Super God Gene ตอนที่ 2543
ผู้หญิงโฉมงามทั้ง 2 คนดูเหมือนกับดอกไม้ที่ทำขึ้นมาจากหยก และหานเซิ่นก็ไม่สามารถหันหลังให้กับพวกเธอคนไหนได้ เขาไม่ใช่ศัตรูของพวกเธอ ดังนั้นเขาไม่สามารถเลือกคนที่ต้องตายได้ง่ายๆแบบนั้น แต่เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตกระหายเลือดที่ลุ่มหลงในความสมบูรณ์แบบ เขาก็รู้ว่าต้องทำอะไรบางอย่าง มันไม่ใช่แค่เผ่าพันธุ์อื่นในจักรวาลจีโนเท่านั้นที่จะตกอยู่ภายใต้ความพิโรธของพวกเธอ ที่สุดแล้วพวกเธอก็จะตามล่าเผ่ามนุษย์เช่นกัน ‘เราควรจะทำยังไงดี?’ หานเซิ่นมองไปที่กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ พวกเธอดูคล้ายคลึงกันอย่างมาก แต่ออร่าของพวกเธอนั้นแตกต่างกัน กู่ชิงเฉิงดูลึกลับ แต่เธอไม่ได้ถอยตัวเองออกห่างจากทุกๆคน ส่วนจันทราสวรรค์นั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง เพียงแค่มองเธอก็ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าถูกปิดกั้น หานเซิ่นสามารถแยกพวกเธอ 2 คนได้ และเขาก็ไม่มีวันจะจำผิดคนแต่เมื่อพวกเธอรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ออร่าของพวกเธอจะแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ผู้หญิงที่เกิดจากการรวมกันของพวกเธอให้ความรู้สึกเหมือนกับแฟรี่ที่ไม่สนใจสิ่งใดในโลกใบนี้ ความเย็นชานั้นเป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกหนาวสั่นเพียงแค่ได้เห็น “เจ้าเลือกที่จะฆ่าใคร?” จันทราสวรรค์ถามเมื่อเห็นว่าหานเซิ่นยังคงเงียบอยู่เป็นเวลานาน“ฉันจะไม่ฆ่าใครทั้งนั้น บอกตามตรงถึงแม้ฉันตอบตกลงที่จะฆ่าพวกเธอ ฉันก็ไม่คิดว่านั่นจะเป็นบางสิ่งที่จะบังคังให้ตัวเองทำได้” หานเซิ่นส่ายหัว “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็คงคิดว่าการดูพวกเราต่อสู้กันจนตายไปข้างหนึ่งหรือการดูพวกเราแก่ตายเป็นอะไรที่ดีกว่าสินะ?” จันทราสวรรค์ถาม “นั่นไม่สำคัญ ฉันเชื่อว่ามันยังมีหนทางอื่นอยู่ อย่างน้อยมันก็คุ้มค่าที่จะลองดู” หานเซิ่นพูดอย่างลังเล “หนทางไหนกัน?” จันทราสวรรค์และกู่ชิงเฉิงมองมาที่หานเซิ่นด้วยความสนใจ หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่ หานเซิ่นก็พูดขึ้นมา “ปัญหาการชราภาพอย่างรวดเร็วนั้นมีสาเหตุมาจากข้อบกพร่องในยีนของพวกเธอ ถ้าพวกเธอแก้ไขข้อบกพร่องนั้นได้ มันก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเธอจะต้องต่อสู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง” กู่ชิงเฉิงส่ายหัว “ถ้ามันง่ายแบบนั้น พวกเราก็คงจะไม่ต่อสู้กันตั้งแต่แรก ยีนของฉันรวมเข้ากับสปิริตสโตนของจันทราสวรรค์ และยีนของจันทราสวรรค์ก็มีภาพแฟรี่แห่งดาบที่ฉันสร้างขึ้น พวกเราทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน และเพราะแบบนั้นส่วนหนึ่งของพวกเราจึงขาดหายไป พวกเราจะใช้ยีนของสิ่งมีชีวิตอื่นมาแก้ปัญหาในยีนของพวกเราไม่ได้” “ฉันรู้” หานเซิ่นพยักหน้าและพูด “วิธีการของฉันไม่ได้ให้พวกเธอรวมกับยีนของสิ่งมีชีวิตอื่น วิธีการของฉันแค่จะซ่อมแซมยีนของพวกเธอ” “เจ้าหมายความว่ายังไง? ถ้าพวกเราซ่อมแซมยีนได้ พวกเราก็คงจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้” จันทราสวรรค์พูดขณะที่เอนหัวไปด้านข้าง “พวกเธอทั้งคู่ขาดส่วนหนึ่งของตัวเองไป และส่วนที่พวกเธอขาดไปคือส่วนที่พวกเธอจะมอบให้กันและกัน นั่นหมายความว่าพวกเธอไม่สมบูรณ์ แต่พวกเธอทั้งคู่ยังคงเก็บส่วนที่อีกคนขาดไปเอาไว้ ทั้งหมดที่พวกเธอจำเป็นต้องทำก็คือเติมเต็มส่วนที่ขาดไป ฉันจะลองกระตุ้นศักยภาพในยีนของพวกเธอ ซึ่งมันอาจจะช่วยให้ยีนที่ไม่สมบูรณ์ของพวกเธอซ่อมแซมตัวเองได้สำเร็จ ฉันไม่แน่ใจว่ามันจะสำเร็จหรือเปล่า แต่อย่างน้อยพวกเราควรจะลองดู”
วิธีการที่หานเซิ่นพูดถึงคือการใช้พลังอาณาเขตของวิชาโลหิตชีพจร เขาจะพยายามผลักดันฟันเฟืองจักรวาลของพวกเธอเพื่อบังคับให้ยีนของพวกเธอวิวัฒนาการ พลังอาณาเขตของวิชาโลหิตชีพจรนั้นไม่ได้เป็นอะไรที่มากกว่าการผลักดัน ส่วนมันจะได้ผลหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในยีนของพวกเธอ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้ให้สัญญาว่าจะสำเร็จ แต่มันถือเป็นโอกาสสำหรับพวกเธอ มันเป็นบางสิ่งที่อย่างน้อยพวกเธอก็ควรจะลองดูก่อน ถ้ามันได้ผล พวกเธอก็จะมีชีวิตรอดทั้งคู่ “นายจะแก้ไขข้อบกพร่องในยีนของพวกเรา?” ดวงตาที่งดงามของกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์จ้องมาที่หานเซิ่น “ฉันไม่มั่นใจว่ามันจะสำเร็จหรือเปล่า แต่มันไม่เสียหายที่จะลองดู” หานเซิ่นพูด “ถ้าอย่างนั้นก็ลองดู” จันทราสวรรค์พูดในทันที “ฉันจะทดลองกับเธอก่อน เข้ามานี่” หานเซิ่นพูดขณะที่มองไปที่จันทราสวรรค์ “มันมีความเสี่ยงในวิธีการนี้หรือเปล่า?” กู่ชิงเฉิงถาม “มันไม่มีความเสี่ยงอะไร” หานเซิ่นพูด จันทราสวรรค์เดินเข้ามาหาหานเซิ่นและพูด “เมื่อนานมาแล้ว เจ้าไม่ค่อยชอบข้าไม่ใช่หรอ? มันเป็นเรื่องดีที่ข้าตกอยู่ในอันตราย ถ้าข้าตายไป เจ้าก็จะเป็นอิสระ” จันทราสวรรค์พูดกับกู่ชิงเฉิงไม่ใช่กับหานเซิ่น กู่ชิงเฉิงขยับริมฝีปาก แต่ไม่มีคำใดๆพูดออกมา “อย่าได้กังวล มีเพียงแค่เรื่องดีเท่านั้นที่จะเกิดขึ้นกับพวกเธอ ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะไม่ลองวิธีนี้” หานเซิ่นเข้าใจว่าพวกเธอต้องการอะไร เขายิ้มให้กับจันทราสวรรค์ “เลิกพูดจาไร้สาระและเริ่มลงมือได้แล้ว แม้ตอนที่ข้าเป็นสปิริต ข้าก็ไม่เคยกลัวความตาย” จันทราสวรรค์พูดและสบสายตากับหานเซิ่น หานเซิ่นยิ้มและยกมือขวาขึ้น เขากดนิ้วลงบนหน้าผากของจันทราสวรรค์ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มใช้วิชาโลหิตชีพจร เขาทำให้ฟันเฟืองจักรวาลของตัวเองเชื่อมต่อกับฟันเฟืองของจันทราสวรรค์ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มหมุนพวกมัน “อย่าได้ต่อต้านพลังของฉัน พยายามยอมรับและเคลื่อนไหวตามพวกมัน”
