Super God Gene ตอนที่ 1985

อ่านนิยายจีนเรื่อง Super God Gene ตอนที่ 1985 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

เกาะโอลด์ไนท์นั้นมีขนาดใหญ่มากๆ มันมีทั้งภูเขา ป่าหรือแม้กระทั่งมหาสมุทร หานเซิ่นไปที่นั่นและไล่ตามนกตัวหนึ่งที่บินอยู่ เขาตามมันจนทันและตัดหัวของมันจนขาด
 
“ซีโน่เจเนอิคนกป่าระดับเอิร์ลถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
 
หานเซิ่นเก็บยีนซีโน่เจเนอิคออกมาจากศพของมันและเริ่มก่อกองไฟในทันที
 
นกกระเรียนไร้ขาคาบกิ่งไม้มาให้กับหานเซิ่น ขณะที่บับเบิลกระโดดไปมาอยู่บนไหล่ของหานเซิ่น บับเบิลนั้นอ่อนแอ ดังนั้นมันไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก
 
“เราล่าซีโน่เจเนอิคได้ทั้งหมด 8 ตัวใน 4 วัน นี่มันไม่ได้เร็วไปกว่าในถ้ำเสวียนเยวี๋ยนเลย” หานเซิ่นรู้สึกแย่
 
เกาะโอลด์ไนท์ไม่ได้ดีอย่างที่หานเซิ่นหวังเอาไว้ ที่นี่มันกว้างใหญ่เกินไปทำให้ใช้เวลานานกว่าที่เขาจะหาซีโน่เจเนอิคเจอสักตัว
 
หานเซิ่นมอบร่างของนกให้กับนกกระเรียนไร้ขา และเขาก็ต้มยีนซีโน่เจเนอิคของมัน ครั้งนี้มันเป็นตับที่ส่งกลิ่นหอมออกมา
 
“ยีนซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ล +1”
 
หลังจากที่กินตับเข้าไปแล้ว ยีนระดับเอิร์ลของหานเซิ่นก็มาอยู่ที่ 25 พ้อย
 
หานเซิ่นนำยีนกลายพันธุ์ของมดมาราชินีออกมา เขาเคยชินกับการได้ยินเสียงประกาศที่บอกว่ายีนของเขาไม่เพียงพอ
แต่ครั้งนี้หานเซิ่นไม่ได้ยินเสียงประกาศนั้น
 
“ตอนนี้เรามียีนระดับเอิร์ลเพียงพอแล้วอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรีบนำยีนกลายพันธุ์ของมดราชินีใส่ลงไปในหม้อ
 
ก่อนหน้านี้หานเซิ่นไม่สามารถนำยีนซีโน่เจเนอิคของมดราชินีมาทำเป็นอาหารได้ แต่ตอนนี้มันกำลังถูกต้ม มันทำให้หานเซิ่นดีใจอย่างมาก หลังจากผ่านไปสักพัก ยีนซีโน่เจเนอิคของมดราชินีก็สุก เมื่อหานเซิ่นกินมันเข้าไป เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายของเขา
หลังจากที่หานเซิ่นกินมันจนหมด เขาก็ไม่ได้ยินเสียงประกาศอะไรดังขึ้นมา เมื่อหานเซิ่นดูสถานะของตัวเอง มันก็ยังคงบอกว่าเขามียีนระดับเอิร์ลอยู่ 25 พ้อย การกินยีนซีโน่เจเนอิคของมดราชินีเข้าไปไม่ได้เพิ่มยีนระดับเอิร์ลให้เขาแต่อย่างใด
 
แต่ตอนนี้มันยังคงไหลเวียนอยู่ในตัวของหานเซิ่น มันไม่ได้ถูกสกัดไปเป็นพลังงานแต่อย่างใด พลังนั้นไหลเวียนในตัวของหานเซิ่นจนกระทั่งพวกมันค่อยๆจางหายไปในที่สุด
 
หลังจากนั้นเสียงประกาศที่น่าตกใจก็ดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น
 
“คุณได้รับวิชาจีโนซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ล : เครื่องหมายมดราชินี”
 
‘ยีนกลายพันธุ์ไม่ได้มีเอาไว้ใช้เพิ่มยีนหรอเนี่ย? พวกมันกลับมอบวิชาจีโนให้แทนอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เดินลมปราณของตัวเองตามกระแสพลังที่ไหลเวียนในร่างกายก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นเขาก็พบว่าร่างกายของตัวเองมีเครื่องหมายสีทองปรากฏขึ้นมา
 
หานเซิ่นเคยเห็นเครื่องหมายสีทองแบบนี้มาก่อนบนร่างของราชินีมด เมื่อเครื่องหมายนี้เริ่มเรืองแสงขึ้นมา พลังของมดราชินีก็เพิ่มขึ้น เมื่อหานเซิ่นลองทดสอบดู เขาก็พบว่าเครื่องหมายมีประสิทธิภาพอย่างมาก มันทำให้เอิร์ลคนหนึ่งแข็งแกร่งทัดเทียมกับมาร์ควิส
 
นั่นหมายความว่าวิชาจีโนที่ได้รับจากยีนกลายพันธุ์ของมดราชินีไม่มีความจำเป็นต้องฝึก และมันก็ทำให้หานเซิ่นมีแข็งแกร่งเทียบเท่ากับที่มอนสเตอร์ตัวนั้นเคยมี
 
หานเซิ่นรู้สึกดีใจอย่างมาก ถ้าเขาหายีนกลายพันธุ์มาได้อีก เขาก็จะได้รับวิชาจีโนจากซีโน่เจเนอิคตัวนั้น แถมเขายังไม่จำเป็นต้องฝึกฝนที่จะใช้งานพวกมันอีกต่างหาก
 
ข้อดีที่สุดของยีนกลายพันธุ์ก็คือวิชาจีโนนี้ได้มาจากสิ่งมีชีวิตที่ต่างสายพันธุ์ออกไป คนปกติไม่สามารถเรียนรู้วิชาจีโนของซีโน่เจเนอิคได้ นั่นคือความพิเศษของพวกมัน
 
ถึงแม้หานเซิ่นจะสามารถจำลองกระแสพลังด้วยศาสตร์ตงเสวียน แต่เขาก็สามารถลอกเลียนได้แค่เศษเสี้ยวของพวกมันเท่านั้น นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายที่แตกต่างกัน ดังนั้นการจำลองกระแสพลังให้เหมือน 100 เปอร์เซ็นต์นั้นเป็นไปไม่ได้
 
มันเหมือนกับวิชาคอนซูมที่เขาฝึก ถ้าหานเซิ่นไม่ได้กลายเป็นมดล่ะก็ เขาก็ไม่มีทางจะเรียนรู้วิชานั้นได้
 
ตอนนี้หานเซิ่นแค่จำเป็นต้องมียีนกลายพันธุ์เท่านั้นเพื่อเรียนรู้วิชาจีโนของซีโน่เจเนอิค และเนื่องจากเขาไม่จำเป็นต้องฝึกมัน นั่นก็ถือว่าเป็นอะไรที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
 
“ถ้าเราฆ่าซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ระดับราชันหรือเทพเจ้าได้ นั่นหมายความว่าเราจะเรียนรู้วิชาของพวกมันได้ทันทีเลยอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิดว่านี่เป็นอะไรที่มีประโยชน์ต่อเขาอย่างมาก
 
แต่ยีนซีโน่เจเนอิคของมังกรเสวียนเยวี๋ยนกลายพันธุ์นั้นเป็นระดับมาร์ควิส เขาจำเป็นต้องมียีนมาร์ควิสให้เพียงพอซะก่อน ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้
 
