War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2271
ตอนที่ 2,271 : ตบตา! “เซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน?” ขณะเดียวกันไม่ว่าจะเป็นหลินหย่วนหรือเผิงไหล อาวุโสวังเซียนสัญจร ก็ได้ยินวาจากระซิบคุยกันของเหล่าศิษย์ลาดตระเวนด้วย คิ้วพวกมันอดไมไดที่จะขมวดย่นเป็นปม หลังถามด้วยการส่งเสียงผ่านพลังทั้งคู่จึงได้รับทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น อาวุโสวังเซียนสัญจร เฉินตง ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน ถูกต้วนหลิงเทียนคนนี้ฆ่าตายใน 2 กระบวนท่า! “ต้วนหลิงเทียนผู้นี้รายกาจถึงเพียงนั้นเชียว?” สีหน้าเผิงไหลเปลี่ยนไปอย่างมาก ถึงแม้ว่ามันจะเคยได้ยินมานานแล้วว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนร้ายกาจกว่าแม่นางหวงเหวินจิ้งยอดอัจฉริยะของวังเซียนสัญจรที่บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน แต่อย่างไรหวงเหวินจิ้งก็แค่เซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนธรรมดาไม่ได้ร้ายกาจเท่าชนชั้นยอดฝีมืออย่างเฉินตง! ทว่าวันนี้ต้วนหลิงเทียนอาศัย 2 กระบวนท่าฆ่าเฉินตง! จะไม่ให้มันแปลกใจได้อย่างไรไหว…!! ‘ด่านพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนผู้นี้สมควรทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนแล้วจริงๆ’ เผิงไหลลอบกล่าวอย่างลับๆ ‘อย่างไรเสียแม้มันจะทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยน แต่พลังฝีมือของมันสมควรด้อยกว่าอาววุโสหลินหย่วน…เพราะหากต้องเข่นฆ่ากันจริงๆ อาวุโสหลินหย่วนสมควรจบชีวิตเฉินตงได้ในท่าเดียว!’ ‘ทว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้จำต้องอาศัย 2 กระบวนท่าฆ่าเฉินตง…’ พอคิดได้ดังนี้เผิงไหลก็มั่นใจในตัวอาวุโสหลินหย่วน “ถึงต้วนหลิงเทียนผู้นี้จะเป็นเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยน…แต่ก็ไม่น่าจะเทียบกับอาวุโสหลินหย่วนได้!” “มิผิด ต่อให้อาวุโสหลินหย่วนมิใช่ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนที่ร้ายกาจที่สุด แต่ท่านก็ทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนมานานแล้ว…พลังฝีมือย่อมเหนือกว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้แน่นอน!” “ด้วยความแข็งแกร่งของอาวุโสหลินหย่วน คิดฆ่าอาวุโสเฉินตงจริง เกรงว่าคงลำบากลงมือแค่กระบวนท่าเดียวเท่านั้น…กลับกัน ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ทำไม่ได้ เช่นนั้นต้องอ่อนด้อยกว่าเป็นแน่!” … เหล่าศิษย์ลาดตระเวนของวังเซียนสัญจรกระซิบคุยกันอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าพวกมันเองก็มั่นใจในตัวหลินหย่วน ตัวหลินหย่วนเองก็คิดดุจเดียวกัน “ต้วนหลิงเทียน!” หลินหย่วนมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเยียบเย็นปานใบมีด “ที่แท้ด่านพลังฝึกปรือของเจ้าถึงกับบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน หากแต่มันก็เท่านั้น! ข้าจักฆ่าเจ้าเพื่อปลอบประโลมวิญญาณหลานชายของข้าที่อยู่บนสวรรค์!!” สิ้นเสียงตะโกนเย็นชาร่างหลินหย่วนก็ปลดปล่อยไอพลังดุร้ายรุนแรง กลิ่นอายพลังเซียนต้นกำเนิดสุดไพศาลทั้งไอมารอันอำมหิตน่าพรั่นพรึงพวยพุ่งสู่ฟ้าประหนึ่งไอน้ำเดือด! “เหอะ!” แทบจะทันทีที่หลินหย่วนตะโกนจบคำ ต้วนหลิงเทียนพลันสบถออกมาด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ พริบตาต่อมา “ปฐมเวทย์กลืนกิน!” แทบจะพร้อมกันกับที่หลินหย่วนเร่งเร้าพลังเซียนต้นกำเนิดทั้งไอมาร ต้วนหลิงเทียนเองก็ปะทุพลังใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกิน! วังวนพลังอุบัติขึ้นรอบกายเขาอย่างไว!! จากจุดนี้เห็นได้ชัดว่าต้วนหลิงเทียนมีเปรียบเพราะชีพจรเซียนทั้ง 99 สายขนาดไหน ก่อนที่หลินหย่วนจะเร่งเร้าพลังออกมาแล้วเสร็จ ต้วนหลิงเทียนสามารถทำสิ่งเดียวกันได้ในชั่วพริบตา กระทั่งไม่เพียงเร่งเร้าพลังได้สูงสุดก่อน ยังสามารถใช้เวทย์พลังสนรับสนุนอย่างปฐมเวทย์กลืนกินออกมาได้ก่อนหลินหย่วนจะทันได้ทำอะไร!! ทันทีที่ปฐมเวทย์กลืนกินสำแดงเดช พลังวิญญาณฟ้าดินในอาณาบริเวณโดยรอบก็ถูกสูบกลืนอย่างบ้าคลั่ง พริบตาพวกมันที่หลั่งไหลเข้าร่างต้วนหลิงเทียนก็ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างชั่วคราว! ดุจละอองไฟวาบ พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างต้วนหลิงเทียนก็ยกระดับขึ้นมาทัดเทียมกับพลังเซียนต้นกำเนิดของตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน! เทียบกับระดับพลังของหลินหย่วนยามนี้ไม่ได้ด้อยกว่ากันแม้แต่น้อย! ไม่เพียงจะไม่ได้ด้อยกว่ากันเท่านั้น ยังเหนือกว่ามันเล็กน้อย!! ในขณะที่คนวังเซียนสัญจรในจุดเกิดเหตุเห็นต้วนหลิงเทียนสามารถปะทุพลังกล้าแข็งออกมาได้ในเวลาอันสั้น และคิดว่าสมควรปะทะแตกหักกับหลินหย่วนนั้นเอง ฉากเรื่องราวที่ทำให้พวกมันพูดไม่ออกพลันบังเกิดขึ้น! “ปีกอีกาทองคำ!” ภายใต้สายตาของทุกคน กลางหลังต้วนหลิงเทียนปรากฏมวลพลังมหาศาลปะทุออกดั่งเพลิงไฟ ก่อนที่จะควบรวมเป็นปีกเพลิงคู่หนึ่ง เปลวเพลิงยังลุกโชนโหมกระหน่ำอย่างน่าเกรงขาม! ทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนที่อุ้มลูกสาวรวมถึงเค่อเอ๋อกับก่านหรูเยี่ยน ยามเมื่อปีกเพลิงสะบัดโบกจนก่อให้เกิดการแตกออกของอากาศ คนก็อันตรธานหายวับไปในพริบตา! แน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นลูกสาว เค่อเอ๋อ หรือก่านหรูเยี่ยน ทั้งหมดถูกต้วนหลิงเทียนหอบหิ้วไปด้วยกัน! “มันคิดหนีรึ?” เห็นฉากดังกล่าว ความคิดดุจเดียวกันก็ผุดขึ้นในหัวของคนวังเซียนสัญจรที่แลชมเรื่องราว “คิดจะหนีงั้นเหรอ!?” ตอนนี้เองหลินหย่วนที่พึ่งเร่งเร้าพลังแล้วเสร็จ ก็เผยเจตนาฆ่าฟันออกมาล้นปรี่ มุมปากยกแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมค่อยหัวเราะออกมาอย่างอำมหิต ใช้ออกด้วยเวทย์พลังทั้งวรยุทธ์เซียนที่ฝึกปรือทันที! ก่อนอื่นใดมันก็ใช้เวทย์พลังสนับสนุนยกระดับพลังในร่าง ค่อยใช้ออกด้วยเวทย์พลังเสริมเคลื่อนไหว! ซุ่มมม! ร่างหลินหย่วนไหววูบ ก่อนจะเลือนหายไปในพริบตา! ปง! ปง! ปง! ปง! … เมื่อหลินหย่วนปะทุพลังเคลื่อนร่างทะยานออกไป เสียงอากาศแตกระเบิดจากการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงก็ดังสะท้านออกมา “อาวุโสหลินหย่วนเหนือกว่าต้วนหลิงเทียนจริงๆ!” พริบตานี้อาวุโสวังเซียนสัญจรอย่างเผิงไหล ย่อมแลเห็นได้ไม่ยากว่าความเร็วของหลินหย่วนเหนือล้ำกว่าต้วนหลิงเทียน!! อย่างไรก็ตามคล้ายมันจะลืมเลือนเรื่องสำคัญไปเรื่องหนึ่ง… ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนหาได้เคลื่อนไหวเพียงลำพังไม่ แต่ยังหอบหิ้วผู้อื่นที่ไม่ต่างตัวภาระไปอีกถึง 3! ทว่าครู่ต่อมาลูกตาของเผิงไหลก็อดไม่ได้ที่จะหดหยีลง แววตากกลายเป็นจริงจังทั้งตึงเครียด นั่นเพราะมันเห็นว่าต้วนหลิงเทียนที่หอบหิ้วผู้คนไปไกลห่างนั้น อยู่ดีๆ ความเร็วก็กลายเป็นเพิ่มพูนสูงขึ้นจนทัดเทียมกับหลินหย่วนอย่างอัศจรรย์! “มัน…มันหอบหิ้วผู้คนไปด้วยถึง 3!!” ขณะเดียวกัน ในที่สุดมันก็ตระหนักได้ถึงเรื่องดังกล่าว ยังอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก! “หลังเจ้านั่นมันเปลี่ยนที่ไป คล้ายพลังวิญญาณฟ้าดินบริเวณนั้นก็สาบสูญไปเหมือนเมื่อครู่…หรือเวทย์พลังสนับสนุนของมันจำต้องอาศัยการดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินปริมาณมหาศาล?” อย่างไรเสียเผิงไหลก็เป็นชนชั้นเซียนสวรรค์ 7เปลี่ยนคนหนึ่ง จากสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า…ไม่นานมันก็ค้นพบความผิดปกติดังกล่าว… เมื่อมันสามารถค้นพบได้ หลินหย่วนย่อมสังเกตเห็นดุจเดียวกัน! “เป็นไปได้อย่างไร?!” ในขณะที่ลูกตาหลินหย่วนหดหยี สังหรณ์อัปมงคลหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจ อย่างไรก็ตามสุดท้ายด้วยความแค้นที่สุมอกมานับปี ก็บดบังลางสังหรณ์ดังกล่าวจนหมดสิ้น! ‘ตอนนี้เวทย์พลังของมันสมควรเพิ่มพูนพลังของมันได้ถึงขีดสุดแล้ว…แม้ตอนนี้ข้ายังไล่มันไม่ทัน แต่มันก็มิอาจหนีพ้นเงื้อมมือข้าไปได้ตลอด! เมื่อใดที่เวทย์พลังสนับสนุนของหมดหมดสิ้นระยะเวลาแสดงผล มันตาย!!’ พอคิดได้เช่นนี้ หลินหย่วนจึงไล่ล่าต้วนหลิงเทียนไม่หยุด! ในระหว่างไล่ล่าหลินหย่วนก็พบว่าต้วนหลิงเทียนยังคงสูบกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินหลายต่อหลายที่ พลังวิญญาณฟ้าดินในจุดที่ต้วนหลิงเทียนย้ายไปปรากฏล้วนถูกสูบเกลี้ยงไม่มีเหลือ! ตอนแรกมันก็บังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา เพราะคิดว่าพลังของต้วนหลิงเทียนจะเพิ่มพูนจนกลายเป็นเหนือล้ำกว่ามันเพราะเวทย์พลังสนับสนุนนั่น อย่างไรก็ตามพอมันพบว่าความเร็วของต้วนหลิงเทียนไม่ได้เพิ่มพูนขึ้นด้วยเลย และยังคงทัดเทียมกับความเร็วของมันอยู่ มันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะทั้งกล่าวออกเสียงดัง “สารเลว! เจ้าล้างคอรอความตายเถอะ!!” ตราบใดที่พลังของต้วนหลิงเทียนยังไม่เหนือกว่า ไฉนมันหลินหย่วนถึงต้องหวาดกลัว? อย่างไรก็ตามพลังของต้วนหลิงเทียนไม่ได้เพิ่มขึ้นจริงๆหรือ? คำตอบคือ ไม่ เป็นธรรมชาติ! อันที่จริงตั้งแต่ต้วนหลิงเทียนย้ายไปดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินในจุดที่สอง ระดับพลังในร่างของเขาก็เพิ่มพูนจนเหนือกว่าหลินหย่วนไปไม่น้อยแล้ว กระทั่งหากเอาจริงยังสามารถหอบหิ้วทั้ง 3 ไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่าหลินหย่วนได้ง่ายๆ หากแต่เขาไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะเขารู้สึกว่าไม่จำเป็น! ตราบใดที่เขาประคองความเร็วให้อยู่ในระดับเดียวกันกับหลินหย่วน อีกฝ่ายก็ไม่มีทางไล่ตามเขาได้ทันอยู่ดี ขณะเดียวกันเขาก็สามารถยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างด้วยปฐมเวทย์กลืนกินอย่างสบายใจเฉิบ! รอให้พลังเซียนสุริยันในร่างของเขาบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน!! ซู่มม! ซู่มม! ฉากหลินหย่วนไล่ล่าต้วนหลิงเทียนดั่งแมวไล่จับหนู ย่อมสร้างความตื่นตาตื่นใจให้เหล่าศิษย์วังเซียนสัญจรที่แลดูอยู่นัก ถึงแม้พวกมันจะไม่มีใครมองเห็นร่างต้วนหลิงเทียนกับหลินหย่วนได้ชัดเจน แต่พวกมันก็ตระหนักได้รางๆ ว่าความเร็วของทั้งคู่สมควรทัดเทียมกัน! หาไม่แล้วหลินหย่วนต้องไล่ตามต้วนหลิงเทียนได้ทัน ไม่ก็ต้วนหลิงเทียนสมควรนำพาผู้คนหลบหนีไปนานแล้ว! “ความเร็วของต้วนหลิงเทียนดูเหมือนจักเหนือกว่าตอนแรกมาก…” “ฮึ่ม! ความเร็วของมันล้วนขึ้นอยู่กับเวทย์พลังสนับสนุนประหลาดนั่น รอให้เวทย์พลังของมันสิ้นระยะเวลาแสดงผลจนระดับพลังมันตกไปอยู่ในระดับเดิมก่อนเถอะ! เดี๋ยวรู้เรื่อง!!” “แต่อย่างไร