The Novel’s Extra ตอนที่ 457
บทที่ 457 รวมพล (5) “…” สติของผมกลับมา ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมา จากความนุ่มนวลของที่นอนที่อยู่ใต้หลังของผม ผมบอกได้เลยว่าผมนอนอยู่บนเตียง ประโยคที่ยังไม่ได้อ่านปิดกั้นมุมมองของผม [ตอนใหม่เสร็จสมบูรณ์ – คุณประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งมาร][เนื่องจากคุณสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับ ‘มารขนาดยักษ์’ฉายา ‘นักล่าปีศาจ’ ของคุณจะแข็งแกร่งขึ้น][ได้รับ 485 SP][ระดับความสามารถของพรสวรรค์ ‘ปรมาจารย์นักแม่นปืน’ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว][‘อัลกอริทึม’ และ ‘เอเธอร์’ ได้รับการปรับปรุง][เอเธอร์ เข้าใจถึงการมีอยู่ของ ‘มาร’][อายุขัยของคุณลดลง 3 ปี] จากข้อความมากมายข้อความที่โดดเด่นที่สุดก็คือข้อความเกี่ยวกับอายุขัยของผม “…เฮ้อออออออออ.” หลังจากถอนหายใจผมก็ลุกขึ้นมา ผมคิดไว้แล้วว่า [ทะลายขีจำกัด] มีผลข้างเคียงบางอย่าง แต่ผมก็ตัดสินใจใช้มันเพื่อเพิ่มอีก 2 เส้นรอยสักเพราะผมเชื่อว่าแค่นี้มันไม่เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายให้กับมารได้แน่นอนผมน่าจะรู้ตัวแต่แรกว่ามารที่นี่อ่อนแอกว่ามารจริงๆ แต่ก็ยัง … [ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับมาร ‘โมเรค’ 96%] ผมประเมินตัวเองต่ำเกินไปหรือว่าผมประเมินมารสูงมากเกินไปกันแน่ ผมสร้างความเสียหาย 96% ด้วยตัวเอง การโจมตีครั้งเดียวของผมทำให้มันเหลือแต่ลมหายใจที่โรยรินและเหลือเพียง 4% เท่านั้น “…นายรู้สึกยังไงบ้าง?” ขณะที่ผมกำลังตรวจสอบสภาพของผม ผมก็ได้ยินเสียง เมื่อผมหันหลังกลับไปมองผมเห็นจินซาฮยอค ผมตอบสั้นๆ “ก็ดี” แม้ว่าผมจะเสียอายุขัยไป 3 ปี แต่ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล [สถานะผิดปกติ]*บาดแผลขนาดใหญ่ – เสียอายุขัยไป 3 ปี (กำลังผ่านกระบวนการฟื้นฟูผ่าน ลูกแก้วแห่งการฟื้นฟู) ลูกแก้วแห่งการฟื้นฟู ได้ทำการรักษาร่างกายของผมไปแล้ว ความคืบหน้าของการฟื้นฟูมีลักษณะเฉพาะ มันต้องใช้เวลานาน 3-4 เดือนในการฟื้นฟูอายุขัยของผม “… .” จินซาฮยอค มองผมอย่างเงียบๆ การจ้องมองและความเงียบที่แปลกประหลาดนั้นทำให้ผมไม่คุ้นเคย หลังจากนั้นไม่นานจินซาฮยอค ก็อ้าปากขึ้นมา “ฉันเข้าใจความตั้งใจของนายแล้ว” “อะไรนะ? ความตั้งใจอะไร?” เธอจะรู้ความตั้งใจของฉันได้ยังไงในเมื่อฉันยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ?ถึงกระนั้นจินซาฮยอค ก็หันหลังกลับไปโดยไม่ตอบผม ผมเลยหยิบแว่นขยายออกมาเพื่อตรวจสอบอารมณ์ของจินซาฮยอค [สำนึกผิด] ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนี้ คลิ้ก ท่ามกลางความสับสนประตูก็ปิดสนิท “…เมื่อกี้อะไรกัน?” ผมไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่ยังไงก็ตาม ด้วยการเอาชนะมารผมเลยได้รับรางวัลมาไม่น้อย เรื่องนี้นี้ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นมาจริงๆ ===[รางวัล]– รายชื่อของรางวัลที่คุณจะได้รับตามธรรมชาติในขณะที่คุณดำเนินการ=== “อืมมม.” ผมประหลาดใจมากที่สุดเกี่ยวกับรางวัลที่ 4 ‘???’ …. ดิ้งงงงงงงงง ทันใดนั้นก็มีเสียงระฆังดังขึ้นที่หน้าต่างระบบ [เนื่องจากคุณผ่านบทนี้ได้สำเร็จคุณสามารถถามฉันได้ 1 คำถาม][คำถามนี้อาจตอบไม่ได้ พยายามให้มันอยู่ในเหตุผล] “…อะไรนะ?” ดวงตาผมเบิกกว้าง ผมไม่เคยเห็นข้อความประเภทนี้มาก่อนข้อความเหล่านี้ถูกส่งถึงผมอย่างชัดเจนจากสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักและคิดว่ามีสติปัญญา “คุณเป็นใคร?” [นั่นคือคำถามของคุณงั้นเหรอ] “ฮะ?” ใจเย็นๆ เราต้องใจเย็นๆ “ไม่….ไม่. ไม่เลย” ผมจ้องมองที่หน้าต่างด้วยความงุนงง นี่เป็นรางวัลที่ 4 ทำให้มีโอกาสโต้ตอบกับผู้เขียนร่วมงั้นเหรอ ถ้าเป็นเช่นนั้นเราควรถามอะไรดี อึก ผมพยายามคิดหาคำถาม แต่ก็ไร้ประโยชน์ ผมพึ่งคิดได้ในภายหลังนี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมสามารถตัดสินใจได้ในทันที “…ผ่านก่อน” ผมส่ายหัวและพยายามที่จะไม่เร่งตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคำถามหรืออะไรก็ตามเราต้องรอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน [ฉันเห็น.] ซ่าาาาาาา-! “เฮ้ เฮ้ ~” ในขณะนั้นเองประตูก็เปิดออกและผู้คนจำนวนมากก็รีบเข้ามาในห้อง ทั้ง ไอลีน จินเซยอน อียองฮา ซอยองจี และยังมีเฟฮีกับอัศวิน เช่นกัน พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนจะประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้นกันนาย? นายนบอกว่ามารแข็งแกร่งมาก! แต่นายฆ่ามันด้วยตัวเอง!” ไอลีนตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน “อืม มารอ่อนแอกว่าที่ฉันคิดไว้มาก….” ตอนนี้ผมต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอื่น ๆ ผมรอยยิ้มแต่จริงๆแล้วได้แต่ถอนหายใจข้างใน*************************************************************************[ราชอาณาจักรของ ออร์เดน] ในขณะเดียวกันบนโลกมีแผนการลอบสังหารกับเป็นอย่างดี ชาวปีศาจแบ่งตัวเองออกเป็นทีมและเดินทางไปยังดินแดนตะวันตก ฮีโร่รวมถึงผู้ที่เป็นสมาคมดำเนินการเข้าไปในดินแดนตะวันออก เบื้องหลังการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบนี้เป็น ‘สนธิสัญญาลับ’ ระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย “แม่งเอ้ย มีสัตว์ประหลาดมากมายที่นี่” ตุบ ตุบ ชอคจุนกยอง กำหมัดของเขาตู้ม! สัตว์ประหลาดหลายสิบตัวตกลงมาจากท้องฟ้าสู่พื้นดิน “นั่นมัน ราชาสัตว์ประหลาด” เขาแน่ใจว่าเขาแข็งแกร่งมาก เขามีผู้ติดตามสัตว์ประหลาดจำนวนมาก” พวกเขาอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินที่อยู่ลึกที่สุดนอกราชอาณาจักรของออร์เดน ทีม Chameleon Troupe นั้นทำได้ดีกว่าคนอื่นมาก “…โดรน พวกเราอยู่ไกลจาก ออร์เดน มากแค่ไหน” บอสถามโดรนในขณะที่เธอกำจัดสัตว์ประหลาด โดรน ปิดตาของเขาและวัด “6 km …ผมคิดว่านะ” และแล้ว “แอ่ว! ฉันเห็นสิ่งที่น่าสนใจที่นี่แล้ว!” เสียงดังดังออกมาจากด้านหลังพวกเขา บอสหันหลังกลับ วิคเก็ช อยู่ที่นั่นวิคเก็ชที่สูญเสียผู้บริหารทั้งหมดของเธอมาพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพียงประมาณ 4-5 คน พวกเขาเป็นกลุ่มมากกว่าแก๊ง “…วิคเก็ช?” บอสเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าทำไม วิคเก็ช ถึงอยู่ที่นี่ เธออาจกลัวที่จะออกไปลุยกับปีศาจคนอื่นๆ โดยไม่มีผู้บริหารของเธอ “ ฮ่าฮ่าฮ่า เยี่ยมมาก ดีใจที่ได้พบเธออีกครั้ง เหตุผลที่ฉันมาที่นี่คือ-” “บอส มีคนอื่นมาทางนี้” โดรน ขัดจังหวะ วิคเก็ช บอสเปิดใช้งาน แปลงร่างอสูร