The Novel’s Extra ตอนที่ 363
บทที่ 363 กระบวนการของโชคชะตา (5) ร่างกายของฉันถูกอัดลอยออกไปไกลโดยการต่อยเพียงครั้งเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะพลังเวทมนต์รอบตัวฉัน ฉันคงตายไปแล้ว และนั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่อาจเข้าใจได้ ความเจ็บปวดที่ไหลเวียนทั่วร่างกายของฉันในตอนนี้ ทำไม? ในระหว่างที่ฉันเจอเขาในตอนแรกฉันเฝ้าติดตามเขาอยู่นาน ฉันไม่กล้าที่จะลงมือแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ดังนั้นฉันจึงตรวจสอบเขาอย่างถี่ถ้วน จากที่รู้เกี่ยวกับเขาและจากสิ่งที่ฉันได้เห็นด้วยตาของฉันเองเขาเป็นเพียงนักแม่นปืน จากตัวเขาฉันไม่สามารถสัมผัสได้ถึง ‘การเสริมพลังเวทมนต์’ ได้เลยแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะฝึกฝนเทคนิคเฉพาะเหมือนกัน ‘… มันไม่ควรจะเป็นอย่างนี่นี้น่า นี่มันอะไรกันเนี่ย?’ ฉันคิดอย่างนั้นในช่วงเวลาสั้นๆ แรงจากการชกทำลายบาเรียและอัดร่างกายของฉันลอยขึ้นไปในอากาศ แต่ความคิดนั้นก็คงได้ไม่นาน พอจากสิ่งสกปรกและฝุ่นหนาทึบจางหายไปใบหน้าของเขาก็โผล่ขึ้นมา เขายกหัวฉันขึ้นมาอย่างง่ายดาย “…ฉันจะบอกเธอเป็นครั้งสุดท้าย” มือใหญ่หยาบจับใบหน้าของฉัน เขาหยุดร่างกายของฉัน ฉันเห็นเขาผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วมือของเขา ความเย็นชาของเขากลายเป็นภาระอันหนักอึ้งที่โถมใส่จิตใจและร่างกายของฉัน ไม่นานเสียงกระซิบต่ำๆก็ดังขึ้นในหูของผม “ฉันจะฆ่าเธอถ้าฉันเจอเธออีกครั้ง” เสียงของเขาเติมเต็มหัวของฉัน ฉันรู้สึกราวกับว่าหัวกำลังจะระเบิด ฉันพยายามยกมือขึ้นและต่อต้านเขา แต่ร่างกายของฉันมันไม่ยอมขยับ “มันจะเหมือนกันทั้งในและนอกหอคอย…….” ริมฝีปากของเขาโค้งเป็นรอยยิ้มเย็นชาและหัวใจของฉันหยุดเต้นเพราะแรงกดดันที่เขาปล่อยใส่ฉัน “ทำไมเธอถึงไม่ฟัง!” จากนั้นฉันก็ถูกทุบลงไปที่พื้น ร่างกายทั้งหมดของฉันถูกความเจ็บปวดอันมหาศาลบดขยี้แต่นี่เป็นเพียงโหมโรงต่อความเจ็บปวดอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เทคนิคการต่อสู้ของเขาไม่มีทั้งพื้นฐานและความเป็นตัวตนเขาดึงฉันออกมาจากพื้นและกระแทกฉันลงไปกับพื้นอีกด้านหนึ่งจากนั้นเขาก็ดึงฉันออกมาอีกครั้งและโยนฉันไปที่อีกด้านหนึ่ง ตัวฉันแกว่งไปแกว่งมาเหมือนลูกตุ้มจนกระทั่งร่างกายของฉันถูกโยนขึ้นไปกลางอากาศ คราวนี้เขาเตะฉันอย่างแรง กร็อบบบบ-! กระดูกซี่โครงของฉันถูกบดขยี้และในเวลาเดียวกันฉันก็ถูกอัดลอยไปกลางอากาศ แล้วเขาก็พุ่งมาหาฉันก่อนที่ความเร็วของฉันจะลดลงและชกฉันไปในทิศทางตรงกันข้าม แต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้ที่จะต่อสู้ แม้จะย้ำแย่ขนาดไหนก็ตาม ฉันสร้างบาเรียพลังเวทมนต์และยิงอาวุธพลังเวทย์ใส่เขา อย่างไรก็ตาม เกิดเรื่องที่ไม่น่าเชื่อต่อหน้าต่อตาฉันพลังเวทมนต์ของฉันแตกสลายทันทีที่มันสัมผัสกับเขา