Super God Gene ตอนที่ 2232
“พวกเจ้าได้มันไปแล้ว ตอนนี้พวกเจ้าก็ควรจะไปซะ อย่าได้รบกวนสถานที่หลับใหลของอันดายอิ้งเบิร์ด” หญิงชราดูไม่ค่อยพอใจที่พวกเขาส่งเสียงดัง “เจ้าเอามันไป” ไป๋เวยพูดกับหานเซิ่นขณะที่เธอปล่อยมือจากรังนก “ข้าจะทำแบบนั้นได้ยังไง?” หานเซิ่นดูรู้สึกผิด แต่ภายในจิตเขากำลังดีใจราวกับดอกไม้ที่เบิกบาน ‘นี่เป็นบางสิ่งที่มีค่าเทียบเท่ากับสมบัติระดับเทพเจ้า ถึงเราจะไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้ แต่มันต้องเป็นบางสิ่งที่ดีอย่างแน่นอน’ ไป๋เวยกรอกตาของเธอ “ข้าแค่ขอให้เจ้าถือมันเอาไว้ก่อนชั่วคราวเท่านั้น อย่าได้คิดอะไรกับมันมาก” หานเซิ่นยักไหล่และไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเดินไปหยิบรังของอันดายอิ้งเบิร์ดขึ้นมา รังของอันดายอิ้งเบิร์ดเป็นสิ่งของระดับเทพเจ้า ถ้าไม่ได้รับการยินยอมจากมัน แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถใช้มันได้ หานเซิ่นประหลาดใจที่เขาได้รับการยอมรับจากอันดายอิ้งเบิร์ด ตอนนี้เขาได้รับอนุญาตให้ใช้รังของอันดายอิ้งเบิร์ดได้ ซึ่งสำหรับคนอื่นแล้วมันเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ แม้แต่ไป๋เวยก็ไม่สามารถใช้มันได้ ‘เธอจะมาโทษว่าฉันขโมยมันไปไม่ได้ เธอเป็นคนที่ไม่ยอมเดินขึ้นไปบนบันไดขั้นสุดท้ายเอง’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง หญิงชราดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจนักกับความจริงที่พวกเขาเอารังของอันดายอิ้งเบิร์ดไป และตอนนี้เธอก็อยากให้พวกเขาไปให้พ้นๆ หานเซิ่นถือรังนกเอาไว้ขณะเดินออกจากภูเขาเอ็กซ์ตรีมเดด เขากลับไปยังเส้นทางที่เข้ามา และไม่นานพวกเขาก็มาอยู่ที่ชายฝั่ง มันมีแมลงลาวาจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วทะเลลาวา พวกมันเป็นเหมือนกับแฟรี่ลาวาที่ร้อนแรง ตัวของพวกมันร้อนยิ่งไปกว่าลาวาซะอีก และนี่คือตอนที่พวกมันกำลังพักผ่อน ถ้าเกิดพวกมันปลดปล่อยความร้อนออกมาพร้อมๆกันล่ะก็ แม้แต่ชุดเกราะระดับดยุกก็จะถูกละลาย หานเซิ่นพยายามบินขึ้นไป แต่เขายังไม่สามารถทำได้ พวกเขาจำเป็นต้องเดินไปบนทะเลลาวา จู่ๆไป๋เวยก็ยิ้มให้กับหานเซิ่น ซึ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ การได้เห็นคนที่อวดดียิ้มให้กับใครสักคนนั้นให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ไป๋เวยนำเอาใบไม้ใบหนึ่งออกมา และหลังจากที่เธอใส่แสงแห่งเทพเข้าไปข้างใน เธอก็โยนใบไม้ลงไปในทะเลลาวา