The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms ตอนที่ 220

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms ตอนที่ 220 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

บทที่220
ผู้แปล : N.
“ เข้ารวมกับระบบโฮมสมาร์ท?” ฮันเจี๋ยตอบตกลงทันทีว่า :“ เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ตราบใดที่วงจรภายในของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เราจะทำเสร็จสมบูรณ์ เราก็สามารถนำตัวคอนโทรลเลอร์อัจฉริยะเข้าไปติดตั้งได้และเรายังสามารถจัดการตั้งค่าต่างๆของตัวรถผ่านอินเทอร์เน็ตหรือไม่ก็โทรศัพท์ของเราได้อีกด้วย”
“ ที่นายพูดมาก็ถูก แต่มันก็แค่ส่วนเดียวเท่านั้น ” ถ้าระบบที่ลูชินออกแบบมาสามารถทำได้แค่นั้น เขาคงไม่เสียเวลาพูดถึงมัน
“อีกเรื่องหนึ่ง ระบบนำทางของเราเองก็ต้องมีความแม่นยำถึงขีดสุด สิ่งนี้จะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด” ลูชินพูดขึ้นมา
หัวหน้าแผนกการตลาดที่นั่งถัดไปได้พูดขึ้นว่า “ขณะนี้ในตลาดรถระดับไฮเอ็นบางเจ้าเองก็ได้พัฒนาระบบนำทางของพวกเขาขึ้นมาเองเช่นกัน แต่ทางเราจะมีความได้เปรียบกว่าบริษัทพวกนั้นที่ว่าระบบนำทางของเราได้เชื่อมต่อกับดาวเทียมของประเทศโดยตรง ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกว่าว่าระบบนำทางของเราจะผิดพลาด ..”
“ดีมาก! แล้วเราต้องทำการติดตั้งระบบเรทคลาวด์เข้าไปด้วย จากนั้นเราจะทำตัวป้องกันการโจรกรรม โดยที่ผู้ใช้สามารถทำการตรวจสอบความปลอดภัยผ่านระบบเรทคลาวด์ได้อย่างเรียลไทม์ “ลูชินพูดต่อว่า ” เดียวนี้เกิดคดีโจรกรรมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจำนวนมาก ดังนั้นเราจึงต้องออกแบบตัวล็อคอัจฉริยะที่ตอบโจทย์นี้ให้ได้ “
……
ลูชินยังได้เสนอแนวคิดของเขาออกมาอีกสิบกว่าไอเดีย ทุกคนที่ได้ฟังแบบนั้นต่างก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา เพราะไอเดียที่ประธานพูดออกมานั้นมันแปลกใหม่อย่างมาก แต่ถ้าพวกเขาสามารถทำตามไอเดียนั้นได้จริง! รถของพวกจะเป็นยักใหญ่อย่างแน่นอน!
และถ้าไอเดียเหล่านี้สามารถทำได้จริง พวกเขารู้ว่ามันยังไม่หยุดอยู่แค่ในรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้นแต่มันยังสามารถนำไปใช้ได้กับรถยนต์ได้อีกด้วย นี้ถือว่าพวกเขายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!
แต่ตอนนี้พวกเขาต้องลงมือทำมันให้สำเร็จเสียก่อน เพราะหากพวกเขาไม่สามารถทำได้มันก็ไม่มีความหมาย!
