Super God Gene ตอนที่ 2047
หานเซิ่นเก็บเกล็ดกลับไปและนอนพักผ่อน บาดแผลของเขาค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ เขายังไม่มีแผนจะกลับเข้าไปในจักรวาลจีโนในเร็วๆนี้ เขาต้องการจะอยู่ในสหพันธ์ไปสักพัก ทางเผ่าดราก้อนคงจะกำลังตามหาตัวเขาอยู่ และถึงดราก้อนฟิฟทีนจะไม่รู้ว่าหานเซิ่นจะเทเลพอร์ตกลับไปยังจุดเดิม หานเซิ่นก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่เสี่ยงเกินไปที่จะกลับไปในเร็วๆนี้ ซึ่งถ้าหานเซิ่นไม่ปรากฏตัวเป็นเวลานาน ทางเผ่าดราก้อนก็คงจะเชื่อว่าหานเซิ่นหนีออกไปจากที่นั่นแล้ว และเมื่อพวกเขาตายใจ มันก็จะง่ายขึ้นสำหรับหานเซิ่นในการหนีออกจากที่นั่น ยังไงซะทางเผ่าดราก้อนก็ไม่สามารถส่งยอดฝีมือมาเฝ้าที่ทะเลโบราณหวนคืนได้ตลอด ดังนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ขณะที่หานเซิ่นอยู่ในสหพันธ์ เขาก็ยังคงดูดซับรอยเลือดที่แปดเปื้อนบนมีดขนนกโลหิตต่อไป และมันจะเป็นอะไรที่ดีมากถ้าเขาสามารถกลายเป็นมาร์ควิสได้ก่อนที่จะกลับเข้าไปในจักรวาลจีโน “เข้ามานี่สิ ลูกสาวของพ่อ ให้พ่อกอดหนูหน่อย” หานเซิ่นอุ้มหานหลิงเอ๋อขึ้นมาจากเตียงและหอมแก้มเธอ หานหลิงเอ๋อใช้มือของเธอผลักใบหน้าของหานเซิ่น ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบให้เขาทำแบบนั้น “นายหายหน้าหายตาไปนาน แบบนั้นหลิงเอ๋อจะจดจำนายได้ยังไง” จีเหยียนหรันบ่น “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ควรอยู่ที่นี่ต่อนานๆ”หานเซิ่นไม่ได้บอกเธอว่าเขากำลังถูกไล่ล่า เขาไม่ต้องการให้ครอบครัวเป็นกังวล แต่การใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านไม่ได้ดีอย่างที่หานเซิ่นคิดเอาไว้ ทั้งเปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนนมและการคาดเดาความคิดของหานหลิงเอ๋อนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทารกเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่มีใครสื่อสารด้วยได้ ถึงแม้หานหลิงเอ๋อจะเป็นเด็กเงียบๆและไม่ร้องออกมา แต่เธอก็ยังทำให้เขาลำบากอยู่ดี มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าเธอต้องการอะไร แถมเวลาพักผ่อนของเธอก็แตกต่างไปจากเขา เมื่อไหร่ก็ตามที่หานเซิ่นต้องการจะพัก เธอก็จะลืมตาขึ้นมาเล่น ตอนนี้หานเซิ่นรู้ถึงความยากลำบากของจีเหยียนหรัน การคาดเดาสิ่งที่เด็กทารกต้องการนั้นยากยิ่งกว่าการคาดเดาการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ซะอีก นอกจากนั้นมันก็ไม่มีใครกล้าทำให้หานหลิงเอ๋อโมโหเช่นกัน ถ้าเธอเกิดใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดขั้นมา เธอก็อาจจะทำลายดาวทั้งดวงได้ หานหลิงเอ๋อชื่นชอบการอาบแดด และเธอก็มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นหานเซิ่นจึงมักจะพาเธอออกไปขับยานอวกาศเล่นเพื่อดูทัศนียภาพ ‘เธอยังเด็กอยู่แท้ๆ แต่เธอไม่ชื่นชอบที่จะอยู่บ้าน เมื่อโตขึ้นเธอก็คงจะอยู่ไม่ติดบ้านแน่ๆ’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง แต่เขาไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรกับเรื่องนั้น มันเป็นโอกาสที่หาได้ยากที่จะอยู่ในสหพันธ์เป็นเวลานาน ดังนั้นหานเซิ่นจึงพาครอบครัวและเป่าเอ๋อไปเที่ยวด้วยกัน หานเซิ่นต้องการจะไปสปาบนดาวน้ำแข็ง แต่หลิงเอ๋อนั้นชื่นชอบแสงแดด ดังนั้นเขาจึงยกเลิกแผนการและเดินทางไปยังดวงดาวที่เต็มไปด้วยชายหาดแทน เป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อสร้างปราสาททรายร่วมกัน ขณะที่หานเซิ่นกับจีเหยียนหรันนอนอยู่บนเก้าอี้และเพลิดเพลินกับลมของทะเล ส่วนหลัวหลานและหานอวี้เฟยไปดำน้ำด้วยกัน ขณะที่ครอบครัวของหานเซิ่นกำลังเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอยู่นั้นก็มีเด็กชาย 2 คนเดินเข้ามา พร้อมกับบอดี้การ์ด เด็กชายทั้ง 2 คนดูมีความสูงพอๆกับเป่าเอ๋อ พวกเขาทั้งคู่ดูมีอายุราวๆ 5 ขวบ คนหนึ่งเดินอย่างภาคภูมิราวกับว่าเขาเป็นหัวหน้าใหญ่ ส่วนอีกคนดูเงียบๆ เด็กชายทั้ง 2 เดินเข้าไปหาเป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อ เด็กชายที่ดูภาคภูมิมองไปที่เป่าเอ๋อและดีดนิ้วของเขา หลังจากนั้นบอดี้การ์ดด้านหลังก็นำหินอัญมณี ของเล่นที่ทันสมัยและดอกไม้ออกมามอบให้กับเป่าเอ๋อ “สาวสวย มาเป็นแฟนสาวของฉัน และทั้งหมดนี่จะเป็นของเธอ” เด็กชายชี้ไปที่ยานอวกาศอันเลิศหรูของเขาที่ลอยอยู่เหนือทะเล เป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อหันไปมองเด็กชาย หลังจากนั้นเป่าเอ๋อก็พูดขึ้นมา“นั่นคือทั้งหมดที่นายเสนออย่างนั้นหรอ?” “บอกฉันมาว่าเธออยากได้อะไร อีกอย่างหนึ่งชื่อของฉันคือหนิงปู้อาว ถ้าเธอมาเป็นแฟนของฉันละก็ เธอจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ” เด็กชายพูด “ฉันอยากจะเห็นปลาบินบนท้องฟ้า” เป่าเอ๋อพูด “อะไรนะ?” เด็กชายดูสับสน ด้วยเหตุบางอย่างเด็กชายอีกคนที่เงียบๆก้าวถอยออกไป “แบบนี้ไง!” หลังจากนั้นเป่าเอ๋อก็จับตัวเด็กชายคนนั้นและโยนเขาลงไปในทะเล เด็กชายเริ่มจะร้องไห้ หลังจากนั้นบอดี้การ์ดคนหนึ่งก็รีบไปพาเขากลับขึ้นมาจากน้ำ ส่วนบอดี้การ์ดคนอื่นเข้ามาล้อมเป่าเอ๋อ “พวกนายทุกคนไปได้แล้ว” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา หลังจากนั้นบอดี้การ์ดทุกคนก็ถอยออกไป การที่เด็กผู้หญิงอายุประมาท 5 ขวบมีพละกำลังถึงขนาดนั้นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจอย่างมาก มนุษย์สามารถแข็งแกร่งขึ้นภายในก็อตแซงชัวรี่ก็จริง แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ก่อนอายุ 16 อย่างนั้นแล้วพละกำลังที่เธอมีคืออะไรกัน สำหรับพวกเขาแล้ว เป่าเอ๋อจึงดูเหมือนกับสัตว์ประหลาด ชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามา ผู้ชายบอกให้ผู้หญิงพาเด็กชายทั้ง 2 คนไป หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาหานเซิ่น “ไม่ได้เจอกันซะนาน เด็กชาย 2 คนนั้นเป็นลูกของนายอย่างนั้นหรอ?”หานเซิ่นทักทายชายคนนั้น ขณะที่จีเหยียนหรันเข้าไปหาเป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อ “เด็กคนที่เงียบๆนั้นเป็นลูกชายของฉัน ส่วนอีกคนเป็นลูกชายของจ้าวเจ็ด” หนิงเยวี่ยพูด “พวกเขาดูเหมือนพี่น้องกัน” หานเซิ่นหัวเราะ แต่เขาพูดอย่างจริงใจ “พวกเขาทั้งคู่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมือนๆกัน”หนิงเยวี่ยพูดอย่างง่ายๆ หลังจากนั้นเขาก็มองตรงไปที่หานเซิ่นและถาม“มันยังมีโลกที่อยู่เหนือจากก็อตแซงชัวรี่อยู่ใช่ไหม?” “ใช่” หานเซิ่นไม่คิดจะปิดบังความจริงเรื่องนี้ “ฉันต้องทำยังไงนายถึงจะพาฉันไปที่นั่น?” หนิงเยวี่ยถาม “ชีวิตในตอนนี้ของนายมันเลวร้ายนักหรือไง? ทำไมนายถึงต้องการอะไรที่มากกว่า?” หานเซิ่นถามหนิงเยวี่ย “นี่ไม่ใช่ชีวิตที่พวกเราควรจะมี” หนิงเยวี่ยพูด “แต่นายจะกลับมาอีกไม่ได้ นายจะไม่ได้พบกับครอบครัวของนายอีก และนายก็ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายทุกหนทุกแห่ง ถึงอย่างนั้นนายก็ยังต้องการจะไปอีกอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม “ฉันอยากจะไป” หนิงเยวี่ยตอบอย่างไร้ซึ่งความลังเล หานเซิ่นมองตาของหนิงเยวี่ย หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา “ขอเวลาฉันสักหน่อย ฉันจำเป็นต้องเตรียมการ” พวกเขาหยุดพูดและหันไปมองท้องทะเลด้วยกัน “นายจะไม่คิดถึงลูกและภรรยาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามหลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันไม่ได้แต่งงาน ฉันรับเขามาเลี้ยง เขาจะดูแลตัวเองได้ เขาจะช่วงชิงทุกสิ่งที่จำเป็น และเขาจะไม่ช่วงชิงสิ่งที่ไม่ควร”หนิงเยวี่ยพูดด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง แต่ในดวงตาของเขายิ้มออกมา หานเซิ่นประหลาดใจ เขาหันไปมองเด็กชายที่ดูเงียบๆด้วยความแปลกใจ
คอมเม้นต์