The Novel’s Extra ตอนที่ 408
บทที่ 408 การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน (2) [ชั้น 28 – ดินแดนปีศาจ] ไอลีน และพรรคพวกของเธอกำลังเดินบนพื้นโคลน ทิวทัศน์ของอาณาจักรปีศาจไม่เหมาะสำหรับที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ดินสีดำของมันติดอยู่กับรองเท้าเหมือนเจลเหนียวๆและอากาศก็มีพลังปีศาจหนาแน่นซึ่งจะกระแทกคอของพวกเขาเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาหายใจ ไอลีนและคนอื่นๆเดินกันเป็นเวลานานในสถานที่แห่งนี้ เมื่อพวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากระบบพวกเขาก็ไม่สามารถกลับไปสู่โลกได้และหากพวกเขาจะกลับไปพวกเขาต้องต้องผ่านโคลอสเซียม ดังนั้นเมื่อพวกเขาเข้ามาแล้วจะไม่มีทางกลับไปได้อีก “…คิดว่าเป็นที่นี่ละ” หลังจากเดินมานานดูเหมือนว่าพวกเขาพบบางสิ่งที่คล้ายคลึงกับปราสาทยักษ์ ในอดีตปราสาทมันเป็นสถานที่ที่กษัตริย์อาศัยอยู่เนื่องจากราชาแห่งอาณาจักรปีศาจก็ต้องเป็นราชาปีศาจ‘ราชาปีศาจที่ต้องการความท้าทาย’ ที่ดอกบัวดำพูดถึงคงอยู่ในปราสาทแห่งนี้ “ฉันเชื่ออย่างนั้น” จินเซยอน ตอบ “เขาบอกว่าพวกเราต้องจัดการมันใช่มั้ย เขาไปไหนละนั้น?” ไอลีน บ่นอย่างไม่มีความสุข เธอคิดว่าดอกบัวดำจะเป็นผู้เบิกทางของพวกเขาต่อไป แต่เขาก็หายไปในขณะที่เธอกำลังฟุ้งซ่าน วิธีที่เขาหายไปนั้นน่าตกใจมาก ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหนหรือได้ยังไง พวกเธอไม่รู้สึกถึงพลังเวทมนต์เลยแม้แต่น้อย ดอกบัวดำหายตัวไปอย่างเรียบง่ายราวกับเขาไม่เคยอยู่ตั้งแต่แรก “พวกเราควรขอบคุณเขาที่ช่วยพวกเราให้รอดจากโคลอสเซียม” จินเซยอนกล่าวขณะที่เธอจ้องมองไปที่ปราสาทอันไกลโพ้น จินเซยอน เองก็ได้ทักษะใหม่จากความช่วยเหลือจากดอกบัวดำ เธอจะปล่อยเขาไปและไม่ถือสากระทำที่ผ่านมาของ Chameleon Troupe เพราะยังไงสุดท้ายแล้วเขาก็ไม่น่าจัเป็นสมาชิกเมื่อตอนเกิดเหตุการณ์กวางโอ้ คิมซูโฮ พยักหน้าและเห็นด้วยกับ จินเซยอน “…ใช่สิ ฉันมันเป็นคนเลว” “นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะพูด ตอนนี้พวกเราเริ่มกันเลย เราไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว” ไอลีน กัดฟันแต่ก็ยังฟัง จินเซยอน อยู่ดี พรรคพวกเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว “เดินต่อไปอย่างช้าๆและให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้” เป็นธรรมดาที่ จินเซยอน จะทำหน้าที่ผู้นำทาง ขณะที่พวกเขาอยู่ใน‘เมือง’ มีถนนสายหลักที่นำไปสู่จุดหมายปลายทาง แต่พวกเขาไม่สามารถเลือกเส้นทางที่เปิดเผยแบบนั้นได้ จินเซยอน เลือกที่จะใช้วงเวียนผ่านป่า “…โอ๊ะ ฉันประทับใจจังเลยแฮะ” ป่านั้นเต็มไปด้วยเถาวัลย์ที่มีหนามที่สั่นคลอนเหมือนมีชีวิตอยู่และต้นไม้ปีศาจที่มีตาเปร่งพลังเวทมนต์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ไอลีนปล่อยพลังเวทมนต์ของเธอออกมาเพื่อใช้ วาจาสิทธิ์ “พยายามอย่าใช้ วาจาสิทธิ์ พลังเวทมนต์มันเห็นได้ชัดเจนเกินไป” “…อะไรนะ?” เมื่อ จินเซยอน หยุด ไอลีน ก็ขมวดคิ้ว “เธอคิดว่าฉันเป็นใคร” เธอล้างคอและกำลังเตรียมที่จะใช้วาจาสิทธิ์ออกมา “พลังเวทมนต์ของฉันจะไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้” เธอใช้ วาจาสิทธิ์ และพลังเวทมนต์ของไอลีนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย “โอ้…น่าตกใจมาด คุณ ไอลีน” “ฮุฮู นี่มันง่ายมาก ฉันไม่เหมือนเธอนะ โอใช่เธอคงไม่ได้แพ้ดอกบัวดำในการต่อสู้แบบยิงธนูใช่ไหม” คราวนี้แม้แต่จินเซยอนก็ไม่อาจไม่สนใจคำเยาะเย้ยของไอลีนได้อีกแล้ว จินเซยอน ขมวดคิ้ว “วาจาสิทธิ์ ของคุณก็ไม่ทำงานกับ ดอกบัวดำ เหมือนกันนี่น่า” “อะไรนะ? เธอได้ยินมาจากใคร” “ฉันเห็นมัน นอกจากนี้ฉันแพ้เพราะข้อเสียของพลังธาตุ ดอกบัวดำบอกว่าเป็นของตัวเองจะดีที่สุด พวกเราจะเท่าเทียมกันถ้าฉันใช้ พลังไร้ธาตุ แทน ธาตุแสงจันทร์” “หืม ถ้าฉันต่อสู้จริงๆละก็แค่มือเปล่าฉันก็จะบดขยี้เขาได้อยู่แล้ว แค่ฉันพยายามทำให้เขาถอดฮูดนั่นออกมันก็เท่านั้น….” …ในขณะที่จินเซยอนและไอลีนกำลังทะเลาะกัน คิมซูโฮมีความคิดที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเกี่ยวกับตัวตนของดอกบัวดำ ‘แปลกมาก ไม่ว่าเราจะคิดยังไงมันก็แปลกมากอยู่ดี’ คิมซูโฮคิด ตอนที่เขาอยู่กับดอกบัวดำเขารู้สึกถึงความไม่ลงรอยกัน หากเขาต้องอธิบายความรู้สึกนี้มันจะต้องเป็น … ‘ความคุ้นเคย’ เขารู้สึกว่าคุ้นเคยกับ ดอกบัวดำ ความรู้สึกมันชัดเจนขึ้นเมื่อพวกเขาใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ‘ถ้าเราไม่บ้าไปเอง เราต้องเคยเจอกับดอกบัวดำที่ไหนซักแห่ง….’ “…อา!” ประกายอันเย็นยะเยือกของคิมซูโฮปรากฏออกมา ‘มันอาจจะเป็น?’ แม้ว่าความเป็นไปได้นั้นจะน้อยมาก แต่ถ้า ดอกบัวดำ นั้นมาจากต่างโลกเหมือนกันละ? ในตอนนั้นเองคิมซูโฮยังจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอกับ จินซาฮยอค ย้อนกลับไปตอนนั้นเธอทำท่าเหมือนเธอรู้จักดอกบัวดำ ถ้าเขาจำไม่ผิดเธอพูดว่า ‘มีคนที่ฉันอยากฆ่ามากกว่านาย’ เธอพูดจาแปลกๆออกมา ใช่นั่นคือสิ่งที่เธอพูดออกมาเอง ถ้าทฤษฎีของเราถูกต้อง ชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ก็เข้ากันพอดี มันอธิบายว่าทำไมถึงแม้จะมีความแข็งแกร่งขนาดนั้น แต่เขาพึ่งเปิดเผยตัวตนของเขาหลังจากเข้าสู่หอคอยแห่งความปรารถนาและทำไมเขาช่วยเราที่เป็นคนฆ่าเพื่อนของเขาใน ‘Chameleon Troupe’ เกอิต้า หลายครั้ง…’ จินซาฮยอค, คิมซูโฮ และ ดอกบัวดำ เมื่อความคิดนี้แผ่ขยายออกไปจิตใจของเขาก็เต็มไปด้วยความคิดนับไม่ถ้วนมากขึ้นเรื่อยๆ “ซูโฮ? เฮ้ คิมซูโฮ?” จินเซยอน จับไหล่ของ คิมซูโฮ “…อะ-ครับ?” “นายคิดเรื่องอะไรอยู่?” “มะ ไม่มีอะไร.” เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโกหกจินเซยอนมองมาที่เขาอย่างแน่วแน่ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอรู้สึกเหมือนรู้ว่าสิ่งเขาน่าเป็นห่วง “นายกำลังนึกถึงบางสิ่งเกี่ยวกับดอกบัวดำงั้นเหรอ” จินเซยอน ถามเธอเป็นคนที่มีความขุ่นเคืองต่อ Chameleon Troupe ดังนั้น คิมซูโฮ ในตอนนี้จึงไม่สามารถผ่านสายตาของเธอไปได้ “… .” คิมซูโฮจ้องตาของเธอ ดวงตาของ นักธนูผู้ศักดิ์สิทธิ์ นั้นเปล่งประกายสวยงามเช่นเคย แต่เขาไม่สามารถเปิดเผยความลับของเขาได้อย่างง่ายดายแม้แต่กับคนที่น่าเชื่อถือที่สุด “มันไม่มีอะไรจริงๆ…. อย่างไรก็ตามตอนนี้….” คิมซูโฮยิ้มและส่ายหัว จากนั้นเขาก็หยิบ มิสเทลทีน ออกมา เวลาสำหรับแห่งการต่อสู้มาถึงแล้ว “ไปจัดการพวกมันกันก่อนเถอะ” หลังจากนั้นสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนก็โผล่ออกมาจากพุ่มไม้รอบตัวพวกเขา พวกมันต่างจากสัตว์ประหลาดที่พวกเขารู้จักอย่างสิ้นเชิงสัตว์ประหลาดในอาณาจักรแห่งนี้ทั้งหมดดูพิเศษกว่าปกติ ************************************************************************* [เกาหลี,โซล,’โรงพยาบาลสำคัญ’ ของ Essence of the Strait ] โรงพยาบาลที่ Essence of the Strait ได้ซื้อมาเมื่อ 2 ปีก่อน เดิมเรียกว่าโรงพยาบาล ซัมฮัน เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาลัย ซัมฮัน เช่นเดียวกับวิทยาลัยที่ใช้ชื่อง นี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลงทุนของ ยูยอนฮา ได้รับวิทยาลัยซัมฮัน ทำให้เธอคืออนาคตของกิลด์เพราะเธอคิดว่าคนที่มีความสามารถมีมากมายเธอต้องการเพิ่มความสามารถให้กับฮีโร่ในทุกๆทาง ก่อนที่จะซื้อโรงพยาบาลและวิทยาลัยยูยอนฮาถามคิมฮาจินแล้วว่าเขาคิดยังไง แม้ว่าเธอมีเงินมากพอเพียงแต่เธอต้องการคำพูดของคิมฮาจิน ก่อนถ้าเป็นไปได้ เธอรู้สึกว่าผลการเรียนและสติปัญญาที่ล้นหลามของเขาจะถูกนำมาใช้ที่วิทยาลัย คิมฮาจินยอมรับคำขอของเธออย่างง่ายดาย เขาลงทุนเงินส่วนใหญ่ที่เขาครอบครองและกลายเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่ง จากนั้น ยูยอนฮา ก็รู้สึกว่าเขาไว้ใจเธอมากแค่ไหน สุดท้าย Essence of the Strait ก็เข้าซื้อ โรงบาล ซัมฮัน ด้วยการลงทุนของ คิมฮาจิน และเปลี่ยนชื่อเป็น โรงบาล Essential