War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2663

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2663 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

WSSTH ตอนที่ 2,663 : ขวางทาง!
 
 
 
ตอนที่หลิวจั่วหลินเข้าร้านมาพร้อมกล่าวเย้ยลอยๆแขวะเขานั้น เขาก็เพียงเหลือบไปมองมันปราดเดียว หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรมันอีกเลย
 
กระทั่งตอนนี้หลิวจั่วหลินจะยกอ้างตระกูลหลิวของมันมาข่มเขา ต้วนหลิงเทียนก็ทำราวกับคนหูหนวก…
 
ถึงแม้เขาจะไม่เคยข้องแวะกับตระกูลหลิว แต่เขาก็เคยได้ยินชื่อมานานแล้ว ว่านั่นคือ 1 ใน 5 ตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจมากที่สุดในมณฑลจิ่วโยว อีกทั้งเขายังรู้จักเจิ้งชิว อาวุโสฝ่ายในที่มีพื้นเพเป็นตระกูลใหญ่เช่นกัน
 
และกระทั่งอำนาจของตระกูลเจิ้งก็เหนือกว่าตระกูลหลิว
 
เช่นนั้นอย่าได้พูดถึงตระกูลหลิวเลย
 
ให้เป็นตระกูลเจิ้งต้วนหลิงเทียนก็ไม่กลัว!
 
ตอนนี้ในสายตาของต้วนหลิงเทียน การที่หลิวจั่วหลินมันทำท่าราวผู้ยิ่งใหญ่คิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้ด้วยมีตระกูลหลิวหนุนหลัง ก็ไม่ได้ต่างอะไรจาก ‘ตัวตลกที่กำลังเล่นจำอวด’ ไม่คู่ควรให้พูดถึง!
 
เช่นนั้นเขาเลยไม่แม้แต่จะชายตามองมัน!
 
“แก ไอ้เด็กเปรต…กล้าเมินข้างั้นเหรอ!?”
 
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนเพิกเฉยไม่แลเหลียว หลิวจั่วหลินก็มีโมโหไม่น้อย ปะทุพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดออกมาลุกโชนท่วมร่างด้วยความหัวร้อน เตรียมพร้อมลงมือ!
 
และในจังหวะที่หลิวจั่วหลินเหลืออด คิดลงมือกับต้วนหลิงเทียนด้วยบันดาลโทสะนั้นเอง…
 
“มิทราบคุณชายท่านนี้เป็นผู้ใด?”
 
ชายชราที่ติดตามอยู่เบื้องหลังหลิวจั่วหลินและนิ่งเงียบไม่กล่าวคำมาตลอด พลันก้าวออกมาขวางหลิวจั่วหลินที่หัวร้อนปุดๆไว้ไม่ให้ผลีผลามลงมือ ค่อยมองถามต้วนหลิงเทียนออกมาเสียงเข้ม
 
ในที่สุดใบหน้าที่เคยนิ่งของชายชรา ก็เผยอารมณ์ให้เห็นแล้ว
 
และสีหน้าของมันตอนนี้ ยังจริงจังไม่น้อย
 
ในแววตายังเต็มไปด้วยความระวังทั้งหวั่นเกรงประการหนึ่ง!
 
ชายหนุ่มเบื้องหน้านั้น แม้มันจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน…แต่ลองอีกฝ่ายมาเพื่อซื้อหาสมุนไพรหลอมโอสถทิพย์ระดับต่ำอย่างโอสถเสริมวิญญาณ เช่นนั้นหมายความว่า…เบื้องหลังชายหนุ่มผู้นี้อย่างน้อยๆก็ต้องมีปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำอยู่!
 
ยิ่งไปกว่านั้น มันกระทั่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำเสียเอง!
 
แต่เป็นธรรมดา ที่มันจะเทใจให้เรื่องที่อีกฝ่ายสมควรมีปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำอยู่เบื้องหลังมากกว่าจะเป็นชนชั้นปรมาจารย์เสียเอง…
 
เนื่องเพราะมันตัดสินใจจากกลิ่นอายเลือดเนื้อที่แผ่ออกมาตามธรรมชาติจากร่างของชายหนุ่มเบื้องหน้าแล้ว ก็บอกได้ทันทีว่าเลือดเนื้อของอีกฝ่ายนั้นมีอายุไม่ถึงร้อยปี!
 
และตัวมันก็ไม่เคยพบเคยเห็น แม้กระทั่งเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน…ว่าจะมีใครเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะได้ ทั้งๆที่มีอายุไม่ถึงร้อยปี!
 