ใบไม้ขยายใหญ่ในอากาศและกลายเป็นเหมือนกับเรือขนาดเล็ก เมื่อมันลงถึงพื้นผิวของทะเลลาวา สีเขียวของใบไม้ก็เหมือนกับหยก ใบไม้ลอยตัวบนทะเลลาวา และเหล่าแมลงลาวาก็เริ่มจะหลีกเลี่ยงมัน ไม่มีแมลงลาวาตัวไหนที่กล้าเข้ามาใกล้ใบไม้ ไป๋เวยก้าวไปบนใบไม้และหันกลับมามองที่หานเซิ่น“ถ้าพวกเจ้ายินดีที่จะมาเป็นอัศวินของข้า ข้าก็ยินดีที่จะพาพวกเจ้าไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย” “ขอบคุณแต่ไม่ล่ะ” หานเซิ่นยิ้ม ผู้หญิงนั้นดื่มด่ำความภาคภูมิใจในตัวเอง เธอไม่แม้แต่จะหาความจริงว่าหานเซิ่นเป็นใครกันแน่ และภัยเพียงอย่างเดียวต่อหน้าพวกเขาก็มีแค่แมลงลาวา ซึ่งพวกมันไม่มีทางที่จะหยุดเขาได้ ไป๋เวยเห็นหานเซิ่นและเพื่อนของเขาจับกลุ่มกัน หลังจากนั้นหานเมิ่งเอ๋อก็เรียกโล่ป้องกันสีฟ้าออกมา มันปกป้องพวกเขาทั้งหมดขณะที่พวกเขาเริ่มเดินไปบนทะเลลาวา ไป๋เวยขมวดคิ้วและแนะนำหานเซิ่น “เมื่อแมลงลาวาตกใจ พวกมันจะระเบิดความร้อนออกมา ความร้อนที่พวกมันสร้างขึ้นมานั้นละลายสมบัติป้องกันระดับดยุกได้อย่างสบายๆ แม้แต่ชุดเกราะระดับราชันก็จะถูกทำลายด้วยความร้อนของพวกมัน อย่ามาโทษที่หลังว่าข้าไม่เตือนพวกเจ้า” “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” หานเซิ่นตอบ แต่เขาไม่ได้หยุดเดินไปบนทะเลลาวา ขณะที่พวกเขาเดินไปบนทะเลลาวา ทันใดนั้นแมลงลาวาจำนวนมากก็เริ่มพากันเข้ามา ร่างกายของพวกมันเป็นเหมือนกับเหล็กร้อน และพวกมันก็ใช้ตัวเองพุ่งเข้าชนกับผิวของใบเสมาราชาแมลงปีศาจ พวกมันระเบิดด้วยความร้อนสูงที่สามารถละลายเหล็กได้ แต่ใบเสมาราชาแมลงปีศาจกลับไม่ละลายแม้แต่นิดเดียว ไป๋เวยดูประหลาดใจเมื่อเห็นอย่างนั้น ขณะที่ไป๋เวยเคลื่อนเรือใบไม้ของเธอไป เธอก็มองไปที่กลุ่มของหานเซิ่น เธอประหลาดใจกับพลังป้องกันของใบเสมาราชาแมลงปีศาจอย่างมาก “เขามีไพ่ตายซ่อนอยู่กี่อย่างกันแน่?” ไป๋เวยมองหานเซิ่นอย่างแปลกๆ เมื่อพวกเขาเดินออกจากเกาะได้หนึ่งไมล์แล้ว ความสามารถในการบินของพวกเขาก็กลับคืนมา หานเซิ่นและพวกพ้องเริ่มบินขึ้นจากทะเลลาวา จระเข้ลาวาที่พยายามโจมตีใส่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรใบเสมาราชาแมลงปีศาจได้เช่นกัน ไป๋เวยเก็บใบไม้ของเธอและใช้พลังของตัวเองเพื่อพาตัวเองออกจากที่นี่ หานเซิ่นไม่ได้หัวเราะใส่เธอ แต่เขาได้เสนอให้เธอเข้ามาหลบภายในใบเสมาราชาแมลงปีศาจร่วมกับพวกเขา แต่เธอไม่ตอบ เธอพยายามจะออกไปจากที่นี้ด้วยวิธีการของตัวเอง “ผู้หญิงคนนี้จะทะนงตัวเองเกินไปแล้ว” หานเซิ่นส่ายหัวและหันไปตรวจดูรังของอันดายอิ้งเบิร์ดแทน หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อตรวจดูมัน และเขาก็เห็นได้ว่ารังของอันดายอิ้งเบิร์ดนั้นเต็มไปด้วยห่วงโซ่สสารของพลังเหตุอันลึกลับ แต่หานเซิ่นไม่สามารถเปิดใช้งานพลังของรังนกได้ เขาพยายามวิเคราะห์มันอยู่สักพัก แต่เขาก็คิดไม่ออกว่ามันมีประโยชน์อะไรกันแน่ ‘เราคงต้องลองใหม่ในตอนที่กลับถึงบ้านแล้ว พลังของรังนกนี้ไม่มีทางด้อยไปกว่าการชำระล้างแห่งสรวงสวรรค์ได้’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง เมื่อพวกเขาออกไปจากถ้ำแล้ว หานเซิ่นก็พาพวกพ้องของเขากลับไปที่หุบเขาลาวาอีกครั้ง “ทำลายกล้องบันทึก และแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกินขึ้นในวันนี้ ถ้าพวกเจ้ากล้าพูดเรื่องนี้แม้แต่คำเดียว เจ้ารู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”ไป๋เวยมองเป่าเอ๋อคนที่ตอนนี้กำลังถ่ายวิดีโออย่างตั้งอกตั้งใจด้วยกล้องในมือ “นี่มันไม่ดีแน่ๆ พวกเราเพิ่งจะทำลายกล้องตัวหนึ่งไปเมื่อวันก่อน ตอนนี้พวกเราจะทำลายมันอีกอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นดูแย่ “ข้าจะพูดกับราชาอัศวินไอซ์บลูให้เอง แค่ทำลายมันก็พอ!” ไป๋เวยพูด หานเซิ่นดีใจ แต่ใบหน้าของเขายังดูแย่อยู่ดี เขาพูดขึ้นมา“เอางั้นก็ได้ แต่มันยังเหลือเวลาอีกสักพักก่อนที่พวกเขาจะต้องกลับไปฐานทัพเพื่อรายงาน พวกเราค่อยทำลายมันก่อนที่จะกลับไปเป็นยังไง?” หานเซิ่นไม่ต้องการให้ใครคนอื่นเห็นสิ่งที่พวกเขาทำเช่นเดียวกัน และถ้าไป๋เวยยินดีเป็นคนรับผิดชอบ นั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ไป๋เวยหยุดพูด เธอเดินต่อนำหน้าไปในหุบเขา เธอมาที่นี่เพราะข้อตกลงของราชาไป๋กับอันดายอิ้งเบิร์ด ซึ่งถือเป็นบทลงโทษของเธอ เธอยังไม่สามารถกลับไปได้ในตอนนี้ ที่ไป๋เวยถูกลงโทษนั้นก็เป็นเพราะหานเซิ่น ไป๋เวยสูญเสียเดสทรอยเยอร์ไบเบิลให้กับดอลลาร์ ด้วยเหตุนั้นเธอจึงถูกราชาไป๋ลงโทษ บทลงโทษของเธอคือการรับสิ่งของจากอันดายอิ้งเบิร์ดกลับไป แต่มันไม่มีใครคาดคิดว่าไป๋เวยจะไม่กล้าก้าวขึ้นไปบนบันไดขั้นสุดท้าย และหานเซิ่นก็เป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากอันดายอิ้งเบิร์ดแทน หานเซิ่นและคนอื่นๆทำการค้นหาซีโน่เจเนอิคภายในหุบเขาลาวาต่อไป ซึ่งหลังจากผ่านไป 3 วันมี ก็มีใครบางคนเข้ามาในหุบเขาลาวาและติดตามพวกเขาอย่างลับๆ ราชาไนท์ริเวอร์ดูเลือดเย็น ถึงแม้เขาจะถูกบังคับให้มา แต่จิตใจที่อยากจะฆ่าหานเซิ่นของเขาก็ไม่ได้ถูกบังคับ
คอมเม้นต์