Super God Gene ตอนที่ 2215

อ่านนิยายจีนเรื่อง Super God Gene ตอนที่ 2215 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

“ที่นี่คือระบบจักรวาลเคออส อะไรก็เกิดขึ้นได้ เตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความตาย” มิสเตอร์ไวท์พูดเมื่อหานเซิ่นกลับเข้ามาในยานอวกาศ
 
ไม่มีใครคาดคิดว่าเมื่อเข้ามาในระบบจักรวาลเคออสแล้ว พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพกุ้งกาแลกติกในทันทีแบบนั้น มันมีอัศวินไอซ์บลูหลายคนที่เสียชีวิต แต่พวกเขาส่วนใหญ่รอดชีวิตมาได้ โดยรวมแล้วการต่อสู้ถือเป็นไปได้ด้วยดี
 
เหล่าอัศวินดีใจมากแล้วที่ไม่ได้ไปปลุกแมงมุมหลุมดำให้ตื่นขึ้นมา ไม่อย่างนั้นล่ะก็ทั้งกองทัพของพวกเขาก็คงจะสูญสิ้น
 
พวกเขาสูญเสียไปมากในการต่อสู้นั้น และพวกเขาก็ไม่สามารถนำยีนซีโน่เจเนอิคหรือร่างของพวกมันมาได้ทั้งหมด เพราะมันไม่มีเวลาให้พวกเขามัวมาเก็บอะไรอะไรทั้งนั้น และหลังจากที่หนีมาได้แล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถกลับไปได้
 
ยานอวกาศได้รับความเสียหายอย่างหนัก โชคดีที่ยานอวกาศถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับการจู่โจมของซีโน่เจเนอิคอยู่แล้ว ผิวหุ้มเกราะภายนอกของยานเป็นเหมือนกับเปลือกของโลก ถึงแม้มันจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่แกนกลางของยานอวกาศก็ไม่ได้รับความเสียหายอะไร ด้วยเหตุนั้นมันจึงสามารถบินต่อไปได้
 
ขณะที่หานเซิ่นพักผ่อน เขาก็ตรวจดูวิญญาณอสูรกุ้งกาแลกติกและกุ้งมังกรกาแลกติกที่เขาได้รับมา
 
หานเซิ่นได้รับวิญญาณอสูรกุ้งกาแลกติกมาหลายดวง ซึ่งประกอบไปด้วยระดับมาร์ควิส 16 ดวงและระดับดยุก 1 ดวง ซึ่งมันมากกว่าที่เขาคาดหวังเอาไว้ เขาจำไม่ได้ว่าฆ่ากุ้งกาแลกติกไปทั้งหมดกี่ตัวกันแน่ในระหว่างการต่อสู้
 
“วิญญาณอสูรกุ้งกาแลกติก : ดาบ”
 
หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรดาบกุ้งกาแลกติกออกมา หลังจากนั้นดาบใหญ่ที่ยาวกว่า 2 เมตรก็ปรากฏในมือของหานเซิ่น แต่มันไม่ได้หนักเหมือนอย่างดาบใหญ่ปกติ
 
ดาบใหญ่กุ้งกาแลกติกดูเหมือนกับหนามที่ท้ายของกุ้งกาแลกติก มันเป็นสีฟ้าที่โปร่งใสและดูเหมือนกับเลื่อยที่มีปลายที่แหลมคม มันเรืองแสงสีฟ้าออกมา และเมื่อหานเซิ่นกวัดแกว่งมัน มันก็ปลดปล่อยการระเบิดของแสงสีฟ้าออกมา
 
หานเซิ่นมอบวิญญาณอสูรกุ้งกาแลกติกให้กับพวกพ้องของคนละดวง เพราะยังไงซะอาวุธระดับมาร์ควิสก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไร ส่วนวิญญาณอสูรกุ้งกาแลกติกระดับดยุกนั้นเขามอบมันให้กับจีชิง
 
ร่างกายขั้นสุดยอดของจีชิงเรียกว่าวิญญาณแห่งดาบ เธอเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ดาบมากกว่าคนอื่น ดังนั้นหานเซิ่นจึงมอบมันให้กับเธอเพื่อเห็นแก่จีเหยียนหรัน
 
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เขาได้รับมาคือวิญญาณอสูรกุ้งมังกรกาแลกติก
 
“วิญญาณอสูรกุ้งมังกรกาแลกติกระดับชัน: ชุดเกราะ”
 