กระทั่งเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถระดับต่ำได้ตั้งแต่อายุร้อยกว่าปีมันก็ไม่เคยได้ยิน!!
 
หากมีใครมาบอกว่ามีชายหนุ่มอายุไม่ถึงร้อยสามารถครอบครองเพลิงอมตะได้นั้น มันยังพอทำใจเชื่อได้ลงคอ…
 
อย่างไรก็ตามหากคิดจะหลอมโอสถทิพย์ให้สำเร็จ และกลายเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะได้หลังจากครอบครองเพลิงอมตะนั้น เกรงว่าคงต้องใช้เวลาร่ำเรียนอยู่นาน! กระบวนการและขั้นตอนต่างๆยังต้องอาศัยการตกตะกอนความคิดความสามารถ!!
 
เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเคล็ดการหลอมเอย การจำแนกสมุนไพร การสกัดสมุนไพร การควบคุมเปลวเพลิง ทุกสิ่งอย่างไม่ใช่เรื่องที่จะกระทำได้ในเวลาอันสั้น ล้วนต้องใช้เวลาฝึกฝน! เรียกว่ากว่าจะถือครองนามปรมาจารย์ได้ ต้องอาศัยความชำนาญจากการสั่งสมประสบการณ์มานานปี!!
 
แต่มันยังรู้ดีอีกว่า…
 
ถึงแม้มันจะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะอายุไม่ถึงร้อยปีดำรงอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าใต้หล้าจะไร้ซึ่งปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำอายุไม่ถึงร้อยปี…!
 
มันเพียงรู้แค่ว่า…ในพระราชวังฉิน ไม่มีตัวตนเยี่ยงปรมาจารย์หลอมโอสถระดับต่ำดำรงอยู่เท่านั้น!
 
“คนที่พวกเจ้าไม่อาจตอแยด้วยได้…”
 
ต้วนหลิงเทียนหันไปมองสบตาชายชรากล่าวออกเสียงเข้ม
 
ตอนที่หลิวจั่วหลินคิดลงมือ ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟันจากอีกฝ่ายจึงคิดลงมือฆ่าตัวห้าวไม่รู้เรื่องเช่นมันทิ้งไปเสีย แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะถูกชายชราหยุดไว้ก่อน
 
เรื่องนี้ทำให้เขาแปลกใจอยู่บ้าง
 
ด้วยเหตุนี้เลยทำให้เขาเลือกที่จะตอบคำถามชายชราออกไป
 
หลังกล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้แยแสสีหน้าชายชราหรือรอฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร เพียงหันไปมองทิศทางหนึ่งในร้านขายโอสถทันที
 
และที่นั่นปรากฏร่างพนักงานต้อนนรับคนก่อนหน้า กำลังก้าวอาดๆออกมาจากประตูบานหนึ่ง
 
“ท่านลูกค้า สมุนไพรทั้งหมดที่ท่านต้องการอยู่ในแหวนวงนี้แล้วขอรับ…และสมุนไพรหลอมโอสถเสริมวิญญาณที่ท่านต้องการมีทั้งสิ้น 373 ชุด ปกติพวกเราจักขายชุดละ 1 หินอมตะระดับสูง อย่างไรก็ตามเพราะท่านลูกค้าซื้อหาเป็นจำนวนมาก พวกเราจึงปัดเศษให้เป็นเลขกลมๆ คิดท่านเพียง 370 หินอมตะระดับสูงขอรับท่านลูกค้า”
 
ชายหนุ่มมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเคารพ กล่าวออกด้วยน้ำเสียงสุภาพ
 
ตั้งแต่ที่มันได้รู้ว่าชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าไม่ใช่คนของตระกูลหลิว มันก็เชื่อว่าปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะเบื้องหลังอีกฝ่าย ไม่น่าจะใช่ 1 ใน 3 ปรมาจารย์หลอมโอสถระดับต่ำในจวนผู้ว่าและตระกูลหลิวแน่!
 
ส่วนเรื่องที่ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะเบื้องหลังอีกฝ่าย จะมาจากไหนและมาที่มณฑลจิ่วโยวแห่งนี้ทำอะไรนั้น มันไม่คิดจะสนใจไถ่ถาม
 
เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด อย่างน้อยๆอีกฝ่ายก็ไม่ใช่ตัวตนที่มันจะละลาบละล้วงจาบจ้วงได้ง่ายๆ…
 
“หินอมตะระดับสูง 370 ก้อน…ไม่รู้จะมีปัญญาจ่ายรึเปล่า?”
 
หลิวจั่วหลินที่แต่เดิมก็หน้าม้านไปด้วยโทสะเพราะถูกต้วนหลิงเทียนกล่าวคำ ‘คนที่พวกเจ้าไม่อาจตอแยด้วยได้’ ใส่ พอได้ยินราคาที่พนักงานต้อนรับตัวเล็กเอ่ย มันก็หันไปมองกล่าวเสียดสีต้วนหลิงเทียนทันที!
 
ทำเหมือนต้วนหลิงเทียนจะไม่มีปัญญาจ่ายราคาขนาดนี้
 
หินอมตะระดับสูง 370 ก้อน…
 
นั่นไม่ใช่เงินน้อยๆ!
 
กระทั่งตระกูลหลิวของมัน นอกจากชนชั้นอาวุโสเพียงไม่กี่คนแล้ว ก็มีน้อยคนนักที่จับจ่ายหินอมตะระดับสูงจำนวนนี้ได้ในคราวเดียว
 
“ในนี้มีหินอมตะระดับสูง 400 ก้อน”
 
ต้วนหลิงเทียนยกมือขึ้น ปรากฏแหวนพื้นที่กลางอากาศวงหนึ่ง จากนั้นเขาก็ส่งให้พนักงานเบื้องหน้าพร้อมกล่าวเสียงเบาว่า “ส่วนหินอมตะระดับสูงที่เหลือเจ้าเก็บไว้ใช้เถอะ…ถือว่าเป็นค่าความพึงพอใจในการเลือกของเจ้า”
 
และตอนกล่าวคำท้ายประโยค ต้วนหลิงเทียนยังจงใจเหลือบมองไปทางหลิวจั่วหลินกับชายชราผ่านๆ ทำราวกับไม่ได้ตั้งใจมองไป…
 
“ขอบคุณท่านลูกค้า! ขอบคุณท่านลูกค้ามากขอรับ!!”
 
ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน สองตาพนักงานตัวเล็กก็ลุกวาวสว่างจ้าขึ้นมาทันใด ลมหายใจยังกลายเป็นหอบถี่ขึ้นมาทันที!
 
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตมันเลย ที่เจอลูกค้าใจป๋าเช่นนี้!
 
ให้ตายเถอะ นั่นมันหินอมตะระดับสูง 30 ก้อนเชียวนะ!!
 
“นี่ขอรับ”
 
พนักงานตัวเล็กใช้เวลายืนยันจำนวนหินอมตะระดับสูงเล็กน้อย ค่อยพยักหน้าก่อนจะส่งแหวนพื้นที่บรรจุสมุนไพร 373 ชุดให้ต้วนหลิงเทียนถึงมือ
 
ต้วนหลิงเทียนเพียงเหลือบมองภายในแหวนเล็กน้อยก็พยักหน้า
 
“จริงสิ เจ้าพอรู้ไหมว่าที่ไหนมีเตาหลอมโอสถขายบ้าง?”
 
หลังจากเก็บแหวนพื้นที่ไปแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เอ่ยถามพนักงานตัวเล็กออกมาอีกครั้ง
 
และพอได้ยินคำถามดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน ไม่ว่าจะลูกจ้างร้านยา หลิวจั่วหลิน กระทั่งชายชราข้างหลิวจั่วหลิน มุมปากของพวกมันก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นมาตงิดๆ
 
เพราะฟังจากคำพูดของชายหนุ่มชุดม่วง ไม่ใช่อีกฝ่ายคิดจะไปซื้อหาเตาหลอมโอสถต่อหรือไร?
 
“ท่าน…ท่านลูกค้า…นี่ท่านคงไม่คิดจะหลอมโอสถด้วยตัวเองหรอกนะ?”
 
พนักงานตัวเล็กมองต้วนหลิงเทียนอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ค่อยกล่าวเสริมว่า “หรือปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะเบื้องหลังท่านลืมนำเตาหลอมโอสถมาด้วย ท่านจึงคิดไปซื้อหาให้หรือขอรับ?”
 
“ข้าจะซื้อไว้ใช้หลอมโอสถด้วยตัวเอง…”
 
ต้วนหลิงเทียนตอบเสร็จก็พูดต่อว่า “เจ้ารู้ก็บอก…ไม่รู้ก็บอกตรงๆเถอะ ข้าจะได้ไปถามหาที่อื่น”
 
“รู้! ช้ารู้ขอรับ!!”
 