สำหรับพวกเขามันไม่ใช้เรื่องยากอะไรที่จะสร้างระบบอัจฉริยะเหล่านั้น เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเองก็มีประสบการณ์ในการออกแบบระบบอัจฉริยะให้กับบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
แต่ที่เป็นปัญหาใหญ่ตอนนี้สำหรับพวกเขาคือเรื่องวัสดุและพวกชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือจากบริษัทเฉพาะด้านเท่านั้น
วันต่อมาบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ประกาศข่าวเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทใหม่นี้ในเครือบริษัททันที ในส่วนของบุคคลที่รับผิดชอบบริษัทใหม่นั้นยังไม่ได้กำหนด เขาจึงได้แต่งตั้งให้เจียงซุนมีเป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบชั่วคราว มีหน้าที่รับผิดชอบในบางเรื่อง และเขายังได้โอนย้ายนักวิจัยบางส่วนในโครงการระบบเรทคลาวด์มาช่วยอีกแรง
ชื่อของบริษัทเองก็ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน โดยทั่วไปพวกเขาจะใช้ชื่อบริษัทเดิมเป็นชื่อเรียก แต่พวกเขารู้สึกว่ามันอาจจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกสับสนขึ้นได้ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าการคิดชื่อใหม่ให้กับบริษัทจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ในห้องประชุม ลูชินและทุกคนต่างกำลังคุยเรื่องชื่อบริษัท โดยที่ชื่อนี้จะกลายเป็นชื่อของแบรนด์รถยนต์ของพวกเขาเช่นกัน!
“ผมคิดว่าเราควรใช้ชื่อว่า ชิจิน!” คนที่พูดชื่อนั้นได้อธิบายความหมายของมันว่า “โดยที่จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ของเรานั้นคือความอัจฉริยะ,เทคโนโลยีขั้นสูง และชื่อนี้เองก็จะสื่อถึงจุดเด่นของเราได้ตรงจุดอีกด้วย”
“แต่ผมคิดว่าใช้ชื่อ แยงซี จะเป็นการเข้าท่ากว่า ชื่อนี้ยังมีความหมายคือแม่น้ำเหลืองและยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศเราอีกด้วย “
ซู่จิงที่ได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นว่า “ชื่อนี้ฉันคิดว่ามันก็มีหลายแบรนด์ที่ใช้อยู่นะ?”
วังถังพูดขึ้นว่า “ผมก็ชอบชื่อแยงซีนะ แต่ผมคิดว่าเราควรใช้ชื่อคุมเพง ”
“คุมเพงถือว่าเป็นสัตว์จีนโบราณที่บินอยู่บนท้องฟ้า ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเร็ว นี้สิถึงจะแสดงจุดเด่นของแบรนด์ของเราออกมาได้ถึงที่สุด ”
” ผมคิดว่าชื่อนี้ใช้ได้เลย และยังใช้คำที่น้อยมันน่าจะช่วยให้ชื่อแบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักกันง่ายขึ้น “หลิวตงพูดต่อว่า “ชื่อนี้ยังออกเสียงคล้ายชื่อของผลไม้มงคลอีกด้วย และเมื่อเราแปลเป็นภาษาอังกฤษเองก็ยังค่อนข้างง่าย. ”
หลังจากนั้นก็มีชื่ออื่นๆอีกจำนวนมากถูกเสนอขึ้นมา และชื่อบางส่วนก็ได้ถูกบันทึกไว้
ทางด้านลูชินนั้นเขาขี้เกียจเกินไปที่จะมาฟังเรื่องแบบนี้ เขาจึงได้พูดขึ้นมาว่า: “โอเคหยุด! ฉันคิดว่าที่วังถังเสนอมานั้นใช้ได้เลย แต่มันก็ยังไม่ถูกใจฉันเท่าไหร่”
“ดังนั้นฉันจะขอใช้ชื่อบริษัทใหม่ว่า แพนยูน ออโต้โมทีฟ ”
“แพนยู นี่เป็นชื่อที่ดี ” คนอื่นๆต่างก็เห็นด้วย
……
ไม่กี่วันต่อมาบริษัทลู่เทคโนโลยีได้แถลงข่าวการสร้างบริษัทใหม่ โดยที่ใช้ชื่อว่า แพนยูน ออโต้โมทีฟ  และยังได้มีการบอกรายละเอียดอีกว่าบริษัทของพวกเขานั้นจะเข้าสู่วงการยานยนต์อย่างเต็มตัว
กลุ่มบริษัทลู่เทคโนโลยีปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในประเทศเลยก็ว่าได้ เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็จะดึงดูดความสนใจของสาธารณชนในทันที
บรรณาธิการข่าวบางเจ้ายังได้วางข่าวนี้ในหัวข้อข่าวของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่า: “บริษัทลู่เทคโนโลยีต้องการก้าวเข้าสู้วงการรถยนต์จริงหรือไม่!”
ในอินเตอร์เน็ตเองก็มีกระแสในเรื่องนี้อย่างมากมาย
“ครั้งนี้บริษัทลู่เทคโนโลยีเซอไพรส์หนักจริงๆ ฉันขาดหวังว่าพวกเขาจะทำรถไรคนขับออกมา”
“ มันอาจเป็นรถยนต์พลังงานทดแทนตัวใหม่ก็ได้ ตอนนี้รัฐบาลเองก็ได้ให้การสนับสนุนรถยนต์พลังทดแทน!”
“ หวังว่าพวกเขาจะนำระบบเรทคลาวด์ไปติดตั้งด้วยนะ”
บางคนได้ถามคำถามว่า:“ บริษัทลู่เทคโนโลยีดูเหมือนจะมีประสบการณ์เฉพาะในการผลิตพวกโทรศัพท์มือถือและพวกอุตสาหกรรมเบาต่างๆ การที่เขาจะเข้ามาสู่อุตสาหกรรมหนักนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงอย่างมาก”
“ฉันคิดว่าบริษัทลู่เทคโนโลยีอาจจะทำออกมาคล้ายกับยี่ห้อรถยนต์เจ้าอื่น ”
ได้มีการโต้ตอบกันจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระหว่างนั้นบริษัทแพนยูได้ออกมาแถลงการณ์ว่าบริษัทของพวกเขานั้นจะลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในนุคมอุสาหกรรมภาคใต้ก่อน เพื่อที่จะสร้างรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอัจฉริยะขึ้นมา
เมื่อข่าวนี้ออกมามันทำให้โลกภายนอกตกใจอย่างมาก ทุกคนคิดว่าบริษัทลู่เทคโนโลยีจะเข้าสู่วงการนถยนต์ระดับระดับไฮเอนด์โดยตรง ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
สำนักข่าวเพนกวิน: “บริษัทลู่เทคโนโลยีจะลงทุนในรถมอเตอร์ไซค์จริงหรือไม่!”
สำนักข่าวฟีนิกซ์: “เรามารอดูกันว่าบทสรุปของบริษัทลู่เทคโนโลยีจะผลิตอะไรกันแน่! “
สำนักข่าววันนี้: “ข่าวล่าสุดบริษัทลู่เทคโนโลยีต้องการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า!”

ชาวเน็ตที่ได้ยินข่าวนี้ต่างก็แสดงความผิดหวังและเสียใจออกมา
“มันทุเรศเกินไป ฉันคิดว่าพวกเขาจะสร้างรถยนต์ระดับไฮเอนด์ขึ้นมาเสียอีก ฉันไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะทำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า”
“นี้มันไฮเทคตรงไหน?”
“@ บริษัท Red Letter พวกคุณล้อเล่นใช้ไหม?”
“ไม่เอา ไม่เอา พวกเราไม่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้า”
คนส่วนใหญ่มีการต่อต้านเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด และนั้นทำให้ความนิยมของข่าวนี้ลดลงอย่างรวดเร็ว
ที่สำนักงาน ซู่จิงยังได้พูดติดตลกกับลูชินว่า: “ตอนนี้มีข้อความจำนวนมากเข้ามาสอบถามว่าการที่เราผลิตรถยนต์ไฟฟ้านี้จะเป็นการสูญเปล่า!”
“สูญเปล่า?” คิ้วของลูชินขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า “รอให้รถยนต์ของเราออกมาสู้ท้องตลาดก่อนเถอะ! เดียวพวกนั้นก็ได้รู้กันว่าบริษัทของฉันจะสูญเสียอะไรไหม?! “
ยิ่งไปกว่านั้นความคิดของสาธารณชนเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเพียงสินค้าคุณภาพต่ำ แค่วิ่งไปเพียงครึ่งวันแบตเตอรี่ก็หมดแล้ว แต่พวกเขาไม่รู้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นจะแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดอย่างสิ้นเชิง
เมื่อพวกเขาได้ทดลองใช้จริงก็จะรู้ถึงความแตกต่างอย่างแน่นอน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด