The Novel’s Extra ตอนที่ 423
บทที่ 423 การเริ่มต้นใหม่ (1) ยูยอนฮา พยายามคุยกับ แชนายอน แต่ แชนายอน ไม่มีพลังพอที่จะรักษาสติของเธอ เมื่อ ยูยอนฮา วางมือลงบนหน้าผากของ แชนายอน เธอตกใจมาก ร่างกายของ แชนายอน เหมือนถูกไฟไหม้อุณหภูมินั้นสูงจนทนไม่ได้ถ้า ยูยอนฮา เป็นมนุษย์ธรรมดาคงแย่ไปแล้ว แชนายอน ยืนกรานที่จะถามเธอ แต่ ยูยอนฮา บังคับให้เธอเข้านอนในฐานะธีโร่แชนายอนแข็งแกร่งกว่า ยูยอนฮา หลายเท่าแต่ ยูยอนฮา สามารถลากเธอเข้าไปนอนได้อย่างง่ายดาย แชนายอน เหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ยูยอนฮา มอบยาให้กับ แชนายอน และให้นอนบนเตียงที่ทำจากมือของ คิมฮาจิน เธอกอด แชนายอน แน่นและในไม่ช้าเธอก็หลับไป เมื่อเห็นแชนอยอนหลับสนิทแล้วยูยอนฮาก็คิดถึงวิธีอธิบายทุกอย่าง สกิล ‘ระดมสมอง’ ของเธอถูกใช้อย่างเต็มกำลัง แต่วิธีแก้ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้เธอคิดไม่ออก ทางเดียวที่เธอคิดได้ก็คือ บอกกันตรงๆ ในเวลานั้นเองแสงจันทร์ส่องเข้ามาในห้องจากหน้าต่าง แสงจันทร์ส่องประกายราวกับอัญมณี ยูยอนฮา ลูบตาของเธออย่างน่าประหลาดใจเมื่อเห็นภาพนี้ นิ้วของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา ‘ฉันคิดว่าต่อมน้ำตาของฉันแห้งไปแล้ว แต่ฉันยังร้องไห้อยู่สินะ”ยูยอนฮา ถอนหายใจขณะที่รวบผมขึ้น “เฮ้อออออออออ… .” เธอนั่งถัดจาก แชนายอน และรอ เธอจัดระเบียบทุกสิ่งที่เธออยากจะพูดในหัวของเธอ เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ รุ่งเช้าฝนก็หยุดตก โลกเปล่งประกายราวกับว่าฝนพัดฝุ่นละอองจนหมดยูยอนฮา รู้สึกถึงสายตาจ้องมองเธอเธอ มองไปที่เตียงก็เห็นแชนายอน จ้องมองเธออยู่ “…นอนลงเถอะ” ยูยอนฮาพูดเบา ๆ แน่นอนว่า แชนายอน ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะพักผ่อนได้ง่ายๆ เธอยกร่างกายส่วนบนของเธอขึ้นมา เป็นเพราะเตียงหรือเพราะพลังฟื้นฟูตัวเองที่ไม่เหมือนใครของ แชนายอน กันนะ? เธออยู่ในสภาพดีขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย “ …เธอดีขึ้นไหม?” ยูยอนฮา ถาม แชนายอน แชนายอน พยักหน้าอย่างเงียบๆจากนั้นพึมพำ “…บอกทุกอย่างที่เธอรู้ มาได้เลย ฉันรับได้ ฉันยอมรับได้ทุกอย่าง สิ่งที่เธอรู้เป็นเรื่องที่ฉันไม่รู้อย่างแน่นอน” เสียงของเธอเต็มไปด้วยความตั้งใจจริง อย่างไรก็ตาม ยูยอนฮา ไม่เชื่อเธอ ไม่ใช่เพราะเธอเป็นคนไม่น่าไว้วางใจแต่มันเป็นเพราะ แชนายอน หลงลืมหลายสิ่งหลายอย่าง เธอไม่รู้เกี่ยวกับอุบัติการณ์ควังโอ ว่าเป็นครอบครัวเธอที่ทำต้องคิมฮาจินต้องโดดเดี่ยว ถ้าเธอรู้เธอจะสามารถทนได้งั้นเหรอ “…เธอสามารถทนรับได้จริงๆเหรอ?” ยูยอนฮา ถามอย่างกังวล แชนายอน ยิ้มอย่างมั่นใจ “เธอคิดว่าฉันเป็นใคร ตอนนี้ฉันจริงจังมากๆฉันอาจทุบตีเธอก็ได้ ถ้าเธอยังไม่พูด” เมื่อได้ยินคำพูดตลกๆของ แชนายอน ยูยอนฮา ด็ยิ้มอย่างขมขื่น เธอเริ่มพูดอย่างระมัดระวัง “ศพนั้น…มีหลักฐานไหม” “มะ…มี” แชนายอน ตอบอย่างยากลำบาก แขนขวาของ แชจินยูน นั้นกลายเป็น ‘มาร’ “…ฉันเข้าใจ” ยูยอนฮา พยักหน้า ถ้าเป็นแบบนี้เธอก็สามารถพูดต่อไปได้ แต่ก่อนหน้านั้นเธอต้องการเวลาในการเตรียมใจ “เฮ้ออออ….” ยูยอนฮา ปล่อยลมหายใจออกมา จากนั้นมองไปที่แชนายอน “ทำไมเธอไม่บอกฉันก่อนหน้านี้” ดูจากที่ แชนายอน ที่ถามเรื่องนี้ … ยูยอนฮา ก็จะได้เริ่มอธิบายว่าทำไม คิมฮาจิน ถึงฆ่า แชจินยูน และทำไมเขาถึงรู้เรื่องนี้ “เขานั้นไม่ยอมบอกให้ฉันบอกอะไร” “…เขา? คิมฮาจิน บอกงั้นเหรอ?” “ใช่ นั่นคือสิ่งที่เขาพูด เธอในเวลานั้นไม่สามารถจัดการความจริงได้ เขาไม่อยากให้จิตใจเธอแตกสลายดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะอดทนรับมันไว้เพียงคนเดียว” – อย่าบอก แชนายอน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ฉันเป็นคนที่ฆ่าแชจินยูน จริงๆ ยูยอนฮา จำได้อย่างชัดเจนว่าคิมฮาจินพูดแบบนี้พร้อมรอยยิ้มเศร้าๆ บนใบหน้าของเขา “…ฉันรับความจริงไม่ได้งั้นเหรอ?” แชนายอน กัดฟันของเธอ ‘ฉันจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะยอมรับความจริงได้ไหม นายมาตัดสินใจให้ฉัน…ได้ยังไง’ เธอเย้ยหยันความคิดแบบนี้ ในขณะเดียวกัน ยูยอนฮา ก็กล่าวต่อว่า “ใช่นั่นคือสิ่งเขาคนนั้นคิดและเขาพูดถูก เขาสามารถจัดการกับมันได้แต่เธฮทำไม่ได้” ยูยอนฮา พูดด้วยความมั่นใจ เขามีความกล้าหาญที่จะถูกเกลียดชังและความกล้าหาญของเขานั้นมีรากฐานมาจากความเชื่อมั่นในจิตใจของเขา “เพราะเขาเป็น ผู้หวนคืน” “…อะไรนะ?” แชนายอน ขมวดคิ้วมันเป็นปฏิกิริยาที่ ยูยอนฮา คาดเอาไว้แล้วดังนั้นเธอจึงเริ่มอธิบายเพิ่มเติม มันอาจยากที่จะเชื่อแต่ทุกอย่างมันตรงล็อกเขาเริ่มเปลี่ยนจากดาบเป็นปืน ช่วยแชนายอน เรเชลและแม้แต่ตัวเธอจากปีศาจ เกลี้ยกล่อมให้แชนายอนเปลี่ยนเป็นดาบและรู้ว่าแชจินยูนมีเมล็ดพันธุ์ปีศาจอยู่ภายในร่างกายของเขา…การเสียสละทุกอย่างที่เขาทำไม่สามารถอธิบายได้หากเขาไม่ใช่ผู้หวนคืน “…ในไทม์ไลน์ที่จากมา จิตใจเธอคงพังทลายเพราะแชจินยูนกลายเป็นปีศาจ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาปิดบังความจริงจากเธอและฆ่าแชจินยูนด้วยตัวคนเดียว” ยูยอนฮา จับมือของ แชนายอน อย่างไรก็ตาม แชนายอน ส่ายหัวของเธออย่างดุเดือด “ธะ-เธอ เธอคิดว่านั่น…เรื่องจริงเหรอ” แชนายอน ไม่อยากจะเชื่อ แม้ว่าจะมีปาฏิหาริย์มากมายเกิดขึ้นในโลกแต่การย้อนเวลามันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด แต่ในทางกลับกันภาพลักษณ์ของคิมฮาจินก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของเธอ วิธีที่เขามั่นใจเสมอในการกระทำและคำพูดของเขา ทำให้ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยไว้ในใจของเธอ “ฉัน-มะ..