ด้วยอีกฝ่ายเป็นลูกค้าใจดีที่ตกรางวัลให้ตั้ง 30 หินอมตะระดับสูง พนักงานต้อนรับตัวเล็กก็เสมือนมีวิญญาณมหาปราชญ์ลงประทับ กลายเป็นผู้มีความรู้ไร้สิ้นสุดในทันใด เร่งบอกต้วนหลิงเทียนออกไปทุกสิ่งอย่าง
 
ในวาจาไม่เพียงไล่มาว่าร้านไหนมีเตาหลอมโอสถขายบ้าง กระทั่งเจาะลึกว่าเตาหลอมโอสถที่ใดแพงที่สุด ยังบอกว่าร้านที่ใกล้กับร้านขายโอสถแห่งนี้ที่สุด บังเอิญมีเตาหลอมที่มีราคาสมคุณภาพขายพอดี…
 
“ขอบคุณเจ้า”
 
หลังได้ทราบว่ามีเตาหลอมโอสถขายที่ไหนบ้าง ต้วนหลิงเทียนก็พยักหน้าตอบคำพนักงานตัวเล็ก ก่อนหันหลังเดินออกจากร้านขายโอสถไปทันที
 
“ฮึ่ม!”
 
หลังต้วนหลิงเทียนจากไปหลิวจั่วหลินก็มองจ้องไปยังแผ่นหลังชายหนุ่มชุดม่วงไกลๆพลางสบถเสียงเย็น จากนั้นก็หันไปพยักหน้าให้ชายชราเดินออกจากร้านไปพร้อมกับมัน
 
“ลุงหลี่…พวกเรา เล่นมันเลยดีไหม? ไอ้หนูนั่นดูท่าจะมีหินอมตะระดับสูงไม่น้อย แถมข้ารู้สึกว่าอายุมันน้อยนัก! เช่นนั้นพลังฝึกปรือของมันไม่น่าจะสูงเท่าไหร่มั้ง?!”
 
หลังออกจากร้านขายโอสถแล้ว หลิวจั่วหลินก็ถามชายชราข้างๆสองตาเป็นประกายฉายแววเยียบเย็น!
 
“มันยังอายุมิถึง ร้อยปี…”
 
ชายชราเอ่ยขึ้น
 
“หา? อายุไม่ถึงร้อยปีหรอ!?”
 
ถึงแม้หลิวจั่วหลินเองก็รู้สึกได้ว่าต้วนหลิงเทียนสมควรมีอายุไม่มาก แต่มันก็ไม่อาจยืนยันอายุที่แน่ชัดของต้วนหลิงเทียนได้!
 
ตอนนี้พอมาได้ยินชายชราเอ่ยยืนยันว่าต้วนหลิงเทียนยังมีอายุไม่ถึงร้อย ใจมันก็กลับมาเต้นรัวทั้งเต็มไปด้วยความคึกคักทันที!
 
“นายน้อยแม้มันจะยังอายุไม่ถึงร้อย…แต่พิจารณาจากเรื่องที่มันจ่ายหินอมตะระดับสูงไปมากมายตาไม่กระพริบ เห็นได้ชัดว่าความเป็นมามันมิใช่ชั่วแน่ โดยเฉพาะท่วงท่าลักษณะที่มันเผยออกมาตามธรรมชาติ ก็บอกให้รู้ได้ว่ามันไม่ใช่คนธรรมดา…”
 
ชายชราเอ่ยขึ้นอย่างลังเล “พวกเราลงมือกับมัน…จักไม่เสี่ยงไปหน่อยหรือ?”
 
แม้ในกาลก่อนตอนที่ติดตามรับใช้หลิวจั่วหลิน มันเองก็ ‘ประกอบการค้าไร้ต้นทุน’ มาไม่น้อย
 
แต่คราวนี้มันสัมผัสได้ถึงสังหรณ์อัปมงคลประการหนึ่ง
 
ชายหนุ่มชุดม่วงผู้นั้น ให้ความรู้สึกยากตอแย!
 
“ไม่ต้องห่วงไป”
 
หลิวจั่วหลินกล่าวให้ชายชราวางใจ “อย่าได้ลืมไปลุงหลี่ พวกเราทำแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว ยังไม่เห็นจะเคยพลาดสักที! ครั้งนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก!!”
 