“ชุดเกราะระดับราชัน?” หานเซิ่นรู้สึกดีใจ เขากำลังต้องการชุดเกราะที่แข็งแกร่งแบบนั้นอยู่
 
ใบเสมาราชาแมลงปีศาจมีพลังป้องกันที่สูงก็จริง แต่หานเซิ่นไม่สามารถโจมตี ขณะที่โล่ป้องกันยังทำงานอยู่ได้ แต่ชุดเกราะวิญญาณอสูรนั้นต่างออกไป มันเป็นสิ่งของพื้นฐานที่ใครๆก็ต้องการ
 
‘น่าเสียดายที่เรามีมันแค่ดวงเดียว ถ้าเราฆ่ามันได้มากกว่านี้ ทุกคนก็คงจะมีชุดเกราะกุ้งมังกรนี้เหมือนกัน’ หานเซิ่นคิด
 
หานเซิ่นเรียกชุดเกราะกุ้งมังกรกาแลกติกออกมา และคริสตัลสีฟ้าโปร่งใส่ก็ห่อหุ้มร่างกายของเขา ภายในคริสตัลสีฟ้าที่เรืองแสงมีแสงสีเขียวระยิบระยับอยู่ เมื่อหานเซิ่นเคลื่อนไหว มันก็ดูเหมือนกับว่าดวงดาวของทั้งกาแล็กซี่กำลังเคลื่อนไหวไปพร้อมๆกับเขา
 
“เป็นชุดเกราะที่งดงามอะไรขนาดนี้ นั่นเป็นวิญญาณอสูรจากกุ้งมังกรกาแลกติกอย่างนั้นหรอ?” จีชิงมองชุดเกราะของหานเซิ่นด้วยความอิจฉา
 
ชุดเกราะนั้นงดงามจริงๆนั่นแหละ มันส่องประกายราวกับเพชรสีฟ้า และมันจะดึงดูดสายตาของผู้หญิงทุกคนที่เดินผ่านอย่างแน่นอน
 
แต่ทว่าหานเซิ่นไม่ชื่นชอบที่จะสวมใส่อะไรที่หรูหราและสะดุดตาแบบนี้ ถ้าเลือกได้เขาอยากจะได้อันสิ่งที่ดูทื่อและไม่มีสีสันมากกว่า เพราะยังไงซะเขาก็อยากจะไม่ทำตัวให้เป็นจุดเด่น
 
การสวมชุดเกราะนี้ทำให้หานเซิ่นดูเหมือนกับหิ่งห้อยในความมืด มันเรืองอร่ามและศัตรูทุกรูปแบบก็คงจะหันความสนใจมาที่เขา
 
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย หลังจากนั้นหานเซิ่นก็มอบวิญญาณอสูรใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีทองให้กับหานเหยียน แบบนั้นหานเหยียนก็จะสามารถไปไหนมาไหนตามลำพังได้โดยไม่จำเป็นต้องมีนางฟ้าคอยอยู่เคียงข้างเธอ
 
ตอนนี้หานเซิ่นมีชุดเกราะกุ้งมังกรนี้อยู่ ดังนั้นใบเสมาราชาแมลงปีศาจก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเขาอีกต่อไป และถ้าเขาจำเป็นต้องใช้มันล่ะก็ เขาก็แค่ไปหานางฟ้าและคนอื่นๆ
 
หลังจากที่ได้เห็นการจู่โจมของเหล่ากุ้งกาแลกติก หานเซิ่นก็เข้าใจถึงความอันตรายของระบบจักรวาลเคออสมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้เขาจะมีใบเสมาราชาแมลงปีศาจ 3 ดวงอยู่กับตัว ความปลอดภัยของเขาก็ยังไม่ถูกรับประกันอยู่ดี
 
‘ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงอย่างอี๋ซาถึงได้ถูกฆ่าตายที่นี่’ เมื่อนึกถึงอี๋ซา หานเซิ่นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
 
ราชาอัศวินไอซ์บลูให้คนนำเนื้อและยีนซีโน่เจเนอิคของกุ้งกาแลกติกมามอบให้กับหานเซิ่นเพื่อเป็นรางวัลที่เขาเข้าร่วมการต่อสู้
 
คนที่นำของมาส่งก็คืออัศวินไอซ์บลูที่หานเซิ่นช่วยเอาไว้ก่อนหน้านี้
 
“น้องชาย ชื่อของข้าคือเอ็กซ์โพลดิ้งแบร์ ข้าจะคอยดูแลเจ้าจากนี้เป็นต้นไป ถ้าหากเจ้าต้องการอะไรจากอัศวินไอซ์บลูล่ะก็ ทั้งหมดที่เจ้าต้องทำก็คือบอกหาชื่อของข้าออไป” เอ็กซ์โพลดิ้งแบร์ทุบอกของตัวเองต่อหน้าของหานเซิ่น
 
“ขอบคุณ” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม มันเป็นอะไรที่โล่งใจที่มีมิตรสหายในหมู่อัศวินไอซ์บลู
 
“ดี ถ้าน้องมีเวลาล่ะก็ แวะมาหาข้าได้ที่ทีมหก” เอ็กซ์โพลดิ้งแบร์หัวเราะ และตบไหล่ของหานเซิ่น หลังจากนั้นเขาก็จากไปพร้อมกับอัศวินคนอื่นที่ขนรางวัลมาให้กับหานเซิ่น
 
หานเซิ่นใช้กุ้งกาแลกติกสำหรับทำกุ้งหม้อไฟ เขาตัดเนื้อกุ้งและจุ่มมันลงในซอส เมื่อเขาวางมันลงในปาก ความหวานของเนื้ออันชุ่มฉ่ำก็เป็นอะไรที่เลิศรส เขารู้สึกราวกับว่าจะละลายไปพร้อมกับเนื้อกุ้ง
 
การเดินต่อมาไม่ได้เป็นอะไรที่อันตรายอย่างที่หานเซิ่นคิด พวกเขาเดินทางอีกหนึ่งอาทิตย์โดยที่ไม่ได้ต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคเลยสักตัว
 
มันมีกลุ่มซีโน่เจเนอิคที่เห็นยานอวกาศ แต่พวกมันบินหนีไปโดยที่ไม่ก่อปัญหาอะไร
 
เนื่องจากไม่มีอะไรทำ หานเซิ่นจึงไปร่วมดื่มกับพวกเอ็กซ์โพลดิ้งแบร์ เอ็กซ์โพลดิ้งแบร์เป็นกัปตันของทีมหก อัศวินใต้บังคับบัญชาของเขาต่างก็ดีกับหานเซิ่น ถึงแม้หานเซิ่นจะเป็นเพียงแค่มาร์ควิสคนหนึ่งก็ตาม
 
ความเป็นมิตรของพวกเขาส่วนใหญ่แล้วเป็นผลจากการกระทำของหานเซิ่นในวันนั้น คนที่มีความดีความชอบจะได้รับความนับถือในหมู่อัศวินโดยไม่คำนึงถึงระดับหรือเผ่าพันธุ์ของคนๆนั้น
 
“น้องชายอย่าได้กังวล ระบบจักรวาลเคออสไม่ได้น่ากลัวอย่างที่น้องอาจจะคิด พวกเราเดินทางในเส้นทางนี้หลายต่อหลายครั้ง และมันก็ปลอดโปร่งเสมอ แมงมุมหลุมดำและกุ้งกาแลกติกเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น ข้ารู้จักเส้นทางนี้เป็นอย่างดี และบอกน้องได้ว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉะนั้นพักผ่อนให้สบายและเพลิดเพลินกับเครื่องดื่ม” หลังจากนั้นเอ็กซ์โพลดิ้งแบร์ก็เปิดเครื่องดื่มถังที่ 4
 
“พี่แบร์ มันไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการจะดื่ม แต่ข้าดื่มไม่ไหวแล้ว ท้องของข้ามันเล็กเกินไป” หานเซิ่นมองดูพุงที่ป่องของตัวเอง
 
เอ็กซ์โพลดิ้งแบร์รักการกิน และในขณะที่หานเซิ่นพยายามใช้วิชาคอนซูมช่วย เขาก็ไม่สามารถกินได้มากนัก เขาไม่สามารถรู้ได้ว่ากระเพาะของเอ็กซ์โพลดิ้งแบร์ใหญ่ถึงขนาดไหนกันแน่
 
เอ็กซ์โพลดิ้งแบร์หัวเราะออกมาและเริ่มจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเสียงสัญญาณก็ดังขึ้นมา ทุกคนแข็งทื่อไป
 
“สัญญาณเตือนภัยว่ามีการต่อสู้” เอ็กซ์โพลดิ้งแบร์ตะโกนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
 
“ดูเหมือนว่าคำพูดของเอ็กซ์โพลดิ้งแบร์จะเชื่อถือไม่ได้”
หานเซิ่นลุกขึ้นมาและไปที่ห้องควบคุม เขารู้ว่ามิสเตอร์ไวท์จะนำพวกพ้องของเขาไปที่นั่น

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด