Super God Gene ตอนที่ 2030
“ดราก้อนเธอร์ทีนจากเผ่าดราก้อน” หญิงสาวมังกรพูดด้วยท่าทางเป็นมิตร “ดราก้อนเธอร์ทีน? นั่นเป็นชื่อที่ดี แต่การเดิมพันมันไม่ยุติธรรม” หานเซิ่นพูดเพื่อจะซื้อเวลา ดราก้อนเธอร์ทีนรู้ว่าหานเซิ่นกำลังทำอะไรอยู่ แต่เธอไม่คิดจะเปิดโปงการกระทำของเขา เธอแค่ยิ้มและถาม “มันไม่หยุดติธรรมยังไง?” “ถ้าข้าเป็นฝ่ายแพ้ ข้าก็ต้องพาพวกเจ้าไปในสถานที่ที่ข้าอาจจะถูกฆ่าตาย และถ้าข้าชนะ ข้าก็ได้แค่รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ นั่นคือสิ่งที่ไม่ยุติธรรม” หานเซิ่นพูดด้วยสีหน้าที่ดูใสซื่อ ดราก้อนเธอร์ทีนไม่รู้สึกโกรธ เธอถามเขาอย่างอ่อนโยน“นั่นมันไม่ยุติธรรมอย่างนั้นหรอ? ถ้าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าแบบไหนถึงจะยุติธรรมล่ะ?” “ถ้าข้าชนะ ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ เจ้าต้องมาเป็นบอดี้การ์ดของข้า” หานเซิ่นพูด ดราก้อนเธอร์ทีนหัวเราะและพูด “นั่นเป็นความคิดที่ดี ถึงข้าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่นั่นก็ไม่เป็นอะไร ข้ายอมรับข้อเสนอของเจ้า” “ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันตกลงสินะ” หานเซิ่นพูดอย่างจริงจัง “ใช่” ดราก้อนเธอร์ทีนนำหอกหัวเกลียวสีดำออกมา ในจังหวะที่เธอหยิบหอกนั่นออกมา หานเซิ่นก็รู้สึกหนาวขึ้นมา เธอทำให้เขารู้สึกแปลกๆ และหานเซิ่นก็ไม่สามารถใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนสัมผัสพลังชีวิตของเธอได้ ทำให้เขาไม่รู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเธอ ดราก้อนเธอร์ทีนถือหอกหัวเกลียวอยู่ในมือ แต่เธอยังคงไม่โจมตี เธอพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ“ข้าไม่เหมือนกับบุดด้าอนันต์ ถ้าเจ้าคิดที่จะใช้ปากเปล่า เขี้ยวขาวเพื่อสะท้อนการโจมตีของข้าล่ะก็ คิดใหม่ได้เลย” “ถ้าอย่างนั้นข้าควรทำยังไงดี?” หานเซิ่นหัวเราะ หานเซิ่นแค่ต้องการจะซื้อเวลาเพื่อให้ได้พักต่ออีกสักหน่อย เขาไม่ได้คาดหวังว่าดราก้อนเธอร์ทีนจะตอบคำถามของเขา “หอกพิชิตมารของดราก้อนทะลวกได้ทุกวิชา วิชาสะท้อนพลังของเจ้าอาจจะได้ผลกับเผ่าพันธุ์อื่น แต่มันจะไม่ได้ผลกับข้า ถ้าเจ้าต้องการจะชนะ ก็ใช้พละกำลังของตัวเองซะ” ดราก้อนเธอร์ทีนพูดอย่างใจเย็น “ทะลวงทุกวิชาอย่างนั้นหรอ? นั่นเป็นคำกล่าวอ้างที่กล้ามากๆ” หานเซิ่นพูด ดราก้อนเธอร์ทีนยักไหล่ “ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้าล่ะก็ ก็ลองใช้ปากเปล่า เขี้ยวขาวดูว่าจะสะท้อนการโจมตีของข้าได้หรือไม่” หลังจากนั้นดราก้อนเธอร์ทีนก็โจมตีหานเซิ่น