ทันทีร่างของเธอเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันลมความเร็วสูงก็พุ่งเข้าหาพวกเขาจากอีกด้านหนึ่งของความมืด บอสรู้ว่าพายุนี้เป็นของใคร คุรุคุรุคุรุ… เสียงหึ่ง ๆ ของแมลงดังก้องไปทั่วอุโมงค์ใบหน้าของบอสโกรธแค้นออร์เดนไม่ใช่เป้าหมายหลักของเธอ สิ่งที่เธอต้องการฆ่ามากที่สุดก็คือ แมลงสาปที่ครั้งหนึ่งเคยเอาชีวิตเพื่อนของเธอไป และในตอนนี้แมลงตัวนั้นก็กำลังมุ่งหน้ามาทางเธอ บอสทักทายมันในฐานะ ‘อสูร’ ที่แท้จริง************************************************************************* [อดีต – อคทรีน่า] เมื่อผ่านภัยคุกคามภายนอกทั้งหมดแล้ว พัลซาร์ จะเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว ผู้คนจากทุกภูมิภาคของประเทศเข้ามาในเมืองหลวงและตอนนี้ประชากรของ พัลซาร์ เกิน 50,000 คนไปแล้ว การขาดแคลนอาหารได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายด้วยความช่วยเหลือของ ลูกเต๋าแบบสุ่ม และ คริสตัลบริสุทธิ์ ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจมีเสถียรภาพและประเทศก็กลับมายืนด้วยตัวเองได้อีกครั้ง “ …วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วสินะ” ขณะนี้พวกเรากำลังเดินไปรอบๆศูนย์กลางพลาซ่าตรวจสอบเมืองเป็นครั้งสุดท้าย พลาซ่าซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหมัน ปัจจุบันมีชีวิตชีวา ภูมิทัศน์โดยรอบเต็มไปด้วยสัญญาณของชีวิต บ่อน้ำ ต้นไม้ พุ่มไม้และผู้คน “มันน่าเศร้าที่พวกเราต้องจากไปแล้ว” จินเซยอนบ่นด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างขมขื่น “อ่า นั้นสิ.” ผมตอบแล้วมองไปรอบ ๆ การเดินทางไป อคทรีน่า ของพวกเราเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด แต่พวกเราได้รับอะไรมามากมายจากประสบการณ์นี้ ตัวอย่างเช่นการเติบโตของ ชินจงฮัก การเปลี่ยนแปลงของ จินซาฮยอค ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตของ คิมชุนดง และเงื่อนงำเล็กน้อยเกี่ยวกับการมีอยู่ของผม…. “แต่พวกเราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป พวกเราต้องรีบกลับ ใครจะรู้ได้ว่ากี่ปีผ่านไปแล้วในโลกภายนอก นี่คือคำพูดของไอลีน เธอยังไม่ได้ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างเวลาของที่นี่และเวลาที่อยู่ข้างนอก “งั้นไปกันเถอะ” พวกเราลุกขึ้นจากม้านั่งแล้วมุ่งหน้าไปยังพระราชวัง พลเรือนกำลังยุ่งอยู่กับการใช้ชีวิตของตัวเองมากเกินไปที่จะใส่ใจพวกเรา นี่เป็นสัญญาณที่ดี พวกเราเข้าไปในวังด้วยกัน เฟฮีอยู่ในสวนของพระราชามองดูดอกไม้กับจินซาฮยอค “… !” เฟฮีสังเกตว่าพวกเรากลับมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอลังเลที่จะเข้าใกล้พวกเรา อาจเป็นเพราะเธอรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่พวกเราต้องบอกลาผมเข้าหา เฟฮี ด้วยรอยยิ้ม “ว่าไง ฝ่าบาท” “… .” เฟฮี ไม่ตอบ เธอไม่มองผมเลย ผมคุกเข่าข้างหน้า เฟฮี “ได้โปรดอย่าเสียใจไปเลย สักวันพวกเราจะพบกันอีก” เมื่อผมเขียนนิยายต้นฉบับสิ่งที่ผมเสียใจมากที่สุดคือผมเขียนบทที่ไม่มีความหมายมากเกินไป บทไร้ประโยชน์ในทุกๆด้านอย่างไร้จุดประสงค์ผู้เขียนร่วมคงได้เห็นสิ่งนี้ เขาเลยเขียนเนื้อหาเพิ่มเติ่มใน ‘อดีต’ นี้เพื่อให้มีประโยชน์ในภายหลัง—————–2——————-
คอมเม้นต์