Super God Gene ตอนที่ 1954
เนื่องจากหานเซิ่นไม่มีอะไรจะทำ เขาจึงใช้วิชาคอนซูมดู เขาไม่รู้ว่ามันจะยังได้ผลหรือเปล่าเพราะตอนนี้เขากลับมาสู่ร่างมนุษย์แล้ว และเขาก็ต้องประหลาดใจที่ยังสามารถใช้งานมันได้อยู่ ในตอนที่หานเซิ่นใช้วิชาคอนซูม บางอย่างในกระเพาะของเขาก็เกิดความเปลี่ยนแปลง ซึ่งมันทำให้กระเพาะของเขาแข็งแกร่งมากกว่าปกติ เมื่อเขาฝึกวิชาคอนซูมมากขึ้น กระเพาะของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาไม่นานหานเซิ่นก็สามารถย่อยเหล็กได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขากลืนเศษเหล็กเข้าไป พวกมันจะถูกเปลี่ยนไปเป็นพลังงาน ความสามารถในการย่อยของเขาเป็นอะไรที่น่ากลัว หานเซิ่นรู้สึกกังวลว่าวิชาคอนซูมจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเขา แต่หลังจากที่ทดสอบอยู่หลายครั้ง ความกังวลของเขาก็หายไป มันไม่ได้มีผลเสียข้างเคียงอะไร ดังนั้นเขาจึงฝึกมันต่อไป หานเซิ่นให้เซี่ยชิงและคนอื่นๆฝึกวิชาคอนซูมด้วยเช่นกัน แต่นอกจากตัวกินโลหะแล้ว มันก็ไม่มีใครสามารถฝึกมันได้สำเร็จ หานเซิ่นไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงสามารถฝึกมันได้ บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเรื่องราวของยีน หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะเขาได้กลายเป็นมดอยู่ช่วงหนึ่ง แต่หานเซิ่นประหลาดใจที่ตัวกินโลหะสามารถฝึกมันได้ ซึ่งนั่นจะทำให้มันพัฒนาได้รวดเร็วยิ่งกว่าก่อนหน้านี้มาก หานเซิ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าควรจะนำตัวกินโลหะไปที่จักรวาลจีโนดีหรือไม่ มันแข็งแกร่งและสามารถฝึกวิชาคอนซูมได้ แต่หานเซิ่นกลัวว่าตัวกินโลหะจะนำปัญหามาให้กับเขาเมื่อไปที่นั่น ดังนั้นสำหรับตอนนี้เขาจึงยังไม่คิดจะพามันไป ‘เมื่อไหร่กันที่เราจะแข็งแกร่งพอที่จะต่อกรกับระดับเทพเจ้าได้? แบบนั้นเราจะได้นำคนและมอนสเตอร์จากก็อตแซงชัวรี่ออกไปได้โดยไม่ต้องกังวล’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง “พ่อ!” เป่าเอ๋อกลับมาจากโรงเรียนและเข้ามากอดหานเซิ่น “หนูโตขึ้นมากเลย เป่าเอ๋อ! หนูทั้งหนักและสูงขึ้น” หานเซิ่นพูด ขณะที่อุ้มเธอขึ้นมา เป่าเอ๋อหลี่ตาและพูด “หนูไปจักรวาลจีโนกับพ่อได้แล้วใช่ไหม?” “ยังไม่ได้ หนูจำเป็นต้องโตมากกว่านี้อีกหน่อย แต่อีกไม่นานพ่อจะพาหนูไปด้วย” หานเซิ่นยิ้ม เป่าเอ๋อทำหน้ามุ่ย “พ่อสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมหนูบ่อยๆ” หานเซิ่นลูบแก้มของเธอและยิ้ม 9 เดือนต่อมา มันก็ถึงกำหนดคลอดของจีเหยียนหรัน หานเซิ่น หานอวี้เฟย หลัวหลาน หานเหยียนและพ่อแม่ของจีเหยียนหรันมารอคอยอยู่นอกห้องคลอด จีเหยียนหรันมาคลอดในโรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูล ทำให้ไม่มีคนนอกคนไหนสามารถเข้ามาได้ พวกเขาไม่ได้ยินเสียงร้องของเด็ก แต่ทันใดนั้นหมอก็กรีดร้องขึ้นมา“อ้า! ผะ ผะ ผี!” ทุกคนรู้สึกแปลกใจ พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จีเหยียนหรันไม่ได้ส่งเสียงร้องอะไรออกมา แต่หมอกลับกรีดร้อง หานเซิ่นวิ่งเข้าไปข้างใน และสิ่งที่เห็นก็ทำให้เขาตกตะลึง เด็กทารกกึ่งโปร่งใสกำลังรออยู่บนอากาศ “โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด!” ดวงตาของหานเซิ่นเบิกกว้าง ขณะมองไปที่เด็กคนนั้นอย่างประหลาดใจ ลูกสาวของหานเซิ่นกำลังอยู่ในโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด เธอนั่นน่ากลัวยิ่งกว่าเสี่ยวฮวาที่มีโหมดราชันสปิริตขั้นสุดยอดซะอีกเพราะนี่มันเป็นฉบับปรับปรุงใหม่ โชคดีที่หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็กลับมาดูเหมือนกับเด็กทารกปกติทั่วไป นั่นทำให้หานเซิ่นโล่งใจขึ้นมาก ถ้าเธออยู่ในโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดตลอดเวลาล่ะก็ มันจะเป็นอะไรที่แย่มากๆ เพราะสสารต่างๆจะไม่สามารถสัมผัสร่างของเธอได้ ลูกสาวตระกูลหานกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร หานเซิ่นได้รับบทเรียนจากครั้งที่แล้ว เขารู้ดีว่าไม่ควรให้จียัวเจินเป็นคนคิดชื่อขึ้นมา เมื่อรู้อย่างนั้นจียัวเจินก็รู้สึกแย่ แต่หานเซิ่นเองก็ไม่เก่งเรื่องตั้งชื่อเช่นเดียวกัน หลังจากที่คิดอยู่นานเขาก็ตัดสินใจตั้งชื่อลูกสาวของเขาว่าหานหลิงเอ๋อ ทุกคนช่วยกันดูแลหลิงเอ๋ออย่างระมัดระวัง เพราะครั้งหนึ่งเสี่ยวฮวาเคยระเบิดสิ่งก่อสร้างอย่างง่ายดายเมื่อโกรธขึ้นมา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากจะเสี่ยงทำให้หลิงเอ๋อไม่พอใจ หานหลิงเอ๋อมีโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่น่ากลัว ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอโกรธขึ้นมา แต่เป็นโชคดีสำหรับตระกูลที่ลูกทั้ง 2 ต่างก็เป็นเด็กที่ปฏิบัติตัวเรียบร้อย พวกเขาเป็นเด็กเงียบๆและเป็นที่รักของทุกคน การเกิดขึ้นมาของหลิงเอ๋อช่วยขจัดความเศร้าโศกที่ตามหลอกหลอนพวกเขาตั้งแต่ที่เสี่ยวฮวาถูกพาตัวไป จีเหยียนหรันดูมีความสุขขึ้นมาก แต่เธอก็ยังคงหวังให้เสี่ยวฮวากลับมาอยู่เสมอๆ หานเซิ่นอยู่บ้านกับจีเหยียนหรันต่ออีกสักพัก เขาไม่ได้เร่งรีบที่จะกลับไปที่ดาวอุปราคา เพราะยังไงซะเขาก็สามารถฝึกฝนได้ทุกที ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะฝึกจนกว่าจะวิวัฒนาการเป็นเอิร์ลได้ แต่การพัฒนาไปเป็นเอิร์ลนั้นยากกว่าการพัฒนาเป็นไวเคานต์มาก ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา หานเซิ่นแทบจะไม่คืบหน้าไปไหนเลย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า 6 เดือนที่ผ่านมาเป็นอะไรที่เสียเปล่า เขาได้ใช้เวลาในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปราสาททองแดงในลูกแก้วหมอกแดง เขาได้รู้ว่าบัลลังก์ในปราสาทคือเครื่องเทเลพอร์ต และมันไม่ใช่แค่สามารถเทเลพอร์ตไปที่ดาวมีก้าเท่านั้น ทุกๆซีโน่เจเนอิคสเปชของมีก้านั้นจะมีเครื่องเทเลพอร์ตอยู่ ซึ่งเขาสามารถไปที่นั่นได้ด้วยบัลลังก์นั้น หานเซิ่นเคยลองใช้มันหลายครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่ได้ถูกพวกมีก้าเข้ามาจู่โจมอะไร และเขาก็ได้ว่าดวงดาวที่เขาไปนั้นเป็นดวงดาวธุรกิจของมีก้า ซึ่งจะเปิดให้เผ่าพันธุ์อื่นๆมาเยี่ยมเยือนได้ แต่ที่หานเซิ่นถูกโจมตีในครั้งแรกนั้นเป็นเพราะเขาเดินทางไปบนดวงดาวส่วนตัวของมีก้า และถึงแม้จะเป็นมีก้าด้วยกันก็จะถูกโจมตี เมื่อหานเซิ่นไม่มีอะไรจะทำ เขาจะสวมชุดเกราะวิญญาณอสูรและไปเดินเล่นบนหนึ่งในดาวของมีก้า เขาต้องการจะดูวัฒนธรรมของพวกมัน ขณะที่หานเซิ่นเดินอยู่บนถนนของมีก้า มีคนกลุ่มหนึ่งดึงดูดความสนใจของเขา หนึ่งในคนกลุ่มนั้นก็คือราชาบุดด้าเคลียร์ซี มันยังมีบุดด้าคนอื่นอีกหลายคน ซึ่งสปีชเลสส์ก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย “พวกเขามาทำอะไรที่นี่?” หานเซิ่นสงสัย มีก้าถนัดเรื่องการสร้างหุ่นต่อสู้จากยีนซีโน่เจเนอิค แต่นอกจากพวกมีก้าแล้ว มันไม่ค่อยมีสิ่งมีชีวิตไหนสามารถใช้หุ่นต่อสู้ได้ และมันก็ดูไม่เหมือนว่าราชาบุดด้าเคลียร์ซีและคนอื่นๆจะเดินทางมาเพื่อซื้อหุ่นต่อสู้ ราชาบุดด้าเคลียร์ซีและคนอื่นๆเดินผ่านหานเซิ่นไป ไม่มีใครจดจำเขาได้ เพราะเขาสวมใส่ชุดเกราะวิญญาณอสูรอยู่ ไม่มีใครเห็นรูปปั้นบุดด้า 4 หน้า 8 แขนด้านหลังหานเซิ่น มันมีเพียงแค่ผู้ใช้เท่านั้นที่จะมองเห็นมัน ส่วนคนอื่นๆจะไม่สังเกตเห็นอะไร
คอมเม้นต์