ไม่มีแม้แต่รอยช้ำหรือรอยขีดข่วนปรากฏบนร่างกายของเขา การเคลื่อนไหวของเขาไม่ได้ช้าลงเลยมันเจ็บ มันเจ็บมาก มันเจ็บปวดเหลือเกินและมันก็ยังคงเจ็บปวดอยู่ไม่จบซะที ฉันกัดฟันแน่น ทำไมฉันต้องมาถูกทุบตีเช่นนี้? เมื่อความคิดแบบนั้นจิตใจของฉันก็เดือดดาลและความเจ็บปวดจางหายไป “โอ้ พระเจ้า – แม่งเอ้ยยยยยยยยยย—!” ฉันตะโกนขณะยืนขึ้น เสียงร้องแพร่กระจายไปในทุกทิศทาง แต่ว่าเสียงของฉันหยุดเขาไมได้ พลังเวทมนต์ในร่างกายของฉันไม่ออกมา เมื่อร่างกายได้รับความเสียหายเกินระดับที่กำหนด พลังเวทย์จะเน้นไปที่การฟื้นฟู กล่าวอีกนัยหนึ่งร่างกายของฉันเสียหายเกินกว่าที่จะทำการต่อสู้ต่อไปได้ …อักกกกก ความคิดของฉันไม่ผิดพลาดและฉันสูญเสียพลังเวทมนต์ไปอย่างรวดเร็ว เขาเข้ามาหาฉัน แตะ แตะ ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของเขา ฉันพยายามเคลื่อนไหว แต่มันก็ไร้ประโยชน์มีบางอย่างเกิดขึ้นในหัวของฉัน ทันใดนั้นฉันก็คิดมาก ฉันกลัว.ฉันจะตายใช่ไหม ตายไปทั้งอย่างนี้ เพื่ออะไร? ฉันคิดว่าฉันไม่สนใจแม้จะเผชิญหน้ากับความตาย …. แต่ว่า ไม่ ฉันไม่สามารถมาตายที่นี่ ไม่ใช่ตอนนี้. ไม่นะ. ฉันมีความปรารถนาที่จะต้องเติมเต็ม ฉันมีบ้านเกิด ประเทศ พ่อแม่และลูกน้องที่ภักดีของฉัน ฉันน่ะ…. ก่อนที่ฉันจะคิดอะไรออก ก็มีคำพูดออกมาจากปากของฉันโดยสัญชาตญาณ “…ขะ…อย่า…นะ….ฉัน” ฉันสำลักน้ำตาพร้อมเสียงอันสั่นเทา จากนั้นเขาก็หยุด ฉันเห็นแต่ขาของเขาเท่านั้น ฉันควรจะบอกว่าฉันดีใจที่ฉันไม่เห็นหน้าเขางั้นหรอ?ฉันเหยียดมือออกแล้วจับรองเท้าของเขาเอาไว้ “… .” ความเงียบที่น่าทึ่งเข้าสู่ทั้ง 2 คน ในขณะนั้นเองจิตสำนึกของฉันก็สั่งให้ฉันพูดออกมาดังๆมันคือคำพูดที่ฉันไม่เคยจินตนาการว่าจะออกมาจากปากของฉัน “ฉันขอโทษ.” ตอนนี้ฉันกลัวมาก ฉันจึงไม่รู้สึกน่าละอายใจอะไรมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นที่ครอบงำจิตใจของฉัน ฉันอยากที่จะอยู่ต่อไป. ฉัน…ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป…. ************************************************************************* …ความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นในจิตใจของผม ก่อนที่การโจมตีของจินซาฮยอค บดขยี้ร่างกายของผมอย่างง่ายดาย ผมควรใช้การย้อนเวลาดีไหมนะ แต่ผมยังไม่ทันตัดสินใจ ร่างกายของผมก็ลอยไปบนฟ้าซะก่อน ผลข้างเคียงของการย้อนเวลามันใหญ่หลวงเกินไป แม้ว่าผมจะใช้มันไปถ้าผมไม่สามารถฆ่าเธอได้ภายใน 3 นาทีผมก็จะตายเอง แน่นอนว่าผมมีตัวช่วยคือการเปิดใช้งาน ‘โชคชะตา’ ทันทีที่ผมใช้ ย้อนเวลาแต่ผมคิดว่ามีโอกาสมากที่ผมจะตายทันทีจากอาการหัวใจวาย ผลข้างเคียงของการย้อนกลับเวลา 3 นาทีไม่ได้ระบุอะไรไว้มาก แต่ผมรู้ว่ามันทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าหัวใจของผมกำลังถูกเผาไหม้และมันทำให้ค่าสถานะทั้งหมดของผมลดลง 3~4 แต้มดังนั้นจากการสันนิษฐานผมว่าผลข้างเคียงแบบนี้ก็น่าจะมีใน [โชคชะตา] เพราะทั้ง [โชคชะตา] และ [ย้อนเวลา] ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผมจึงเปิดใช้งาน [โชคชะตา] ก่อนที่จะโดนโจมจีอีกครั้ง เมื่อผมตั้ง จินซาฮยอค ให้เป็นเป้าหมายแห่งโชคชะตาของผมในตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นใน Prestige ค่าสถานะของผมจะเพิ่มขึ้น 300%ทันทีที่ผมเปิดใช้งาน [โชคชะตา] พลังงานอันมหาศาลก็ปรากฏอยู่ในร่างกายของผม ทันฝดนั้นโลกทั้งใบก็ช้าลง ตอนนี้ผมมีคู่ต่อสู้เพียงคนเดียวเท่านั้น “…นี่จะเป็นการต่อสู้ระยะประชิดครั้งแรกของฉัน” ผมพุ่งไปหาจินซาฮยอค ร่างกายของผมเต็มไปด้วยความตื่นเต้นมันเคลื่อนไหวไปด้วยตัวเอง บางทีมันอาจจะเป็นแค่การสู้ตามที่เอเธอร์บอกเท่านั้น ผมซัดเธอลอยไปด้วยหมัดจากนั้นก็ไล่ตามเธอและคว้าใบหน้าของเธอเอาไว้ก่อนที่ร่างกายของเธอจะแตะพื้น ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมม-! จากนั้นผมก็กระแทกร่างกายของเธอกับพื้น ตู้มมมมมมมมมม!ผมดึงเธอขึ้นมาแล้วเหวี่ยงเธออีกครั้ง ตู้มมมมมมมมมมม!ผมดึงเธอขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็ชกต่อไปเรื่อย ๆอย่างที่ผมพูดไปนี่เป็นครั้งแรกของผมในการต่อสู้ระยะประชิดดังนั้นผมอาจจะเลียนแบบ ‘เดอะ ฮักค์’ ที่ผมเห็นในภาพยนตร์โดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้น…ผมก็นิ่งไปอยู่ครู่หนึ่ง “โอ้ พระเจ้า – แม่งงงงงงงงงงงงงเอ้ยยยยยยยย—!” เสียงร้องนี้ทำให้ผมได้สติ ผมยืนนิ่งและจ้องมองเธอ เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่เปิดกว้างครึ่งหนึ่งจากนั้นก็ล้มลงบนพื้นเสียงดัง “อืม….” ผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ถูกตัดสินในเวลาอันสั้นๆ ผมเดินไปหาจินซาฮยอค ผู้ที่หมดสติและนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้น ร่างกายที่แข็งแรงของเธอพังทลายและค่อนข้างบิดเบี้ยว แต่ก็ยังไม่ตายจริงๆแล้วมันค่อยๆหายอย่างช้าๆ ถึงเวลาฆ่าเธอแล้ว แต่ในขณะนั้นเองคำพูดที่ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินก็ออกมาจากปากของเธอ “…ขะ…อย่า…นะ….ฉัน” “… .” ขาของผมหยุดลงโดยที่ผมไม่ทันสังเกต ผมมอง จินซาฮยอค เธอพูดอะไรบ้างอย่าที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน “ฉันขอโทษ.” แต่คราวนี้คำที่ผมได้ยินมันทำให้รู้สึกไร้สาระมากกว่าเดิม ขนลุกไปทั่วร่างกายของผม ผมไม่รู้ว่าเธอเพิ่งพูดอะไรออกมา ผมจึงตัดสินใจที่จะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรเลยและฆ่าเธอซะน่าจะดีกว่า …ผมเอื้อมมือออกไป แต่ก็หยุดลง มือที่ปกคลุมไปด้วยเลือดเข้ามาในวิสัยทัศน์ของผม กลไกการป้องกันจิตใต้สำนึกของผมคือสิ่งที่หยุดผมเอาไว้ แม้ว่าจะมีคิดที่ไม่ลงลอยกันแต่จนถึงตอนนี้ผมยังไม่เคยฆ่าใครมาก่อนโดยไม่มี ‘อาวุธ’ ดังนั้นตอนนี้ผมต้องการเครื่องมือ ผมพยายามเอา Desert Eagle ออกมาจากกระเป๋าของผ “บาเรีย-!” เมื่อมาถึงจุดนี้ 3 นาทีผ่านและแล้วโชคชะตาก็หายไป ผมสัมผัสได้ถึงพลังเวทมนต์ที่มาพร้อมกับความเหนื่อยล้าหลายอย่าง ผมจ้องมองไปที่บาเรียที่ปรากฏขึ้นอย่างกระทันหัน “นี่เป็นภารกิจพิเศษของสมาคมฮีโร่! วางอาวุธของนายลงซะ!” “…อะไรนะ.” สมาชิกของสมาคมฮีโร่ 10 คนหรือมากกว่านั้นแนะนำตัวเองในฐานะสมาชิกของหน่วยเฉพาะกิจ พวกเขาชี้ดาบและหอกมาที่ผมและเร่งระดับพลังเวทมนต์ของพวกเขา “พวกนาย ถอนไปนิดนึง” ทันใดนั้นมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านพวกเขาท่าทางน่าประทับใจ‘น่าประทับใจ’ นั่นคือประเด็นหลักเป็นไอลีนจริงๆ ดูเหมือนว่าเธอจะมีส่วนร่วมในภารกิจนี้ในฐานะผู้บัญชาการ เธอเดินเข้ามาภาคภูมิและมองมาที่ผม “นายมาทำอะไรที่นี่?” “………………………” ผมไม่สามารถตอบเธอได้ ร่างกายของผมเริ่มแข็งทื่อ มันน่าจะเป็นผลข้างเคียงของการใช้โชคชะตา ไอลีน ชี้ไปที่ จินซาฮยอค “เธอไม่ใช่ปีศาจ ทำไมนายถึงต้องต่อสู้กับเธอ” “….” “มันรุนแรงเกินกว่า…ที่จะเป็นการทะเลาะกันระหว่างคู่รักละนะ” ไอลีนพึมพำขณะที่เธอดูเลือดสาดระหว่างเรา 2 คน ตอนนี้ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย ผมไม่มีคำพูดอะไรไอลีน ขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่จ้องมองมาที่ผม “พวกเราควรทำยังไงดี” ลูกน้องของ ไอลีน ถามอย่างระมัดระวัง “นายหมายถึง ‘พวกเราควรทำอะไรงั้นเหรอ’ นั่นคือเฟนริล สมาคมคงจะจ้างเขามา ส่วนผู้หญิงนั้น…อืมฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แต่พวกเราปล่อย 2 คนนี้ไว้แล้วไปดูแลพวกมันกันเถอะ” ไอลีนพูดขณะที่เธอชี้ไปในทิศทางตรงกันข้าม ดูเหมือนสมาคมฮีโร่จะโดนพวกปีศาจโจมตีจนต้องร้องให้มีกำลังเสริม “นั่นคือคิมโอซุงใช่มั้ย” ชายคนนั้นจับตากูไอลีน เขาคือคิมโอซุงผู้รับใช้ของซาตาน เขาเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งกว่า กันยูเดน 3 ถึง 4 เท่าซึ่งเป็นเพียงปีศาจล่าง “ใช่ ฉันคิดว่าเธอพูดถูก” “งั้นก็ไปกันเถอะ” ไอลีน ทิ้งผมไว้แล้วไปที่สนามรบ พลังเวทมนต์คล้ายใบมีดหมุนวนตามรอยเท้าของเธอ แต่พลังเวทมนต์ที่ท่วมท้นก็ถูกควบคุมและไม่นานไอลีน ก็ตะโกนออกมา “ฟังดี! พื้นดินจงกลับหัวกลับหาง!” ทันใดนั้นพื้นดินที่ปีศาจยืนอยู่ก็ลอยขึ้นไปบนฟ้า ประโยคเดียวก็ทำให้เกิดการพลิกกลับของโลกและท้องฟ้า มันเป็นความหายนะที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งโลกกำลังพุ่งสูงขึ้นเหนือท้องฟ้า อะะะะะ……..อะไรกับ! เกิดอะไรขึ้น! อุวสสส! บ้าน่า…! ปีศาจส่วนใหญ่ถูกสังหารโดยการถล่มทลายของแผ่นดินหรือถูกทับอัดจนตายด้วยแรงกดดันจากพลังเวทมนต์ ไม่สำคัญว่าพวกมันจะถูกฆ่ายังไงผลลัพธ์ก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกมันก็ไม่มีแม้แต่โอกาสจะต่อสู้กับไอลีน—————————————2————————————
คอมเม้นต์