แสงแห่งเทพสีเลือดก่อตัวบนมือของหานเซิ่นและแสงนั้นก็ไหลเข้าไปในร่างกายของจันทราสวรรค์ เมื่อแสงสีเลือดเข้าไปในร่างของเธอ ฟันเฟืองจักรวาลของจันทราสวรรค์ก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา ฟันเฟืองที่ฝุ่นขึ้นเริ่มจะหมุนอย่างช้าๆ ฟันเฟืองจักรวาลของจันทราสวรรค์นั้นมีสีฟ้า มันมีสัญลักษณ์ที่ดูโบราณสลักเอาไว้ หานเซิ่นไม่รู้ถึงความหมายของพวกมัน แต่เขารู้ว่ามันเป็นแหล่งพลังของจันทราสวรรค์ เมื่อฟันเฟืองจักรวาลของจันทราสวรรค์เริ่มเร่งความเร็วขึ้น สัญลักษณ์ที่ดูโบราณก็เรืองแสงอย่างสว่างไสว พวกมันเป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ แสงนั้นเบลอไปขณะที่ฟันเฟืองหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ แสงสีฟ้าพุ่งออกมาจากฟันเฟืองและย้อมเนื้อหนังกับเซลล์ของจันทราสวรรค์ด้วยเฉดสีฟ้าประหลาด เธอเริ่มดูเหมือนกับรูปปั้นคริสตัลสีฟ้า จันทราสวรรค์ดูไม่เหมือนกับคนๆหนึ่งอีกต่อไป เธอดูเหมือนกับภูติผีหรือรูปปั้นคริสตัลของแม่มด และไม่นานหลังจากนั้นคริสตัลก็เริ่มจะละลาย แตมันไม่ใช่การละลาย มันเหมือนกับว่าดินโคลนถูกล้างออกไปจากรูปปั้นคริสตัลทีละชั้นๆ มันเหมือนกับกลีบดอกไม้ที่ถูกฉีกออกทีละกลีบ กู่ชิงเฉิงมองดูจันทราสวรรค์และหานเซิ่น สีหน้าของเธอมักจะดูสงบนิ่งอยู่ตลอด แต่ในตอนนี้เธอรู้สึกกังวลอย่างมาก แสงสีฟ้าของจันทราสวรรค์เริ่มจะค่อยๆจางหายไป และเธอก็เริ่มจะกลายเป็นคนที่แตกต่างไปจากที่เคยเป็น หานเซิ่นรู้สึกดีใจ ยีนของจันทราสวรรค์กำลังเกิดความเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความว่าวิชาโลหิตชีพจรนั้นได้ผล ถึงแม้เขาจะไม่สามารถแก้ไขความบกพร่องในยีนของพวกเธอได้ทั้งหมด แต่กระบวนการนี้ก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายของจันทราสวรรค์ แต่จันทราสวรรค์ไม่เหมือนกับเลอตู้ที่เป็นครึ่งเทพ แทนที่ระดับของเธอจะเพิ่มขึ้น พลังของหานเซิ่นเพียงแค่พัฒนายีนของเธอเท่านั้น เสียงประหลาดดังออกมาจากร่างกายของจันทราสวรรค์ราวกับดาบถูกดึงออกมาจากฝัก จิตแห่งดาบที่น่ากลัวเบิกบานออกมา ขณะที่แสงสีฟ้าประหลาดยังคงจางหายไปเรื่อยๆ การบรรยายจันทราสวรรค์เป็นเรื่องยาก เพราะตอนนี้เธอดูเหมือนกับผีสาวจากนรก ในตอนนี้จันทราสวรรค์ดูเหมือนกับแฟรี่ที่เย็นชาในแสงจันทร์ เธอดูเหินห่างแต่ไม่ใช่ในแบบที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว
คอมเม้นต์