The Novel’s Extra ตอนที่ 464
บทที่ 464 การรวบรวม (4)เรเชลมองดู อีเวนเดล ด้วยความรักและถามว่า “หนูส่งข้อความไปหาแฮยอนเหรอ” “เปล่าคะ” อีเวนเดล ส่ายหัวของเธอ “งั้นใครละ….” “หนูกำลังส่งข้อความไปหา ฮาจิน” “… หืม?” เรเชล ตัวสั่นแต่ก็ผงกศีรษะอย่างใจเย็น “อ้า…ฉันเข้าใจแล้ว มีความสุขจังเลยนะ~” “แน่นอนค่า~” “โอเค.” คำตอบสั้นๆ เรเชลหันกลับมาแกล้งทำเป็นว่าเธอไม่สนใจและกลับไปทำงาน วันนี้ภาระงานเธอเยอะมากเนื่องจากมีปัญหามากมายที่เธอต้องจัดการในฐานะผู้นำของกิลด์ราชสำนักอังกฤษ การยืนยันการประชุมด้วย ‘Essential Dynamics’ การสรรหาผู้ท้าทายหอคอยรอบที่ 21 การปรับใช้ฮีโร่เพื่อการป้องกันประเทศ ฯลฯ … แต่สายตาของเรเชลก็หมุนไปด้านข้าง “ฮิฮิ. คลิ้ก, คลิ้ก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า คลิ้ก, คลิ้ก ” เสียงการพิมพ์และหัวเราะทำให้ เรเชลอดสงสัยไม่ได้ ว่าพวกเขาพูดอะไรกัน เรเชลมีคำถามมากมายที่จะถามคิมฮาจินเช่นกัน ตัวอย่างเช่น‘เกิดอะไรขึ้นกับนายและชินซาฮยอค?’ หรือ ‘นายมีอะไรปิดบังไว้’ เธอหันมามอง อีเวนเดล ไปยังโทรศัพท์ของ อีเวนเดล แบบตามธรรมชาติ เธอปรับท่าทางให้ตรงและพยายามแอบมองไปที่หน้าจอและดวงตาของเธอก็สบกับ อีเวนเดล “… .” “… .” หลังจากเงียบไป 3 วินาที อีเวนเดล ก็เอามือถือของเธอไว้ในแขน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ต้องการให้เรเชลมองเห็น “ไม่ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉัน อีเวนเดล หนูคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่หนูจะเริ่มใช้ Smart Watch?” Smart Phone ไม่มีอะไรมากไปกว่าของโบราณ ณ จุดนี้มันมักถูกมองว่าเป็น Smart Watch สำหรับเด็กๆ พวกมันเป็นอุปกรณ์ที่เด็กๆใช้ก่อนที่พวกเขาจะย้ายไปใช้ SmartWatch ที่ซับซ้อนกว่า “ท่านอาจารย์ อาแฮอิน สอนวิธีใช้งานให้หนูอยู่นะ” เร็วเท่าความคิด อีเวนเดล ตอบเบาๆทันใดนั้นก็มีการแจ้งเตือนอีกครั้งดังขึ้น ใบหน้าของ อีเวนเดล สว่างขึ้นมาทันที เธออาจได้รับข้อความเพิ่มเติมจาก คิมฮาจิน เรเชลกัดเล็บด้วยปากแบบไม่รู้ตัว ‘มันไม่น่าแปลกใจที่ อีเวนเดล ไม่อยากให้ฉันเห็นโทรศัพท์ของเธอมีวิธีใดอะไรบ้างที่เราสามารถเข้าถึงข้อความพวกนั้นได้นะ? ‘ เรเชลคิดกับตัวเอง “…การแฮ็ก.” เธอไม่เคยลองแฮ็กมาก่อน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ยากมากนัก‘แฮ็ค แฮ็ค…’ เรเชลพูดประโยคซ้ำกับตัวเองขณะที่เธอค้นหามันในคอมพิวเตอร์ของเธออย่างเมามัน จากนั้นเธอก็พึ่งรู้สึกตัวและมองไปที่ช่องข้อความของเธอขึ้นมา 「 คิมฮาจิน 」 เธอจ้องที่ชื่อบนหน้าจอชั่วครู่หนึ่งก่อนรวบรวมความกล้าพอที่จะส่งข้อความถึงเขา เนื่องจากเขากำลังส่งข้อความกับ อีเวนเดล ในขณะนี้ เรเชล มั่นใจว่าเขาจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว [ฮาจิน?] “ว่าไง?” และคำตอบก็มาอย่างรวดเร็วตามที่คาดไว้ เรเชลหายใจเข้าลึกๆและแตะแป้นอย่างระมัดระวัง [เกิดอะไรขึ้นกับนายและชินซาฮยอค? อ่า ไม่มีอะไรหรอกนะจริงๆ ˃ᴗ˂; แค่เธอไม่มาทำงานเลยช่วงนี้ب_ب] 「 อา ㅋㅋไม่มีอะไรหรอก พวกเราเพิ่งคุยเรื่องหนังและก็นั่นแหละ ตอนนี้พวกเราไม่ได้คุยอะไรกันเลย」 [อ้อ ฉันเข้าใจแล้ว…งั้นเหรอๆ • ̀_ •.] ขณะที่เธอพิมพ์บนคีย์บอร์ดอย่างตื่นเต้น เธอก็รู้สึกถึงดวงตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมาที่เธอ อีเวนเดล ผู้ซึ่งเล่นโทรศัพท์ของเธอบนโซฟาตอนนี้จ้องมองเรเชล ไม่สิมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรเชล “… .” เรเชลรีบปรับมุมของจอภาพเพื่อไม่ให้ อีเวนเดล มองไม่เห็น แน่นอนอีเวนเดล ไม่ให้เรเชลเห็นดังนั้นเรเชลก็ไม่ให้ อีเวนเดล เห็นเช่นกัน “ …ไม่ยุติธรรมเลย” อีเวนเดล งอนจนแก้มป่องเหมือนปลาปักเป้า [ความวิตกกังวลของสาธารณชนกำลังเพิ่มขึ้นทุกวันเพราะเหตุการณ์ออร์เดน สถานการณ์ในเกาหลีเป็นยังไงบ้าง? ฉันได้ยินมาว่ามีผู้อพยพเข้าไปเป็นมาจำนวนมากตลอดเวลา อังกฤษเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะมอนสเตอร์ในแอฟริกาอาจตัดสินใจบุกเข้าไปในยุโรปตอนไหนก็ได้….] คลิ้ก, คลิ้ก, คลิ้ก, คลิ้ก เรเชลขยับนิ้วมือของเธอบนคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว… คลิ้ก, คลิ้ก, คลิ้ก, คลิ้ก …และ อีเวนเดล เองก็พิมพ์โทรศัพท์ของเธอด้วยเช่นกัน คลิ้ก, คลิ้ก, คลิ้ก, คลิ้ก, คลิ้ก, คลิ้ก, คลิ้ก, คลิ้ก … เสียงของคีย์บอร์ดทั้ง 2 ดังจนเหมือนแข่งขันกัน แม้อีกฝ่ายจะเป็นเด็กแต่สถานการณ์ในปัจจุบันความตึงเครียดระหว่างผู้หญิงทั้ง 2 ก็สูงขึ้นมาก*************************************************************************[ห้องฝึกซ้อมใต้ดินใน Pandemonium] ผมนั่งไขว่ห้างขณะที่หลับตาลง ศักยภาพของ ออร์เดน คือ 9.9 ทุกคนสู้กับเขาไม่ได้ เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ยาก แต่นั่นก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเราจะยอมแพ้ เมื่อออร์เดนแข็งแกร่งขึ้นพวกเราก็เช่นกัน มันแตกต่างจากนิยายที่ผมแต่ง พวกเรามี ‘หอคอยแห่งความปรารถนา’ อยู่ข้างพวกเราตอนนี้ “เฮ้อออออออ … .” ผมหายใจเข้าลึกๆในขณะที่ผมเริ่มเขียนรายชื่อในหัวและสิ่งของต่าง ๆ จาก Tower of Wish ที่สามารถช่วยมนุษย์อย่างพวกเราได้ อย่างแรกคือ เมเดีย ที่กำลังจะปรากฎตัวอย่างที่สอง การ์ดบนชั้น 21 ผมสามารถใช้โชคของผมกับพวกมันได้อย่างที่สามคือวิญญาณต่างๆนานาที่อาศัยอยู่ใน Tower of Wish หอคอยจะกลายเป็นกองทัพด้วยตัวมันเอง “เฮ้ออออออออออ… .” ผมหยุดคิดและลืมตาหลังจากถอนหายใจ แต่ผมก็ต้องตกใจเมื่อผมเห็นใบหน้าของ ชอคจุนกยอง อยู่ตรงหน้าผม “ว้ากกกกกกกกกกกกกกกก นายทำให้ฉันกลัวนะ!” “…จะกลัวอะไร ที่สำคัญนายมาทำอะไรที่นี่ ฝึกการทำสมาธิ?” ชอคจุนกยอง พึมพำและเกาจอนของเขา “ไม่มีทาง.…นายรู้สึกแบบนั้นเหรอ?” จากสิ่งที่ผมได้ยินเสียง Chameleon Troupe ต้องต่อสู้กับ คุรุคุรุ และมอนสเตอร์ร่างมนุษย์ตนอื่นๆ ทันทีหลังจากที่พวกเขาแทรกซึมเข้าไปในดินแดนของ ออร์เดน เห็นได้ชัดว่าบอสฉีกขาของคุรุุคุรุออกมาแล้วชอคจุนกยอง ก็บดขยี้มอนสเตอร์ต่างส่วนกระต่ายของ โดรน ก็กลืนมอนสเตอร์ทั้ง 3 เอาไว้ “มีเหตุผลให้นายกังวลหรือเปล่า” “มอนสเตอร์พวกนั้นทำอะไรกับข้าไม่ได้เลย” “จริงๆเหรอ? ถ้างั้นถอยไปให้พ้นทาง ฉันต้องฝึก” “…การทำสมาธิไม่ใช่การฝึก ทำไมนายไม่ฝึกร่วมกับผมละ?” “ไม่” “… ชิ ชิ ช่างน่าเบื่อจริงๆ” ชอคจุนกยอง บ่นและออกจากห้องฝึกซ้อมไป ความเงียบที่คุ้นเคยกลับมา ผมนั่งบนพื้นและเริ่มหายใจ จุดประสงค์ของการฝึกหายใจนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพของ ‘พลังวิญญาณ’ ของผม เฮ้ออออออออออออออ… พลังวิญญาณเป็นพลังแห่งจิตวิญญาณ ขณะที่ผมหายใจเข้าออกผมพยายามควบคุมพลังวิญญาณที่ควบแน่นอยู่ภายในจิตวิญญาณของผม แต่ทุกอย่างก็ไม่คุ้นเคย อย่างไรก็ตามผมพยายามต่อไป แม้ว่าผมจะมี [ความเข้าใจที่สมบูรณ์แบบของพลังวิญญาณ] เป็นทักษะขั้นสูงสุดของผมแล้ว แต่ผมก็จะต้องเรียนรู้พื้นฐานของพลังวิญญาณเพื่อที่จะใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น …แต่ปัญหามีเพียงอย่างเดียว “เอ่อ เราไม่รู้เลยว่ามันทำงานยังไง” หลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีผมก็นอนเหยียดยาวข้ามพื้น ดูเหมือนว่า การหายใจไม่ได้ผลและผมไม่รู้จะลองอะไรอีกเพราะผมไม่รู้เกี่ยวกับพลังวิญญาณ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมรู้ มันไม่ครั้งที่ตัวละครหลักมีปัญหาเพราะ นี้คือเรื่องของผมเอง “ไม่สิ รอเดี๋ยวก่อนนะ” ผมส่ายหัวอย่างรุนแรงและลุกขึ้นมา ทำไมผมจึงพยายามอย่างหนัก จนถึงตอนนี้ผมได้ผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากโดยการปรับเปลี่ยนการตั้งค่า ผมยังสามารถทำสิ่งที่ผมได้ทำมาตลอด [6,083 SP] โชคดีที่ผมได้สะสม SP ได้ไม่น้อยต้องขอบคุณเหตุการณ์ ออร์เดนทำให้ผมไม่จำเป็นต้องมากอะไร ผมหันไปมองที่แท็บ [ศิลปะ] ===▷ศิลปะ (2/3)=== “ อืมมมม. เสียงแห่งมนต์เสน่ห์….” เมื่อเห็นว่ามันนำความทรงจำที่ไม่ดีกลับมาเท่านั้นอย่างไรก็ตามฉันตัดสินใจที่จะเพิ่มงานศิลปะที่สามในช่องว่างสุดท้าย ทักษะศิลปะที่ 3[ทักษะการใช้พลังวิญญาณอย่างเต็มเปี่ยม] [ขั้น กลาง] [2500 SP จะถูกใช้ คุณต้องการที่จะบันทึกหรือไม่] จำนวน SP ที่จำเป็นในการสร้างงานศิลปะ ขั้นกลางคือ 2,500ผมกด [บันทึก] โดยไม่ลังเล [ประหยัด… ][เดี๋ยวก่อน!][โชคดีที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง!][คุณช่างเป็นคนที่โชคดีเหลือเกิน! ขอแสดงความยินดีทักษะของคุณถูกเพิ่มเป็น ‘ขั้นสูง’!] ด้วยโชคชะตาของผม ทักษะของผมเพิ่มขึ้นจากขั้นกลางไปเป็นขั้นสูงอีกครั้ง ในขณะเดียวกันความคิดที่ท่วมท้นก็เต็มหัวของผม ไม่ว่าจะเป็นวิธีควบคุมพลังวิญญาณ,วิธีการใช้ทักษะจิตวิญญาณอย่างสร้างสรรค์ … ทุกความคิดที่ยอดเยี่ยมเหล่านั้นเริ่มปรากฏขึ้นในหัวของผม “คิมฮาจิน” ทันใดนั้นบอสก็ปรากฏตัวจากอีกด้านหนึ่งของห้องฝึกซ้อม ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะฝึกฝนเสร็จ ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ “นายดูไม่ดีเลยนะ นายเป็นอะไรหรือเปล่า” บอสถามผมและดวงตาของผมเปล่งประกาย หัวของผมเต็มไปด้วยความคิดที่ผมต้องการจะทดสอบ “บอสยืนนิ่งๆ” “…ยืน?” “ใช่. ผมอยากลองอะไรซักอย่าง” ในขณะที่บอสก้มศีรษะของเธอด้วยความสับสนผมก็ลุกขึ้นยืนและเปลี่ยนทิศทางพลังวิญญาณจากร่างกายไปยังสมอง
คอมเม้นต์