มันยังเหลือเวลาอีกสักพักก่อนที่สถานหยกขาวจะเปิดขึ้นอีกครั้ง หานเซิ่นมีแผนจะล่าซีโน่เจเนอิคเพิ่มอีก และถ้าเขาโชคดีพบซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ล่ะก็ เขาก็อาจจะได้เรียนรู้วิชาจีโนของซีโน่เจเนอิคอีก

 
“อวี้จิง เจ้าจะไม่เสียใจกับมันแน่นะ?” กลุ่มคนดูประหลาดใจกับอวี้จิง
 
“ข้าจะไม่เสียใจกับมัน” อวี้จิงพูดอย่างมั่นใจ
 
“ก็ดี ถ้าเจ้าอยากจะมอบเงินให้กับพวกเราล่ะก็ พวกเราก็ไมปฏิเสธ ตามข้อตกลงของพวกเราเมื่อครู่ ถ้าหานเซิ่นชนะ 10 ครั้งติดต่อกันในการสอบ พวกเราก็จะเป็นฝ่ายแพ้ แต่ถ้าเขาแพ้แม้แต่ครั้งเดียว เงินทั้งหมดของเจ้าก็จะตกเป็นของพวกเรา” ชายคนหนึ่งพูด
 
ศิษย์หลายคนของปราสาทนภาทำการตกลงกับอวี้จิง หนึ่งในพวกเขาหัวเราะออกมาและพูด “อวี้จิง เจ้าหาเรื่องใส่ตัวเองเองนะ อย่าได้มาเอาผิดกับพวกเรา ถ้าเจ้าสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง”
 
บางคนตบไหล่ของอวี้จิงและยิ้มให้กับเขา “ขอบคุณมาก ถ้าเจ้ามีข้อตกลงดีๆแบบนี้อีกล่ะก็ ติดต่อพวกข้าได้ทุกเมื่อ”
 
อวี้จิงหัวเราะอยู่ในใจ ‘มันก็แค่ 10 รอบ นอกซะจากว่าหานเซิ่นจะโชคร้ายไปเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งตั้งแต่รอบแรก เขาก็ควรจะติดอันดับ 1 ใน 5 ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร ด้วยพลังของเขาการจะได้รับอันดับที่ 1 ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมด้วยซ้ำ”
 
แต่ถึงอย่างนั้นอวี้จิงก็ยังคงรู้สึกกังวล นี่เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ ถึงแม้มันมีความเสี่ยงที่สูง แต่รางวัลที่ได้ก็สูงเช่นกัน การชนะเดิมพัน หมายความว่าเขาจะได้กำไรเป็น 10 เท่าของทรัพย์สมบัติที่เขามีอยู่
 
แต่ถ้าแพ้ เขาก็จะหมดเนื้อหมดตัว
 
อวี้จิงรู้ว่าหานเซิ่นแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ดี เมื่อคู่ต่อสู้ในการสอบถูกประกาศ เขาก็รีบไปดูว่าหานเซิ่นต้องต่อสู้กับใคร
 
เมื่ออวี้จิงได้เห็นกำหนดการ สีหน้าของเขาก็ซีดเซียว และเขาก็เกือบจะเป็นลม
 
ศิษย์ของปราสาทนภาหลายคนที่เดิมพันกับอวี้จิงเดินเข้ามา
“อวี้จิง เจ้านี่โชคร้ายจริงๆ ที่ไผ่เดียวดายคนนั้นตัดสินใจเข้าร่วมการสอบครั้งนี้ด้วย และเขาก็เป็นคู่ต่อสู้คนที่ 6 ของหานเซิ่น ตอนนี้แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ เจ้าควรจะเก็บข้าวของของเจ้าให้เรียบร้อย พวกเราจะเข้าไปเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าครอบครองอยู่ในอีกไม่นาน”
 
กลุ่มคนที่เดิมพันกับอวี้จิงยิ้มออกมาก่อนที่จะเดินจากไป ขณะที่อวี้จิงยังคงยืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้น เขารู้สึกอยากตาย

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด