The Novel’s Extra ตอนที่ 571
บทที่ 571 จุดคุ้มทุน (4) [อรันเฮลล์] การประชุมสุดยอดขุนนางของอรันเฮลล์เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ ในประเพณีอันยาวนานของราชอาณาจักรอรันเฮลล์ขุนนางที่มีชื่อเสียงทุกคนมารวมตัวกันที่พระราชวังเพื่อหารือ “ตอนนี้ ฉันเกลียดสาธารณรัฐแห่งลีโอเรส” ในวันสำคัญนี้ เจ้าชายคริสเบล อยู่กับ จินซาฮยอค “….” จินซาฮยอค ดูเหมือนจะไม่สนใจเบลล์พูดต่อในขณะที่เขาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง “เพราะสาธารณรัฐฆ่าคนที่ฉันรัก” จินซาฮยอค ตอบว่า “นาย…อย่าบอกนะว่านายย้อนเวลากลับไปเพื่อเจอคนๆนั้นอีกครั้งงั้นเหรอ” “ใช่…..ฉันอยู่กับเธออีก 6 ปีเธอเสียชีวิตเมื่อเธออายุ 20 ในช่วงเวลาเดิม แต่รอบนี้เธออยู่จนถึงอายุ 26 มันเกือบจะเหมือนความตายที่ถูกกำหนดโดยโชคชะตา คนที่โชคชะตาตายเร็วจะตายเร็วและมีอายุไม่เกิน 30 ปีและบางคนที่โชคชะตาตายช้าก็จะมีอายุ 70 ปีอย่างต่ำ น่าตลกที่สุด? เบลล์ยิ้ม แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็วและถูกแทนที่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่างไรก็ตามในอีก 1 เดือนจะมีการประชุมสันติภาพข้ามชาติในสาธารณรัฐลีออส ตัวแทนจากทุกประเทศในโลกจะมารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรปีศาจ นั่นคือที่ๆฉันเรียกบาอัลลงมา” เบลล์หลับตาแล้วรำลึกถึงอดีต การประชุมสันติภาพได้แปรสภาพเป็นนรกโดยการสืบเชื้อสายจากบาอัล หลังจากการปรากฏตัวที่ใจกลางทวีป บาอัล ทำลายโลกในเวลาเพียง 4 วัน “…ดังนั้นฉันต้องการให้เธอเปลี่ยนอนาคตนั่นคือปลดปล่อยฉันจากชะตากรรมนั้นด้วยความตาย” จินซาฮยอค ไม่ตอบและก็จ้องไปที่ประตูห้อง ตอนนี้เธอรู้สึกถึงบ้างอย่าง จินซาฮยอค หันมาที่เบลล์แล้วถามว่า “นายเรียกหาใครบางคนเหรอ” “…หืม? โอ้เขาอยู่ที่นี่แล้วเหรอ?” เบลล์ยิ้มและลุกร่างของเขาขึ้นมา เขาเดินไปที่ประตูแล้วเปิดมัน เอี๊ยดดดดด— มีคนยืนอยู่ตรงหน้าประตูเป็นชินจงฮักที่สวมใส่ชุดอย่างสวยงาม เมื่อจินซาฮยอค เห็นเขาเธอก็หน้าซีดทันที “ชินจงฮัก?” ชินจองฮัคยังสังเกตเห็นจินซาฮยอคและใบหน้าเปลี่ยนไปทันที “อะไรกัน…ยัยบ้านี้ทำไมมาอยู่ที่นี่เหรอ เจ้าชายผู้หญิงคนนี้อาจดูสวย แต่เธอเป็นโรคจิต ฉันจะอุ้มเธอออกไป ได้โปรดหนีไปเดี๋ยวนี้” ชินจงฮัก พูดในขณะที่เขามองไปมาระหว่างจินซาฮิคกับเบลล์ ในทางตรงกันข้ามจินซาฮยอค จ้องมองที่เบลล์ไม่ใช่ชินจงฮัก เธอต้องการคำอธิบาย เบลล์ยักไหล่ “ตัวละครที่กล่าวถึงหลายๆครั้งจะต้องมาปรากฏที่นี่” “เรื่องบ้าอะไรละนั้น” “โกหกน่า? เธอกำลังพูดกับเจ้าชายอยู่นะ!ทำไมเธอไม่มีมารยาทแบบนี้” ชินจงฮัก พึมพำขณะที่ชี้นิ้วที่ จินซาฮยอค “นายพูดว่าอะไร นายไม่รู้หรอกว่านี่คือใคร?” จินซาฮยอค ชี้ไปที่เบลล์ เมื่อได้ยินอย่างนี้ชินจงฮักก็สังเกตกระดิ่งอย่างใกล้ชิด เขาควรจะได้เห็นใบหน้าของเบลล์ในระหว่างภารกิจลอบสังหารออร์เดน…แต่เขาไม่รู้จักรูปลักษณ์ของเบลล์ที่เปลี่ยนไป “หุบปาก-“ “เอาล่ะตอนนี้หลานชายของ ชินมยองชุล ทำไมเราไม่มาเริ่มพูดความจริงกันละ” “…อะไรนะ?” ในตอนนั้นชินจงฮักหยุดนิ่ง ชื่อ ชินมยองชุล ทำให้เขาใจเย็นลงในทันที “…รอ….เดี๋ยว” ในที่สุดชินจงฮักก็ยอมรับเบลล์ซึ่งแสดงท่าทางอย่างเป็นมิตร “นั่งลง. นายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ฉันกำลังจะเล่า” “….” ชินจงฮักขมวดคิ้ว เขาจ้องมองไปที่เบลล์และไม่ได้นั่ลงง เขาทำราวกับนั้นว่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำ เมื่อเห็นอย่างนี้ เบลล์ ก็เพิ่มไปอีกหนึ่งประโยค “ตั้งใจฟัง. นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับฉันและปู่ของนาย…เรื่องราวเกี่ยวกับ ผู้หวนคืน” เมื่อถึงตอนนั้นเบลล์ก็เอาลูกบอลคริสตัลออกมาแล้วขว้างมัน ลูกบอลกลิ้งไปที่เท้าของชินจองฮัค ชินจงฮักมองลงมาและจ้องที่ลูกบอลคริสตัล ข้างในเป็นใบหน้าของชินมยองชุล ในวัยหนุ่ม*************************************************************************[ภูเขา มิริเน่] “…นายทำอะไรลงไป?” ฮารินกระซิบใส่ผมขณะที่เธอมอง ชิมูริน ชิมูรินกำลังพาพวกเราไปที่ไหนซักแห่ง ฮารินดูเหมือนจะสงสัยในสิ่งที่ผมทำ “คิดว่าพวกเรามาทำความเข้าใจร่วมกันแล้วน่ะนะ” ผมตอบกลับพร้อมยักไหล่ “ทำความเข้าใจร่วมกัน?” “มันอธิบายยากนิดหน่อย” เมื่อผมพูดถึงการเดินทางข้ามมิติ 30 นาทีที่ผ่านมาชิมูรินไล่บอสและฮารินออกไปโดยต้องการคุยกับผมผคนเดียว ก่อนอื่นเธอถามว่าผมรู้เรื่องการวิจัยของเธอได้ยังไง ผมตอบตามความจริงว่าผมมาที่โลกนี้จากอีกมิติหนึ่ง ชิมูริน ขอหลักฐาน ไม่มีมนุษย์คนไหนที่สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้ แต่ผมทำได้เนื่องจากผมมีพลังเวทมนต์ของรอยสักในฐานะจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ ชิมูริน สามารถรู้สึกถึงพลังลึกลับที่อยู่ในพลังเวทมนต์ของสติกมา จากนั้นผมก็ใช้พลังเวทมนต์ของรอยสักเพื่อแสดงภาพของโลกที่ผมมา หลังจากนั้นก็เป็นการเจรจาการแบ่งเค้ก “บอกฉัน……ทำความเข้าใจร่วมกันทำอะไร” “เป็นบ้าไปงั้นเหรอ?” ในขณะนั้นชิมูรินหันมาสบถ ฮาริน ที่กำลังจะถามอะไรผม อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชิมูรินพูดต่อไปทำให้ความกลัวในตัวเธอหายไป “พวกเราต้องเดินทางต่อไปไหม?” “อะ…ขอโทษนะ” ฮารินเงยหน้าขึ้น ชิมูริน ปลดปล่อยพลังเวทมนต์ของเธอราวกับว่าเธอถูกรบกวนอย่างมากจากการเดินทาง “ฉันกำลังพูดถึงเทเลพอร์ต ทำไมพวกเราไม่สามารถใช้อะไรแบบนั้น?” “…มะ-ไม่ พวกเราทำได้ แน่นอนว่าพวกเราทำได้ ทำไมพวกเราถึงจะทำไม่ได้ล่ะ?” ฮารินพยักหน้าอย่างรุนแรงและให้กำลังใจชิมูริน เทเลพอร์ตเป็นวิธีที่รวดเร็วในการออกจากภูเขานี้ ถ้าเป็นไปได้ฮารินจะไม่ลังเลที่จะคุกเข่าเพื่อใช้มัน “ฉันทำได้? ดีงั้นฉันจะใช้มัน ตกลงไหม?” ชิมูริน หันมาหาผมแล้วถาม ผมพยักหน้าและวงเวทมนตร์ของ ชิมูริน ก็ล้อมพวกเราไว้ทันที “—” ชิมูริน พูดพึมพำแปลกๆเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถเข้าใจได้ วงกลมเวทมนต์เปิดใช้งานและเวทย์มนตร์เทเลพอร์ตของชิมูรินก็ห่อหุ้มร่างกาย ของพวกเราเอาไว้ วิ้งงงงงงงงง โลกดูเหมือนจะบิดเบี้ยวและความรู้สึกลอยตัวแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของผมผมหลับตาและในไม่ช้าเท้าของผมก็แตะพื้น ผมไม่รู้สึกคลื่นไส้และไม่เจ็บปวด มันเป็นคาถาเทเลพอร์ทที่สมบูรณ์แบบ “ทุกคนลืมตาได้แล้ว” “….” ทุกคนลืมตา “…ว้าว.” เสียงอุทานออกมาจากปากของผม หมอกบนภูเขาหายไปและอาคารของ ลีโอเรส กระจายออกไปต่อหน้าต่อตาพวกเรา เมืองที่มีความคล้ายคลึงกับอังกฤษยุคใหม่ ในเวลาเพียง 3 วินาทีพวกเราข้ามมาได้ถึงหลายร้อยกิโลเมตร “มาดูกัน…HJ สินะ?” ชิมูริน พูดแล้วชี้มาที่ฉัน “ฮะ? ฉันเหรอ?” “ใช่นาย.ตามฉันมา. พวกเราจะไปพูดคุยเรื่องการประชุมและทดลองนายไม่ลืมคำสัญญาของพวกเรางั้นเหรอ?” “…อ๊ะ ใช่แน่นอน อย่างไรก็ตามฉันชือ ฮาจิน ไม่ใช่ HJ” “ชื่อของนายไม่สำคัญ ฉันต้องการพลังเวทมนต์ของนาย” ชิมูริน เริ่มเดินไปข้างหน้า “อืมจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ คุณหมายถึงอะไรจากการประชุมและทดลอง? คุณจะทำอะไรงั้นเหรอ” ฮารินถามขณะที่เธอไล่ตามชิมูรินไป ชิมูรินพยักหน้า “ง่ายมากที่จะตัวตนปลอมในสาธารณรัฐ ประเทศนี้ไม่มีระบบวรรณะที่เลวร้าย…..” ชิมูริน หน้าบึ้งขณะที่เธอพูดบรรทัดสุดท้ายออกมา
คอมเม้นต์