Super God Gene ตอนที่ 2605
ทุกคนในที่ประชุมมองเห็นก็อตสปิริตทัชในมือหานเซิ่น หลังจากนั้นเมื่อแสงสีแดงส่องสว่างขึ้นมาในฝ่ามือของหานเซิ่น พวกเขาก็รู้สึกตัวว่ามันจะกำลังเกิดอะไรขึ้น “นี่มัน! นี่มัน! นี่มันจะต้องเป็นสิ่งนั้น… เจ้าคงจะรู้ว่าข้ากำลังพูดถึงอะไร” “เจ้าล้อเล่นใช่ไหม! นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้อาจารย์หานได้สมญานามบิดาของเทพ?” “ข้าเดิมพันว่าใช่ เจ้ารู้หรือเปล่าว่าข้าได้เห็นตอนที่เขาอวยพรให้กับบาร์? นี่คือแสงสีแดงแบบเดียวกับตอนนั้น” “ถ้าแบบนั้นทั้งหมดนี่มันเรื่องอะไรกัน? ด้วงเต่าควรจะทดสอบพรสวรรค์ของอาจารย์หานไม่ใช่หรอ? แต่ทำไมมันถึงกลายเป็นอาจารย์หานที่ช่วยก็อตสปิริตทัชวิวัฒนาการแทน?” “ก็อตสปิริตทัชคงจะรับรู้ถึงพรสวรรค์ของอาจารย์หาน เจ้าไม่เห็นหรือยังไงว่าอาจารย์หานมีพรสวรรค์ระดับ 11 เปลือกน่ะ บางทีที่ก็อตสปิริตทัชคลานไปหาอาจารย์หานก็เพื่อขอความช่วยเหลือจากเขา”“อย่างน้อยข้าต้องขอยอมรับว่างานนี้เริ่มจะกลายเป็นอะไรที่น่าสนใจขึ้นมา” เอ็กซ์ควิสิทและปี้ซีอยู่ในอารมณ์ที่ซับซ้อน พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่หานเซิ่นอวยพรให้กับเลอตู้และบาร์ แต่พวกเขาคิดว่ามันต้องเป็นกลลวงบางอย่าง มันไม่มีทางที่เลอตู้และบาร์จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าเพราะพลังของหานเซิ่น แต่ก็อตสปิริตทัชนี้เป็นของปี้ซี เขารู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้เป็นอย่างดี เขารู้ว่าก็อตสปิริตทัชจะไม่มีวันกลายเป็นระดับเทพเจ้า ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขัดแย้งและสับสนเมื่อเห็นสิ่งที่หานเซิ่นกำลังจะทำ ทุกคนมองไปที่ก็อตสปิริตทัชในมือหานเซิ่น มันปกคลุมด้วยแสงสีแดงและร่างกายคริสตัลของมันก็เริ่มจะเรืองแสงออกมา คงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าก็อตสปิริตทัชมีชีวิตอยู่มานานแค่ไหนแล้ว เผ่าเวรี่ไฮเอาตัวมันมาก็เพื่อจะทดสอบพรสวรรค์ของผู้คน ก็อตสปิริตทัชได้ดูดซับยีนของสิ่งมีชีวิตมากมาย มันได้รับเลือดของสิ่งมีชีวิตที่มีพรสวรรค์ระดับ 9 เปลือกไปมากมายตลอดช่วงเวลาหลายปี ถึงแม้ก็อตสปิริตทัชจะไม่สามารถดูดซับยีนในเลือดเข้าไปได้อย่างถูกต้อง แต่มันก็ยังคงได้รับผลประโยชน์มากมาย ด้วยทรัพยากรที่มันได้รับ มันก็ควรจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าไปนานแล้ว แต่พรสวรรค์ของมันมีขีดจำกัด มันไม่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดไปได้ มันถูกหยุดอยู่ที่ระดับครึ่งเทพ แต่ในตอนนี้มันกำลังทำลายกำแพงนั้นราวกับมันเป็นเพียงแค่แผ่นกระดาษ และทั้งหมดก็เป็นเพราะวิชาโลหิตชีพจรของหานเซิ่น ตอนนี้ก็อตสปิริตทัชกำลังจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า ยีนของมันไม่ได้จำกัดการวิวัฒนาการของมันอีกต่อไป หานเซิ่นแค่ใช้วิชาโลหิตชีพจรด้วยพลังอันน้อยนิดเพื่อผลักดันฟันเฟืองของก็อตสปิริตทัช ทุกคนมองหานเซิ่นที่กำลังถือก็อตสปิริตทัช แสงสว่างค่อยๆออกมาจากร่างกายของก็อตสปิริตทัชมากขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นแค่แมลงตัวน้อย แต่แสงที่ส่องสว่างออกมาจากร่างกายของมันส่องสว่างไปจนถึงอวกาศ มันสว่างไสวไปทั้งระบบจักรวาล และยอดฝีมือระดับเทพเจ้าทั่วระบบจักรวาลก็หันมองมาในทิศทางของมัน ท่ามกลางแสงสว่าง รอยร้าวเริ่มจะก่อตัวขึ้นบนร่างกายของแมลงตัวน้อย อุ้งเท้าคริสตัลเริ่มโผล่ออกมา หลังจากนั้นร่างกายก็โผล่ตามมา เนื่องจากแสงที่สว่างไสว ผู้แทบจึงแทบจะมองไม่เห็นผีเสื้อคริสตัลที่เริ่มโผล่ออกมา มันกระพือปีกและบินรอบๆตัวหานเซิ่นอย่างมีความสุข เมื่อผีเสื้อคริสตัลกระพือปีกของมัน แสงสว่างก็เริ่มจะชัดเจนมากขึ้น โซ่สสารเริ่มจะปรากฏออกมาให้เห็น โซ่สสารนั้นก่อตัวเป็นปีกของผีเสื้อขนาดยักษ์ มันส่องสว่างไปทั่วทั้งปราสาทนภา ทุกคนตกตะลึง ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าการที่หานเซิ่นสามารถทำให้คนอื่นกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้นั้นเป็นอะไรที่สุดยอด แต่การได้เห็นผ่านหน้าจอไม่ได้สร้างความประทับใจที่ฝังลึกกับพวกเขามากนัก ตอนนี้พวกเขาได้เห็นก็อตสปิริตทัชกลายเป็นระดับเทพเจ้าต่อหน้าต่อตาตัวเอง มือของหานเซิ่นเป็นเหมือนกับมือของเทพ พวกมันมีพลังที่ไร้ขีดจำกัดและพวกมันก็เต็มไปด้วยเวทย์มนต์ ขณะที่พวกเขาเห็นผีเสื้อคริสตัลระดับเทพเจ้าบินลงในมือของหานเซิ่นอย่างสง่างาม มันก็เหมือนกับว่าเขาเป็นพระผู้สร้าง “มันกลายเป็นระดับเทพเจ้าจริงๆ?” ปี้ซีและเอ็กซ์ควิสิทตกใจมากกว่าคนอื่น ก่อนหน้านี้พวกเขายังคลางแคลงใจกับพลังในการอวยพรของหานเซิ่น แต่ตอนนี้เขาทำให้ก็อตสปิริตทัชกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้อย่างง่ายดาย แม้แต่ผู้อาวุโสของเผ่าเวรี่ไฮก็ไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้ ก็อตสปิริตทัชเพิ่งจะกลายเป็นผีเสื้อคริสตัล และตอนนี้มันก็บินอย่างมีความสุขรอบๆมือของหานเซิ่น มันบินวนรอบหานเซิ่นอยู่ 3 รอบ หลังจากนั้นจู่ๆมันก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน ทุกคนอึ้งไป พวกเขาหันไปมองที่ปี้ซี พวกเขาคิดว่าปี้ซีเอามันกลับคืนไป แต่ปี้ซีเองก็อึ้งไปเช่นกัน ในตอนนี้ความเยือกเย็นและสงบนิ่งของเขาหายไปจนหมด มันเหมือนกับว่าเขาเองก็สงสัยว่าก็อตสปิริตทัชหายไปไหน สีหน้าของปี้ซีเปลี่ยนไป เขารู้สึกว่าบางสิ่งในกระเป๋าเพิ่งจะแตกกระจาย เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา เขารีบล้วงเข้าไปในกระเป๋าและอาคมที่มีสัญลักษณ์ของก็อตสปิริตทัชอยู่ตอนนี้ได้ถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้ว เผ่าเวรี่ไฮจะใช้วิชาลับเพื่อจับตัวของก็อตสปิริตทัชมา อาคมนั้นคือกุญแจในการควบคุมมัน มันเป็นเหมือนกับสายจูง ตราบใดที่อาคมยังคงอยู่ เขาก็สามารถควบคุมก็อตสปิริตทัชได้ ในตอนที่ก็อตสปิริตทัชกลายเป็นระดับเทพเจ้า ปี้ซีไม่ได้เห็นถึงปัญญาที่จะเกิดขึ้นในทันที