มันไม่สมเหตุสมผล เขาจะเป็น….” ได้ยังไง แชนายอน ยังกล่าวประโยคของเธอไม่จบ เมื่อเห็นอย่างนี้ ยูยอนฮา ก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆจากนั้นเธอหยิบสมุดบันทึกออกมาจากลิ้นชักโต๊ะทำงานของเธอ “ …นายอนมีบางอย่างอื่นที่เธอต้องรู้” ยูยอนฮา เอาสมุดบันทึกมาและนั่งข้างๆ แชนายอนถึงเวลาเปิดเผยความจริงแล้ว แต่น้ำตาเริ่มไหลลงมาจากดวงตาของยูยอนฮา เธอไม่รู้ว่าทำไม “เธอเคยได้ยิน อุบัติการณ์ควังโอ?” เรื่องราวนี้ต้องนึกย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว แชนายอน พยักหน้า โศกนาฏกรรมที่พลเรือนหลายสิบคนและธีโร่เสียชีวิตประมาณ 10 คน เธอเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ยูยอนฮา เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในรายละเอียดเพิ่มเติม ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศว่าเหตุการณ์นี้เกิดจาก มอนสเตอร์ แต่จริงแล้วมันเป็นการฆาตกรรมที่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า “…คิมฮาจินเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของ เหตุการณ์ที่กวางโอ” ในขณะนั้นเองดวงตาของแชแนยอนก็เบิกกว้าง อดีตของคิมฮาจินเป็นสิ่งที่เธอไม่รู้อะไรเลย “และนี่….” ยูยอนฮา ส่งไดอารี่ให้เธออย่างเงียบๆมันเป็นไดอารี่ที่เธอขอมาจากยูจินวอน ความจริงของวันนั้นเขียนอยู่ในไดอารี่เล่มนี้แชนายอน จ้องมองด้วยความงุนงงแล้วจับมันด้วย 2 มือ จากนั้นเธอก็เปิดมันอย่างช้าๆ “… .” อย่างที่ ยูยอนฮา ทำเมื่อเธออ่านไดอารี่เป็นครั้งแรกมือของ แชนายอน หยุดหลังจากที่พลิกไปยังหน้าบางหน้า จากนั้นเธอก็อ่านไดอารี่อย่างเงียบๆ ไม่ช้ามือของเธอก็เริ่มสั่นไหว “อะไรกัน…เรื่องนี้มัน….อะไรกัน” แชนายอน เงยหน้าขึ้นมาใบหน้าของเธอว่างเปล่า ดวงตาของเธอแดงจากน้ำตาที่หลั่งออกมา “เฮ้อออออ… .” เสียงถอนหายใจออกจากปากของ ยูยอนฮา เธอพยายามพูดคุยเกี่ยวกับผู้อยู่เบื้องหลังของ เหตุการณ์กวางโอ “…คนที่สั่งให้ ฆ่าพ่อแม่ของคิมฮาจินคือแชจูชึล…และยูจินวอน” ยูยอนฮาไม่พยายามปกปิดบาปของพ่อเธอ เธอสารภาพอย่างจริงใจและมองเข้าไปในดวงตาของแชนายอนที่สั่นไหว แชนายอน คงรู้สึกถึงอารมณ์แบบเดียวกับที่เธอเคยเจอ ยูยอนฮา หวังว่า แชนายอน จะไม่พังทลายลงเพราะอารมณ์ในตอนนี้และด้วยความหวังนั้นเธอกล่าวต่อ “ใช่แล้ว พวกเขาคือ….ปู่ของเธอและพ่อของฉัน” ************************************************************************* [เกาหลี – โซล] ผมกลับไปที่โซล ถึงแม้จะดึกแต่แสงสีของเมืองก็ทำให้ทิวทัศน์สดใสเหมือนตอนกลางวัน เมืองที่ไม่มีบนคาบสมุทรเล็กๆในเอเชียตะวันออกซึ่งเป็นมหาอำนาจในโลกของผม ผมมองดูสิ่งที่ผมสร้างขึ้นอย่างงุนงง ไฟบนถนนที่ขับเคลื่อนด้วยเวทมนตร์นั้นทำให้ถนนสว่างไสว ร้านอาหารและบาร์ก็คึกคักไปด้วยผู้คน ‘การโจมตีของมอนสเตอร์’ เป็นสิ่งสุดท้ายที่อยู่ในใจของชาวกรุงโซล “ฉันได้ยินว่า ประชากรของโซลมากถึง 20 ล้านคน” บอสผู้ซึ่งกำลังเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนพูด อาจเป็นเพราะว่าตอนนี้พวกเรากำลังยืนอยู่ในอาคารสูง ลมเลยพัดรุนแรงกว่าปกติ “ทุกวันนี้ผู้คนกำลังย้ายไปที่ คยองกีโด เนื่องจากบาเรียที่กิลด์ Essence of the Strait สร้างขึ้น” เมื่อเร็วๆนี้ศูนย์วิจัยสำคัญอันดับ 1 ของ Essence of the Strait ‘Essential Dynamics’ ได้ประกาศปฏิวัติเทคโนโลยี ชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ ‘Essence Barrier’ แม้ว่าปกติแล้วมันจะไร้รูปร่างแต่ก็สามารถตรวจจับการปรากฏตัวของมอนสเตอร์ด้วยเซ็นเซอร์และสร้างบาเรีย หากมอนสเตอร์เหล่านั้นอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่าขั้น กลาง ระดับ 7 Essence Barrier สามารถโจมตีพวกมันได้ มันก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากกว่าในเนื้อเรื่องเดิม ผมต้องขอบคุณ ยูยอนฮา ที่ทำตามคำแนะนำของผม ไม่ว่าในกรณีใดกำแพงนี้ก็ถูกติดตั้งในเนินเขาใกล้ๆกับกรุงโซลเพื่อทำการทดสอบ หลังจากได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วมันก็ขยายไปถึงเกือบทุกเมืองในเกาหลีอย่างรวดเร็ว “ผมได้ยินมาแล้ว มันเป็นหัวข้อข่าวในห้องจัดเลี้ยงสีม่วงประเทศอื่นๆเองก็กำลังสนใจเรื่องนี้อยู่เช่นกัน” “ชะ-ใช่.” เทคโนโลยีทางทหารมักจะขายให้ผู้รับเหมาแต่นี่ไม่ใช่กรณีของ Essential Dynamics จีน ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกาและประเทศอื่นๆกำลังขอร้องให้ Essential Dynamics ทำแบบนี้ให้พวกเขาบ้าง “การโจมตีของมอนสเตอร์นั้นเป็นเรื่องปกติมากดังนั้นมันจึงช่วยไม่ได้” Essence Barrier เป็นไอเท็มที่ปฏิวัติวงการทั้งโลกให้มีความแข็งแกร่งเพื่อทนต่อภัยพิบัติในอนาคต สำหรับเรื่องนี้เป็นข้อมูลที่รู้จักกันดีสำหรับสมาชิกห้องจัดเลี้ยงสีม่วงเพราะหอคอยแห่งความปรารถนาห้องจัดเลี้ยงสีม่วงเริ่มขายบางสิ่งที่เรียกว่า ข่าวครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นบนโลกดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้เล่นในการติดตามทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลก “อืม………….มันดีนะที่ฉันฟังนายก่อน” ในขณะนั้นบอสก็พูดถึงบางสิ่งที่แปลก “…ฟังก่อน?” ผมเอียงศีรษะ ผมบอกอะไรเธอ ในขณะที่ผมสงสัยบอสก็ตอบผม “นายบอกให้ฉันซื้อ หุ้น Essence of the Strait” “อ้อ~” ผมยิ้ม Essence of the Strait มูลค่าหุ้นนั้นสูงจนแตะต้องได้ยากมันห่างจากกิลด์อื่นๆและบริษัทอื่นๆมากถ้าผมจำไม่ผิดธุรกิจ 15 จาก 50 อันดับแรกเป็นบริษัทในเครือของ Essence of the Strait ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ยูยอนฮาจึงเริ่มที่จะได้รับฉายาว่า ‘ราชินีแห่งกรุงโซล’ มันเป็นชื่อที่สมบูรณ์แบบสำหรับ ยูยอนฮา ในอีกปี 1 เทคโนโลยีบาเรีย Essence of the Strait จะครอบคลุมทั่วกรุงโซลและ ยูยอนฮา จะครองตำแหน่งสูงสุดในฐานะราชินีแห่งกรุงโซล “ตอนนี้อย่างที่ผมเคยบอกหุ้นของผมมีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านวอน” “…อะไรนะ? 3…ล้านล้าน?”———————2———————-
คอมเม้นต์