เนื่องจากวิทยาลัยมีประวัติสั้นๆไม่มีใครสนใจการเปลี่ยนแปลงในชื่อ แต่จริงๆแล้วมันทำให้พวกเขามีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากขึ้นกว่าเดิมซะอีก “เฮ้อออออออออออออ… .” นี้เป็นในโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นด้วยความไว้วางใจของ คิมฮาจิน …ยูยอนฮา ถอนหายใจขณะที่เธอคิดถึง คิมฮาจิน ทันทีที่พิธีการเลื่อนตำแหน่งของ ยูจินวอง จบลง ยูยอนฮา จึงลางานและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เธอไม่ทำงานอะไรเลย – ข่าวก่อนหน้านี้ ‘ปีศาจ’ ได้สืบเชื้อสายมาจากโลก มันถูกรายงานอย่างกว้างขวางทั่วโลก เรารู้ว่าปีศาจล่อลวงมนุษย์จากอาณาจักรแห่งจิตเพื่อสร้างปีศาจ แต่พวกมันไม่เคยแสดงตัวในโลกทางกายภาพเลย…..จนถึงปัจจุบัน ในห้อง Vip ที่ว่างเปล่า เสียงของข่าวดังก้องไปทั่ว – แชจูชึลผู้เป็นอมตะ กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อเร็วๆนี้ว่าเขาได้ฆ่ามารโดยนำเสนอเขาของปีศาจมาเป็นหลักฐาน จากพลังปีศาจจำนวนมหาศาลที่รวมอยู่ในเขาและชื่อเสียงของผู้เป็นอมตะ ผู้ชำนาญทุกคนต่างก็ไม่มีใครสงสัยในคำพูดของเขา โลกต่างก็สั่นไหว แชจูชึล ฆ่า ‘มาร’ ไอลีนและคิมซูโฮผู้ซึ่งอยู่ใกล้จุดสูงสุดของหอคอยแห่งความปรารถนา Chameleon Troupe ได้เข้าครอบครอง Pandemonium ถึง 1/4 และมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ ยูยอนฮา เห็นรายงานเหล่านี้ก็สั่นไหวไม่มีใครพูดถึงคิมฮาจินเลยแม้แต่คนเดียว เขาจากโลกนี้ไปอย่างเงียบ ๆ “…ที่นี่ทำไมนายต้องทำอะไรเองคนเดียวตลอดเลยละ” ยูยอนฮา เช็ดน้ำตาและเปิด smartwatch ของเธอและตรวจสอบข้อความหลายร้อยข้อความที่เธอส่งถึงคิมฮาจิน ไม่มีคำตอบและเมื่อเลื่อนขึ้นไปเธอเห็นข้อความสุดท้ายที่คิมฮาจินส่งมาให้เธอ [เธอยังคงลงทุนในการวิจัยอาวุธและการป้องกันใช่ไหม?] แทนที่จะเป็นข้อความดีๆแต่มันเป็นสิ่งเตือนความจำที่เขามักจะส่งมา เขามักจะจู้จี้กับเธอเรื่องการลงทุนเงินและความพยายามในการป้องกันประเทศพร้อมพัฒนาอาวุธและพูดว่า ‘ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่คิมฮาจิน …’ – เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์รูปร่างปัญหาเกี่ยวกับการป้องกันประเทศได้มาถึงระดับแนวหน้าจนมีการพูดคุยกันแบบสาธารณะ เป็นผลให้คลังแสงที่สำคัญต่างๆและบริษัทย่อยอื่นๆของ Essence of the Strait ที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอาวุธและการวิจัยการป้องกันเลยได้กำไรเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน… เขาคิดไว้แล้วว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นงั้นเหรอ? “ เขาฉลาดจริงๆอย่างไม่น่าเชื่อจริง” คำว่า ‘พิเศษ’ ไม่สามารถอธิบายถึงตัวเขาได้ เท่าที่ยูยอนฮารู้ เธอมาจนถึงตรงนี้ได้เพราะคิมฮาจินอยู่ข้างๆเธอ ต๊อก ต๊อก— เสียงเคาะ 2 ครั้งดังขึ้น ยูยอนฮา รีบเช็ดน้ำตาทันที “…เข้ามา.” ประตูเปิดออก อย่างที่คาดไว้คนที่อยู่หลังประตูคือยูจินวอน เขาใส่ชุดธรรมดาแทนสูทที่เขาใส่สำหรับพิธีส่งรับตำแหน่งตอนนี้เขาดูเหมือนพ่อปกติๆ “พ่อ.” “ …ยอนฮา, ลูกรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม” ยูจินวอง ก้าวเข้ามาและนั่งลงข้างๆเตียง ยูยอนฮา มองดูพ่อของเธอที่ดูแปลกๆจากความกังวลและความประหม่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? มีคนทำอะไรน่ากลัวๆกับลูกงั้นเหรอ” ยูยอนฮา ไม่ตอบเสียงที่สั่นไหวของพ่อเธอ “บอกพ่อทีว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อจะช่วยลูกเอง” ยูยอนฮารู้สึกเกลียดพ่อของเธอ เพราะเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย ไม่มีใครสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ “…พ่อ.” “ใช่แล้วพ่ออยู่ที่นี่ อย่าลังเลที่จะพูดออกมา บอกพ่อได้เลย” ยูยอนฮา ปฏิเสธที่จะควบคุมตัวเองอีกต่อไป เธอรวบรวมความกล้าที่จะพูดคำต่อไปนี้ออกมา “พ่อยังจำเหตุการณ์กวางโอ้ได้ไหม” เมื่อได้ยินแบบนี้ใบหน้าของ ยูจินวอง ก็แข็งทื่อ ยูยอนฮา รู้สึกเจ็บปวดเธอรู้สึกราวกับว่าเธอกลายเป็นศัตรูของพ่อเธอไปแล้ว “พ่อจำได้ใช่ไหม?” เธอจับหัวใจที่อ่อนแอของเธอด้วยความตั้งใจอย่างแน่วแน่ เธอไม่อยากรออีกต่อไป “…ยอนฮา.” เธอเสียใจหลังจากที่ได้รู้เรื่องความตายของเขา เธอรู้ว่าเธอจะเสียใจต่อไปตลอดชีวิตของเธอ หากเธอเชื่อใจเขาอีกเพียงเล็กน้อยถ้าเธอบอกความจริงของเหตุการณ์ และพยายามให้เขากลับใจเธอจะได้อยู่กับเขา … “นั่นคือสิ่งที่พ่อทำลงไป” ถ้าแบบนั้นเขาก็อาจจะยังมีชีวิตอยู่ “ยอนฮา ลูกหมายความว่ายังไง….” “พ่อจำเด็กที่เกิดในวันนั้นได้ไหม? หนูอ่านไดอารี่ของพ่อ” ทารกที่ปรากฏในสมุดบันทึก ผู้ชายที่พ่อของเธอปล่อยให้ยังมีชีวิตอยู่เพราะเขาคิดถึงเธอ “ลูกนั่นมัน….” แม้ว่าเธอจะสูญเสียเขาไป แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะปิดบังความจริงเอาไว้ได้ตลอดกาลเรื่องนี้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในชีวิตของ ยูยอนฮา อย่างไรก็ตามของแค่ตอนนี้ ยูยอนฮาอยากจะพูดความรู้สึกที่แท้จริงของเธอออกมา “เขา…เขาเป็นสำคัญและมีค่าสำหรับหนู….” เธอพึมพำขณะที่เธอสะอื้นอย่างเงียบๆ “… แต่เขาตายแล้ว” เสียงร้องของเธอกลายเป็นกรงเล็บที่แทงเข้าไปในหัวใจของยูจินวอนในฐานะที่เป็นพ่อแล้วยูจินวอนรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง
คอมเม้นต์