ตอนนี้เมื่ออาคมถูกทำลาย เขาก็รู้สึกตัวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่เคยมีก็อตสปิริตทัชที่กลายเป็นระดับเทพเจ้ามาก่อน วิชาลับของเวรี่ไฮจะใช้ได้ผลเฉพาะกับสิ่งมีชีวิตที่เป็นระดับครึ่งเทพหรือต่ำกว่า ด้วยเหตุนั้นก็อตสปิริตทัชจึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ง่ายจะควบคุม แต่ตอนนี้เมื่อมันกลายเป็นระดับเทพเจ้า มันก็สามารถทำลายวิชาลับและหนีไปได้ ก็อตสปิริตทัชไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคระดับสูง แต่มันเป็นซีโน่เจเนอิคที่หายากมากๆ สมาชิกของเวรี่ไฮส่วนใหญ่จะได้รับพวกมันมาจากพ่อแม่ ถ้าปี้ซีเกิดสูญเสียมันไป เขาก็จะไม่สามารถหามันมาใหม่ได้ “มิสเตอร์ปี้ซี นี่คิดจะเก็บก็อตสปิริตทัชกลับไปอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่ปี้ซี แต่คำถามนั่นไม่ใช่สิ่งจำเป็นอะไร เพียงแค่ดูใบหน้าของปี้ซี หานเซิ่นก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เอาก็อตสปิริตทัชกลับไป หานเซิ่นรู้ว่าจริงๆแล้วก็อตสปิริตทัชได้หนีไป แต่เขาไม่สามารถยอมรับอย่างเปิดเผยได้ว่ามันหนีไป เพราะปี้ซีอาจจะพยายามให้เขารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปี้ซีขมวดคิ้ว เขาไม่ได้โทษหานเซิ่นที่ปล่อยให้ก็อตสปิริตทัชหนีไป เขาแค่พูดขึ้นมา
“ก็อตสปิริตทัชที่เปลี่ยนเป็นผีเสื้อนั้นกลายเป็นระดับเทพเจ้า มันทำลายอาคมของข้าและหนีไป” เมื่อศิษย์ของปราสาทนภาได้ยินว่าก็อตสปิริตทัชกลายเป็นระดับเทพเจ้าจากปากของปี้ซีโดยตรง ตอนนี้พวกเขาก็เชื่อมัน “ดูเหมือนว่าอาจารย์หานจะอวยพรให้กับคนอื่นได้จริงๆ” “นั่นมันก็แน่นอนอยู่แล้ว! ไม่อย่างนั้นอาจารย์หานจะได้รับสมญานามบิดาของเทพมาได้ยังไง?” “นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว… อาจารย์หานเป็นระดับราชันที่ทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นกลายเป็นระดับเทพเจ้า! นั่นมันเหนือกว่าที่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนอื่นจะทำได้!”
ศิษย์ของปราสาทนภาพูดคุยกันอย่างมีความสุข พวกเขารู้สึกมีความหวัง ถ้าหานเซิ่นยังอยู่ในปราสาทนภา บางทีหานเซิ่นอาจจะยินดีอวยพรให้กับพวกเขาในสักวันหนึ่ง ส่วนยอดฝีมือของปราสาทนภาหลายคนที่เห็นเรื่องนี้มีความรู้สึกที่ซับซ้อน ในทางหนึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นทำให้พวกเขารู้สึกดีใจ แต่ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขารู้สึกกังวล เผ่าพันธุ์อื่นนั้นจะไม่มีทางอยู่เฉยหลังจากที่เห็นความสามารถนี้ของหานเซิ่น ปราสาทนภาอาจจะไม่เป็นสถานที่ที่สงบสุขอีกต่อไป ก่อนอื่นมันมีเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับปราสาทนภาอีกต่อไป แต่ถึงจะพูดแบบนั้นปราสาทนภาก็ไม่หวาดกลัวพวกเขา แต่ตอนนี้เผ่าเวรี่ไฮได้เห็นพลังของหานเซิ่นกับตาตัวเอง ดังนั้นมันยากที่จะบอกได้ว่าพวกเขาจะทำอะไรบางสิ่งกับหานเซิ่นหรือไม่
คอมเม้นต์