ก็ต้องยอมรับว่าเวทย์พลังผีสางนี้ของมันร้ายกาจยิ่ง! กระทั่งหอบหิ้วร่างผู้คนไปด้วยถึง 3แต่มันกลับมีความเร็วทัดเทียมกับอาวุโสหลินหย่วนได้!!” “เรื่องนี้ข้าเห็นด้วย!” …… ศิษย์ลาดตระเวนไม่เว้นติงเจี้ยนหงตอนนี้สนทนากันอย่างออกรสนัก ขณะเดียวกันพวกมันก็แหงนมองเรื่องราบนฟ้าอย่างใจจดใจจ่อ ถึงแม้พวกมันจะไม่อาจแลเห็นสิ่งใดได้ชัด แต่อาศัยเสียงจากการเคลื่อนที่แหวกอากาศอย่างแผ่วเบาที่ดังขึ้นไม่หยุด ก็ทำให้พวกมันตั้งใจชมดูเรื่องราวอย่างไม่วางตา ราวกับกลัวจะพลาดฉากเรื่องราวสำคัญ! และตอนนี้พวกมันก็กำลังมองข้ามเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไปอย่างที่ไม่มีใครทันได้รู้สึกตัว… หากผลของเวทย์พลังสนับสนุนหมดลง จนระดับพลังต้วนหลิงเทียนสมควรตกไปอยู่เท่าเดิมในตอนแรกจริง และทำให้หลินหย่วนสามารถไล่ตามทันได้ในที่สุด… แล้วไฉนต้วนหลิงเทียนยังไม่หนีไปอีก? ไยจึงทำแค่เหินวนไปเรื่อยแถวๆนี้? ผ่านพ้นไปราวๆสิบกว่าลมหายใจจากตอนที่ต้วนหลิงเทียนได้ใช้เวทย์พลังปีกอีกาทองคำ… “ได้เสียที!” ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็สามารถยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างให้ทัดเทียมกับเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนได้สำเร็จ! ด้วยทั่วร่างอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาลปานจะระเบิดได้ทุกเวลา ทำให้ต้วนหลิงเทียนบังเกิดความมั่นใจถึงขีดสุด! ฟุ่บ! ร่างเขาพร้อมคนอื่นๆพลันหยุดลงกลางหาวทันที ก่อนที่จะหันกลับมามองหลินหย่วนที่ไล่ตามมาจากไกลๆ “มันคิดทำอะไร?” “หรือเพราะมันรู้ดีว่าผลจากเวทย์พลังสนับสนุนกำลังจะหมดลง อย่างไรก็มิอาจหนีรอดไปได้ จึงไม่คิดหลบหนีสืบต่อ หากแต่เลือกจะปะทะกับอาวุโสหลินหย่วนซึ่งๆหน้า?” “อาจเป็นได้” … ตอนนี้ไม่เพียงศิษย์ลาดตระเวนไม่กี่คนที่คิดแบบนี้ กระทั่งอาวุโสเผิงไหลเองก็คิดไปทำนองเดียวกัน มีเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวโดยตรงอย่างหลินหย่วนที่บังเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ขวับ! ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน ต้วนหลิงเทียนพลันยกมือขวาขึ้นก่อนจะปรากฏกระบี่ 3 ฉื่อกระชับเข้ามือ…เป็นกระบี่พันอาคมเซียน! ‘รวม!’ เพียงห้วงคิดเดียวในใจ พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดมหาศาลพลันไหลเชี่ยวดั่งน้ำหลากถ่ายทอดลงสู่กระบี่พันอาคมเซียน รวมถึงเริ่มใช้ออกด้วยเคล็ดพลังหนึ่ง ครู่ต่อมา ‘ไป!!’ ต้วนหลิงเทียนสั่งการในใจ ทันใดนั้น ฟั่ฟฟฟ!! เสียงหอนกระบี่กรีดอากาศแว่วดังขึ้นสั้นๆ กระบี่พันอาคมเซียนในมือต้วนหลิงเทียนพลันเหินทะยานออกจากมือ!
คอมเม้นต์