ส่วนอีกด้าน
 
ต้วนหลิงเทียนก็เดินข้ามถนนมาอีกฟาก และมุ่งหน้าไปยังร้านที่พนักงานร้านยาบอกว่ามีเตาหลอมโอสถราคาคุ้มค่าขายทันที
 
‘หืม?’
 
ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนคล้ายสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง แม้จะไม่แปลกใจเท่าไหร่แต่สองตาเขาก็เริ่มหดหยีลง ประกายเยียบเย็นเรืองขึ้นวาบหนึ่ง!
 
‘อยากรู้นัก…พวกมันจะเล่นจำอวดอะไรให้ข้าดู’
 
ต้วนหลิงเทียนที่ก้าวอาดๆข้ามถนนมาก็ไม่คิดรีบร้อนไปร้านขายเตาหลอมโอสถสืบไป เพียงเลือกจะเดินเข้าตรอกเล็กๆร้างผู้คนแทน…
 
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
 
และแทบจะทันทีที่ต้วนหลิงเทียนเดินมาถึงที่เปลี่ยว ร่าง 2 ร่างก็วูบมาปรากฏขวางทางเขาเอาไว้หนึ่งหน้าหนึ่งหลัง แววตาพวกมันแต่ละคนยังมองเขาด้วยความกระหาย…
 
เป็นหลิวจั่วหลิน กับชายชราผู้ติดตาม
 
“พวกเจ้าสองคนตามข้ามาแบบนี้ มีธุระอะไรงั้นเหรอ?”
 
ถึงแม้หลิวจั่วหลินกับชายชราจะปรากฏตัวขวางทางเขาเอาไว้แบบนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ยังไม่ยี่หระ กล่าวถามออกไปด้วยสีหน้าน้ำเสียงเฉยเมย
 
“ไอ้หนู…วันนี้เจ้านับว่าดวงกุดแล้วจริงๆถึงมาเจอข้า!”
 
เห็นว่าขนาดนี้แล้วต้วนหลิงเทียนยังทำเป็นเฉยอยู่ได้ สีหน้าหลิวจั่วหลินก็มืดลง กล่าวออกด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมว่า “ถึงข้าจะไม่รู้ว่าเจ้ากับปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะเบื้องหลังเจ้าจะมาจากไหน แต่วันนี้เจ้าอย่าได้หวังว่าจะกลับออกไปจากซอยนี้ได้!!”
 
“อ้อ เจ้าคิดรั้งให้ข้าอยู่ในซอยนี่เพื่อคุยกันข้ามคืนเลยเหรอ?”
 
เสียงกล่าวคำของต้วนหลิงเทียนยังคงเฉยเมยไม่แยแส
 
“พวกเราไม่เพียงแต่จะรั้งเจ้าไว้คุย…ยังจะตีเจ้าให้ตาย! หากชาติหน้ามีจริง เจ้าจงจดจำไว้ให้ขึ้นใจ…ทรัพย์สินมั่งมีอย่าได้เปิดเผย!”
 
หลิวจั่วหลินกล่าวจบก็ระเบิดเสียงหัวเราะสนุกสนาน
 
และต้วนหลิงเทียนไม่ทันได้พูดอะไร หลิวจัวหลินที่หัวเราะอยู่ก็หยุดลง พลันตะโกนออกเสียงเหี้ยมว่า “ลุงหลี่ จัดการมัน!!”
 
ปงงง!!
 
หลังจากที่หลิวจั่วหลินตะโกนออกเสียงเหี้ยม ก็บังเกิดเสียงดังสะเทือนฟ้าขึ้น!
 
เป็นชายชราที่อยู่เบื้องหลังต้วนหลิงเทียน ปะทุพลังออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ถีบเท้าโจนทะยานเข้ามาปานสายฟ้าฟาด!
 
หลังเสียงสนั่นลั่นปานจุดระเบิดดังขึ้น เงาฝ่ามือมหึมาก็ปิดฟ้าบังตะวันราวเมฆดำคลุมเมือง ทาบทับร่างต้วนหลิงเทียนเอาไว้มิดชิด!
 
“หึ!”
 
เห็นการลงมือของชายชรา สองตาต้วนหลิงเทียนหดหยีลงฉายแววเยียบเย็น ค่อยสบถพ่นลมค่อนแคะคำหนึ่ง
 
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
 

 
จากนั้นทั่วร่างต้วนหลิงเทียนพลันปะทุรังสีกระบี่นับพันปคลุมรอบกาย พาลให้คนคล้ายกลับกลายเป็นดวงตะวันแผดแสงแรงจ้า!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด