Super God Gene ตอนที่ 2029
‘บุดด้าอนันต์คนนี้ก็เป็นซีโน่เจเนอิคด้วยอย่างนั้นหรอ ดูเหมือนว่าในหมู่บุดด้าจะมีคนที่เป็นซีโน่เจเนอิคอยู่หลายคน’ หานเซิ่นจ้องไปที่บุดด้าอนันต์ แต่เขายังคงไม่ขยับเขยื้อน บุดด้าอนันต์ที่ดูเหมือนกับคิงคองประกบมือเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นดวงดาวมากมายรอบๆตัวเขาก็เริ่มบินมารวมกันเป็นกลุ่มดาวขนาดใหญ่ ขณะที่เขากำลังรวบรวมพลังนั้น ดวงดาวก็สว่างไสวขึ้นเรื่อยๆ แต่ขนาดของพวกมันยังคงเท่าเดิม และท้ายที่สุดแล้วดวงดาวที่มารวมกันก็ดูเหมือนกับดวงอาทิตย์ขนาดจิ๋ว พวกมันดูน่ากลัวอย่างมาก “วิชาจีโนดาราจักรอนันต์ของบุดด้าเป็นวิชาที่ทรงพลัง แต่มันใช้เวลาในการรวบรวมพลังนาน การใช้มันโจมตีหานเซิ่นที่ไม่คิดจะขยับเขยื้อนถือเป็นความคิดที่ดี” ชารอนพูดพร้อมกับหัวเราะ หญิงสาวมังกรก็หัวเราะเช่นกัน เธอพูดขึ้นมา “ครั้งนี้หานเซิ่นจะต้องขยับเขยื้อนอย่างแน่นอน ไม่ว่าท่าปากเปล่า เขี้ยวขาวจะทรงพลังสักแค่ไหน มันก็ยังคงมีขีดจำกัดอยู่ ด้วยพลังของหานเซิ่น เขาไม่มีทางจะสะท้อนพลังของวิชาดาราจักรอนันต์กลับมาได้แน่” “แถมบุดด้าอนันต์ยังไม่คิดจะโจมตี เขายังคงรวบรวมพลังต่อ ดังนั้นดาราจักรอนันต์จะทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ หานเซิ่นไม่มีทางจะสะท้อนมันกลับมาได้แน่ และถ้าเขาพยายามจะทำแบบนั้น มันก็จะนำไปสู่การแหลกสลายของร่างกาย” บุดคนอีกคนพูดขึ้นมา สีหน้าของบุดด้าอนันต์เต็มไปด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาตอนนี้เป็นอะไรที่น่ากลัว พลังในมือของเขากำลังเพิ่มพลังขึ้นเรื่อยๆราวกับว่าพลังของเขาไร้ที่สิ้นสุด หานเซิ่นนั่งพักอยู่เฉยๆโดยไม่ได้ทำอะไร ส่วนบุดด้าอนันต์ยังคงไม่พร้อมจะปลดปล่อยพลังออกมา เขาตั้งใจจะรวบรวมพลังของดาราจักรอนันต์ จนกว่าเขาจะมั่นใจว่าสามารถฆ่าหานเซิ่นได้ในการโจมตีครั้งเดียว ดาราจักรยังคงเพิ่มพลังขึ้นเรื่อยๆ หานเซิ่นดูเคร่งขรึม เขาถือมีดขนนกโลหิตในมือและมองแสงสว่างในมือของคู่ต่อสู้ แต่เขายังคงไม่ขยับเขยื้อน “เขายังคงไม่ขยับเขยื้อน นี่เขาต้องการจะรับดาราจักรอนันต์จริงๆอย่างนั้นหรอ?” หญิงสาวมังกรพูดอย่างประหลาดใจ มือของบุดด้าอนันต์นั้นสว่างไสวจนยากที่มองเห็นได้แล้วในตอนนี้ เขาเกือบที่จะสูญเสียการควบคุมเต็มที บุดด้าอนันต์ตะโกนและดันมือเข้าใส่หานเซิ่น แสงสว่างที่กลายเป็นคลื่นแห่งการทำลายล้างพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่น หานเซิ่นจ้องมองแสงสว่างที่ดูเหมือนกับกาแล็คซี่ถูกบีบอัดเอาไว้ มันอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาล ซึ่งแม้แต่มาร์ควิสระดับสุดยอดก็ไม่สามารถจะรับมันได้ หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตในมือเพื่อวาดวงกลมขึ้นมาอีกครั้ง มันคือท่าปากเปล่า เขี้ยวขาว “เจ้าไม่มีทางจะสะท้อนพลังดาราจักรอนันต์ของข้าได้!” บุดด้าอนันต์คำราม เขารู้สึกว่าตัวเองถูกเหยียดหยามด้วยการกระทำของหานเซิ่น ขณะบุดด้าอนันต์คำราม แสงสว่างก็พุ่งเข้าหาวงกลมที่หานเซิ่นวาด มันดูเหมือนกับระบบสุริยะพุ่งเข้าหามดตัวหนึ่ง มันดูพร้อมที่จะระเบิดออกมา และวงกลมที่หานเซิ่นวาดก็กำลังสั่นไหวเหมือนกับว่าจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ “ให้ข้าแนะนำเจ้าสักอย่าง อย่าได้ใช้บางสิ่งที่เจ้าเองก็ควบคุมไม่ได้”หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นพลังในร่างกายของเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมา และดาราจักรอนันต์ก็ถูกสะท้อนกลับออกไป “…เป็นไปไม่ได้…” บุดด้าอนันต์ตกตะลึง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังมหาศาล เขาไม่ได้พยายามที่จะป้องกันมัน เขากลับพยายามวิ่งหนีแทน ตูม!