ตอนที่ 2,357 : ตัวตนของข้า!
 
“ข้า ถังซวน จ้าวลัทธิบูชาไฟขอประกาศ…ต้วนหลิงเทียนเนื่องเพราะมีความผิดฐานล่วงละเมิดธิดาเทพ เช่นนั้นมันจักถูกขับออกจากลัทธิบูชาไฟตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป!!”
 
“ข้า ถังซวน จ้าวลัทธิบูชาไฟขอประกาศ…ต้วนหลิงเทียนเนื่องเพราะมีความผิดฐานล่วงละเมิดธิดาเทพ เช่นนั้นมันจักถูกขับออกจากลัทธิบูชาไฟตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป!!”
 
…
 
คำพูดของถังซวนด้วยผสานพลังเซียนต้นกำเนิดอันสุดไพศาล แน่นอนว่าย่อมก้องดังไปทั่วลัทธิบูชาไฟ ยังสะท้อนซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ…
 
ระหว่างที่เสียงประกาศดังขึ้น ย่อมไม่แปลกเลยที่จะก่อให้เกิดความโกลาหลไปทั่วพื้นที่ลัทธิบูชาไฟ
 
“นิ…นี่มันเสียงของท่านจ้าวลัทธิ!”
 
“ท่านจ้าวลัทธิ…บอกว่าต้วนหลิงเทียนได้ล่วงละเมิดธิดาเทพ…นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
 
…
 
หลังได้ยินจ้าวลัทธิอย่างถังซวน ประกาศออกมาว่าต้วนหลิงเทียนมีความผิดฐานล่วงละเมิดธิดาเทพ เหล่าศิษย์ทั้งหลายในลัทธิบูชาไฟก็งงกันไปเป็นแถบ ด้วยไม่เข้าใจว่าเรื่องอะไร
 
ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีบางคนเอะใจนึกอะไรได้ออก
 
และครู่ต่อมาทั้งลัทธิบูชาไฟก็เริ่มฮือฮากันยกใหญ่
 
“อะไรนะ ธิดาเทพ…เป็นธิดาเทพที่เคยหายสาบสูญไปจากลัทธิบูชาไฟเราเมื่อหลายปีก่อนน่ะเหรอ?”
 
“ไม่ผิดแน่! ผู้พิทักษ์หลิงเทียนเป็นคนทำธิดาเทพท้อง…กระทั่งสุดท้ายธิดาเทพยังคลอดลูกสาวออกมา!!”
 
“ช้าก่อน…มิใช่ว่าเป็นบุรุษในภูมิภาคเบื้องล่างหรือไรที่มีสัมพันธ์กับธิดาเทพ?”
 
“เพ่ย! เจ้าลืมไปแล้วรึไร? ผู้พิทักษ์หลิงเทียนเองก็มาจากภูมิภาคเบื้องล่าง! ก่อนหน้านี้ท่านก็คือ นายน้อยตำหนักเมฆาคราม 1 ใน 2 ขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาคเบื้องล่าง!!”
 
“ใช่แล้ว เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นความลับอะไรเลย”
 
…
 
เหล่าอาวุโสและศิษย์ลัทธิบูชาไฟหลายคนอดไม่ได้ที่จะตกใจจนยากจะฟื้นคืนสติอยู่นาน เมื่อพบว่าที่แท้ผู้ที่ล่วงละเมิดธิดาเทพกลับเป็นต้วนหลิงเทียนเอง
 
ถึงแม้พวกมันจะได้ยินมานานแล้วว่าธิดาเทพถูกบุรุษในภูมิภาคเบื้องล่างล่วงละเมิดมา แต่พวกมันไม่เคยคิดกระทั่งหลับยังไม่เคยฝันถึง…
 
ว่าผู้ที่ล่วงละเมิดธิดาเทพนั้น ที่แท้กลับเป็นผู้พิทักษ์หลิงเทียนของลัทธิบูชาไฟพวกมันเอง!
 
“นั่นหมายความบุตรสาวของธิดาเทพ…ก็เป็นบุตรสาวของผู้พิทักษ์หลิงเทียน?”
 
“ไม่คิดเลย…ข้าล่ะไม่คิดเลยจริงๆ…บุรุษที่พวกเราส่งคนไปพลิกแผ่นดินหาผู้นั้น ที่แท้กลับเป็นผู้พิทักษ์หลิงเทียนเอง!!”
 