หอกนั้นกลายเป็นเส้นตรงที่แหลมคมยิ่งกว่าเข็ม หานเซิ่นไม่ได้พยายามจะรับมัน พลังที่เน้นไปที่จุดๆเดียวแบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสะท้อนกลับไปได้ ถึงแม้เธอจะไม่ได้ใช้พลังมากก็ตาม รองเท้าเขี้ยวกระต่ายปลดปล่อยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อออกมา ขณะที่หานเซิ่นหลบหลีกหอกของดราก้อนเธอร์ทีน มีดขนนกโลหิตในมือของเขาก็เล็งไปที่คอของเธอ ดราก้อนเธอร์ทีนประหลาดใจ หานเซิ่นเป็นแค่เอิร์ลคนหนึ่ง และเขาก็ยังตกอยู่ภายใต้พลังของซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ แต่เขากลับสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วขนาดนั้น แต่ดราก้อนเธอร์ทีนประหลาดใจเพียงแค่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอก็หมุนหอกและหอกของเธอก็หายวับไปกับตา เมื่อหอกปรากฏขึ้นอีกครั้ง ปลายของมันก็กำลังจี้เข้ามาที่คอของหานเซิ่น หานเซิ่นขมวดคิ้วและกระโดดขึ้นไปบนฟ้าเพื่อหลบหอกของดราก้อนเธอร์ทีน พวกเขาต่อสู้กันอยู่หนึ่งนาทีเต็มๆ แต่ทั้งมีดและหอกกลับไม่สามารถสัมผัสร่างกายของอีกฝ่ายได้ “นี่มันวิชามีดอะไรกัน? วิชามีดเขี้ยวดาบไม่ควรจะเป็นแบบนี้?” มาร์ควิสเสือขาวพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ “นั่นไม่ใช่วิชามีดเขี้ยวดาบ แต่เป็นวิชาใต้นภาของปราสาทนภา” สายตาของชารอนนั้นเฉียบแหลม “วิชาใต้นภา? ข้าไม่เห็นเคยได้ยินอะไรแบบนั้นมาก่อนเลย” มาร์ควิสเสือขาวพูดอย่างเคลือบแคลงใจ ชารอนมองไปที่หานเซิ่นและพูด “วิชาใต้นภาถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อนานมาแล้วโดยผู้อาวุโสของปราสาทนภา แต่เนื่องจากมันมีข้อบกพร่องหลายอย่าง พวกเขาจึงห้ามลูกศิษย์ในการเรียนรู้มัน แต่ในสายตาของข้า ดูเหมือนว่าข้อบกพร่องของมันจะถูกแก้ไขแล้ว ส่วนใครที่เป็นคนทำอย่างนั้น ข้าเองก็ไม่รู้” “วิชามีดนี่มีความพิเศษยังไง?” มาร์ควิสเสือขาวถาม “ข้าไม่รู้ ข้ารู้แค่ว่าวิชานี้ถูกปรับแต่งมาจากตำราไร้อักษร แต่เนื่องจากมันไม่เคยมีใครใช้วิชานี้มาก่อน มันจึงไม่มีใครรู้ว่ามันทรงพลังขนาดไหน แต่ผู้คนที่ไม่ได้ฝึกตำราไร้อักษรไม่ควรจะเรียนรู้มันได้ มันน่าแปลกที่หานเซิ่นเรียนรู้วิชาใต้นภาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเป็นแค่คนนอก” ชารอนพูด หานเซิ่นใช้ความเร็วของรองเท้าเขี้ยวกระต่ายเพื่อต่อสู้กับดราก้อนเธอร์ทีน หานเซิ่นไม่รู้ว่าหอกพิชิตมารมีพลังที่สามารถทำลายทุกวิชาได้จริงๆหรือเปล่า แต่ตอนนี้เขารู้ว่าตัวเองไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมัน ซึ่งถ้าเขากลายเป็นมาร์ควิสแล้วล่ะก็ เขาก็คิดว่าสามารถลองดูได้ ดราก้อนเธอร์ทีนไม่ได้ซับซ้อนเหมือนกับไผ่เดียวดาย เธอจู่โจมด้วยเทคนิคการใช้หอกธรรมดาๆและเน้นไปที่พลังเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นความเรียบง่ายของของเธอก็ยังเป็นอะไรที่ร้ายกาจอยู่ดี ถ้าหานเซิ่นไม่มีความเร็วจากรองเท้าเขี้ยวกระต่ายคอยช่วยเหลือ และถ้าดราก้อนเธอร์ทีนไม่ได้ถูกจำกัดความเร็วจากพลังของซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณล่ะก็ หานเซิ่นก็คงจะถูกแทงไปเรียบร้อยแล้ว ‘ดราก้อนเธอร์ทีนนั้นแข็งแกร่ง! เธอเป็นตัวอย่างที่เจิดจรัสของความกล้าหาญอันบริสุทธิ์ หอกของเธอพิชิตได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่คนที่อยู่ในระดับเดียวกันก็ต้องหลบหลีกเธออย่างระมัดระวัง แต่เราไม่ใช่มาร์ควิส เราอ่อนแอกว่านั้น’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไป ดราก้อนเธอร์ทีนก็กล้าหาญยิ่งขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งความเร็วและพลังของเธอก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้รองเท้าเขี้ยวกระต่ายเริ่มจะตามความเร็วของเธอไม่ทัน “หานเซิ่นนั้นไร้เดียงสาที่คิดว่าตัวเองจะต่อสู้กับดราก้อนเธอร์ทีนได้ นางคือคนที่กล้าหาญที่สุดในเผ่าดราก้อน ไม่มีใครในระดับเดียวกันที่จะต่อสู้กับนางได้ นอกจากนั้นยิ่งต่อสู้นานเท่าไหร่ ดราก้อนก็จะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งถ้าการต่อสู้ยังดำเนินต่อไปแบบนี้ หานเซิ่นก็จะเข้าตาจนในที่สุด” มาร์ควิสเสือขาวพูด ชารอนขมวดคิ้วและไม่ได้พูดอะไร เขาคิดว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ถอยห่างออกไปในระยะหนึ่ง และดราก้อนเธอร์ทีนก็พยายามจะไล่ตามเขาไป แต่ชุดเกราะของเธอเริ่มจะแตกร้าวราวกับว่าถูกโจมตีด้วยอะไรบางอย่าง ซึ่งรอยร้าวนั้นเริ่มจะแพร่ขยายออกไปเรื่อยๆ ดราก้อนเธอร์ทีนหยุดนิ่ง เธอมองไปรอบๆและพูด “ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เจ้าทิ้งมีดลมปราณพวกนี้เอาไว้?” “ตั้งแต่การโจมตีครั้งแรก ตลอดเวลาที่ต่อสู้กัน ข้าได้สร้างมีดลมปราณไปนับไม่ถ้วน เจ้าไม่เห็นพวกมัน แต่ถ้าเจ้าถูกพวกมันไปเรื่อยๆ เจ้าก็รู้สินะว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?” หานเซิ่นยิ้ม ด้วยการรวมวิชาใต้นภาเข้ากับความอ่อนโยนของวิชาจันทรา หานเซิ่นได้ปล่อยมีดลมปราณเอาไว้ในอากาศเป็นจำนวนมาก พวกมันเป็นเหมือนกับสายหุ่นเชิดรอบๆตัวดราก้อนเธอร์ทีน พวกมันห้อยอยู่ในอากาศและเป็นเหมือนกับเส้นไหมที่ไม่สามารถมองเห็นได้
คอมเม้นต์