ใส่แก้วสองแก้ว “ถ้าไม่รังเกียจ ข้าก็ยินดีจะร่วมดื่มกับเจ้า” หานเซิ่นพูดขณะที่เดินเข้าไปในศาลา เขานั่งลงข้างๆและยกแก้วไวน์ที่ฉินซิวเทให้ขึ้นมา ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน ไนน์เทาซันด์คิงก็ยังคงตบหน้าของตัวเองต่อไป เขาไม่กล้าจะหยุด แต่เขาดูสับสน เขาไม่สามารถยืนยันได้ว่าชายที่กลับมามีชีวิตผ่านรูปปั้นนั้นใช่เจ้านายของเขาจริงๆหรือเปล่า และเขาก็ยังไม่รู้อีกว่าชายคนนี้มีชีวิตจริงๆหรือว่าเป็นแค่วิญญาณกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ไนน์เทาซันด์คิงก็ไม่กล้าจะหยุดมือ คนอย่างผู้นำเซเคร็ดนั้นถึงแม้จะเหลือเพียงแค่วิญญาณ เขาก็ไม่ใช่คนที่ไนน์เทาซันด์คิงจะต่อกรด้วยได้ เมื่อเห็นว่าเจ้านายของตัวเองเชิญหานเซิ่นไปร่วมดื่ม ไนน์เทาซันด์คิงก็ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้หานเซิ่นจะเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดา แต่เมื่อเทียบกับเจ้านายของเขาแล้ว ไนน์เทาซันด์คิงคิดว่าหานเซิ่นนั้นไม่สามารถเทียบกับเส้นผมเส้นหนึ่งของเจ้านายได้ด้วยซ้ำ ในจักรวาลเมื่อสมัยก่อนนั้น ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือที่น่ากลัวมากมายเท่าไรที่ต้องมาอยู่ในตำแหน่งคนรับใช้ เมื่อมาอยู่ต่อหน้าผู้นำเซเคร็ดผู้ยิ่งใหญ่ มีเพียงแค่เทพสปิริตที่คู่ควรพอจะร่วมดื่มกับผู้นำเซเคร็ด แต่ตอนนี้ผู้นำเซเคร็ดนั้นเชิญหานเซิ่นไปดื่มด้วย นอกจากนั้นเขายังเรียกหานเซิ่นด้วยชื่อ นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อที่สุดในชีวิตของไนน์เทาซันด์คิง “ในจักรวาลแห่งนี้ คนที่ท่านผู้นำจะเรียกด้วยชื่อนั้นต้องเป็นผู้ทรงอำนาจ นี่หานเซิ่นคู่ควรกับมันอย่างนั้นหรอ?” ไนน์เทาซันด์คิงแปลกใจ ฉินซิวยกแก้วไวน์ขึ้นและพูด “ข้าขอดื่มให้กับเจ้า” “ทำไมเจ้าถึงดื่มให้กับข้า?” หานเซิ่นมองไปที่ฉินซิวอย่างสับสน มันไม่สำคัญว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้นำเซเคร็ดหรือไม่ ปัญหามันอยู่ที่ท่าทางเป็นกันเองของเขา ‘นี่เขาเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรากับหว่านเอ๋อร์อย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิด ฉินซิวหัวเราะ เขาดื่มไวน์จนหมดแก้วและพูดขึ้นว่า“เมื่อก่อนข้าสร้างสวนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้และตัดขาดมันจากอวกาศและกาลเวลาเพื่อทำให้มันหยุดอยู่ในช่วงหนึ่งของกาลเวลา ข้าทำให้เวลาในสวนศักดิ์สิทธิ์ย้อนกลับทุกๆชั่วโมง ในที่แห่งนี้เจ้าจะไม่มีวันแก่เฒ่า ไม่มีวันตาย ในที่แห่งนี้เจ้าจะมีชีวิตอยู่ไปตลอดการ” ‘ฉินซิวคือผู้นำเซเคร็ดจริงๆ’ หานเซิ่นคิด ฉินซิวมองไปรอบๆสวนศักดิ์สิทธิ์และถอนหายใจ“ข้าอยากให้หว่านเอ๋อร์อยู่ที่นี่เพื่อที่นางจะได้มีชีวิตอยู่ตลอดไป นางจะได้มองดูวิวโปรดของนาง กินเนื้อโปรดของนางและดื่มไวน์โปรดของนาง แต่นางบอกกับข้าว่านางยอมตายดีกว่าที่ต้องมีชีวิตอยู่ในลูปที่ไม่มีที่สิ้นสุด” ฉินซิวเทไวน์เพิ่มและดื่มมันเข้าไปจนหมด ก่อนที่เขาจะหลับตาลงราวกับว่าเขากำลังนึกถึงคนที่เขาเคยรักมากๆ “ข้าได้ตัดเขาของกิเลนศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำรูปปั้นของนาง ถ้าวิญญาณของนางอยู่ในรูปปั้นนี้ นางก็จะมีชีวิตอยู่ไปตลอดการและไม่ต้องประสบกับการเวียนว่ายตายเกิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด นางแค่จะออกไปจากสวนศักดิ์สิทธิ์นี่ไม่ได้”ฉินซิววางแก้วลงและยิ้มก่อนที่จะพูดต่อ “แต่หว่านเอ๋อร์บอกกับข้าว่ามันเหมือนกับการถูกขังคุก ด้วยเหตุนั้นนางจึงปฏิเสธ” หานเซิ่นพบว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจ ดังนั้นเขาจึงถามขึ้นว่า “แล้วต่อจากนั้นล่ะ?” ฉินซิวดูเหมือนกับว่ากำลังยิ้ม แต่เขาไม่ได้ยิ้ม เขาไม่ได้ตอบคำถามของหานเซิ่น เขาเทไวน์ให้ตัวเองอีกแก้วและมองไปที่แก้วไวน์ในมือหานเซิ่น หานเซิ่นหลงใหลกับเรื่องราวที่ได้ฟัง ดังนั้นเขาจึงลืมดื่มไวน์ที่อยู่ในมือไป ด้วยเหตุนั้นเขาจึงรีบดื่มจนหมดแก้วในอึกเดียว ฉินซิวยกขวดไวน์ขึ้นมาเทให้กับหานเซิ่นอีกแก้วหนึ่ง เขายกแก้วขึ้นและพูด “ข้าจะดื่มให้กับเจ้าอีกแก้ว” ครั้งนี้หานเซิ่นไม่ได้ถามว่าทำไม เขารู้ว่าฉินซิวคงจะต้องรู้ว่าหว่านเอ๋อร์อยู่กับเขา ไม่อย่างนั้นฉินซิวที่เป็นถึงผู้นำเซเคร็ดก็คงจะไม่มาดื่มให้กับคนที่เขาไม่รู้จักแบบนี้ ไนน์เทาซันด์คิงที่ยังคงคุกเข่าอยู่นอกศาลานั้นอึ้งไป ตั้งแต่ที่เขามีชีวิตอยู่มา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นผู้นำเซเคร็ดดื่มให้กับคนอื่น
คอมเม้นต์