พลังนั้นชนเข้ากับก้อนหินที่ตั้งอยู่บนพื้น แรงสั้นสะเทือนที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนกับว่าดาวดวงนี้กำลังจะระเบิด มันทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร บุดด้าอนันต์ไม่สามารถหลบหลีกแรงระเบิดได้พ้น และร่างกายครึ่งหนึ่งของเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขานอนแน่นิ่งไปกับพื้น ขณะที่มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก “ชารอน! นี่เจ้ายังไม่คิดที่จะจู่โจมอีกอย่างนั้นหรอ?”บุดด้าอนันต์ต้องการจะหยุดเลือดที่ไหลออกมา แต่ควันสีม่วงเข้าปกคลุมและกำลังฉีกกระชากบาดแผลของเขา ชารอนมองไปที่บุดด้าอนันต์และพูด “ข้าจะจู่โจม แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความน่าสมเพชของเจ้า” “ตราบใดที่เจ้าลงมือ เหตุผลนั้นไม่สำคัญ!” บุดด้าอนันต์กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด “น่าเสียดายที่เจ้าได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และด้วยพลังเขี้ยวที่เสริมเข้าไป ข้ากลัวว่าคงจะช่วยชีวิตเจ้าไม่ได้” ชารอนพูด ขณะที่มองไปที่เขาอย่างใจเย็น “นั่นไม่เป็นไร แค่ฆ่าหานเซิ่นก็พอ!” บุดด้าอนันต์พูดขณะที่กระอักเลือดออกมา ร่างกายของเขาไม่สามารถทนต่อพลังเขี้ยวได้ และในไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เลือดมากมายไหลนองออกมาขณะที่เขาสิ้นใจไป “ซีโน่เจเนอิคคิงคองดาราระดับมาร์ควิสถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ” เสียงประกาศดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น แต่เขารู้ว่าไม่สามารถไปหยิบยีนซีโน่เจเนอิคของบุดด้าอนันต์ขึ้นมาได้ สิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนกับเสือขาวเคลื่อนที่เข้าไปกลืนกินศพของบุดด้าอนันต์อย่างรวดเร็ว ยีนซีโน่เจเนอิคก็ถูกกินเข้าไปได้ หลังจากนั้นสิ่งมีชีวิตนั้นก็มองมาที่หานเซิ่น ชารอนมองหานเซิ่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ในตอนแรกข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะเสมอกับไผ่เดียวดายได้ แต่ตอนนี้ข้าเชื่ออย่างนั้น” “เขาเสมอกับไผ่เดียวดาย?” หนึ่งในซีโน่เจเนอิคถามขึ้นมาด้วยความตกตะลึง ข่าวภายในปราสาทนภาไม่ใช่สิ่งที่จะถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก แต่เผ่าพันธุ์เดม่อนเป็นอริกับปราสาทนภา ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามสืบข้อมูลของปราสาทนภาให้ได้มากที่สุด ชารอนนั้นเป็นคนเดียวในที่นี่ที่รู้เกี่ยวกับเรื่องของหานเซิ่นและไผ่เดียวดาย ชารอนหัวเราะและพูด “ระหว่างการสอบ ไผ่เดียวดายวิวัฒนาการเป็นมาร์ควิส ดังนั้นเขาถูกจึงถูกตัดสิทธิ์จากการสอบระดับเอิร์ล มันจึงไม่มีผู้ชนะ” “ถ้าชายคนนี้ต่อสู้กับไผ่เดียวดายได้แบบนั้น ก็แสดงว่าเขาไม่ใช่บุคคลธรรมดาๆ” หญิงสาวมังกรมองไปที่หานเซิ่น ตอนนี้เธอดูสนใจในตัวของเขายิ่งกว่าเดิม ชารอนมองไปที่หานเซิ่นและพูดต่อ “น่าเสียดายที่เจ้าไม่ใช่มาร์ควิส ไม่อย่างนั้นข้าเองก็อยากลองต่อสู้กับเจ้าสักครั้ง ถึงแม้ข้าจะมอบเวลาให้เจ้าได้พักฟื้น ข้าก็ยังจะชนะเจ้าอยู่ดี ข้าไม่อยากจะฆ่าเจ้าซะตอนนี้ ดังนั้นเจ้าควรจะนำทางแต่โดยดี” หานเซิ่นยิ้ม “ข้าไม่ใช่คนจิตใจดีอะไรขนาดนั้น มันอาจง่ายที่จะฆ่าข้า แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ไม่มีทางทำให้ข้ายอมนำทางได้” ชารอนขมวดคิ้ว หญิงสาวมังกรหัวเราะและพูด “ถ้าอย่างนั้นเจ้ามาเดิมพันกับข้าเป็นยังไง ถ้าเจ้าชนะ พวกเราจะปล่อยเจ้าไป แต่ถ้าเจ้าแพ้ เจ้าต้องนำทางให้กับพวกเรา” “เจ้าเป็นใคร?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่หญิงสาวมังกร
คอมเม้นต์