“หรือที่ผู้พิทักษ์หลิงเทียนประกาศถอนตัวออกจากลัทธิบูชาไฟเป็นเพราะเรื่องนี้? เพราะอย่างไรย่อมรู้ดีว่าต้องถูกท่านจ้าวลัทธิขับไล่ออกไปแน่ จึงได้ชิงประกาศถอนตัวออกมาเสียก่อน?”
 
“อาจเป็นได้! เพราะการประกาศถอนตัวออกจากลัทธิบูชาไฟด้วยตัวเอง กับถูกขับไล่ออกจากลัทธิบูชาไฟ เป็นอะไรที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!!”
 
“นั่นสิ อยากแรกนั้นใครได้ฟังก็คิดว่าตีจากลัทธิบูชาไฟเราไปเอง หากแต่อย่างหลังนั้นหากกระจายออกไปชื่อเสียงต้องเสื่อมเสียแน่!”
 
…
ตอนนี้หลายคนพากันคาดเดาไปว่า…
 
ที่ต้วนหลิงเทียนประกาศถอนตัวออกจากลัทธิบูชาไฟของพวกมันนั้น เป็นเพราะธิดาเทพล้วนๆ!
 
“ท่านจ้าวลัทธิของพวกเรา ถึงกับขับไล่ผู้พิทักษ์หลิงเทียนเพราะสาเหตุนี้จริงๆน่ะหรือ…นี่มันจะไม่เกินไปหน่อยหรือไร?”
 
“นั่นสิ เท่าที่ข้ารู้มา…มิใช่ว่าผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดจะได้รับอภิสิทธิ์รึไง สามารถเพิกเฉยต่อกฏเกณฑ์ใดๆในลัทธิบูชาไฟได้ ไฉนคราวนี้ไม่เป็นแบบนั้นเล่า?”
 
“จริง เรื่องนี้กล่าวไปแล้วมิอาจโทษผู้ใดได้เลย ธิดาเทพเองก็หายตัวไปจากลัทธิบูชาไฟเราตั้งแต่นางยังเป็นทารกน้อยมิรู้ความ ในเมื่อนางไม่รู้ชาติกำเนิดตัวเองด้วยซ้ำ แล้วเรื่องอยู่กินกับผู้พิทักษ์หลิงเทียนจะไปตำหนินางได้อย่างไร…อีกทั้งไฉนต้องตัดสินโทษผู้พิทักษ์หลิงเทียนเรื่องนี้ด้วย? มิใช่ว่าเลือกที่จะส่งเสริมโดยการจัดงานมงคลอะไรจะดีกว่า? เผลอๆนี่อาจเป็นเรื่องดีที่สุดที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ลัทธิบูชาไฟเราก็ได้”
 
“นั่นสิ เทียบกับการสูญเสียยอดฝีมืออย่างผู้พิทักษ์หลิงเทียน…โทษฐานล่วงละเมิดธิดาเทพไม่อาจนับเป็นอะไรเลย อย่างไรตัวตนของนางก็เป็นแค่สัญลักษณ์เท่านั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรร้ายแรงสักนิด!”
 
…
 
กว่า 9 ส่วนของเหล่าศิษย์และอาวุโสในลัทธิบูชาไฟ ย่อมไม่อยากเห็นจ้าวลัทธิของพวกมันขับไล่ไสส่งต้วนหลิงเทียนไปทั้งแบบนี้ กระทั่งพวกมันยังเห็นดีด้วยเรื่องจะจัดพิธีมงคลให้ต้วนหลิงเทียนกับธิดาเทพแทน
 
“ข้าคิดว่า…พวกเราลองขอร้องท่านจ้าวลัทธิเพื่อผู้พิทักษ์หลิงเทียนดีหรือไม่?”
 
“นั่นสิ…ข้าเองก็คิดว่าผู้พิทักษ์หลิงเทียนสำคัญกับลัทธิบูชาไฟของพวกเราอย่างยิ่ง!”
 
“ยามนี้ลัทธิบูชาไฟเราขาดผู้พิทักษ์หลิงเทียนไปสักคน ยังต่างใดจากหักแขนไปข้าง…เพื่อรักษาผู้พิทักษ์หลิงเทียนเอาไว้ ไหนเลยจะให้ธิดาเทพตบแต่งออกไปไม่ได้?”
 
“ไปเถอะ! พวกเราไปขอร้องท่านจ้าวเพื่อผู้พิทักษ์หลิงเทียนกัน!”
 
…
 
บนเกาะศักดิ์สิทธิ์ยามนี้ ปรากฏร่างเหล่าศิษย์และอาวุโสฝ่ายในมากมายพากันเหินบินขึ้นฟ้ามุ่งหน้าสู่ม่านเมฆเบื้องบน หมายไปให้ถึงน่านฟ้าสูงหลังม่านเมฆดังกล่าว
 
ส่วนบริเวณแท่นบูชาจตุรลักษณ์นั้น นอกจากแท่นบูชามังกรครามแล้ว เหล่าจ้าวแท่นบูชาที่เหลือทั้ง 3กับชนชั้นอาวุโสก็เร่งรุดเหินร่างขึ้นฟ้ามุ่งหน้าไปยังฟ้าสูงเหนือเกาะศักดิ์สิทธิ์ทันที
 
กระทั่งเหล่าศิษย์ฝ่ายนอกของลัทธิบูชาไฟอย่างเหล่าศิษย์ที่อยู่ในแท่นบูชาจตุรลักษณ์ทั้งหลาย แต่ละคนอยากให้แผ่นหลังมีปีกงอกเงยออกมาอีกคู่ จะได้เหินบินไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เพื่อวิงวอนให้ผู้พิทักษ์หลิงเทียนของพวกมัน!
 
น่านฟ้าเหนือเกาะศักดิ์สิทธิ์ ไม่นานผู้คนกลุ่มใหญ่ก็พากันเหินผ่านม่านเมฆ ก่อนที่จะมาหยุดลอยบริเวณที่ต้วนหลิงเทียนและถังซวนกำลังเผชิญหน้ากัน
 
คนเหล่านี้ถูกนำมาโดยชนชั้นรองจ้าวลัทธิทั้ง 2 ของลัทธิบูชาไฟ
 
ด้านล่างยังมีอาวุโสเพลิงทอง อาวุโสเพลิงเงิน และอาวุโสเพลิงทองแดงรวมไปถึงเหล่าศิษย์ฝ่ายใจของลัทธิบูชาไฟ…
 
เรียกว่าเพียงไม่นาน น่านฟ้าสูงเหนือเกาะศักดิ์สิทธิ์ก็แน่นขนัดไปด้วยผู้คน…
 
“พวกเจ้ามาทำอะไรกันที่นี่?”
 
เมื่อเห็นว่าอยู่ๆก็มีฝูงชนมากมายถูกร่างไม่กี่ร่างเหินนำขึ้นมา เหลิ่งอิง ผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย
 
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสนใจเหลิ่งอิงเลย
 
ทุกคนที่เหินร่างขึ้นมาพากันจับจ้องไปยังถังซวนตาเขม็ง ราวกับร่างถังซวนมีบางสิ่งดึงดูดใจพวกมันเป็นพิเศษ
 
“ขอท่านจ้าวลัทธิโปรดทบทวนด้วย!!”
 
ในที่สุดก็เป็นชนชั้นรองจ้าวลัทธิที่เป็นฝ่ายเปิดประเดิมกล่าววาจาออกมาคนแรก
 
ฟังจากวาจาแล้วไม่พ้นให้ทบทวนเรื่องที่ขับไล่ผู้พิทักษ์หลิงเทียนออกจากลัทธิบูชาไฟเป็นแน่
 
“ขอท่านจ้าวลัทธิโปรดทบทวนด้วย!”
 
“ขอท่านจ้าวลัทธิโปรดทบทวนด้วย!”
 
…
 
เหล่าศิษย์และอาวุโสทั้งหลายพอได้ยินรองจ้าวลัทธิเปิดประเดิม พวกมันก็ดึงสติกลับคืน เร่งประสานมือโค้งกล่าวออกไปอย่างพร้อมเพรียง หมายให้ถังซวนทบทวนเรื่องคำประกาศขับไล่เมื่อครู่
 
“พวกเจ้ารู้ตัวหรือไม่ ว่ากำลังทำอันใดกันอยู่!?”
 
ถังซวนกวาดตามองไปยังร่างศิษย์และอาวุโสทั้งหลายด้วยสายตาดุร้ายสีหน้าถมึงทึง!
 
ถังซวนไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าการประกาศความผิดของต้วนหลิงเทียนและขับไล่อีกฝ่ายออกจากลัทธิบูชาไฟ จะทำให้ผู้คนในลัทธิถึงกับเคลื่อนไหวใหญ่โตขนาดนี้ กระทั่งทั้งหมดยังเห็นพ้องต้องกันให้มันทบทวนเรื่องราวอีกครั้ง ซึ่งไม่ต่างอะไรจากให้มันกลับคำพูดเรื่องขับไล่ต้วนหลิงเทียนเลย!
 
“ท่านจ้าวลัทธิ…”
 
ตอนนี้เอง 1 ใน 2 รองจ้าวลัทธิบูชาไฟพลันก้าวออกมาประสานมือโค้งกล่าว “ถึงแม้ว่าผู้พิทักษ์หลิงเทียนจะล่วงละเมิดธิดาเทพ แต่ความผิดนี้พวกเราสมควรมองข้ามได้…นอกจากนั้นเป็นเพราะผู้พิทักษ์หลิงเทียนพวกเราจึงสามารถขับไล่ลัทธิอารามทมิฬให้ล่าถอยกลับไปได้อย่างไม่เป็นท่า…นับว่าคุณงามความดีครั้งนั้นยิ่งใหญ่นัก!”
 
“ถูกแล้วขอรับท่านจ้าวลัทธิ!”
 
ตอนนี้เองรองจ้าวลัทธิอีกคนพลันกล่าวเสริมออกมาสืบต่อ “ด้วยพลังฝีมือของท่านผู้พิทักษ์หลิงเทียนตอนนี้ ย่อมมีประโยชน์กับลัทธิบูชาไฟเราอย่างมหาศาล พลังรบโดยรวมของพวกเราเพิ่มพูนขึ้นอย่างยิ่ง…เพื่อผลประโยชน์ยิ่งใหญ่ไยจึงต้องใส่ใจเรื่องธิดาเทพ ไม่คุ้มเลยที่ท่านจะเสียยอดฝีมือเช่นนี้ไปเพราะเรื่องดังกล่าว…”
 
“ถูกแล้วท่านจ้าว กระทั่งหากเรื่องผู้พิทักษ์หลิงเทียนกับธิดาเทพสามารถเปลี่ยนร้ายเป็นดี เลือกจะจัดพิธีวิวาห์ให้สมเกียรติ…งานวิวาห์ครานี้ต้องยิ่งใหญ่และเป็นตำนานเล่าขานสืบไปให้ชนรุ่นหลังแน่นอน!”
 
อาวุโสเพลิงทองแดงก็เริ่มกล่าวเสริมออกมาเสียงดัง
 
ทันใดนั้น
 
“ขอท่านจ้าวลัทธิส่งเสริมผู้พิทักษ์หลิงเทียนกับธิดาเทพด้วย!”
 
“ขอท่านจ้าวลัทธิส่งเสริมผู้พิทักษ์หลิงเทียนกับธิดาเทพด้วย!”
 
…
 
เหล่าอาวุโสและศิษย์ของลัทธิบูชาไฟ กล่าวประสานเสียงออกมาอย่างแน่วแน่ หมายเปลี่ยนใจถังซวนให้จงได้ พวกมันแต่ละคนไม่มีใครสนใจเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนละเมิดธิดาเทพอะไรทั้งนั้น
 
อย่างไรก็ตามหากคนพวกนี้มาถึงที่นี่ตั้งแต่ตอนแรกเหมือนเหล่าผู้พิทักษ์ทั้ง 4 เกรงว่าพวกมันคงไม่อ้อนวอนร้องขอถังซวนแบบนี้
 
เพราะหากพวกมันมาถึงแต่แรก ก็ต้องสมควรตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง…
 
ที่ต้วนหลิงเทียนประกาศถอนตัวจากลัทธิบูชาไฟ ดูท่าจะไม่ใช่แค่เรื่องสตรีอย่างเดียว!
 
“พวกนี้…”
 
ต้วนหลิงเทียนที่กำลังเผชิญหน้ากับถังซวนเองก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเหล่าศิษย์และอาวุโสทั้งหลายของลัทธิบูชาไฟจะทำอะไรแบบนี้ได้
 
ยิ่งไปกว่านั้นพอได้ฟังวาจาร้องขอของพวกมันแล้ว ก็ตระหนักได้ทันทีว่าทั้งหลายเข้าใจว่าที่เขาประกาศถอนตัวเป็นเพราะเค่อเอ๋อ
 
เรื่องนี้ทำให้เขาถึงกับอึ้งไปเลย
 
ต้องทราบด้วยว่าที่เขาประกาศถอนตัวนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเค่อเอ๋อสักนิด!
 
แน่นอนว่าถึงแม้จะอึ้ง แต่ในใจต้วนหลิงเทียนก็บังเกิดความซาบซึ้งไม่น้อย
 
ถึงแม้เขาจะรู้ดีที่เหล่าศิษย์และอาวุโสของลัทธิบูชาไฟเหล่านี้มาอ้อนวอนร้องขอต่อจ้าวลัทธิเพื่อเขา จะเป็นเพราะทั้งหมดเห็นแก่พลังฝีมือของเขาที่เป็นรองก็แต่ถังซวนก็ตามที
 
ที่สำคัญทุกคนก็รู้แค่ว่าพลังฝีมือของเขาคืออันดับ 1 ใต้เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน แต่ไม่ได้รู้เลยว่าพลังฝีมือของเขาก้าวข้ามถังซวนไปไกลลิบโลกแล้ว
 
“ทุกคน!”
 
เมื่อเห็นว่าคนของลัทธิบูชาไฟที่เข้าใจอะไรผิดพลาดยังคงกล่าวขอร้องวิงวอนถังซวนในนามของเขาไม่เลิก ต้วนหลิงเทียนรู้สึกว่าปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่ จึงกล่าวออกมาเสียงดังทันที “ที่ข้าออกจากลัทธิบูชาไฟนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับเค่อเอ๋อภรรยาข้า หรือธิดาเทพของลัทธิบูชาไฟแม้แต่น้อย…”
 
“หืม?”
 
“อะไรกัน? ไฉนผู้พิทักษ์หลิงเทียนถึงได้พูดว่าการถอนตัวออกจากลัทธิบูชาไฟเรามิได้เกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องธิดาเทพเล่า?’
 
“แล้วที่แท้มันเป็นเพราะอะไรกัน?”
 
“หากมิใช่เป็นเพราะธิดาเทพ…ไฉนถึงต้องถอนตัวจากไปด้วยเล่า?”
 
…
 
ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าทันทีที่ต้วนหลิงเทียนนประกาศเรื่องนี้ออกมา มันทำให้ทุกคนที่มารวมตัวกันงุนงงทั้งสับสนมากมายขนาดไหน
 
ทันใดนั้นสายตาของเหล่าศิษย์ทั้งอาวุโสของลัทธิบูชาไฟก็หันขวับมาจับจ้องเขาเป็นสายตาเดียวกัน!
 
“ท่านผู้พิทักษ์หลิงเทียน…หากมิใช่เพราะธิดาเทพ แล้วไฉนท่านถึงได้คิดถอนตัวออกจากลัทธิบูชาไฟเล่า? หรือท่านมีอันใดไม่พอใจในลัทธิบูชาไฟหรือไม่?”
 
รองจ้าวลัทธิคนหนึ่งกกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัยทันที
 
“ใช่แล้วท่านผู้พิทักษ์หลิงเทียน ท่านคิดตีจากลัทธิบูชาไฟเราเช่นนี้สมควรมีเหตุผลใช่หรือไม่?”
 
รองจ้าวลัทธิบูชาไฟอีกคนก็กล่าวถามออกมา
 
“เหตุผล…แน่นอนข้ามี”
 
ต้วนหลิงเทียนเกริ่นคำพลางกวาดตามองไปทั่วๆ ค่อยพูดออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน “เหตุผลที่ว่า…นั่นคือ ‘อีกตัวตน’ ของข้าได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่ข้าจะอยู่ในลัทธิบูชาไฟสืบต่อ”
 
“อีกตัวตน? ท่านมีตัวตนอันใดอีกหรือ?”
 
ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน เหล่าอาวุโสและเหล่าศิษย์ที่เหินร่างมามุงล้อมเหนือฟ้าก็บังเกิดความสงสัยใคร่รู้กัน
 
กระทั่งตอนนี้ถังซวนจ้าวลัทธิบูชาไฟ รวมไปถึงผู้พิทักษ์ทั้ง 4 เองก็ถูกคำพูดของต้วนหลิงเทียนกระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา
 
ภายใต้ทุกสายตาที่จับจ้องมองมา ต้วนหลิงเทียน ค่อยๆประกาศออกมาเสียงดังฟังชัด
 
“ข้า ต้วนหลิงเทียน เป็นผู้สืบทอด ‘หมอกพิรุณ’ ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 แห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้!!”